“ ตถตา ”
ผมเห็นว่าบางทีเราตีความการตรัสรู้กันมากมายก่ายกอง หรือเยอะจนทำให้เป็นการเล่นคำเพื่อสนองอัตตาตัวเองให้เป็นผู้รู้มากทางตัวอักษร พระพุทธเจ้าผมเข้าใจพระองค์ดีท่านเข้าใจเรื่องเดียว คือ “ตถตาหรือเป็นอย่างนั้นเองของทุกสรรพสิ่ง”
แต่ถึงแม้ว่ามันจะดูเหมือนเข้าใจได้ไม่เห็นซับซ้อน...แต่ท่านต้องปฏิบัติโดย “ประสบการณ์ด้วยตนเอง” ถึงจุดที่ค้นพบกฏเกณฑ์แทงไปสู่การไร้อัตตาแท้จริงเท่านั้น ท่านจึงจะสามารถเข้าใจคำๆนี้ได้อย่างเข้าใจแจ่มแจ้ง การตีความด้วยการที่ยังไม่ถึงจุดนั้นคือการป่วยการ เหมือนคนไม่มีประสบการณ์ยิงปืนจริงๆเลย แต่ดันโอหังไปตีความหรือพยายามเข้าใจการยิงปืนที่แท้จริง...คนที่ถึงจุดแล้วเขาไม่มานั่งถกเถียงกันเพราะอะไร? ก็เพราะเขารู้ชัดด้วยตนเอง และมองออกว่าใครคือผู้ถึงสัจจะเช่นเดียวกัน
แม้กระทั่งแต่ “เต๋า” ก็อธิบายได้ด้วยตถตา คำเดียวได้เช่นกันเล่าจื๊อ ก็เป็นผู้ที่บรรลุเช่นเดียวกับพระพุทธเจ้า...การที่พบการรู้แจ้งคือการมองทุกอย่างตรงตามความเป็นจริงแท้ของธรรมชาติ ไม่ถูกหลอกลวงโดยมายาคติของสังคมมนุษย์อีกต่อไป มันลำบากตรงที่ตั้งแต่เกิดจนโตเราถูกมายาคติเข้ามาสร้างอัตตาไว้มาก ใครยิ่งมากก็ยิ่งยากลำบากที่จะหลุดออกมา ไม่ว่าจะเป็นความคิด ความเชื่อ อุดมการณ์ต่างๆ คือของหลอกลวงทั้งสิ้น
วิธีปฏิบัติ คือ “เงียบให้มากที่สุด พูดหรือแสดงเฉพาะที่ไม่ใช่อัตตาบีบบังคับให้เราทำ” เพราะทุกๆครั้งที่เราต้องการพูดหรือแสดงพฤติกรรมออกมา จะต้องสังเกตให้ดีๆมันมีอัตตาของเรานั่นล่ะเป็นผู้บงการเรา ซึ่งเราต้องมองให้เห็นอัตตาละเอียดตรงนั้นให้ได้ เมื่อเห็นก็เฝ้ามองมันแลปล่อยมันผ่านไปอย่าไปพยายามทำ ถ้าเกิดการพยายามแปลว่าไม่ใช่เสียแล้ว คอยประคองให้อยู่ในความเงียบให้ได้ก็เพียงพอ...
พระพุทธเจ้าตรัสรู้เรื่องเดียว...สายชล