ช่วงหน้าฝนแบบนี้เพื่อนๆไปเที่ยวที่ไหนกันคะ? 
 เมื่ออาทิตย์ที่แล้วพอดีพวกเพื่อนๆต่างชาติที่อยู่ในไทยนัดกันไปเที่ยวปราจีนบุรี-โคราช (เขาใหญ่) 3 วัน 2 คืน
เราก็เลยติดสอยห้อยตามไปกับเขาด้วย เป็นทริปที่ค่อนข้างชิลบ้าง ลุยบ้าง เน้นธรรมชาติหน่อยๆ

แผนเที่ยว ปราจีน-โคราช(เขาใหญ่) 3 วัน 2 คืน ของเราตามนี้ค๊า
Day 1 Bangkok – Prachinburi
09.00  : รวมตัวกันแถวเพชรบุรี
11.30  : โรงพยาบาลอภัยภูเบศร  (นวดตัว)
13.00  : ทานอาหารที่ อภัยภูเบศร เดย์สปา 
15.00  : ล่องแก่งหินเพิง
18.00  : เช็คอินที่ Verona at Tublan Boutique Hotel & Resort 
19.00 :  ทานอาหารเย็นที่ Blackwood  ใน Verona

Day 2 Prachinburi – Nakhon Ratchasima
 09.00 : เช็คเอ้าท์ 
11.00 :  เที่ยวชมไร่องุ่นกราน-มอนเต้ GranMonte Vineyard and Winery. 
12.00 :  ทานอาหารที่ร้านอาหารในไร่องุ่นกราน-มอนเต้
14.00 :  “ดีท็อกปอด กอดเขาใหญ่” ปั่นจักรยานท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ชุมชนบ้านท่ามะปรางค์ บ้านคลองเพล
17.00 :  เช็คอินที่ Botanica Khao Yai Resort
19.00 :  ส่องสัตว์กลางคืนที่ เขาใหญ่
20.30 :  ทานอาหารที่ครัวจันผา เขาใหญ่
 
Day 3 Nakhon Ratchasima – Bangkok
09.00  :  เช็คเอ้าท์ 
10.00  :  Panacee Wellness Khaoyai @ My Ozone.  (นวดอีกแล้ววว)
12.00 :   ทานอาหารที่ Flavours of Khao Yai Restaurant
15.00  :  แวะซื้อนมที่ฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ค
18.00  :   ถึงกรุงเทพฯ
---------------------

เริ่ม DAY1
ทุกคนพร้อมเพียงกันตอน 9 โมงเป๊ะๆ ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ โดยเหมารถตู้พร้อมคนขับวันละ 2,500 บาท (ไม่รวมน้ำมัน)
สถานที่แรกที่เราไปกันก็คือ.. โรงพยาบาลอภัยภูเบศร  (งงล่ะสิมาทำไมโรงพยาบาล ใช่ตอนแรกเราก็มาแบบไม่รู้อะไรเลยจริงๆ  เพื่อนก็พาลากๆมา)
สรุปคือนางอยากมา “นวดแผนไทย” กันจ้า  พวกนางบอกว่า ที่นี่ดังในหมู่คนต่างชาตินะ เรื่องนวดแล้วก็พวกยาสระผม สบู่หอมมากๆ  บลาๆๆ

11.30น. เดินทางมาถึงที่โรงพยาบาล จากนั้นก็เดินตามพนักงานบอกมาเรื่อยๆก็จะเจอตึก สถาบันการแพทย์แผนไทยอภัยภูเบศรขึ้นไปที่ชั้น 2 เข้ามาถึงปุ๊ปก็จะมีพนักงานมาวัดความดัน ถามประวัติ ฯลฯ แล้วก็นั่งรอคิว

ความดันเราแอบต่ำ แต่ก็ยังนวดได้

เปลี่ยนชุดเรียบร้อย คุณป้าเอาผ้าเปียกมาให้เช็คเท้าแล้วก็ให้ฉีดแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อเอง

ระหว่างนวดตัว 1 ชั่วโมงก็คุยกับคุณป้า
ป้าเล่าตั้งแต่สมัยก่อนเปิดโรงพยาบาลยันสมัยนี้ยาวมากจำไม่ได้อะ..  (ใครสนใจประวัติไปถาม Google อ่านดูนะ  แหะๆ)
สรุปสั้นๆเอาเป็นว่าที่นี่ดังเรื่องการนวดไทยแผนโบราณ และสมุนไพรต่างๆนาๆ 
ปล.คุณป้านวดเก่งจริงๆ กดจุดโดนทุกที่ๆเราปวดเลย เลิฟค่า <3
นวดตัวชั่วโมงละ 250 บาท **ต้องจองล่องหน้า**

หลังจากนวดเสร็จก็แวะไปที่ศูยน์สมุนไพรอภัยภูเบศ..   
พวกเพื่อนซื้อยาสระผมกันคนละ5-6ขวด (เชื่อแล้วจ้ามาอยากมากัน..)

