ใครอยากทำกิจกรรมลุยๆบ้างงง 🙋🏻♀️ กิจกรรมบนบก ลงน้ำ แอดเวนเจอร์ทั้งหลายมีทั้งลุยป่า! ลุยเขา! ลุยพุ่ม! ลุยน้ำ! ลุยเข้าไป! (?) พร้อมชมธรรมชาติที่สวยงามกับสถานที่ท่องเที่ยวใหม่
วันนี้เราจะมาแนะนำที่ท่องเที่ยวที่กำลังมาแรงในจังหวัดตรังอย่างชุมชนล่องแก่ง บ้านเขาหลักจ้าาา
เผอิญว่าเรากับเพื่อนได้รับเชิญให้ไปเยี่ยมชมชุมชนล่องแก่ง บ้านเขาหลัก (Ban Khao Lak Rafting) จังหวัดตรัง ที่ได้รับรางวัลสุดยอดชุมชนดีเด่นประจำปี 2020 (Thailand Rural Tourism Award 2020) ในสาขามากมายก่ายกอง เป็นเวลา 2 วัน 1 คืน นี่ก็เริ่มสงสัยละ มันดีขนาดนั้นเลยอ่อ? 🤔 เพราะเป็นครั้งแรกที่เราจะได้ไปตรังเลยตื่นเต้นมาก แม้ว่าเราจะไม่รู้ว่ามันอยู่ส่วนไหนของประเทศไทยก็เหอะ (คะแนนภูมิศาสตร์ต่ำมากค่ะ ต้องเข้าใจ 🤣)
ซื้อ 1 ได้ถึง 2!
❤️ ซื้อเวาเชอร์ล่องแก่งชุมชนบ้านเขาหลักแพคเกจไหนก็ได้
แถมฟรีเมนูไก่ดํายอดฮิตของชุมชนและอาหารใต้โฮมเมดหรอยแรง 1 มื้อ!
👍จองได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 15 กันยา 2020 เท่านั้น
(สิทธิ์นี้มีจํานวนจํากัด ช้าหมด อดน้า)
👍ซื้อตอนนี้ได้ราคาพิเศษ แถมเก็บไว้ใช้ได้ถึง 1 ปี!
DAY 1 : เดินทางไป ชุมชนล่องแก่ง บ้านเขาหลัก จังหวัดตรัง
10.00 AM นั่งเครื่องบินจากดอนเมืองไปจังหวัดตรัง
เริ่มออกเดินทางตั้งแต่เช้า ไปนั่งเครื่องบินที่ดอนเมืองเพื่อบินไปตรัง ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าก็ถึงแล้วค่า แล้วต่อด้วยรถตู้เพื่อไปชุมชนล่องแก่ง บ้านเขาหลัก (Ban Khao Lak Rafting) กันเลยย
12.00 PM ทานมื้อเที่ยงชุดอาหารท้องถิ่น ปรุงโดยคนท้องที่แท้ๆ
มาถึงที่นี่ก็เที่ยงพอดี ประเดิมกันด้วยอาหารใต้แบบท้องถิ่นแท้ๆ ที่เป็นของขึ้นชื่อของชุมชน ใช้วัตถุดิบท้องที่อย่างเดียว ซึ่งผู้ใหญ่บ้านบอกว่าจะกินอาหารที่นี่ต้องรอคิวไปยาวๆ เพราะคนจองมาเยอะมากกกกกก อื้อหือ รู้สึกเหมือนวีไอพีที่แซงคิวลัดมากินก่อนคนอื่นเลยทีเดียว 😳 มือนี้ก็มีถึง 6 เมนู ให้กินกันอย่างจุใจ
เมนูที่ 1: แกงกะทิไก่ดำ
