ซื้อ 1 ได้ถึง 2!
❤️ ซื้อเวาเชอร์ล่องแก่งชุมชนบ้านเขาหลักแพคเกจไหนก็ได้
แถมฟรีเมนูไก่ดํายอดฮิตของชุมชนและอาหารใต้โฮมเมดหรอยแรง 1 มื้อ!
👍จองได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 15 กันยา 2020 เท่านั้น
(สิทธิ์นี้มีจํานวนจํากัด ช้าหมด อดน้า)
👍ซื้อตอนนี้ได้ราคาพิเศษ แถมเก็บไว้ใช้ได้ถึง 1 ปี!
DAY 2 : ตะลุยซิ่งเข้าป่าหฤโหด ชมถ้ำน้ำ ดูหินย้อย
8.50 AM ไหว้พระนอนทรงเทริดมโนราห์ที่วัดภูเขาทอง
ก่อนจะเข้าชุมชน เราก็แวะมาไหว้พระนอนทรงเทริดมโนราห์ที่วัดภูเขาทอง ซึ่งเป็นทางผ่านของชุมชนอยู่แล้ว
จากนั้นก็เดินออกมาชมรอบๆวัด ภายในวัดเงียบสงบ แล้วยังมีสถาปัตยกรรมสวยๆให้ชม ซึ่งจะเป็นการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมแบบภาคใต้และภาคเหนือเข้าด้วยกัน
9.30 AM ซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์คนท้องที่ เตรียมตัวลุยป่า
พอมาถึงชุมชน เราก็ทำการเตรียมตัวไปบวชป่า ชมถ้ำน้ำกันในป่า ตอนแรกเราไม่คิดเลยว่าการเข้าป่าที่ว่ามันจะหมายถึงป่าแบบ...ป่าขนาดนี้ (ป่าดิบชื้น ต้นไม้เยอะแยะมากมาย) ชุดที่เตรียมมาคือชุดแขนสั้น ขาสั้น รองเท้าแตะ คนท้องที่แนะนำให้ใส่ขายาว แขนยาว รองเท้าผ้าใบ… คือเรายังไปได้อยู่ถูกมั้ย 😂
โอเค ไหนๆก็มาละก็ลุยไปทั้งๆอย่างนี้แล่ะ
เราต้องซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์คนท้องที่เข้าป่า ช่วงแรกๆทางก็เรียบๆอยู่ แต่ผ่านไปสักพักทางก็ค่อยๆไปยากขึ้น ดินเปียกเอย หลุมเอย พุ่มไม้รอบๆเอย แล้วบางทียังมีต้นไม้ล้มขวางหน้าอีก ในใจมีเป็นหมื่นล้านคำ พูดไม่ออกซักคำจริงๆ นั่งลุ้นจนหน้าเบี้ยวว่าจะตกจากรถมั้ยเป็นชั่วโมง 😱
เพราะระยะทางมันไกลเป็นกิโลๆ! คนขี่ก็เก่งเกิ๊น เจอหลุมเจออะไรก็ขี่ต่อไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งๆที่เราอยากจะร้องกรี๊ดหลายรอบละ เครื่องเล่นที่เล่นมาทั้งชีวิตชิดซ้ายไปให้หมด เมื่อเจอการซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์เข้าป่าของที่นี่ เป็นประสบการณ์ที่เสียวที่สุดในชีวิตแล้ว 😭
ดูพุ่มไม้ทั้งหลายและทางนั่นสิ 🤣🤣
แต่จริงๆแล้วช่วงนี้เป็นช่วงหน้าฝนด้วยแล่ะ เลยทำให้ทางยากลำบากกว่าปกติ ถ้ามาหน้าอื่นไม่น่าจะลำบากขนาดนี้ 😅 (แอบถามคนที่นี่ว่าใช้มอเตอร์ไซค์ยี่ห้ออะไร ทำไมถึกขนาดนี้ เค้าบอกว่ามอเตอร์ไซค์อ่ะธรรมดา แต่ล้อเป็นแบบวิบาก แล้วคือต้องส่งซ่อมบ่อย 55555 ก็น่าอยู่นะ)
