วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับเมืองเล็กๆ ทางตะวันออกของโอซาก้า กับ “เมืองฟุเสะ” หรือ 布施: Fuse เมืองชนบท ท่ามกลางวิถีชีวิตของคนญี่ปุ่นที่เรียบง่าย ที่มีทั้งย่านร้านค้า แหล่งของกิน แหล่งช้อปขนาดย่อม และที่พักสุดเก๋ โรงแรมเซไกโฮเทล ฟุเสะ SEKAI HOTEL Fuseที่ทำให้เรารู้จัก หลงใหล และสนุกไปกับทริปเล็กๆ และวิถีชีวิตที่เรียบง่ายนี้

“เมืองฟุเสะ” มีอะไรบ้าง?

ย่านร้านค้าฟุเสะ -ความพิเศษของย่านร้านค้าเก่าแก่แบบนี้ก็คือกลิ่นอายร้านค้าแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมที่สัมผัสไม่ได้ง่ายๆ ในแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังที่ผู้คนพลุกพล่าน

ศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์แห่เมืองฟุเสะ “ศาลเจ้าฟุเสะเอบิสุ”
ศาลเจ้าชื่อดัง “ศาลเจ้าฟุเสะเอบิสุ” เป็นที่ตั้งของรูปปั้นเทพเอบิสุที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และเป็นสถานที่จัดงาน “โทกะเอบิสุ” คือเทศกาลกราบไหว้ “เทพเอบิสุ” จัดขึ้นทุกๆ ปีในวันที่ 9มกราคม ถึงวันที่ 11มกราคม เป็นเวลา 3วัน 

ซึ่ง “เทพเอบิสุ” นั้นถือเป็นหนึ่งในเทพเจ้าแห่งโชคลาภทั้ง 7ที่ผู้คนศรัทธาในฐานะเทพแห่งการประมง เทพแห่งการเกษตร เทพแห่งการค้าขาย และเทพแห่งโชคลาภ ในพื้นที่บริเวณตะวันตกของญี่ปุ่น โดยเฉพาะในแถบคันไซ นับถือท่านในเรื่องการค้าขายเจริญรุ่งเรือง และเทพแห่งโชคลาภ เพราะฉะนั้นหากใครได้พักมาที่นี่ก็อย่าลืมมากราบไหว้ขอโชคการค้าขายเจริญรุ่งเรืองกันนะคะ

ภายในศาลเจ้ามีอาคารกราบไหว้ และจุดบูชาเครื่องราง ของขลัง
หรือเขียนแผ่นไม้ “เอมะ” แผ่นไม้ขอพรของญี่ปุ่น เพียงเขียนพรลงบนไม้และนำไปแขวนไว้เท่านั้น แผ่นไม้เป็นลายท่านเทพเอบิสุด้วย

(ภาพจากhttps://www.sekaihotel.jp/area/fuse/)
“งานเทศกาลเอบิสุซัง” ซึ่งเราจะขอหยิบยกคอนเท็นต์จากโรงแรม SEKAI HOTEL Fuseมาแปลให้เพื่อนๆ อ่านกันนะคะ 
ลิงค์คอนเท้นท์เทศกาลโทกะเอบิสุจาก SEKAI HOTEL Fuse https://www.sekaihotel.jp/en/articles/toka-ebisu-festival-2020/
“พาเที่ยวงานเทศกาลประจำท้องถิ่น “ฟุเสะโทกะเอบิสุ” (布施十日戎) ณ ศาลเจ้าฟุเสะเอบิสุ เป็นงานเทศกาลกราบไหว้ “เทพเอบิสุ” เทพหนึ่งในเจ็ดเทพเจ้าโชคลาภ โดยเทพเอบิสุ เป็นทั้งเทพทางด้านการประมง การเกษตร และเทพแห่งการค้าขาย ซึ่งทางฝั่งตะวันตกของญี่ปุ่น โดยเฉพาะในแถบคันไซ นับถือท่านในฐานะเทพแห่งการค้าขายเจริญรุ่งเรือง และเทพแห่งโชคลาภ และนิยมเรียกท่านว่า “เอเบ็ซซัง” งานเทศกาลจัดขึ้นทุกๆ ปีในวันที่ 9มกราคม ถึงวันที่ 11มกราคม เป็นเวลา 3วัน”
(ในส่วนไหนที่ใส่เครื่องหมายคำพูด คือเป็นเนื้อหาที่แปลมาให้จากในเว็บไซต์นะคะ)