ไก่ดำถือเป็นของขึ้นชื่ออันดับหนึ่งของชุมชนล่องแก่ง บ้านเขาหลัก ถ้าไม่ได้กินจะถือว่ามาไม่ถึงเน้อ เราไม่เคยกินแกงกะทิมาก่อน แต่รู้สึกว่ารสชาติเข้ากันดีมากอะ เนื้อไก่ดำต้มเปื่อยกำลังพอดี ไม่เหนียวเลย กินกับข้าวอร่อยดี 😆
เมนูที่ 2: แกงเลียงกุ้งสด
อันนี้ก็ไม่เคยกิน แต่อร่อยมาก! ไม่รู้เพราะผักเค้าปลูกกันเองหรือยังไง แต่รู้สึกว่าผักเค้าหวานกว่าผักทั่วไปแล้วซุปก็กลมกล่อมดีด้วย 😋
เมนูที่ 3: ปลาทับทิมทอดสามรส
เมนูนี้อาจจะไม่ค่อยพิเศษเท่าไหร่ แต่เนื้อปลาทับทิมอร่อย ปกติกินที่อื่นจะมีกลิ่นคาวๆบ้าง แต่ของที่นี่ไม่คาวเลยจ้า 😉
เมนูที่ 4: ยำผักกูดกุ้งสด
เมนูนี้คือที่สุด! ชอบที่สุดละจากทั้งหมด อร่อยจนบรรยายไม่ถูก 55555 เป็นครั้งแรกที่กินอะไรแบบนี้แล้วติดใจฝุดๆ ยำผักกูดคลุกกับกุ้งเนื้อแน่นและเนื้อมะพร้าวขูด ไม่คิดเลยว่าจะอร่อยขนาดต้องขอสั่งเพิ่ม 😍❤️
เมนูที่ 5: ไข่เจียวไก่ดำ
เมนูธรรมดา แต่ที่ไม่ธรรมดาคือมันทำจากไข่ของไก่ดำ ซึ่งมีราคา 50 บาทต่อฟอง! โอ้โห ได้ยินแล้วสายตาที่ใช้มองไข่เจียวจานนี้ก็เปลี่ยนไป อื้มมมม ต้องกินให้คุ้มละ 🤣🤣 แต่อร่อยจริงง
เมนูที่ 6: น้ำพริกกะปิกับผักสด
ผักสดนี่สดจริงตามชื่อ สีสวย กรอบ อร่อย จิ้มกินกับน้ำพริกกะปิคือดีย์! 👍
หลังอาหารจะพลาดของหวานไปได้อย่างไร ของหวานที่นี่ไม่ธรรมดา วัตถุดิบที่เอามาทำมีอายุถึง 100 ปี! 😳 โอ้โห อยู่ไปได้ไงนิ ซึ่งสิ่งนั้นก็คือทุเรียนนน (แต่ที่มีอายุถึง 100 ปีไม่ใช่ตัวทุเรียนนะ หมายถึงต้นของทุเรียน 😂) เมนูนี้มีชื่อว่า
ข้าวเหนียวมูนทุเรียนบ้าน ซึ่งต้นทุเรียนนี้ก็ปลูกอยู่ในชุมชนเช่นกัน
ปกติไม่กินทุเรียนเลยเพราะไม่ชอบกลิ่น แต่เมื่อมาถึงแล้วก็ต้องลองฮึบแล้วชิมดู อื้อหือ! ก็ไม่เลวนะเนี่ยยย รสชาติหวานๆมันๆเข้ากับข้าวเหนียวอยู่ 😏
อาหารมื้อนี้อิ่มหมีพีมันไปอีก อร่อย กินง่าย และสะอาด ปลอดสารพิษ เอาไปเลยค่ะ 5 ดาวเต็มๆ! ถ้าจะมาเปิดร้านที่กรุงเทพบอกด้วยนะคะ จะตามไปกินอีกแน่นอน 😁
13.00 PM ทดลองทำกล้วยหินฉาบ สุดยอดผลิตภัณฑ์ของชุมชน
หลังอาหารเราก็เดินมาดูขั้นตอนการทำกล้วยหินฉาบของคนในชุมชนต่อ ซึ่งก็ไม่ไกลจากที่ทานอาหารเท่าไหร่ เดินประมาณนาทีกว่าๆก็ถึง ข้างในมีคนเริ่มทำกันแล้ว