ผ่านไปสักพัก ก็ลงจากมอเตอร์ไซค์มาเดินป่าต่อ เพื่อไปที่ถ้ำน้ำ เรื่องความปลอดภัยเค้าจะมีคนท้องที่ตามมาเยอะอยู่ เผื่อเกิดอะไรขึ้นจะได้ช่วยได้ทันที พอเห็นแบบนี้ก็อุ่นใจไปอีก
10.30 AM เดินทะลุป่าต้นน้ำ เข้าชมถ้ำน้ำ
เดินมาประมาณสิบกว่านาที ก็มาถึงป่าต้นน้ำ ต้องเดินลุยน้ำเข้าไปเรื่อยๆเพื่อไปถ้ำน้ำ คนที่ใส่ขายาวกับรองเท้าผ้าใบคือเปียกหมด ส่วนเราไม่เป็นอะไรเพราะใส่สั้นทุกอย่าง พร้อมกระเป๋ากันน้ำจ้า
ทางเข้าถ้ำน้ำจะเป็นโขดหินซ้อนๆกันแบบนี้ขึ้นไป เราต้องปีนข้ามไปอีกฝั่งถึงจะเจอทางเข้าถ้ำน้ำ ถ้ากลัวลื่นคนในชุมชนจะช่วยดูให้ บริการทุกระดับประทับใจจริมๆ 😌
ทางเข้าถ้ำจะค่อนข้างแคบ แต่ก็ไม่ได้แคบถึงขนาดคนเดินเข้าไม่ได้น้า
ข้างในมืดมากๆ ต้องมีไฟฉายช่วยส่อง แนะนำให้ใส่หน้ากากมาด้วย เพราะแมลงจะบินเข้าหาแสงเยอะมาก ถ้าใส่หน้ากากจะกันได้ระดับนึง น้ำข้างในมีตื้นบ้าง ลึกบ้าง ระดับลึกสุดคือถึงต้นขา
เดินเข้าไปประมาณสิบกว่านาที ก็เจอหินย้อยสวยๆแบบนี้ แล้วก็จะมีน้ำไหลลงมาเรื่อยๆ น้ำน่าจะสะอาดเพราะมีพี่คนนึงไปล้างหน้าให้ดูเลยจ้า
แล้วจากนั้นก็ออกจากถ้ำเพื่อไปบวชป่าต่อ
12.00 PM ทานกะเพราไก่ไข่ดาวกลางป่า ชมวิวข้างลำธาร
ก่อนบวชป่าเราก็แวะไปกินอาหารเที่ยงกันตรงริมลำธารก่อน บรรยากาศดีงาม มีมุมถ่ายรูปชิคๆไปอีก
เมนูมื้อนี้คือข้าวกะเพราไก่ไข่ดาววว ห่อมาอย่างดีและให้เยอะอีกแล้วว ทำไมคนที่นี่ใจดีกันจัง 😍
เนื่องจากว่าค่อนข้างหิว แปปเดียวก็โซ้ยหมดละ อร่อยมากกกก ไก่และไข่มาจากไก่ดำหมดเลยยย ❤️👍
13.00 PM บวชป่า รักษาสิ่งแวดล้อม
การบวชป่าเป็นประเพณีอย่างนึง ที่มาจากความเชื่อความศรัทธาของคนท้องถิ่น เพื่อยับยั้งการตัดไม้ทำลายป่า และต่ออายุให้กับต้นไม้ที่ได้ทำการบวชป่าด้วย
ต้นไม้ที่โดนเลือกส่วนมากจะเป็นต้นไม้ที่ดูมีอายุและต้นใหญ่ โดยที่จะเอาผ้าสีส้มแบบนี้มาผูกกับต้นไม้ที่เลือกไว้
จากนั้นก็ทำการอธิษฐาน และเคารพต้นไม้ต้นนั้นก่อนที่จะปล่อยมือออกจากผ้า หลังจากนี้เมื่อมีคนผ่านมาเห็นต้นไม้ต้นนี้ก็จะรู้แล้วว่าห้ามทำลาย ต้องปกป้องรักษาต้นไม้เอาไว้ เป็นวิธีการรักษาสิ่งแวดล้อมที่ดีมากๆ 👍
13.30 PM กลับชุมชน เตรียมตัวออกเดินทางกลับ
กลับชุมชนทางเดิม วิธีเดิม เสียวรอบสองจ้า นั่งลุ้นไปยาวๆเช่นเคย