(ภาพจากhttps://www.sekaihotel.jp/area/fuse/)
“ภาพบรรยากาศของงาน เมื่อลอดผ่านเสาโทริอิไปแล้วก็จะพบรูปปั้นเทพเอบิสุ ผู้คนในงานสัมผัสรูปปั้นเทพเอบิสุกันอย่างคับคั่ง เพื่อรับโชคลาภ ให้ค้าขายเจริญรุ่งเรือง สัมผัสส่วนไหนส่วนนั้นของร่างกายก็จะดีขึ้น” 

(ภาพจากhttps://www.sekaihotel.jp/area/fuse/)
“นอกจากนี้ยังมีผ้าเทนุกุยรูปปลาไทยากิสีแดเฉพาะที่ฟุเสะเท่านั้น โดยมีความเชื่อว่าหากนำผ้าเทนุกุยรูปปลาไทยากิสีแดงนี้ไปถูรูปปั้นเทพเอบิสุ ก็จะได้โชคลาภ ค้าขายรุ่งเรืองมากยิ่งขึ้น” 

(ภาพจากhttps://www.sekaihotel.jp/area/fuse/)
“และภายในงานจะมี “ฟุกุซาซะ” เครื่องรางไม้ไผ่เรียกโชคลาภสำหรับค้าขายรุ่งเรือง ซึ่งเป็นไฮไลท์ที่ทุกคนต่างหมายปองสำหรับพ่อค้าแม่ค้านำไปประดับร้านค้าของตน หากยิ่งได้รับฟุกุซาซะจาก “ฟุกุมุสุเมะ” ผู้หญิงแห่งโชคลาภที่ได้รับคัดเลือกจากการประกวดในแต่ละปี ก็ยิ่งทำให้ได้ความโชคดีขึ้นไปอีก” 

(ภาพจากhttps://www.sekaihotel.jp/area/fuse/)
“ในช่วงงานเทศกาลนอกจากศาลเจ้าที่มีผู้คนมาร่วมงานอย่างคับคั่งแล้ว บริเวณย่านร้านค้ายังมีร้านค้าแผงลอยต่างๆ มากมายทำให้บรรยากาศบริเวณนี้ยิ่งคึกคักมากขึ้นเป็นพิเศษ ทั้งขนมปลาไทยากิสอดไส้ หรือข้าวโพดย่างหวานๆ ร้อนๆ คลายความหนาวระหว่างเที่ยวงานเทศกาลโทกะเอบิสุได้อย่างดีเลยทีเดียว”
 
นอกจากเทศกาลเอบิสุซังแล้ว เมื่อไม่นานมานี้ก็ยังมี “เทศกาลดันจิริ” ​อีกด้วย

(ภาพจากhttps://www.sekaihotel.jp/area/fuse/)
“เทศกาลดันจิริ” เป็นหนึ่งในประเพณีขึ้นชื่อของญี่ปุ่น โดยผู้ใหญ่หลายสิบคนจะทำการลากรถลาก เรียกว่า “ดาชิ (山車)” ที่มีล้ออยู่ 4ล้อ แห่ขบวนไปรอบๆ เมือง”

(ภาพจากhttps://www.sekaihotel.jp/area/fuse/)
“ซึ่งหากพูดถึงงานเทศกาลดันจิริขึ้นชื่อของโอซาก้า ส่วนใหญ่แล้วก็จะต้องนึกถึงเทศกาลดันจิริในเมืองคิชิวาดะ(岸和田) แต่ที่เมืองฟุเสะของเราเองก็มีการจัดงานเทศกาลดันจิรินี้เช่นกัน
โดยจัดขึ้นทุกๆ ปีช่วงเดือนกรกฎาคม ไปจนถึงเดือนกันยายน ตามแต่ละพื้นที่ในเมืองฟุเสะ หากคุณโชคดีก็อาจจะได้มาเที่ยวในช่วงงานเทศกาลดันจิรินี้พอดี”