ที่เค้าเรียกว่ากล้วยหินฉาบก็เพราะขั้นตอนนี้เลยค่ะ เค้าจะเอากล้วยไปวางบนแผ่นไม้ที่จะมีที่ฉาบไว้ตรงกลาง แล้วพอเค้าเริ่มถูกล้วยบนนั้น มันก็จะฉาบกล้วยให้ออกมาเป็นแผ่นบางๆแบบนี้
แล้วจากนั้นเค้าก็จะเอาไปทอดให้เหลือง กรอบ ส่งกลิ่นหอมไปทั่ว ยั่วต่อมหิวที่พักไปให้ทำงานอีกรอบ 😭
แล้วเค้าก็จะพักให้กล้วยหินฉาบหายร้อน ระหว่างนี้คุณป้าทอดกล้วยก็บอกว่า สามารถหยิบชิมได้ตามสบาย หรือถ้าเราเป็นคนทำเองจะเอากลับไปเท่าไหร่ก็ได้! คนที่นี่ใจกว้างดั่งแม่น้ำขุนเขาแต่จะดีเหรอคะ? คุณป้าหันมาอีกทีอาจจะหายไปหมดแล้วก็ได้นะคะ หึๆๆ 😈
หากใครที่ไม่สามารถ move on ไปจากกล้วยหินฉาบที่นี่ได้ ก็สามารถซื้อเป็นของฝากแบบนี้กลับไปได้เหมือนกัน ราคา 50 บาทต่อถุง อีกทั้งยังมีให้เลือกถึง 5 รสชาติ! มีทั้ง รสหวาน, รสเค็ม, รสปาปริก้า, รสหมาล่า, และรสคั่วกลิ้ง อยากจะขอเหมาทุกรสแต่คุณป้าบอกว่าสินค้าหมดสต็อกจ้า (เศร้าแปป 😢) แต่ถ้าอยากซื้อจริงๆ ติดต่อซื้อทาง Facebook ได้ที่เพจ
กล้วยหินฉาบบ้านเขาหลักน้า
14.00 PM พายเรือคายัคล่องแก่ง ระยะทางกว่า 4.5 กิโลเมตร
ชื่อชุมชนก็บอกอยู่แล้วว่าที่นี่คือ ชุมชน’
ล่องแก่ง’บ้านเขาหลัก เพราะฉะนั้นมาที่นี่แล้ว สิ่งที่พลาดไม่ได้เลยก็คือการพายเรือคายัคล่องแก่ง
หลังจากชิมกล้วยกันจนพุงยื่นแล้วก็เดินออกมาอีกแปปๆ จะมีห้องน้ำและห้องอาบน้ำ ให้เราเปลี่ยนเสื้อผ้า ออกมาก็จะเห็นว่ามีเสื้อชูชีพกับหมวกให้เลือกสำหรับใส่ไปพายเรือคายัคล่องแก่ง
จากนั้นเราก็นั่งรถสองแถวต่อเพื่อไปแม่น้ำสำหรับล่องแก่ง การล่องแก่งของที่นี่จะมีความยากถึงระดับ 4 ซึ่งค่อนข้างยากเพราะระยะทางที่ไกลถึง 4.5 กิโลเมตร และหินก็ค่อนข้างเยอะ ทำให้ต้องมีคนในท้องที่ช่วยเป็นคนพายให้
แต่ทว่าเรานั้น มั่นใจว่าพายได้ เพราะเราได้มีประสบการณ์การพายเรือที่โชกโชน (พายในทะเลประมาณ 10 นาที และพายอยู่ที่เดิม...) เราจึงขออาสาที่จะเป็นคนพายเองค่ะ! 😤
