ศบค.พบผู้ติดเชื้อใหม่ 4 ราย ติดในประเทศ 1ราย มาจากต่างประเทศ 3 ราย
04 กันยายน พ.ศ. 2563 เวลา 11:32 น.
4 ก.ย.63- ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. เผยแพร่ข้อมูลสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย
มีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น 4 ราย โดยเป็นผู้ติดเชื้อในประเทศ 1 ราย และตรวจพบในสถานที่กักตัวของรัฐ 3 ราย คือผู้ที่มาจากสหรัฐอเมริกา 1 ราย สิงคโปร์ 1 ราย และซาอุดีอาระเบีย 1 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,431 ราย ยอดหายป่วยสะสมรวม 3,277 ราย มีผู้ป่วยรักษาในโรงพยาบาล 96 ราย ยอดผู้เสียชีวิตสะสมคงที่ 58 ราย
สำหรับสถานการณ์ทั่วโลก ยอดผู้ติดเชื้อรวม 26,465,221 ราย อาการรุนแรง 60,749 ราย รักษาหายแล้ว 18,660,112 ราย เสียชีวิต 873,108 ราย
อันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด
1. สหรัฐอเมริกา 🇺🇸 จำนวน 6,335,244 ราย
2. บราซิล 🇧🇷 จำนวน 4,046,150 ราย
3. อินเดีย 🇮🇳 จำนวน 3,933,124 ราย
4. รัสเซีย 🇷🇺 จำนวน 1,009,995 ราย
5. เปรู 🇵🇪 จำนวน 670,145 ราย
ประเทศไทย อยู่ในอันดับที่ 121 จำนวน 3,431 ราย
http://www.thaipost.net/main/detail/76484
สธ.' ยืนยัน ยังไม่พบกลุ่มความเสี่ยงสูงที่สัมผัส 'นักโทษดีเจ' ติดเชื้อโควิด-19
"สธ.ยืนยัน ยังไม่พบกลุ่มความเสี่ยงสูงที่สัมผัส 'นักโทษดีเจ' ติดเชื้อโควิด-19 แยกกักโรคทั้งบุคคลในครอบครัวและพนักงานร้านอาหารแล้ว อยู่ระหว่างติดตามบุคคลเพิ่มเติม ขณะนี่ตรวจไปแล้วกว่า 200 คน ยังไม่พบเชื้อ
ศูนย์แถลงข่าวโรคติดเชื้อไวรัสโควืด-19 โดยนายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค และนายแพทย์สฤษดิ์เดช เจริญไชย รองนายแพทย์ สสจ.นนทบุรี/นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิตและนพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ร่วมกันแถลงข่าวถึงความคืบหน้าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 หลังพบนักโทษชายวัย37ปี มีอาชีพเป็นดีเจติดเชื้อ
โดยนายแพทย์โสภณ ระบุว่า ผู้ที่ติดเชื้อในประเทศไทย เป็นชายอายุ37ปี ก่อนเข้าเรือนจำ มีประวัติเป็นดีเจที่ร้านอาหารหลายแห่ง และผลการตรวจหาเชื้อครั้งแรกวันที่2ก.ย.พบการติดเชื้อซึ่งจากการซักประวัติพบว่า มีเสมหะเล็กน้อยในวันที่29ส.ค. ไม่มีอาการไข้ ไม่มีอาการไอ และอยู่ในการดูแลของแพทย์ที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ตั้งแต่วันแรก ส่วนผู้ต้องขังในห้องเดียวกันที่แยกกักโรคทั้งหมด32ราย ตรวจไม่พบเชื้อ
ทั้งนี้หลังจากมีการสอบสวนโรคและซักประวัติผู้ใกล้ชิด ในระยะเวลาความเสี่ยงดูจาก2สัปดาห์ก่อนเริ่มป่วย คือ ตั้งแต่วันที่15 ส.ค.-29ส.ค.ที่มีอาการมีเสมหะนั้นพบว่าในวันที่.....🌂
15 ส.ค.อยู่บ้าน
16 ส.ค.ไปทำงานดีเจร้าน3วัน2คืน พระราม5 เวลา22.00-ตี1
17 ส.ค.ไปทำงานร้าน3วัน3คืน พระราม3 เที่ยงคืนถึงตี2
18 ส.ค.ไปทำงานร้านFirst Cafe’ ถนนข้าวสาร เวลา 21.00-24.00
20 ส.ค.ทำงานร้าน3วัน2คืน พระราม3
21 ส.ค. ทำงานร้าน3วัน2คืน พระราม5
22 ส.ค. ทำงานร้าน3วัน2คืน พระราม3
23ส.ค.ทำงานร้าน3วัน2คืน พระราม5
24 ส.ค.ทำงานร้านสามวันสองคืน สาขาพระราม3