ที่นี่มีขายทุกสิ่งอย่างจริงๆสบู่ ยาสระผม ยาสนุมไพร เครื่องสำอางฯลฯ และทุกอย่างทำมาจากสมุนไพรไทยหมดเลยจ้า
ส่วนราคาจำได้ว่ายาสระผมขวดละ 90 บาท

 
ในระหว่างที่รอเพื่อนซื้อของ เราก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากุเกิ้ล “ร้านอาหารอร่อยแถวอภัยภูเบศร” 
และสิ่งที่เจอก็คือ... “อภัยภูเบศร เดย์สปา!! ”  เจอรีวิวในวงในแอบดีเลยลองไปมาดูค่ะ
https://www.wongnai.com/restaurants/188362tX-abhaibhubejhr-dayspa
ร้านแอบอยู่ใน สปาอีกที คือต้องเดินทะลุเข้าไปในอภัยภูเบศร เดย์สปา จะเจอร้านอาหารเล็กๆอยู่ด้านหลังสุดค่ะ

อาหารอร่อยทุกอย่างเลย.. แต่ที่ชอบและโดนใจก็คือ “หมูสับปลาร้า” คือดีย์!! 
เพื่อนคนญี่ปุ่นปกติไม่กินปลาร้าเลย แต่นางตักกินหน้าตาเฉยแล้วบอกว่าอร่อย..  คือนางไม่รู้เลยว่ามันคือปลาร้า ฮาๆ มันไม่มีกลิ่นเหม็น รสกลมกล่อมปลาร้าเข้ากับหมูสับดีมากๆ 

อาหารที่สั่ง
หมูปลาร้า 120.-    << เลิฟมากให้ที่หนึ่งเลย
ขนมปังหน้าหมูโรยงา 80.- << กรอบอร่อย
ม้าฮ่อ 60.-  << แปลกดีไม่เคยกิน เหมือนไส้ของข้าวเกรียบปากหม้อ กินกับสัปรดเข้ากันดี
แตงกวาผัดไข่ 80.- << อร่อยผ่านค่า
เต้าเจี้ยวหลน 100.- << ส่วนตัวไม่กินเต้าเจี้ยวเลยไม่ได้ลอง แต่เพื่อนบอกว่าโอเค
ผัดสายบัวกุ้งสด 120.-  << สายบัวกรอบๆ หวานๆ กุ้งก็สดจริง
ผัดฉ่าปลา 180.- << เผ็ดนิดๆ ปลาสด ผ่านค่ะ
แกงเลียงกุ้งสด 120.- << รสชาติแบบคนต่างชาติทานได้ คนไทยทานอร่อย
ไข่เจียวลาบ 60.- << ดี!
เต้าหู้ทอดราดซอสมะขาม 100.- << ซอสมะขามหวานนิดนึงเปี้ยวหน่อยๆ ชอบบบ
ข้าวผัดกะเพราหมูโบราณ 50.- <<   เข้มข้นมากๆ ดีงาม

หลังจากทานอาหารเสร็จเรียบร้อยก็ออกเดินทางไปยังล่องแก่งหินเพิง ถึงตอนประมาณ 15.00 น.

เปลี่ยนชุดเตรียมเปียก รับเสื้อชูชีพ หมวก ไม้พาย และน้ำ 1 ขวดเล็ก 
ขึ้นรถกระบะนั่งไปประมาณ 5-10 นาที หลังจากนั้นเราต้องเดินเท้าเข้าป่าไปเองอีกประมาณ 2 กิโล
**แนะนำว่าทายากันยุงกันแมลงไว้หน่อยดีกว่าค่ะ**


ก่อนจะเดินเข้าป่าก็เป็นถนนปกติก่อน...