เพื่อนเรา(พยายาม)เชื่อใจเพราะนางไม่คิดจะพาย (เรือนั่งได้แค่สองคนต่อลำและมันบอกไม่อยากเหนื่อย 😂) ปล่อยให้เราพายไป แต่ทว่าสุดท้ายเราก็ต้องหยุด!"... หยุดเพราะมีอะไรมากั้นเยอะเกิน 🤣🤣 ไม่ว่าจะมีโขดหิน, พุ่มไม้, ขอนไม้ หรืออะไรก็ตามที่อยู่ในแม่น้ำ ไม่รู้ทำไม เราจะสามารถพายไปชนได้ทั้งหมดแม้ว่าสิ่งที่เราชนจะอยู่นิ่งๆก็ตาม(?) และเนื่องจากน้ำบางช่วงตื้นมากทำให้เรือชะงัก แล้วต้องลงเรือมาลากเรือเองอีก 😛
ยังดีที่คนท้องที่พายตามกันมาหลายคน ทำให้เราตัดสินใจกันแยกเรือ ซึ่งมันก็เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องมาก เพราะระยะทางมันไกลมากกกกถ้าพายกันเองคือหมดแรงแน่นอน
ธรรมชาติรอบๆคือสวยจริง ปกติไม่ค่อยอินกับพวกธรรมชาติเท่าไหร่ แต่พอได้มานั่งเรือเอื่อยๆ กับดูวิวสวยๆ ในบรรยากาศที่เงียบสงบ ก็รู้สึกดีไปอีกแบบ อีกอย่างคือ ระหว่างทางมีที่ให้หยุดแวะพักแวะเล่นชิงช้าด้วยย เพลินๆกันไป
ใช้เวลาไปประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งการพายเรือล่องแก่งก็จบลง จากนั้นก็นั่งสองแถวกลับมาที่ชุมชน ทั้งที่ไม่ได้เป็นคนพายแต่พอต้องนั่งนานๆบนเรือก็แอบเหนื่อยอยู่นิดหน่อย คนที่นี่ก็ช่างรู้ใจ มีการเตรียมของหวานอย่างขนมครกที่ทำเอง และเครื่องดื่มอย่างน้ำเปล่าเย็นๆและน้ำมะม่วงหาวมะนาวโห่คั้นเองให้กินแก้กระหาย อ่าาา ชื่นจายยย 😆
16.30 PM เยี่ยมชมกลุ่มเลี้ยงแพะ
อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ากันเรียบร้อย ก็นั่งรถตู้ไปที่ตั้งของกลุ่มเลี้ยงแพะ ซึ่งก่อนจะได้เจอน้องแพะทั้งหลาย ก็มีน้องหมาดูมารยาทงามมาต้อนรับที่ด้านหน้า
โอเคกลับมาดูแพะกันต่อ แพะที่นี่เค้าก็เลี้ยงกันเองเพื่อเอาไว้ขาย ให้อาหารน้องๆเค้าได้น้า
ในกลุ่มจะมีหัวหน้าใหญ่ตัวนี้คุมอยู่ มีความเผด็จการและค่อนข้างขี้บ่น เพราะร้องบ่อยมาก 😂 (ดูปากที่เชิดๆนั่นสิ =3=)
17.00 PM เยี่ยมชมศูนย์เรียนรู้การเลี้ยงไก่ดำ
นั่งรถมาอีกไม่กี่นาทีก็ถึงศูนย์เรียนรู้การเลี้ยงไก่ดำจ้า ไก่ดำที่นี่ถือว่ามีชื่อเสียงระดับนึง เพราะมีฟาร์มเลี้ยงไก่ดำแบบครบวงจร และเปิดให้คนทั่วไปเข้ามาศึกษาเยี่ยมชมน้องๆไก่ดำได้
อ่านบทความตอนที่ 2 ต่อได้ที่นี้:
https://ppantip.com/topic/40175438
[SR] (DAY 1) เปิดโปงแหล่งท่องเที่ยวสุดชิคในจังหวัดตรัง! ตะลุยชุมชนล่องแก่ง บ้านเขาหลัก สุดยอดชุมชนดีเด่นแห่งปี!