26 ส.ค.ไปศาลอาญารัชดาด้วยรถยนต์ส่วนตัว
ดังนั้นความเสี่ยงของที่ทำงาน3แห่งนี้ในช่วงเวลาดังกล่าว ทีมงานไทยชนะได้ตรวจสอบการเช็คอินเพื่อทำการติดต่อไปทั้งทางเบอร์โทรศัพท์และส่งsmsแล้วเพื่อให้มาทำการตรวจหาเชื้อ และหากใครที่ไปใช้บริการในช่วงเวลาดังกล่าวให้สังเกตุอาการของตัวเองและไปปรึกษาแพทย์ได้ โดยยืนยันว่ากลุ่มคนที่ไปร้านดังกล่าวในช่วงเวลาดังกล่าว ยังไม่พบใครที่ติดเชื้อ
สำหรับกลุ่มผู้ที่มีความเสี่ยงสูง คือกลุ่มที่ในวันที่ 26ส.ค. ที่ไปศาลอาญารัชดา มีบิดาเป็นทนายความ ผู้ต้องขังที่นั่งใกล้กัน2คน ทนายและเจ้าหน้าที่ศาล และผู้ต้องขังที่อยู่ในห้องพิจารณาคดีเดียวกัน รวม 16 คน
รวมถึงหลังตัดสินคดี ได้รับผู้ต้องขังส่งเข้าไปเรือนจำรวม16คน ซึ่งทั้ง16คน ได้ทำการตรวจหมดแล้วไม่พบเชื้อ
ส่วนที่คอนโดมิเนียม สวนธน พุทธบูชา บุคคลที่มีความเสี่ยงสูง คือบุคคลในครอบครัวของนักโทษชายวัย37ปี จากการตรวจนั้นยังพบเชื้อ แต่ยังต้องกักโรค และติดตามอาการให้ครบ14วันนับจากสัมผัสผู้ตืดเชื้อครั้งล่าสุด เท่ากับว่า กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงติดตามได้หมดแล้ว ส่วนกลุ่มผู้ที่มีความเสี่ยงต่ำกำลังติดตามให้ครบ โดยขณะนี้ตรวจไปแล้ว200กว่าราย รวมถึงเจ้าหน้าที่ศาลอาญาด้วยก็ยังไม่พบผู้ติดเชื้อ
นายแพทย์โสภณ ยังบอกอีกว่า ถ้าจากการวิเคราะห์ จากลักษณะการทำงานในวัย37ปีและสุขภาพแข็งแรง อาจจะรับเชื้อมาจากทำงานในลักษณะของสถานบันเทิงที่อาจจะมีคนต่างชาติเข้ามาใช้บริการ แต่หากป้องกันตามมาตรการก็จะสามารถควบคุมได้ และคนที่มีอาการน้อย มีโอกาสแพร่เชื้ิอไปสู่คนอื่นน้อย คิดเป็น80% ที่มักจะไม่ค่อยมีโอกาสแพร่เชื้อ จากการสอบสวนโรคอาจจะยังไม่ใช่ผู้ปฏิบิติตัวที่ดีมากในการป้องกันตัวเองจนทำให้ติดเชื้อ ดังนั้นจึงต้องป้องกันตัวเอง
ขณะที่ นายแพทย์สฤษดิ์เดช กล่าวว่าจากการลงพื้นที่ร้าน3วัน2คืน พบว่าทางร้านปิดตัวไปเองแล้ว และจากการซักถาม พบว่า ดีเจจะมาทำงานทุกวันศุกร์ และวันอาทิตย์ และจะอยู่ในโซนที่แยกเฉพาะ โอกาสที่จะสัมผัสคนในวงกว้างนั้นมีข้อจำกัด และร้านจะแบ่งเป็น2โซน คือโซนร้านอาหารและโซนผับ โดยดีเจอยู่โซนด้านนอกที่มีอากาศถ่ายเท และพบว่าผู้มีความเสี่ยงสูง 23คนที่เป็นพนักงานร้านอาหารและบุคคลของร้านที่ดีเจเดินผ่านไปเข้าห้องน้ำ ซึ่งทางจังหวัดได้มีมติให้ปิดร้านอาหารเป็นเวลา3วันคืน 4-6ก.ย.และให้ทำความสะอาดร้าน รวมถึงได้ตามพนักงานที่มีความเสี่ยงสูง23คนมากักตัวที่โรงพยาบาลบางกรวย2 แล้วซึ่งตอนนี้ตามมาแล้ว16คน ที่เหลืออยู่ระหว่างติดตาม พร้อมทั้งขอประชาสัมพันธผู้ที่มีความกังวลว่าอาจจะสัมผัสกับดีเจก็ให้มาตรวจฟรีได้ที่โรงพยาบาลบางกรวย2เช่นกัน
ด้านอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ บอกด้วยว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมาได้ลงไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์โดยได้เก็บตัวอย่างเชื้อและนำตัวอย่างเชื้อไปถอดรหัสพันธุกรรมว่าเชื้อดังกล่าวเป็นสายพันธุ์ใด และประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ที่ต้องสงสัยอยากจะตรวจเพิ่มเติมนั้นสามารถประสานไปยังสาธารณสุขจังหวัด รวมถึงหน่วยบริการโรงพยาบาลของรัฐเพื่อให้ทำการตรวจโดยเร็วและทราบผลภายใน1วัน
