16 กรกฎาคม 2020
KKP Research กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร วิเคราะห์ “ทำไมต่างชาติขายหุ้นไทย (ไม่หยุด)”โดยมองว่า
นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2013 รวมมูลค่ากว่า 8 แสนล้านบาท นอกจากนี้ ต่างชาติยังทยอยลดการลงทุนโดยตรงในประเทศไทยเมื่อเทียบกับ ASEAN จากที่ไทยเคยมีสัดส่วนของ FDI สูงถึง 44% ในช่วงปี 2006-2010 ลดเหลือเพียง 14% ในปัจจุบัน
ปัจจัยเหล่านี้ ไม่เพียงกดดันผลตอบแทนของตลาดหุ้นไทย แต่เป็นสัญญานเตือนว่าประเทศไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจที่อาจทำให้ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจในอนาคตตกต่ำลงอย่างถาวร
ศักยภาพเศรษฐกิจไทยที่ถดถอยลงเป็นผลจากการลงทุนในประเทศที่อยู่ในระดับต่ำมาเป็นเวลานาน จาก (1) ผลตอบแทนจากการลงทุนในไทยที่ลดลง (2) ธุรกิจขาดแรงจูงใจในการแข่งขันและพัฒนานวัตกรรม (3) ความไม่มีเสถียรภาพด้านการเมืองและนโยบายเศรษฐกิจ สร้างความไม่แน่นอนในทิศทางเศรษฐกิจและฉุดรั้งการตัดสินใจลงทุน
อ่านต่อที่
https://thaipublica.org/2020/07/kkp-research14/
KKP Research วิเคราะห์ “ทำไมต่างชาติขายหุ้นไทย(ไม่หยุด)”
KKP Research กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร วิเคราะห์ “ทำไมต่างชาติขายหุ้นไทย (ไม่หยุด)”โดยมองว่า
นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2013 รวมมูลค่ากว่า 8 แสนล้านบาท นอกจากนี้ ต่างชาติยังทยอยลดการลงทุนโดยตรงในประเทศไทยเมื่อเทียบกับ ASEAN จากที่ไทยเคยมีสัดส่วนของ FDI สูงถึง 44% ในช่วงปี 2006-2010 ลดเหลือเพียง 14% ในปัจจุบัน
ปัจจัยเหล่านี้ ไม่เพียงกดดันผลตอบแทนของตลาดหุ้นไทย แต่เป็นสัญญานเตือนว่าประเทศไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจที่อาจทำให้ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจในอนาคตตกต่ำลงอย่างถาวร
ศักยภาพเศรษฐกิจไทยที่ถดถอยลงเป็นผลจากการลงทุนในประเทศที่อยู่ในระดับต่ำมาเป็นเวลานาน จาก (1) ผลตอบแทนจากการลงทุนในไทยที่ลดลง (2) ธุรกิจขาดแรงจูงใจในการแข่งขันและพัฒนานวัตกรรม (3) ความไม่มีเสถียรภาพด้านการเมืองและนโยบายเศรษฐกิจ สร้างความไม่แน่นอนในทิศทางเศรษฐกิจและฉุดรั้งการตัดสินใจลงทุน
อ่านต่อที่
https://thaipublica.org/2020/07/kkp-research14/