ใครอยากทำกิจกรรมลุยๆบ้างงง 🙋🏻♀️ กิจกรรมบนบก ลงน้ำ แอดเวนเจอร์ทั้งหลายมีทั้งลุยป่า! ลุยเขา! ลุยพุ่ม! ลุยน้ำ! ลุยเข้าไป! (?) พร้อมชมธรรมชาติที่สวยงามกับสถานที่ท่องเที่ยวใหม่
วันนี้เราจะมาแนะนำที่ท่องเที่ยวที่กำลังมาแรงในจังหวัดตรังอย่างชุมชนล่องแก่ง บ้านเขาหลักจ้าาา
เผอิญว่าเรากับเพื่อนได้รับเชิญให้ไปเยี่ยมชมชุมชนล่องแก่ง บ้านเขาหลัก (Ban Khao Lak Rafting) จังหวัดตรัง ที่ได้รับรางวัลสุดยอดชุมชนดีเด่นประจำปี 2020 (Thailand Rural Tourism Award 2020) ในสาขามากมายก่ายกอง เป็นเวลา 2 วัน 1 คืน นี่ก็เริ่มสงสัยละ มันดีขนาดนั้นเลยอ่อ? 🤔 เพราะเป็นครั้งแรกที่เราจะได้ไปตรังเลยตื่นเต้นมาก แม้ว่าเราจะไม่รู้ว่ามันอยู่ส่วนไหนของประเทศไทยก็เหอะ (คะแนนภูมิศาสตร์ต่ำมากค่ะ ต้องเข้าใจ 🤣)
DAY 1 : เดินทางไป ชุมชนล่องแก่ง บ้านเขาหลัก จังหวัดตรัง
10.00 AM นั่งเครื่องบินจากดอนเมืองไปจังหวัดตรัง
เริ่มออกเดินทางตั้งแต่เช้า ไปนั่งเครื่องบินที่ดอนเมืองเพื่อบินไปตรัง ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าก็ถึงแล้วค่า แล้วต่อด้วยรถตู้เพื่อไปชุมชนล่องแก่ง บ้านเขาหลัก (Ban Khao Lak Rafting) กันเลยย
12.00 PM ทานมื้อเที่ยงชุดอาหารท้องถิ่น ปรุงโดยคนท้องที่แท้ๆ
มาถึงที่นี่ก็เที่ยงพอดี ประเดิมกันด้วยอาหารใต้แบบท้องถิ่นแท้ๆ ที่เป็นของขึ้นชื่อของชุมชน ใช้วัตถุดิบท้องที่อย่างเดียว ซึ่งผู้ใหญ่บ้านบอกว่าจะกินอาหารที่นี่ต้องรอคิวไปยาวๆ เพราะคนจองมาเยอะมากกกกกก อื้อหือ รู้สึกเหมือนวีไอพีที่แซงคิวลัดมากินก่อนคนอื่นเลยทีเดียว 😳 มือนี้ก็มีถึง 6 เมนู ให้กินกันอย่างจุใจ
เมนูที่ 1: แกงกะทิไก่ดำ
ไก่ดำถือเป็นของขึ้นชื่ออันดับหนึ่งของชุมชนล่องแก่ง บ้านเขาหลัก ถ้าไม่ได้กินจะถือว่ามาไม่ถึงเน้อ เราไม่เคยกินแกงกะทิมาก่อน แต่รู้สึกว่ารสชาติเข้ากันดีมากอะ เนื้อไก่ดำต้มเปื่อยกำลังพอดี ไม่เหนียวเลย กินกับข้าวอร่อยดี 😆
เมนูที่ 2: แกงเลียงกุ้งสด