https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/896567?utm_source=homepage_hilight&utm_medium=internal_referral
150คนโล่งอก! 'ศาลอาญา'ยันไม่พบเชื้อ ผลตรวจบุคคลติดต่อใกล้ชิด'จำเลยติดโควิด'
เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2563 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ออกเอกสารข่าวระบุว่า กรณีสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2563 ศาลอาญาได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ว่า พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในทัณฑสถานพิเศษกรุงเทพมหานคร โดยบุคคลดังกล่าวได้มาฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ที่ศาลอาญา ในวันที่ 26 สิงหาคม 2563 และเข้ารับการกักตัวในห้องแยกโรค ก่อนส่งเข้าทัณฑสถานพิเศษกรุงเทพมหานคร ตามนโยบายของกรมราชทัณฑ์
เบื้องต้น ศาลอาญาได้ตรวจสอบส่วนงานที่ผู้ติดเชื้อมาติดต่อในวันดังกล่าวทั้งหมด เช่น งานตรวจร่างกายและวัตถุก่อนเข้าอาคารศาลอาญา งานประชาสัมพันธ์ งานหน้าบัลลังก์ ผู้พิพากษาและผู้ช่วยผู้พิพากษาในบัลลังก์ดังกล่าว งานควบคุมผู้ต้องขัง เป็นต้น เพื่อคัดแยกและกักตัวบุคคลที่สัมผัสหรืออยู่ใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อออกจากส่วนงานอื่น จากนั้นแจ้งกรมควบคุมโรค และสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง เพื่อนำรถตรวจโรคติดเชื้อชีวนิรภัยพระราชทาน มาเก็บตัวอย่างเพื่อตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ซึ่งจะทำให้ทราบผลการตรวจภายใน 24 ชั่วโมง จากการตรวจเชื้อบุคคลที่อยู่ในข่ายต้องสงสัย จำนวน 150 ราย ปรากฏว่าไม่พบการติดเชื้อ
ทั้งนี้ นับตั้งแต่เกิดสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ศาลอาญาได้ออกข้อกำหนดและมาตรการป้องกันการติดเชื้อโรคตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขและได้ปฏิบัติอย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด โดยกำหนดให้ทุกคนที่เข้ามาในอาคารศาลอาญาต้องสวมหน้ากากอนามัย ผ่านการวัดอุณหภูมิร่างกาย ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ รวมถึงการรักษาระยะห่างระหว่างบุคคลในบริเวณศาล นอกจากนี้ ยังมีการนำเทคโนโลยีลิฟต์สัมผัสมาให้บริการเพื่อลดการสัมผัสกับวัตถุโดยตรง อันจะทำให้โอกาสในการติดเชื้อโรคลดลง
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับชายวัย 37 ปี อาชีพดีเจ ซึ่งตกเป็นจำเลยคดียาเสพติดได้เดินทางมาฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ กรณีมีไอซ์จำนวนหนึ่งไว้ในครอบครอง ซึ่งศาลอาญาได้พิพากษาจำคุก 5 ปี ปรับ 450,000 บาท ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุก 3 ปี ปรับ 300,000 บาท จำเลยได้รับการประกันตัวและยื่นอุทธรณ์คดี และในวันที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา จำเลยได้เดินทางมาฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ที่ศาลอาญา โดยศาลอุทธรณ์พิพากษายืนลงโทษจำคุก และปรับตามศาลชั้นต้น กระทั่งถูกส่งตัวไปคุมขังในเรือนจำ และตรวจพบเชื้อโควิด-19 ดังกล่าว