บรรยากาศย่านร้านค้าในชนบท ร้านเก่าแก่ที่เรียบง่าย แต่มีเสน่ห์

ร้านนี้คือร้านทาโกยากิ ซึ่งกลับทานเล่น หรือนั่งทานที่ร้านก็ได้

ร้านราเม็ง ถึงแม้ว่ารอบๆ จะมีบรรยากาศเรียบง่าย แต่ก็มีมุมถ่ายรูปแบบญี่ปุ่นๆ อยู่ระหว่างทาง

อันนี้เป็นร้านจำหน่ายมันบดทอดไส้ต่างๆ ชื่อร้าน “นานิวะ โคร็อกเกะ(なにわコロッケ)” คนรอคิวกันแน่นร้าน ห้ามพลาดเลยจริงๆ เป็นร้านเด็ดย่านนี้เลย
การได้เดิมชิมอาหารทานเล่นไปพร้อมๆ กับคนในชนบทก็ไม่เลวเลย ปะปนไปกับคนญี่ปุ่น 

เรื่องร้านอาหารหรือของกินรอบๆ โรงแรม ไม่ต้องห่วงเลยจริงๆ เพราะบริเวณรอบๆ โรงแรมกับย่านร้านค้าเมืองฟุเสะ มีร้านขายของกินเล่น ร้านอาหาร หรือร้านขายขนม ร้านร้อยเยน ร้านซูชิ ฯลฯ อยู่ตลอดทาง
ภาพที่ 1 ร้านซูชิ
ภาพที่2ร้านขนมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม
ภาพที่3ร้านแกงกะกรี่ โคโค่ ชื่อดังที่มีสาขาที่ประเทศไทย
ภาพที่4ร้านขนมปังปอนด์นุ่มแบบพรีเมี่ยม ที่กำลังฮิตในญี่ปุ่น

ภาพที่1ร้านจำหน่ายขนมของฝาก
ภาพที่2ร้าน 100เยน กับร้าน Drug Store ซื้อเครื่องสำอาง ยา วิตามินต่างๆ ได้ที่นี่เลย
ภาพที่3ร้านอิซากายะ ร้านนั่งดื่มสไตล์ญี่ปุ่น เปิดให้บริการถึงตี 4
ภาพที่4ร้านทาโกยากิแผงลอย
 
เดินเที่ยวบริเวณย่านร้านค้าฟุเสะไปแล้วก็มาถึงช่วง “รีวิวโรงแรมเซไกโฮเทล ฟุเสะ – SEKAI HOTEL Fuse” กันบ้าง

คอนเซ็ปต์โรงแรมที่มีต่อพื้นที่คือ “การสร้างชุมชนด้วยการรวมเมืองให้เป็นส่วนหนึ่งของที่พัก” คือนอกจากจะได้พักที่พักที่ยังคงกลิ่นอายเมืองเก่าแล้ว ยังเปิดโอกาสให้คนที่เข้าพักได้สัมผัสบรรยากาศ และคนในท้องถิ่นจริงๆ ด้วยการร่วมมือกับร้านค้าในท้องถิ่น

ฟร้อนท์โรงแรม อยู่ภายในย่านร้านค้าฟุเสะ สามารถเดินเท้าจากสถานีฟุเสะมาได้เพียง 3นาทีเท่านั้น 

ด้านในดูดีมีสไตล์มากๆ ก่อนอื่นจะต้องเช็คอินที่ฟร้อนท์นี้ก่อน

เสื้อยืดเฉพาะของโรงแรม ซึ่งเป็นแบบเดียวกับเสื้อยูนิฟอร์มของสตาฟที่สวมใส่อยู่เป็นประจำ
เสื้อยืดพร้อมโลโก้บนอก ออกแบบเรียบง่ายสวมใส่สบาย ทั้งใส่เล่น ไปจนถึงในนอนระหว่างเข้าพัก 
หาซื้อได้ที่ฟร้อน์ของโรงแรม

บริการ “คาเฟ่ &บาร์” ที่ฟร้อนท์ของโรงแรม เพื่อเป็นพื้นที่พักผ่อนในช่วงกลางวัน และเป็นพื้นที่พบปะสังสรรค์กันระหว่างคนในพื้นที่และผู้เข้าพักในช่วงเวลาค่ำ กลับจากการเที่ยวทั้งวัน ก็มาพักผ่อนที่นี่ได้ ก่อนกลับห้องพักเลย ตกแต่งดูดีมีสไตล์ บรรยากาศดีมากๆ 

