หนีจากบรรยากาศภายในเมืองที่วุ่นวาย ออกมาซึมซับบรรยากาศญี่ปุ่นแบบสมัยก่อนในโอซาก้า ซึ่งที่ที่เราจะไปอยู่ใกล้ตัวเมืองมากๆ ทั้งเมืองฟุเสะ ที่ตั้งของที่พักในทริปนี้ และศาลเจ้าอิชิคิริ (หรือชื่อเต็มคือ ศาลเจ้าอิชิคิริ ซึรุกิยะ/Ishikiri surugiya jinja) ที่สามารถเดินทางไปได้ด้วยรถไฟภายในครึ่งชั่วโมงเท่านั้น จะเป็นยังไงไปดูกันเลย

ไฮไลท์
1.ศาลเจ้าอิชิคิริ ซึรุกิยะ (ทางตะวันออกของโอซาก้า) / Ishikiri surugiya jinja
2.โรงแรม เซไก โฮเทล ฟุเสะ SEKAI HOTEL Fuse ในเมืองฟุเสะ โอซาก้า
3.บรรยากาศภายในเมืองฟุเสะ โอซาก้า /ย่านร้านค้าฟุเสะ


การเดินทางเราจะเริ่มเดินทางจาก “สถานีฟุเสะ” ของรถไฟคินเท็ตสึ (Kintetsu) ใกล้โรงแรม SEKAI HOTEL Fuse นั่งจากสถานีฟุเสะ(Fuse Station) สาย Kintetsu-Nara Line ชานชลาที่ 6 ไปประมาณ 20 นาทีด้วยรถไฟธรรมดา (Local) ค่าเดินทาง 300 เยน

จากผังเส้นทางรถไฟนี้ สถานีฟุเสะคือ A06 ซึ่งเราจะนั่งไปลงที่ สถานีอิชิคิริ (Ishikiri Station) คือ A16 ในสายสีแดง
 
 รถไฟเป็นแบบสองแถว นั่งหันหน้าเข้าหากัน

ถึงสถานีอิชิคิริแล้ว เป็นสถานีเล็กๆ เงียบสงบบนเขา

ศาลเจ้าอิชิคิริ ซึรุกิยะแบ่งออกเป็น 2 แห่ง ศาลเจ้าหลักจะอยู่ทางซ้ายมือ ใช้เวลาเดินเท้าไปประมาณ 15 นาที เมื่อออกจากช่องตรวจตั๋วอัติโนมัติแล้วก็เดินออกไปทางซ้ายมือเลย

เดินไปตามทางลงเนินเรื่อยๆ ไปจนสุดทางแยกก็จะเจอตู้ไปรษณีย์แบบคลาสสิคสมัยก่อนอยู่ ให้เดินไปทางขวามือ ลงเนินไปเรื่อยๆ เป็นเส้นทางย่านร้านค้าเพื่อเดินทางไปยังศาลเจ้าอิชิคิริ 

ภายในย่านร้านค้า “อิชิคิริซันโดโชเท็นไก/石切参道商店街”
มีทั้งร้านขายของฝาก ร้านอาหาร หรือร้านอาหารทานเล่น เป็นตรอกซอยเล็กๆ กลิ่นอายชนบทแบบโบราณ

อย่างเช่นร้านนี้ เป็นร้านอาหาร เมนูกระทะร้อน และมีโอโคโนมิยากิด้วย

บรรยากาศร้านค้าระหว่างทาง

ร้านของเล่น ร้านขนม เด็กๆ เดินมาซื้อขนมหลังเลิกเรียนกันด้วย

ส่วนร้านนี้เป็นร้านขายของฝาก ที่อยู่หน้าศาลเจ้าอิชิคิริเลย มีส่วนร้านอาหารด้วย เมื่อเดินลงเนินมาเรื่อยๆ ก็จะเจอร้านนี้อยู่ทางขวามือ ส่วนศาลเจ้าอิชิคิริจะอยู่ทางขวามือ

ระหว่างทางศาลเจ้ามีโคมญี่ปุ่นแบบนี้ประดับอยู่ 

ขวามือจะเจอหน้าศาลเจ้าอิชิคิริแบบนี้ก่อน และหากเดินไปตามทางเดินทางซ้ายมือ ก็จะไปสู่ประตูหลักขนาดใหญ่ เป็นประตูไม้

และนี้ก็คือประตูหลักขนาดใหญ่ของศาลเจ้าอิชิคิริ เป็นประตูไม้ขนาดใหญ่ ที่มีเอกลักษณ์ ยิ่งใหญ่อลังการ

หลังคาประตูทางเข้าศาลเจ้าอิชิคิริ ยิ่งใหญ่อลังการ ดีเทลละเอียด

ป้ายศาลเจ้าอิชิคิริ ป้ายนี้เขียนด้วยตัวคันจิ หรือตัวจีนว่า “石切宮”

บริเวณรอบๆ หลังคาประตูทางเข้าวัดประดับด้วยโคม

และบริเวณใกล้เคียงประตูทางเข้าใหญ่ จะมีอาคารพักผ่อนที่มีที่นั่งโซฟา และตู้กดน้ำอัติโนมัติ และสุขาชายหญิง ใช้บริการได้ตามอัธยาศัย สังเกตุดูที่ตู้กดน้ำคุมโทนเป็นลายไม้ด้วย

และนี้ก็คือทางจากประตูไม้ขนาดใหญ่ด้านหน้า ไปเสาโทริอิหิน ทางเข้าอาคารศาลเจ้าหลัก

และนี่ก็คือทางเข้าที่หากเดินจากเนินย่านร้านค้ามา ก็จะอยู่ทางขวามือ เป็นอาคารหลักศาลเจ้าอิชิคิริ กราบไหว้ ใส่เหรียญและสั่นระฆังที่นี่