หลังจากที่กลับถึงชุมชนก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่ทว่าก็มีเหตุการณ์น่าสะพรึงเกิดขึ้น เมื่อเท้าของเพื่อนเราเลือดไหลไม่หยุด ตอนแรกนางก็งงว่าทำไมไม่หยุดไหลซะที จนกระทั่งเห็นทากดูดเลือดเกาะรองเท้าเท่านั้นแล่ะ นางเกือบกรี๊ดเลยจ้า ยังดีที่มีคนช่วยเอาเอาทากที่เกาะรองเท้าไปเผาให้มันหลุด แล้วยังเอายาสูบมาโปะบนแผลให้ถึงค่อยๆหยุดไหล ครั้งแรกในชีวิตนางเค้าล่ะ 😂
เพราะฉะนั้นถ้าไม่อยากโดนตัวอะไรเกาะหรืออยากป้องกันตัวเองจากทุกสรรพสิ่งแนะนำว่าก่อนจะเข้าป่า ให้ใส่เสื้อแขนยาว กางเกงขาสั้นทับด้วยขายาว และรองเท้าผ้าใบ แต่ถ้าจะให้ดีก็เตรียมรองเท้าบู๊ทกันน้ำไปจะดีที่สุด ถ้ากลัวรองเท้าผ้าใบเปียกอะนะ
14.30 PM แวะกินขนม Tubtieng Old Town Cafe & Bistro ก่อนกลับ
ก่อนไปสนามบินยังพอมีเวลา เลยแวะหาอะไรกินกันก่อนที่คาเฟ่สไตล์คูลๆ ชื่อว่า
Tubtieng Old Town Cafe & Bistro
หน้าร้านมีเวสป้าให้แวะถ่ายรูปได้จ้า
ภายในร้านตกแต่งสไตล์วินเทจๆหน่อย ร้านจะออกโทนเก่าๆ แต่ก็ดูเท่ดี มีมุมถ่ายรูปสวยๆเยอะอยู่
เพื่อนเราสั่งขนมมาลองกิน 4 เมนู มีเค้กเมืองตรัง, ขนมโก๋, เขาควาย,แล้วก็ขนมม่อหลาว หรือเรียกอีกอย่างว่าขนมงาพอง จากทั้งหมดที่ชิมมา เค้กเมืองตรังกับม่อหลาวอร่อยสุดละ อีกสองอย่างหวานละก็แห้งไปหน่อย
หลังจากนั้นก็ได้เวลาเซย์บ๊ายบายเมืองตรัง กลับกรุงเทพโดยการนั่งเครื่องบินจากสนามบินเมืองตรังกลับไปดอนเมืองจ้า
บอกเล่าความประทับใจ
บอกเลยว่าประทับใจทริป 2 วัน 1 คืน ที่ชุมชนล่องแก่งบ้านเขาหลัก จังหวัดตรังมากกก ❤️ ทุกคนอยู่แบบเศรษฐกิจพอเพียง ระบบของชุมเป็นระเบียบ เรียบร้อย และสะอาดมาก คนในชุมชนคือต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่ เลี้ยงดูปูเสื่อรับรองนักท่องเที่ยวที่ไปเยี่ยมเยียนชุมชนได้เป็นอย่างดี 👍 ทุกคนยิ้มแย้ม แจ่มใส มีน้ำใจกว้างขวางยิ่งกว่ามหาสมุทรไปอีกก อาหารอร่อยแบบห้าดาวไปเลย ⭐️ ⭐️ ⭐️ ⭐️ ⭐️
แล้วแต่ละกิจกรรมก็สนุกแบบคาดไม่ถึงมาก อย่างล่องแก่งพอรู้ว่าไม่ใช่แบบลุยๆ ก็คิดว่าคงจะไม่มีอะไร แต่ก็สนุกแล้วก็เพลินกว่าที่คิดไว้ อีกอย่างที่คาดไม่ถึงสุดๆก็คือทริปเข้าป่า จะไม่มีวันลืมเลยจริงๆ 🤣🤣 หายสงสัยละว่าทำไมถึงได้รางวัลชุมชนยอดเยี่ยมดีเด่นแห่งปี 😁
ถามว่าถ้าจะให้มาจะมาอีกมั้ย? จากใจเลยนะคือ มาแน่นอนนนนนแล้วครั้งหน้าจะนอนแบบโฮมสเตย์ด้วยย ไม่พลาดแน่นอน!