https://www.naewna.com/local/516131
‘สมศักดิ์’ลั่นไม่เคยหละหลวมตรวจโควิดในเรือนจำ ยันมีห้องกักก่อนเข้าแดน14วัน
4 กันยายน 2563 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในเรือนจำ ว่าการตรวจพบเชื้อโควิด -19 เป็นการตรวจพบในนักโทษใหม่ คือ นายพุฒิพัฒน์ ศิริพัฒน์ ในแดนแรกรับก่อนเข้าสู่แดนปกติ ที่เรือนจำทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง โดยก่อนหน้านี้ทำงานเป็นดีเจ ซึ่งถูกจับกุมในคดียาเสพติด ตั้งแต่วันที่ 26 ส.ค.2563 ซึ่งได้รับการกักกันตัวในห้องแยกตามนโยบายกรมราชทัณฑ์ โดยกักรวมกับผู้ต้องขังอีก 32 คน ซึ่งล่าสุดได้มีการประสานกับกรมราชทัณฑ์ ย้ายผู้ติดเชื้อจากเรือนจำไปโรงพยาบาลราชทัณฑ์แล้ว และมีการกักกันผู้ต้องขังที่อยู่ในหอนอนเดียวกันต่อเนื่องจนครบ 14 วัน จากนั้นจะตรวจหาเชื้ออีกครั้งหนึ่ง
เมื่อถามว่ามีคนมองว่าการตรวจพบเชื้อในครั้งนี้เกิดจากการหละหลวมในการควบคุมเชื้อ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เราไม่ได้หละหลวม การตรวจพบเชื้อครั้งนี้ไม่ได้เป็นการตรวจพบเชื้อของนักโทษในเรือนจำ แต่เป็นการตรวจพบเชื้อในนักโทษใหม่ที่เพิ่งเข้ามา ซึ่งเรามีมาตรการในการรับนักโทษใหม่อยู่แล้ว ที่จะต้องกักตัวในแดนแรกรับก่อน 14 วันเพื่อหาเชื้อ หากพบเราจะทำการแยกตัวทันที ซึ่งกรณีนี้เขาเป็นดีเจที่ทำงานในร้านอาหารหลายแห่ง ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุขจะต้องสืบหาที่มาของเชื้อต่อไป ทั้งนี้ กรมราชทัณฑ์ยังมีมาตรการเข้มงวดในการควบคุมโควิดในเรือนจำ โดยเฉพาะแดนแรกรับที่จะต้องมีการคัดกรองอย่างเข้มงวด
"ที่ผ่านมาในเรือนจำไม่เคยมีเชื้อโควิด-19 เพราะผมใส่ใจอยู่เสมอ ผมคิดว่าหากเชื้อโควิดแพร่ระบาดเข้าสู่เรือนจำ จะควบคุมได้ยากและเกิดความเสียหายเป็นอย่างมาก ตลอดระยะเวลาเกิดโควิดผมได้มอบนโยบายสร้างห้องกักโรคตั้งแต่เดือน เม.ย. ซึ่งมีทุกเรือนจำ ดังนั้นในกรณีนี้ ดีเจที่เข้ามายังอยู่ในห้องกักโรคยังไม่ได้เข้าสู่แดนผู้ต้องขัง จึงยังไม่มีการแพร่ระบาดสู่ผู้ต้องขังในเรือนจำแต่อย่างใด ที่ผ่านมาเราไม่ได้หย่อนยานในการตรวจโรค แม้แต่ผู้ต้องหาที่ออกไปขึ้นศาล เมื่อกลับเข้ามาก็ต้องมีการเข้าห้องกักโรคด้วยเช่นกัน" นายสมศักดิ์ กล่าว
เมื่อถามว่าจะต้องมีมาตรการควบคุมอย่างเข้มงวดอย่างไรต่อจากนี้หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า คงต้องมีมาตรการที่เข้มงวดกว่าเดิม เพราะก่อนหน้านี้ที่สถานการณ์ในประเทศไทยปลอดผู้ติดเชื้อมากว่า 100 วัน เราก็ได้มีการผ่อนคลายไปบ้าง แต่เมื่อพบเหตุการณ์เช่นนี้เราคงต้องเพิ่มความเข้มงวดให้มากขึ้นจากเดิม 60-70 % เป็น 80-90 % ส่วนการเข้าเยี่ยมญาตินั้นก็คงต้องมีการคัดกรองที่เข้มงวดกว่าเดิมด้วยเช่นกัน แต่ไม่ได้มีการห้ามเยี่ยมเพื่อป้องกันญาติที่เข้าเยี่ยมนำเชื้อมาแพร่สู่ผู้ต้องขังด้วย
https://www.naewna.com/politic/516144
🔴มาลาริน/4ก.ย.ไทยพบโควิดในประเทศ 1ราย จาก ตปท.3 ราย ไม่พบกลุ่มความเสี่ยงสูงติดเชื้อ คนศาลอาญาโล่งอก เรือนจำไม่หละหลวม
ศบค.พบผู้ติดเชื้อใหม่ 4 ราย ติดในประเทศ 1ราย มาจากต่างประเทศ 3 ราย
04 กันยายน พ.ศ. 2563 เวลา 11:32 น.