อันนี้ก็ไม่เคยกิน แต่อร่อยมาก! ไม่รู้เพราะผักเค้าปลูกกันเองหรือยังไง แต่รู้สึกว่าผักเค้าหวานกว่าผักทั่วไปแล้วซุปก็กลมกล่อมดีด้วย 😋
เมนูที่ 3: ปลาทับทิมทอดสามรส
เมนูนี้อาจจะไม่ค่อยพิเศษเท่าไหร่ แต่เนื้อปลาทับทิมอร่อย ปกติกินที่อื่นจะมีกลิ่นคาวๆบ้าง แต่ของที่นี่ไม่คาวเลยจ้า 😉
เมนูที่ 4: ยำผักกูดกุ้งสด
เมนูนี้คือที่สุด! ชอบที่สุดละจากทั้งหมด อร่อยจนบรรยายไม่ถูก 55555 เป็นครั้งแรกที่กินอะไรแบบนี้แล้วติดใจฝุดๆ ยำผักกูดคลุกกับกุ้งเนื้อแน่นและเนื้อมะพร้าวขูด ไม่คิดเลยว่าจะอร่อยขนาดต้องขอสั่งเพิ่ม 😍❤️
เมนูที่ 5: ไข่เจียวไก่ดำ
เมนูธรรมดา แต่ที่ไม่ธรรมดาคือมันทำจากไข่ของไก่ดำ ซึ่งมีราคา 50 บาทต่อฟอง! โอ้โห ได้ยินแล้วสายตาที่ใช้มองไข่เจียวจานนี้ก็เปลี่ยนไป อื้มมมม ต้องกินให้คุ้มละ 🤣🤣 แต่อร่อยจริงง
เมนูที่ 6: น้ำพริกกะปิกับผักสด
ผักสดนี่สดจริงตามชื่อ สีสวย กรอบ อร่อย จิ้มกินกับน้ำพริกกะปิคือดีย์! 👍
หลังอาหารจะพลาดของหวานไปได้อย่างไร ของหวานที่นี่ไม่ธรรมดา วัตถุดิบที่เอามาทำมีอายุถึง 100 ปี! 😳 โอ้โห อยู่ไปได้ไงนิ ซึ่งสิ่งนั้นก็คือทุเรียนนน (แต่ที่มีอายุถึง 100 ปีไม่ใช่ตัวทุเรียนนะ หมายถึงต้นของทุเรียน 😂) เมนูนี้มีชื่อว่า ข้าวเหนียวมูนทุเรียนบ้าน ซึ่งต้นทุเรียนนี้ก็ปลูกอยู่ในชุมชนเช่นกัน
ปกติไม่กินทุเรียนเลยเพราะไม่ชอบกลิ่น แต่เมื่อมาถึงแล้วก็ต้องลองฮึบแล้วชิมดู อื้อหือ! ก็ไม่เลวนะเนี่ยยย รสชาติหวานๆมันๆเข้ากับข้าวเหนียวอยู่ 😏
อาหารมื้อนี้อิ่มหมีพีมันไปอีก อร่อย กินง่าย และสะอาด ปลอดสารพิษ เอาไปเลยค่ะ 5 ดาวเต็มๆ! ถ้าจะมาเปิดร้านที่กรุงเทพบอกด้วยนะคะ จะตามไปกินอีกแน่นอน 😁
13.00 PM ทดลองทำกล้วยหินฉาบ สุดยอดผลิตภัณฑ์ของชุมชน
หลังอาหารเราก็เดินมาดูขั้นตอนการทำกล้วยหินฉาบของคนในชุมชนต่อ ซึ่งก็ไม่ไกลจากที่ทานอาหารเท่าไหร่ เดินประมาณนาทีกว่าๆก็ถึง ข้างในมีคนเริ่มทำกันแล้ว
ที่เค้าเรียกว่ากล้วยหินฉาบก็เพราะขั้นตอนนี้เลยค่ะ เค้าจะเอากล้วยไปวางบนแผ่นไม้ที่จะมีที่ฉาบไว้ตรงกลาง แล้วพอเค้าเริ่มถูกล้วยบนนั้น มันก็จะฉาบกล้วยให้ออกมาเป็นแผ่นบางๆแบบนี้