ก็อยากให้ทุกคนควรลองไปเที่ยวชุมชนล่องแก่ง บ้านเขาหลักที่จังหวัดตรังสักครั้งนึงจริงๆ โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นสายเที่ยว สายลุย จะต้องรู้สึกว่าทริปนี้มันปังสุดๆไปเลยยยยยย
1. ล่องแก่งบ้านเขาหลัก: ผู้ใหญ่ 200 ต่อท่าน/ เด็ก 100 ต่อท่าน (3-10 ปี)
2. ท่องเที่ยวชุมชนบ้านเขากลักแบบแอดเวนเจอร์ 1 วัน: ผู้ใหญ่ 450 ต่อท่าน/ (อย่างน้อย 5 ท่านขึ้นไป)
3. โปรแกรมท่องเที่ยวชุมชนบ้านเขาหลัก 2 วัน 1 คืน: 1250 บาทต่อท่าน
📲 0979956288
*จองกิจกรรมล่วงหน้า 7 วันก่อนวันเดินทางโดยติดต่อแจ้งทางชุมชนที่เบอร์ 0824204691 (ผู้ใหญ่สวัสดิ์)
ฝากติดตามรีวิวที่เที่ยว ที่กิน ที่ช็อปเด็ดๆจากพวกเราตามช่องทางเหล่านี้ด้วยนะคะ:
[SR] (DAY 2) เปิดโปงแหล่งท่องเที่ยวสุดชิคในจังหวัดตรัง! ตะลุยชุมชนล่องแก่ง บ้านเขาหลัก สุดยอดชุมชนดีเด่นแห่งปี!
9.30 AM ซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์คนท้องที่ เตรียมตัวลุยป่า
พอมาถึงชุมชน เราก็ทำการเตรียมตัวไปบวชป่า ชมถ้ำน้ำกันในป่า ตอนแรกเราไม่คิดเลยว่าการเข้าป่าที่ว่ามันจะหมายถึงป่าแบบ...ป่าขนาดนี้ (ป่าดิบชื้น ต้นไม้เยอะแยะมากมาย) ชุดที่เตรียมมาคือชุดแขนสั้น ขาสั้น รองเท้าแตะ คนท้องที่แนะนำให้ใส่ขายาว แขนยาว รองเท้าผ้าใบ… คือเรายังไปได้อยู่ถูกมั้ย 😂
โอเค ไหนๆก็มาละก็ลุยไปทั้งๆอย่างนี้แล่ะ
เราต้องซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์คนท้องที่เข้าป่า ช่วงแรกๆทางก็เรียบๆอยู่ แต่ผ่านไปสักพักทางก็ค่อยๆไปยากขึ้น ดินเปียกเอย หลุมเอย พุ่มไม้รอบๆเอย แล้วบางทียังมีต้นไม้ล้มขวางหน้าอีก ในใจมีเป็นหมื่นล้านคำ พูดไม่ออกซักคำจริงๆ นั่งลุ้นจนหน้าเบี้ยวว่าจะตกจากรถมั้ยเป็นชั่วโมง 😱
เพราะระยะทางมันไกลเป็นกิโลๆ! คนขี่ก็เก่งเกิ๊น เจอหลุมเจออะไรก็ขี่ต่อไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งๆที่เราอยากจะร้องกรี๊ดหลายรอบละ เครื่องเล่นที่เล่นมาทั้งชีวิตชิดซ้ายไปให้หมด เมื่อเจอการซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์เข้าป่าของที่นี่ เป็นประสบการณ์ที่เสียวที่สุดในชีวิตแล้ว 😭
ดูพุ่มไม้ทั้งหลายและทางนั่นสิ 🤣🤣
แต่จริงๆแล้วช่วงนี้เป็นช่วงหน้าฝนด้วยแล่ะ เลยทำให้ทางยากลำบากกว่าปกติ ถ้ามาหน้าอื่นไม่น่าจะลำบากขนาดนี้ 😅 (แอบถามคนที่นี่ว่าใช้มอเตอร์ไซค์ยี่ห้ออะไร ทำไมถึกขนาดนี้ เค้าบอกว่ามอเตอร์ไซค์อ่ะธรรมดา แต่ล้อเป็นแบบวิบาก แล้วคือต้องส่งซ่อมบ่อย 55555 ก็น่าอยู่นะ)