แล้วหลังจากนั้นก็ป่าไปเลยจ้าาาา

ถึงแล้ววววววววววว ...  น้ำเยอะดีมากจ้า พนักงานบอกว่าวันนี้น้ำดีที่สุดในรอบปีเลย



แบกเรือมาสูบลมกันอยู่ตรงนี้เลย

พร้อมแล้วก็ไปจ้า.. ช่วงล่องเรือเราไม่ค่อยมีรูปเพราะกล้องไม่กั้นน้ำ.. แล้วฝนก็ตกด้วย แต่มันส์มากจริงๆ น้ำใส ธรรมชาติสวยงามตลอดสองข้างทาง 
ที่สำคัญคนนำล่องแก่งที่ดูแลก็น่ารัก ตลก ปล่อยมุขตลอด  พอถึงจุดที่มีน้ำวนเขาก็หมุนๆเรือเอาด้านหลังลงบ้าง ด้านหน้าบ้าง สนุกสุดๆ 
ให้เต็ม 10 ไปเลยค่า..!!

ราคาเหมาลำ 3,000 บาท นั่งได้ 8 คน  ถ้าไม่ถึง 8 คน คิดคนละ 500 บาท
Location : https://goo.gl/maps/NwZF6Wjf4qvgLxDS8
ปล.ตอนขับรถมาตาม GPS จะมีจุดหนึ่งที่บอกให้เลี้ยวขวา แต่จริงๆต้องเลี้ยวซ้ายนะคะ สังเกตป้ายจะมีเขียนว่า “GPS บอกทางผิดให้เลี้ยวซ้าย”


ชักภาพเป็นที่ระทึกก่อนไปเปลี่ยนชุด

หลังจากเปลี่ยนชุดเรียบร้อยก็ออกเดินทางไปโรงแรมคืนนี้เราจะนอนกันที่ Verona at Tublan Boutique Hotel & Resort
ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงก็จถึงโรงแรม
'
เหตุผลที่เลือกคือ ดูแล้วน่าจะถ่ายรูปสวย.. (แค่นั้นจริงๆ 555+)
มาถึงก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อพาลงมาทานอาหารตอนเกือบทุ่มที่ร้าน Blackwood อยู่ภายใน Verona 

อาหารที่สั่ง
-ข้าวหน้าไก่ไข่ดาวราชวงศ์ 129.-  << สั่งเพราะชื่อดูอลังการดี.. รสติออกหวานๆน้อย
-ไข่เจียวปู 159.- << ใช้ได้ แต่เนื้อปูน้อยไปหน่อย
-สเต็กไก่เทอริยากิ 169.- <<  เพื่อนคนญี่ปุ่นบอกว่าเนื้อไก่อร่อยแต่ซอสไม่ใช่เทอริยากิ เป็นซอสแบบของมิทาราชิ ดังโงะ ไม่เข้ากันเท่าไหร่  >///<
- ช็อกโกแลตบราวนี่ทางร้านเอามาให้ชิมฟรี.. อร่อยดีค่ะ หวานกำลังพอดี


หลังทานข้าวเสร็จก็แยกย้ายกันกลับห้อง ระหว่างทางก็แวะถ่ายรูปสะหน่อย
ถ่ายกลางคืนตอนฝนตกปรอยๆก็สวยไปอีกแบบ 
ปล.ไม่ได้ปรับสีเลยเราใช้กล้อง Olympus OM-D E-M5 Mark II  เยี่ยม!



ห้องเราอยู่ชั้นสอง
ถ่ายจากหน้าต่างห้องก็สวยไปอีกแบบ (โทรไปบอกพี่คนญี่ปุ่นว่า "โผล่หัวออกมาทางหน้าต่างหน่อย" แล้วก็แอบถ่ายนาง ฮาๆ )

ห้องที่เรานอนเป็นแบบ ซูพีเรีย (Superior)  จองใน Agoda ลดราคาอยู่คืนละประมาณ 1,500 บาท
แอร์เย็นสบาย ห้องกว้าง ไม่มีข้อติค่ะ 
อ่อแต่มีช่วงหนึ่งที่.. ไฟแอบดับไปประมาณ 5 นาทีแต่ก็มีแสงสำรองส่องเป็นแสงให้เราพอมองเห็นได้


DAY 2 
กำหนดการออกจากที่เวโรน่า 9.00 น.เรา ตื่น 7 โมงมากินข้าวเช้าที่ Blackwood (ห้องอาหารเดียวกับเมื่อคืน)
มีอาหารไทย แล้วก็พวกซุปข้าวโพด ไข่ดาว กาแฟฯลฯ 

ก่อนจะออกเดินทางก็ยังมีเวลาเหลืออยู่เลยมาเดินถ่ายรูปเล่น สีสวยงามดีม๊ากกก บรรยากาศแบบอยู่เมืองอิตาลี
 (ถึงจะไม่เคยไปก็เถอะแต่คิดว่าเหมือน ฮาๆ) มีจุดถ่ายรูปหลายจุด ใครชอบถ่ายรูปแนะนำเลยค่ะ !!