4 ก.ย.63- ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. เผยแพร่ข้อมูลสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย
มีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น 4 ราย โดยเป็นผู้ติดเชื้อในประเทศ 1 ราย และตรวจพบในสถานที่กักตัวของรัฐ 3 ราย คือผู้ที่มาจากสหรัฐอเมริกา 1 ราย สิงคโปร์ 1 ราย และซาอุดีอาระเบีย 1 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,431 ราย ยอดหายป่วยสะสมรวม 3,277 ราย มีผู้ป่วยรักษาในโรงพยาบาล 96 ราย ยอดผู้เสียชีวิตสะสมคงที่ 58 ราย
สำหรับสถานการณ์ทั่วโลก ยอดผู้ติดเชื้อรวม 26,465,221 ราย อาการรุนแรง 60,749 ราย รักษาหายแล้ว 18,660,112 ราย เสียชีวิต 873,108 ราย
อันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด
1. สหรัฐอเมริกา 🇺🇸 จำนวน 6,335,244 ราย
2. บราซิล 🇧🇷 จำนวน 4,046,150 ราย
3. อินเดีย 🇮🇳 จำนวน 3,933,124 ราย
4. รัสเซีย 🇷🇺 จำนวน 1,009,995 ราย
5. เปรู 🇵🇪 จำนวน 670,145 ราย
ประเทศไทย อยู่ในอันดับที่ 121 จำนวน 3,431 ราย
http://www.thaipost.net/main/detail/76484
สธ.' ยืนยัน ยังไม่พบกลุ่มความเสี่ยงสูงที่สัมผัส 'นักโทษดีเจ' ติดเชื้อโควิด-19
"สธ.ยืนยัน ยังไม่พบกลุ่มความเสี่ยงสูงที่สัมผัส 'นักโทษดีเจ' ติดเชื้อโควิด-19 แยกกักโรคทั้งบุคคลในครอบครัวและพนักงานร้านอาหารแล้ว อยู่ระหว่างติดตามบุคคลเพิ่มเติม ขณะนี่ตรวจไปแล้วกว่า 200 คน ยังไม่พบเชื้อ
ศูนย์แถลงข่าวโรคติดเชื้อไวรัสโควืด-19 โดยนายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค และนายแพทย์สฤษดิ์เดช เจริญไชย รองนายแพทย์ สสจ.นนทบุรี/นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิตและนพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ร่วมกันแถลงข่าวถึงความคืบหน้าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 หลังพบนักโทษชายวัย37ปี มีอาชีพเป็นดีเจติดเชื้อ
โดยนายแพทย์โสภณ ระบุว่า ผู้ที่ติดเชื้อในประเทศไทย เป็นชายอายุ37ปี ก่อนเข้าเรือนจำ มีประวัติเป็นดีเจที่ร้านอาหารหลายแห่ง และผลการตรวจหาเชื้อครั้งแรกวันที่2ก.ย.พบการติดเชื้อซึ่งจากการซักประวัติพบว่า มีเสมหะเล็กน้อยในวันที่29ส.ค. ไม่มีอาการไข้ ไม่มีอาการไอ และอยู่ในการดูแลของแพทย์ที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ตั้งแต่วันแรก ส่วนผู้ต้องขังในห้องเดียวกันที่แยกกักโรคทั้งหมด32ราย ตรวจไม่พบเชื้อ
ทั้งนี้หลังจากมีการสอบสวนโรคและซักประวัติผู้ใกล้ชิด ในระยะเวลาความเสี่ยงดูจาก2สัปดาห์ก่อนเริ่มป่วย คือ ตั้งแต่วันที่15 ส.ค.-29ส.ค.ที่มีอาการมีเสมหะนั้นพบว่าในวันที่.....🌂
15 ส.ค.อยู่บ้าน
16 ส.ค.ไปทำงานดีเจร้าน3วัน2คืน พระราม5 เวลา22.00-ตี1
17 ส.ค.ไปทำงานร้าน3วัน3คืน พระราม3 เที่ยงคืนถึงตี2
18 ส.ค.ไปทำงานร้านFirst Cafe’ ถนนข้าวสาร เวลา 21.00-24.00
20 ส.ค.ทำงานร้าน3วัน2คืน พระราม3
21 ส.ค. ทำงานร้าน3วัน2คืน พระราม5
22 ส.ค. ทำงานร้าน3วัน2คืน พระราม3
23ส.ค.ทำงานร้าน3วัน2คืน พระราม5
24 ส.ค.ทำงานร้านสามวันสองคืน สาขาพระราม3