ผ่านไปสักพัก ก็ลงจากมอเตอร์ไซค์มาเดินป่าต่อ เพื่อไปที่ถ้ำน้ำ เรื่องความปลอดภัยเค้าจะมีคนท้องที่ตามมาเยอะอยู่ เผื่อเกิดอะไรขึ้นจะได้ช่วยได้ทันที พอเห็นแบบนี้ก็อุ่นใจไปอีก
10.30 AM เดินทะลุป่าต้นน้ำ เข้าชมถ้ำน้ำ
เดินมาประมาณสิบกว่านาที ก็มาถึงป่าต้นน้ำ ต้องเดินลุยน้ำเข้าไปเรื่อยๆเพื่อไปถ้ำน้ำ คนที่ใส่ขายาวกับรองเท้าผ้าใบคือเปียกหมด ส่วนเราไม่เป็นอะไรเพราะใส่สั้นทุกอย่าง พร้อมกระเป๋ากันน้ำจ้า
ทางเข้าถ้ำน้ำจะเป็นโขดหินซ้อนๆกันแบบนี้ขึ้นไป เราต้องปีนข้ามไปอีกฝั่งถึงจะเจอทางเข้าถ้ำน้ำ ถ้ากลัวลื่นคนในชุมชนจะช่วยดูให้ บริการทุกระดับประทับใจจริมๆ 😌
ทางเข้าถ้ำจะค่อนข้างแคบ แต่ก็ไม่ได้แคบถึงขนาดคนเดินเข้าไม่ได้น้า
ข้างในมืดมากๆ ต้องมีไฟฉายช่วยส่อง แนะนำให้ใส่หน้ากากมาด้วย เพราะแมลงจะบินเข้าหาแสงเยอะมาก ถ้าใส่หน้ากากจะกันได้ระดับนึง น้ำข้างในมีตื้นบ้าง ลึกบ้าง ระดับลึกสุดคือถึงต้นขา
เดินเข้าไปประมาณสิบกว่านาที ก็เจอหินย้อยสวยๆแบบนี้ แล้วก็จะมีน้ำไหลลงมาเรื่อยๆ น้ำน่าจะสะอาดเพราะมีพี่คนนึงไปล้างหน้าให้ดูเลยจ้า
แล้วจากนั้นก็ออกจากถ้ำเพื่อไปบวชป่าต่อ
12.00 PM ทานกะเพราไก่ไข่ดาวกลางป่า ชมวิวข้างลำธาร
ก่อนบวชป่าเราก็แวะไปกินอาหารเที่ยงกันตรงริมลำธารก่อน บรรยากาศดีงาม มีมุมถ่ายรูปชิคๆไปอีก
เมนูมื้อนี้คือข้าวกะเพราไก่ไข่ดาววว ห่อมาอย่างดีและให้เยอะอีกแล้วว ทำไมคนที่นี่ใจดีกันจัง 😍
เนื่องจากว่าค่อนข้างหิว แปปเดียวก็โซ้ยหมดละ อร่อยมากกกก ไก่และไข่มาจากไก่ดำหมดเลยยย ❤️👍
13.00 PM บวชป่า รักษาสิ่งแวดล้อม
การบวชป่าเป็นประเพณีอย่างนึง ที่มาจากความเชื่อความศรัทธาของคนท้องถิ่น เพื่อยับยั้งการตัดไม้ทำลายป่า และต่ออายุให้กับต้นไม้ที่ได้ทำการบวชป่าด้วย
ต้นไม้ที่โดนเลือกส่วนมากจะเป็นต้นไม้ที่ดูมีอายุและต้นใหญ่ โดยที่จะเอาผ้าสีส้มแบบนี้มาผูกกับต้นไม้ที่เลือกไว้
จากนั้นก็ทำการอธิษฐาน และเคารพต้นไม้ต้นนั้นก่อนที่จะปล่อยมือออกจากผ้า หลังจากนี้เมื่อมีคนผ่านมาเห็นต้นไม้ต้นนี้ก็จะรู้แล้วว่าห้ามทำลาย ต้องปกป้องรักษาต้นไม้เอาไว้ เป็นวิธีการรักษาสิ่งแวดล้อมที่ดีมากๆ 👍
13.30 PM กลับชุมชน เตรียมตัวออกเดินทางกลับ
กลับชุมชนทางเดิม วิธีเดิม เสียวรอบสองจ้า นั่งลุ้นไปยาวๆเช่นเคย