เมนูเครื่องดื่ม และอาหารทานเล่นนิดๆ หน่อยๆ 

บรรยากาศสบายๆ จะนั่งชิวๆ คนเดียว หรือสังสรรค์กันเป็นกลุ่มก็ได้สบายเลย

พอเช็คอินเรียบร้อยแล้วพนักงานจะพาเราไปที่ห้องพัก บรรยากาศเป็นกันเองมากๆ เหมือนได้เพื่อนเพิ่ม พนักงานเฟรนลี่ แต่ลืมถ่ายรูปด้วยเลย พนักงานเล่าให้ฟังว่า คอนเซ็ปต์ของ SEKAI HOTEL คือการปรับปรุงตึกว่า หรือบ้านที่ว่างให้เป็นห้องพักของโรงแรม โดยรีโนเวทภายในให้เป็นห้องพักแต่ภายนอกจะยังคงเหมือนเดิม เหมือนได้พักบ้านทั่วไปในพื้นที่นี้เลย 
เนื่องจากตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีโรงงานตั้งอยู่เป็นจำนวนมากตั้งแต่สมัยโบราณ ดังนั้น SEKAI HOTEL Fuseของที่นี่จึงคงคอนเซ็ปต์ “เมืองโรงงานขนาดย่อม” การตกแต่งที่พักจึงเป็นสไตล์Modern Industrialโดยดึงเสน่ห์ของความเป็นโรงงานมาใช้ในการออกแบบเข้าไปดูด้านในห้องพักกันเลย

ไปดูข้างในกันเลย ซึ่งที่พักที่เราเลือกพักครั้งนี้ก็คือห้องพักแบบส่วนตัว นอนได้ 4คน มีห้องน้ำและห้องอาบน้ำส่วนตัว ส่วนโต๊ะอาหาร และส่วนครัว

รายละเอียดการตกตกแต่งภายในห้องที่เป็นการตกแต่งแบบModern Industrialผนังบางส่วนจะเป็นสังกสี ตัดกับผนังไม้แบบนี้

ไปดูส่วนใช้สอยอื่นๆ ภายในห้องกันเลย เริ่มจากส่วนครัวที่ประกอบไปด้วยตู้เย็น อ่างล้างจาน ไมโครเวฟ กาต้มน้ำร้อน ฯลฯ ที่มีอำนวยความสะดวกให้พร้อม นั่งทานอาหารสังสรรค์กันที่ห้องก็สะดวก

อ่างล้างหน้า สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ก็ครบทั้งไดร์เป่าผม ผ้าขนหนูผืนเล็ก ผืนใหญ่ เซตแปรงฟัน

ห้องน้ำ ที่แยกออกมา ตามสไตล์ญี่ปุ่นที่จะแยกส่วนต่างๆ ออกจากกัน

และห้องอาบน้ำ ก็มีอ่าง และสบู่แชมพูครีมนวดให้พร้อม

โดยรวมภายในห้องพักเป็นโทนส้มอบอุ่น ตกแต่งเรียบง่ายแบบมีสไตล์ ซึ่งเพื่อน และเราถูกใจกันมากๆ และเพราะว่าห้องพักแต่ละห้องของที่นี่จะแยกออกไปตามจุดต่างๆ ภายในเมืองฟุเสะ ดังนั้นจะให้ความเป็นส่วนมากๆ ไม่ต้องกังวลห้องข้างๆ เหมือนได้พื้นที่ส่วนตัวของตัวเองจริงๆ 
 
ช่องทางการจองที่พัก
เว็บไซต์หลักของโรงแรม สามารถจองและเช็คค่าที่พักได้จากที่นี่เลย 
ลิงค์ “SEKAI HOTEL Fuse” >> https://www.sekaihotel.jp/area/fuse/
ซึ่งที่พักนี้สามารถจองผ่านเว็บไซต์Booking.comหรือ Airbnb ได้โดยค้นหาชื่อ “SEKAI HOTEL Fuse” อีกด้วย

มีต่อนะคะ