26 ส.ค.ไปศาลอาญารัชดาด้วยรถยนต์ส่วนตัว
ดังนั้นความเสี่ยงของที่ทำงาน3แห่งนี้ในช่วงเวลาดังกล่าว ทีมงานไทยชนะได้ตรวจสอบการเช็คอินเพื่อทำการติดต่อไปทั้งทางเบอร์โทรศัพท์และส่งsmsแล้วเพื่อให้มาทำการตรวจหาเชื้อ และหากใครที่ไปใช้บริการในช่วงเวลาดังกล่าวให้สังเกตุอาการของตัวเองและไปปรึกษาแพทย์ได้ โดยยืนยันว่ากลุ่มคนที่ไปร้านดังกล่าวในช่วงเวลาดังกล่าว ยังไม่พบใครที่ติดเชื้อ
สำหรับกลุ่มผู้ที่มีความเสี่ยงสูง คือกลุ่มที่ในวันที่ 26ส.ค. ที่ไปศาลอาญารัชดา มีบิดาเป็นทนายความ ผู้ต้องขังที่นั่งใกล้กัน2คน ทนายและเจ้าหน้าที่ศาล และผู้ต้องขังที่อยู่ในห้องพิจารณาคดีเดียวกัน รวม 16 คน
รวมถึงหลังตัดสินคดี ได้รับผู้ต้องขังส่งเข้าไปเรือนจำรวม16คน ซึ่งทั้ง16คน ได้ทำการตรวจหมดแล้วไม่พบเชื้อ
ส่วนที่คอนโดมิเนียม สวนธน พุทธบูชา บุคคลที่มีความเสี่ยงสูง คือบุคคลในครอบครัวของนักโทษชายวัย37ปี จากการตรวจนั้นยังพบเชื้อ แต่ยังต้องกักโรค และติดตามอาการให้ครบ14วันนับจากสัมผัสผู้ตืดเชื้อครั้งล่าสุด เท่ากับว่า กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงติดตามได้หมดแล้ว ส่วนกลุ่มผู้ที่มีความเสี่ยงต่ำกำลังติดตามให้ครบ โดยขณะนี้ตรวจไปแล้ว200กว่าราย รวมถึงเจ้าหน้าที่ศาลอาญาด้วยก็ยังไม่พบผู้ติดเชื้อ
นายแพทย์โสภณ ยังบอกอีกว่า ถ้าจากการวิเคราะห์ จากลักษณะการทำงานในวัย37ปีและสุขภาพแข็งแรง อาจจะรับเชื้อมาจากทำงานในลักษณะของสถานบันเทิงที่อาจจะมีคนต่างชาติเข้ามาใช้บริการ แต่หากป้องกันตามมาตรการก็จะสามารถควบคุมได้ และคนที่มีอาการน้อย มีโอกาสแพร่เชื้ิอไปสู่คนอื่นน้อย คิดเป็น80% ที่มักจะไม่ค่อยมีโอกาสแพร่เชื้อ จากการสอบสวนโรคอาจจะยังไม่ใช่ผู้ปฏิบิติตัวที่ดีมากในการป้องกันตัวเองจนทำให้ติดเชื้อ ดังนั้นจึงต้องป้องกันตัวเอง
ขณะที่ นายแพทย์สฤษดิ์เดช กล่าวว่าจากการลงพื้นที่ร้าน3วัน2คืน พบว่าทางร้านปิดตัวไปเองแล้ว และจากการซักถาม พบว่า ดีเจจะมาทำงานทุกวันศุกร์ และวันอาทิตย์ และจะอยู่ในโซนที่แยกเฉพาะ โอกาสที่จะสัมผัสคนในวงกว้างนั้นมีข้อจำกัด และร้านจะแบ่งเป็น2โซน คือโซนร้านอาหารและโซนผับ โดยดีเจอยู่โซนด้านนอกที่มีอากาศถ่ายเท และพบว่าผู้มีความเสี่ยงสูง 23คนที่เป็นพนักงานร้านอาหารและบุคคลของร้านที่ดีเจเดินผ่านไปเข้าห้องน้ำ ซึ่งทางจังหวัดได้มีมติให้ปิดร้านอาหารเป็นเวลา3วันคืน 4-6ก.ย.และให้ทำความสะอาดร้าน รวมถึงได้ตามพนักงานที่มีความเสี่ยงสูง23คนมากักตัวที่โรงพยาบาลบางกรวย2 แล้วซึ่งตอนนี้ตามมาแล้ว16คน ที่เหลืออยู่ระหว่างติดตาม พร้อมทั้งขอประชาสัมพันธผู้ที่มีความกังวลว่าอาจจะสัมผัสกับดีเจก็ให้มาตรวจฟรีได้ที่โรงพยาบาลบางกรวย2เช่นกัน
ด้านอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ บอกด้วยว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมาได้ลงไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์โดยได้เก็บตัวอย่างเชื้อและนำตัวอย่างเชื้อไปถอดรหัสพันธุกรรมว่าเชื้อดังกล่าวเป็นสายพันธุ์ใด และประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ที่ต้องสงสัยอยากจะตรวจเพิ่มเติมนั้นสามารถประสานไปยังสาธารณสุขจังหวัด รวมถึงหน่วยบริการโรงพยาบาลของรัฐเพื่อให้ทำการตรวจโดยเร็วและทราบผลภายใน1วัน