หลังจากที่กลับถึงชุมชนก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่ทว่าก็มีเหตุการณ์น่าสะพรึงเกิดขึ้น เมื่อเท้าของเพื่อนเราเลือดไหลไม่หยุด ตอนแรกนางก็งงว่าทำไมไม่หยุดไหลซะที จนกระทั่งเห็นทากดูดเลือดเกาะรองเท้าเท่านั้นแล่ะ นางเกือบกรี๊ดเลยจ้า ยังดีที่มีคนช่วยเอาเอาทากที่เกาะรองเท้าไปเผาให้มันหลุด แล้วยังเอายาสูบมาโปะบนแผลให้ถึงค่อยๆหยุดไหล ครั้งแรกในชีวิตนางเค้าล่ะ 😂
เพราะฉะนั้นถ้าไม่อยากโดนตัวอะไรเกาะหรืออยากป้องกันตัวเองจากทุกสรรพสิ่งแนะนำว่าก่อนจะเข้าป่า ให้ใส่เสื้อแขนยาว กางเกงขาสั้นทับด้วยขายาว และรองเท้าผ้าใบ แต่ถ้าจะให้ดีก็เตรียมรองเท้าบู๊ทกันน้ำไปจะดีที่สุด ถ้ากลัวรองเท้าผ้าใบเปียกอะนะ
14.30 PM แวะกินขนม Tubtieng Old Town Cafe & Bistro ก่อนกลับ
ก่อนไปสนามบินยังพอมีเวลา เลยแวะหาอะไรกินกันก่อนที่คาเฟ่สไตล์คูลๆ ชื่อว่า Tubtieng Old Town Cafe & Bistro
หน้าร้านมีเวสป้าให้แวะถ่ายรูปได้จ้า
ภายในร้านตกแต่งสไตล์วินเทจๆหน่อย ร้านจะออกโทนเก่าๆ แต่ก็ดูเท่ดี มีมุมถ่ายรูปสวยๆเยอะอยู่
เพื่อนเราสั่งขนมมาลองกิน 4 เมนู มีเค้กเมืองตรัง, ขนมโก๋, เขาควาย,แล้วก็ขนมม่อหลาว หรือเรียกอีกอย่างว่าขนมงาพอง จากทั้งหมดที่ชิมมา เค้กเมืองตรังกับม่อหลาวอร่อยสุดละ อีกสองอย่างหวานละก็แห้งไปหน่อย
หลังจากนั้นก็ได้เวลาเซย์บ๊ายบายเมืองตรัง กลับกรุงเทพโดยการนั่งเครื่องบินจากสนามบินเมืองตรังกลับไปดอนเมืองจ้า
บอกเล่าความประทับใจ
บอกเลยว่าประทับใจทริป 2 วัน 1 คืน ที่ชุมชนล่องแก่งบ้านเขาหลัก จังหวัดตรังมากกก ❤️ ทุกคนอยู่แบบเศรษฐกิจพอเพียง ระบบของชุมเป็นระเบียบ เรียบร้อย และสะอาดมาก คนในชุมชนคือต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่ เลี้ยงดูปูเสื่อรับรองนักท่องเที่ยวที่ไปเยี่ยมเยียนชุมชนได้เป็นอย่างดี 👍 ทุกคนยิ้มแย้ม แจ่มใส มีน้ำใจกว้างขวางยิ่งกว่ามหาสมุทรไปอีกก อาหารอร่อยแบบห้าดาวไปเลย ⭐️ ⭐️ ⭐️ ⭐️ ⭐️
แล้วแต่ละกิจกรรมก็สนุกแบบคาดไม่ถึงมาก อย่างล่องแก่งพอรู้ว่าไม่ใช่แบบลุยๆ ก็คิดว่าคงจะไม่มีอะไร แต่ก็สนุกแล้วก็เพลินกว่าที่คิดไว้ อีกอย่างที่คาดไม่ถึงสุดๆก็คือทริปเข้าป่า จะไม่มีวันลืมเลยจริงๆ 🤣🤣 หายสงสัยละว่าทำไมถึงได้รางวัลชุมชนยอดเยี่ยมดีเด่นแห่งปี 😁
ถามว่าถ้าจะให้มาจะมาอีกมั้ย? จากใจเลยนะคือ มาแน่นอนนนนนแล้วครั้งหน้าจะนอนแบบโฮมสเตย์ด้วยย ไม่พลาดแน่นอน!
ก็อยากให้ทุกคนควรลองไปเที่ยวชุมชนล่องแก่ง บ้านเขาหลักที่จังหวัดตรังสักครั้งนึงจริงๆ โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นสายเที่ยว สายลุย จะต้องรู้สึกว่าทริปนี้มันปังสุดๆไปเลยยยยยย
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้
ข้อมูลเพิ่มเติม