ซึ่งศาลเจ้าอิชิคิรินี้ขึ้นชื่อเกี่ยวกับ “お百度参り” (อ่านว่า โอเฮียะคุโดะไมริ) แปลว่า การกราบไหว้ 100 ครั้ง หรือหินวนรอบหินไหว้สักการะ 100 รอบ ซึ่งภายในบริเวณหน้าอาคารหลักจะมีเสาหินอยู่ 2 เสา
วิธีการคือ การกราบไหว้ที่อาคารศาลเจ้าหลักจากนั้นก็เดินวนหินหนึ่ง ไปยังหินอีกเสาหนึ่ง และกลับมาไหว้สักการะใหม่ ทำซ้ำกัน 100 รอบ เพื่อแสดงถึงกรขอพรด้วยความตั้งใจและแน่วแน่นั่นเอง สามารถกราบไหว้ได้ตลอด 24 ชั่วโมง มีความว่าเมื่อท่านได้เห็นถึงความตั้งใจพรนั้นก็จะสมดั่งปรารถนา
นอกจากเสาหินสองเสาแล้ว ภายในศาลเจ้ายังประกอบไปด้วยส่วนต่างๆ มากมาย

ส่วนอื่นๆ ภายในศาลเจ้า มีต้นไม้ “ต้นคุซุ” หรือต้นการบูร ขนาดใหญ่ศักดิ์สิทธิ์อายุเกือบ 500 ปี

และที่บริเวณตรงข้ามต้นไม้ใหญ่ จะมีศาลเจ้าเล็กๆ นี้อยู่ ตัวศาลหลักล้อมรอบไปด้วยบ่อน้ำ และภายในบ่อน้ำนั้นมี...　

“เต่า” อยู่หลายสิบตัว ซึ่งที่ศาลเจ้านี้สามารถขอพรได้ด้วยการเอารูปปั้นเต่าเล็กๆ ไปวางบูชาไว้ (บูชารูปปั้นเต่าได้ที่นี่เลย)

ส่วนนี้เป็นที่บูชาเครื่องรางของขลัง ซึ่งคนที่ดูแลอยู่เป็น “มิโกะ” หญิงสาวที่ทำงานอยู่ที่ศาลเจ้านั่นเอง 

บรรยากาศในช่วงนี้เงียบสงบ ดื่มด่ำกับบรรยากาศรอบๆ ศาลเจ้าได้เต็มที่

ซึ่งที่ศาลเจ้าอิชิคิรินี้ จะเป็นศาลเจ้าที่มีพิธีกรรมต่างๆ ในทุกๆ เดือน อีกทั้งยังมีงานเทศกาลช่วงต่างๆ ด้วย 
สำหรับเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาก็มีงานเทศกาล “คาคิไทไซ(夏季大祭)” หรือเทศกาลฤดูร้อน สำหรับปี 2020 จัดขึ้นในวันที่ 3-4 สิงหาคมที่ผ่านมา เป็นงานเทศกาลที่มีมาตั้งแต่สมัยเอโดะ เพื่อปัดเป่าโรคร้ายที่ระบาดขึ้นในสมัยก่อน 
ในงานจะมีทั้งการแห่มิโคชิ (ศาลไม้ตามภาพด้านล่าง) และพิธีกรรมโบราณต่างๆ 
ซึ่งในช่วงเวลาปกติ หรือช่วงเวลางานเทศกาล ศาลเจ้าอิชิคิริจะเป็นศาลเจ้าที่ผู้คนมากราบไหว้เป็นจำนวนมาก และบรรยากาศช่วงงานเทศกาลก็จะคึกคักเป็นพิเศษ เพราะฉะนั้นในปีต่อๆ ไปหากใครมีโอกาสมาเที่ยวโอซาก้าในช่วงต้นเดือนสิงหาก็ลองแวะมาเที่ยวดูได้เลย

ภาพจาก http://www.isikiri.com/index.html

บริเวณรอบๆ นี้มีร้านทำนาย ร้านดูดวง อยู่เยอะมากๆ ค่ะ ร้านไหนที่มีคำว่า “占” ซึ่งแปลว่าการทำนายโชคชะตา

และระหว่างทางก็มีศาลเล็กๆ แบบนี้ บริเวณนี้นอกจากบรรยากาศที่มีกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นโบราณแล้ว ยังเป็นสถานที่ที่เก่าแก่และศักดิ์สิทธิ์ ยังไงลองแวะมาสัมผัสบรรยากาศแบบนี้ดูนะคะ

สถานีรถไฟที่อยู่ใกล้ศาลเจ้าอิชิคิริ นอกจากสถานีอิชิคิริแล้ว ก็มี “สถานีชิน อิชิคิริ” ของรถไฟคินเท็ตสึที่ใช้เวลาเดินจากศาลเจ้าไปประมาณ 5 นาทีเท่านั้น ซึ่งก็สามารถกลับไปยังที่พักของเราที่สถานีฟุเสะได้เช่นกัน
โดยหากเดินทางจาก “สถานีชิน อิชิคิริ” ไปสถานีฟุเสะ”
1.นั่งรถไฟสาย Kintetsu-Keihanna Line จาก “สถานีชินอิชิคิริ” ไปยัง “สถานีอิโคมะ(Ikoma Station)”
2.เปลี่ยนรถไฟที่ สถานีอิโคมะ เป็นสาย Kintetsu-Nara Line เพื่อนั่งไปลงที่สถานีฟุเสะ เลย

จากสถานีฟุเสะเดินไปยังฟร้อนท์ของโรงแรม ใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 3 นาทีเท่านั้น

มีต่อ