https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/896567?utm_source=homepage_hilight&utm_medium=internal_referral
150คนโล่งอก! 'ศาลอาญา'ยันไม่พบเชื้อ ผลตรวจบุคคลติดต่อใกล้ชิด'จำเลยติดโควิด'
เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2563 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ออกเอกสารข่าวระบุว่า กรณีสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2563 ศาลอาญาได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ว่า พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในทัณฑสถานพิเศษกรุงเทพมหานคร โดยบุคคลดังกล่าวได้มาฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ที่ศาลอาญา ในวันที่ 26 สิงหาคม 2563 และเข้ารับการกักตัวในห้องแยกโรค ก่อนส่งเข้าทัณฑสถานพิเศษกรุงเทพมหานคร ตามนโยบายของกรมราชทัณฑ์
เบื้องต้น ศาลอาญาได้ตรวจสอบส่วนงานที่ผู้ติดเชื้อมาติดต่อในวันดังกล่าวทั้งหมด เช่น งานตรวจร่างกายและวัตถุก่อนเข้าอาคารศาลอาญา งานประชาสัมพันธ์ งานหน้าบัลลังก์ ผู้พิพากษาและผู้ช่วยผู้พิพากษาในบัลลังก์ดังกล่าว งานควบคุมผู้ต้องขัง เป็นต้น เพื่อคัดแยกและกักตัวบุคคลที่สัมผัสหรืออยู่ใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อออกจากส่วนงานอื่น จากนั้นแจ้งกรมควบคุมโรค และสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง เพื่อนำรถตรวจโรคติดเชื้อชีวนิรภัยพระราชทาน มาเก็บตัวอย่างเพื่อตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ซึ่งจะทำให้ทราบผลการตรวจภายใน 24 ชั่วโมง จากการตรวจเชื้อบุคคลที่อยู่ในข่ายต้องสงสัย จำนวน 150 ราย ปรากฏว่าไม่พบการติดเชื้อ
ทั้งนี้ นับตั้งแต่เกิดสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ศาลอาญาได้ออกข้อกำหนดและมาตรการป้องกันการติดเชื้อโรคตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขและได้ปฏิบัติอย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด โดยกำหนดให้ทุกคนที่เข้ามาในอาคารศาลอาญาต้องสวมหน้ากากอนามัย ผ่านการวัดอุณหภูมิร่างกาย ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ รวมถึงการรักษาระยะห่างระหว่างบุคคลในบริเวณศาล นอกจากนี้ ยังมีการนำเทคโนโลยีลิฟต์สัมผัสมาให้บริการเพื่อลดการสัมผัสกับวัตถุโดยตรง อันจะทำให้โอกาสในการติดเชื้อโรคลดลง
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับชายวัย 37 ปี อาชีพดีเจ ซึ่งตกเป็นจำเลยคดียาเสพติดได้เดินทางมาฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ กรณีมีไอซ์จำนวนหนึ่งไว้ในครอบครอง ซึ่งศาลอาญาได้พิพากษาจำคุก 5 ปี ปรับ 450,000 บาท ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุก 3 ปี ปรับ 300,000 บาท จำเลยได้รับการประกันตัวและยื่นอุทธรณ์คดี และในวันที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา จำเลยได้เดินทางมาฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ที่ศาลอาญา โดยศาลอุทธรณ์พิพากษายืนลงโทษจำคุก และปรับตามศาลชั้นต้น กระทั่งถูกส่งตัวไปคุมขังในเรือนจำ และตรวจพบเชื้อโควิด-19 ดังกล่าว