แล้วจากนั้นเค้าก็จะเอาไปทอดให้เหลือง กรอบ ส่งกลิ่นหอมไปทั่ว ยั่วต่อมหิวที่พักไปให้ทำงานอีกรอบ 😭
แล้วเค้าก็จะพักให้กล้วยหินฉาบหายร้อน ระหว่างนี้คุณป้าทอดกล้วยก็บอกว่า สามารถหยิบชิมได้ตามสบาย หรือถ้าเราเป็นคนทำเองจะเอากลับไปเท่าไหร่ก็ได้! คนที่นี่ใจกว้างดั่งแม่น้ำขุนเขาแต่จะดีเหรอคะ? คุณป้าหันมาอีกทีอาจจะหายไปหมดแล้วก็ได้นะคะ หึๆๆ 😈
หากใครที่ไม่สามารถ move on ไปจากกล้วยหินฉาบที่นี่ได้ ก็สามารถซื้อเป็นของฝากแบบนี้กลับไปได้เหมือนกัน ราคา 50 บาทต่อถุง อีกทั้งยังมีให้เลือกถึง 5 รสชาติ! มีทั้ง รสหวาน, รสเค็ม, รสปาปริก้า, รสหมาล่า, และรสคั่วกลิ้ง อยากจะขอเหมาทุกรสแต่คุณป้าบอกว่าสินค้าหมดสต็อกจ้า (เศร้าแปป 😢) แต่ถ้าอยากซื้อจริงๆ ติดต่อซื้อทาง Facebook ได้ที่เพจกล้วยหินฉาบบ้านเขาหลักน้า
14.00 PM พายเรือคายัคล่องแก่ง ระยะทางกว่า 4.5 กิโลเมตร
ชื่อชุมชนก็บอกอยู่แล้วว่าที่นี่คือ ชุมชน’ล่องแก่ง’บ้านเขาหลัก เพราะฉะนั้นมาที่นี่แล้ว สิ่งที่พลาดไม่ได้เลยก็คือการพายเรือคายัคล่องแก่ง
หลังจากชิมกล้วยกันจนพุงยื่นแล้วก็เดินออกมาอีกแปปๆ จะมีห้องน้ำและห้องอาบน้ำ ให้เราเปลี่ยนเสื้อผ้า ออกมาก็จะเห็นว่ามีเสื้อชูชีพกับหมวกให้เลือกสำหรับใส่ไปพายเรือคายัคล่องแก่ง
จากนั้นเราก็นั่งรถสองแถวต่อเพื่อไปแม่น้ำสำหรับล่องแก่ง การล่องแก่งของที่นี่จะมีความยากถึงระดับ 4 ซึ่งค่อนข้างยากเพราะระยะทางที่ไกลถึง 4.5 กิโลเมตร และหินก็ค่อนข้างเยอะ ทำให้ต้องมีคนในท้องที่ช่วยเป็นคนพายให้
แต่ทว่าเรานั้น มั่นใจว่าพายได้ เพราะเราได้มีประสบการณ์การพายเรือที่โชกโชน (พายในทะเลประมาณ 10 นาที และพายอยู่ที่เดิม...) เราจึงขออาสาที่จะเป็นคนพายเองค่ะ! 😤
เพื่อนเรา(พยายาม)เชื่อใจเพราะนางไม่คิดจะพาย (เรือนั่งได้แค่สองคนต่อลำและมันบอกไม่อยากเหนื่อย 😂) ปล่อยให้เราพายไป แต่ทว่าสุดท้ายเราก็ต้องหยุด!"... หยุดเพราะมีอะไรมากั้นเยอะเกิน 🤣🤣 ไม่ว่าจะมีโขดหิน, พุ่มไม้, ขอนไม้ หรืออะไรก็ตามที่อยู่ในแม่น้ำ ไม่รู้ทำไม เราจะสามารถพายไปชนได้ทั้งหมดแม้ว่าสิ่งที่เราชนจะอยู่นิ่งๆก็ตาม(?) และเนื่องจากน้ำบางช่วงตื้นมากทำให้เรือชะงัก แล้วต้องลงเรือมาลากเรือเองอีก 😛