https://www.naewna.com/local/516131
‘สมศักดิ์’ลั่นไม่เคยหละหลวมตรวจโควิดในเรือนจำ ยันมีห้องกักก่อนเข้าแดน14วัน
4 กันยายน 2563 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในเรือนจำ ว่าการตรวจพบเชื้อโควิด -19 เป็นการตรวจพบในนักโทษใหม่ คือ นายพุฒิพัฒน์ ศิริพัฒน์ ในแดนแรกรับก่อนเข้าสู่แดนปกติ ที่เรือนจำทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง โดยก่อนหน้านี้ทำงานเป็นดีเจ ซึ่งถูกจับกุมในคดียาเสพติด ตั้งแต่วันที่ 26 ส.ค.2563 ซึ่งได้รับการกักกันตัวในห้องแยกตามนโยบายกรมราชทัณฑ์ โดยกักรวมกับผู้ต้องขังอีก 32 คน ซึ่งล่าสุดได้มีการประสานกับกรมราชทัณฑ์ ย้ายผู้ติดเชื้อจากเรือนจำไปโรงพยาบาลราชทัณฑ์แล้ว และมีการกักกันผู้ต้องขังที่อยู่ในหอนอนเดียวกันต่อเนื่องจนครบ 14 วัน จากนั้นจะตรวจหาเชื้ออีกครั้งหนึ่ง
เมื่อถามว่ามีคนมองว่าการตรวจพบเชื้อในครั้งนี้เกิดจากการหละหลวมในการควบคุมเชื้อ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เราไม่ได้หละหลวม การตรวจพบเชื้อครั้งนี้ไม่ได้เป็นการตรวจพบเชื้อของนักโทษในเรือนจำ แต่เป็นการตรวจพบเชื้อในนักโทษใหม่ที่เพิ่งเข้ามา ซึ่งเรามีมาตรการในการรับนักโทษใหม่อยู่แล้ว ที่จะต้องกักตัวในแดนแรกรับก่อน 14 วันเพื่อหาเชื้อ หากพบเราจะทำการแยกตัวทันที ซึ่งกรณีนี้เขาเป็นดีเจที่ทำงานในร้านอาหารหลายแห่ง ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุขจะต้องสืบหาที่มาของเชื้อต่อไป ทั้งนี้ กรมราชทัณฑ์ยังมีมาตรการเข้มงวดในการควบคุมโควิดในเรือนจำ โดยเฉพาะแดนแรกรับที่จะต้องมีการคัดกรองอย่างเข้มงวด
"ที่ผ่านมาในเรือนจำไม่เคยมีเชื้อโควิด-19 เพราะผมใส่ใจอยู่เสมอ ผมคิดว่าหากเชื้อโควิดแพร่ระบาดเข้าสู่เรือนจำ จะควบคุมได้ยากและเกิดความเสียหายเป็นอย่างมาก ตลอดระยะเวลาเกิดโควิดผมได้มอบนโยบายสร้างห้องกักโรคตั้งแต่เดือน เม.ย. ซึ่งมีทุกเรือนจำ ดังนั้นในกรณีนี้ ดีเจที่เข้ามายังอยู่ในห้องกักโรคยังไม่ได้เข้าสู่แดนผู้ต้องขัง จึงยังไม่มีการแพร่ระบาดสู่ผู้ต้องขังในเรือนจำแต่อย่างใด ที่ผ่านมาเราไม่ได้หย่อนยานในการตรวจโรค แม้แต่ผู้ต้องหาที่ออกไปขึ้นศาล เมื่อกลับเข้ามาก็ต้องมีการเข้าห้องกักโรคด้วยเช่นกัน" นายสมศักดิ์ กล่าว
เมื่อถามว่าจะต้องมีมาตรการควบคุมอย่างเข้มงวดอย่างไรต่อจากนี้หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า คงต้องมีมาตรการที่เข้มงวดกว่าเดิม เพราะก่อนหน้านี้ที่สถานการณ์ในประเทศไทยปลอดผู้ติดเชื้อมากว่า 100 วัน เราก็ได้มีการผ่อนคลายไปบ้าง แต่เมื่อพบเหตุการณ์เช่นนี้เราคงต้องเพิ่มความเข้มงวดให้มากขึ้นจากเดิม 60-70 % เป็น 80-90 % ส่วนการเข้าเยี่ยมญาตินั้นก็คงต้องมีการคัดกรองที่เข้มงวดกว่าเดิมด้วยเช่นกัน แต่ไม่ได้มีการห้ามเยี่ยมเพื่อป้องกันญาติที่เข้าเยี่ยมนำเชื้อมาแพร่สู่ผู้ต้องขังด้วย
https://www.naewna.com/politic/516144