ยังดีที่คนท้องที่พายตามกันมาหลายคน ทำให้เราตัดสินใจกันแยกเรือ ซึ่งมันก็เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องมาก เพราะระยะทางมันไกลมากกกกถ้าพายกันเองคือหมดแรงแน่นอน
ธรรมชาติรอบๆคือสวยจริง ปกติไม่ค่อยอินกับพวกธรรมชาติเท่าไหร่ แต่พอได้มานั่งเรือเอื่อยๆ กับดูวิวสวยๆ ในบรรยากาศที่เงียบสงบ ก็รู้สึกดีไปอีกแบบ อีกอย่างคือ ระหว่างทางมีที่ให้หยุดแวะพักแวะเล่นชิงช้าด้วยย เพลินๆกันไป
ใช้เวลาไปประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งการพายเรือล่องแก่งก็จบลง จากนั้นก็นั่งสองแถวกลับมาที่ชุมชน ทั้งที่ไม่ได้เป็นคนพายแต่พอต้องนั่งนานๆบนเรือก็แอบเหนื่อยอยู่นิดหน่อย คนที่นี่ก็ช่างรู้ใจ มีการเตรียมของหวานอย่างขนมครกที่ทำเอง และเครื่องดื่มอย่างน้ำเปล่าเย็นๆและน้ำมะม่วงหาวมะนาวโห่คั้นเองให้กินแก้กระหาย อ่าาา ชื่นจายยย 😆
16.30 PM เยี่ยมชมกลุ่มเลี้ยงแพะ
อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ากันเรียบร้อย ก็นั่งรถตู้ไปที่ตั้งของกลุ่มเลี้ยงแพะ ซึ่งก่อนจะได้เจอน้องแพะทั้งหลาย ก็มีน้องหมาดูมารยาทงามมาต้อนรับที่ด้านหน้า
โอเคกลับมาดูแพะกันต่อ แพะที่นี่เค้าก็เลี้ยงกันเองเพื่อเอาไว้ขาย ให้อาหารน้องๆเค้าได้น้า
ในกลุ่มจะมีหัวหน้าใหญ่ตัวนี้คุมอยู่ มีความเผด็จการและค่อนข้างขี้บ่น เพราะร้องบ่อยมาก 😂 (ดูปากที่เชิดๆนั่นสิ =3=)
17.00 PM เยี่ยมชมศูนย์เรียนรู้การเลี้ยงไก่ดำ
นั่งรถมาอีกไม่กี่นาทีก็ถึงศูนย์เรียนรู้การเลี้ยงไก่ดำจ้า ไก่ดำที่นี่ถือว่ามีชื่อเสียงระดับนึง เพราะมีฟาร์มเลี้ยงไก่ดำแบบครบวงจร และเปิดให้คนทั่วไปเข้ามาศึกษาเยี่ยมชมน้องๆไก่ดำได้
อ่านบทความตอนที่ 2 ต่อได้ที่นี้: https://ppantip.com/topic/40175438
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้
ข้อมูลเพิ่มเติม