ช่วงนี้ได้เห็นข่าวเปิดตัวรถเมล์ไฟฟ้าและ เรือไฟฟ้า ของบริษัทพลังงานบริสุทธิ์ หรือ EA แล้วรู้สึกดีใจที่ในที่สุดคนไทยก็จะได้ใช้ขนส่งสาธารณะพลังงานสะอาดเหมือนประเทศอื่นๆ ที่เคยไปเที่ยวสักที ว่าแล้วเลยคิดย้อนไปถึงสมัยสัก 10 กว่าปีที่แล้ว ใครเคยใช้ระบบขนส่งมวลชนหรือรถโดยสารสาธารณะภายในกรุงเทพฯ ทุกคนจะได้เริ่มใช้บริการรถเมล์แดงของ ขสมก. กับรถมินิบัสเป็นอันดับแรกๆ ซึ่งในยุคนั้นรถเมล์แดงมีแต่ประเภท Open air คือไม่มีเครื่องปรับอากาศภายในรถ จนยุคต่อมาก็เริ่มมีรถบัสฟ้าที่มีเครื่องปรับอากาศภายในตัว จนมาถึงยุคปัจจุบันถึงแม้ว่าจะผ่านหลายปีแล้ว แต่รถโดยสารสาธารณะของคนกรุงเทพฯก็ยังคงเอกลักษณ์เหมือนเดิม คือยังมีครบทุกรุ่นวิ่งอยู่บนถนน ทั้งรุ่นดึกดำบรรณ์ รุ่นบุกเบิกที่อายุอานามตัวรถไม่ต่ำกว่า 20 ปี ซึ่งทุกรุ่นที่ว่าไปจะมาพร้อมควันดำ (มาก) พวยพุ่งออกจากท่อไอเสียตลอดเวลา ซึ่งควันดำนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของฝุ่นพิษPM 2.5 ที่ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพของคนกรุงเทพฯเป็นอย่างมาก
พอช่วงเวลาเปลี่ยนผ่าน กรุงเทพฯ ก็มีรถไฟฟ้า BTS และรถใต้ดิน MRT มาแบ่งเบาภาระรถประจำทางสาธารณะ แต่ก็ไม่ได้ทำให้รถประจำทางลดการปล่อยมลพิษลงไปแต่อย่างใดเพราะไม่ว่าบนรถนั้นจะมีผู้โดยสารหรือไม่ยังไงรถก็ปล่อยควันพิษอยู่ดี ยกเว้นว่าไม่ต้องให้รถประจำทางเหล่านั้นมาวิ่งบนถนน ซึ่งเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วเพราะก็ยังคงมีผู้โดยสารหลายพันหลายหมื่นยังคงใช้บริการอยู่เป็นประจำอยู่ดี แต่การที่มีรถไฟฟ้า BTS และ MRT เข้ามาทำให้หลายๆคนได้รู้ว่ายังมีพลังงานอยู่อีก 1 ตัว ที่ไม่ปล่อยมลพิษ ไม่ปล่อยฝุ่น PM 2.5 อีกทั้งยังสามารถทำความเร็วในการเดินทางได้สูงด้วย นั่นคือการขับเคลื่อนด้วย “พลังงานไฟฟ้า”
แล้วทำไมเราไม่พัฒนารถโดยสารสาธารณะไปใช้พลังงานไฟฟ้าล่ะ? สิ่งนี้เป็นคำถามที่คาดว่าหลายคนน่าจะนึกถามกัน ซึ่งรถบัส หรือรถโดยสารสาธารณะที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า มีใช้ในต่างประเทศมาค่อนข้างนานแล้ว แต่ในประเทศไทยคงเป็นเพราะราคา กับข้อจำกัดทางเทคโนโลยี รวมถึงไม่มี “หัวเรือใหญ่” ที่จะมาพัฒนาเทคโนโลยีนี้ในประเทศไทยอย่างชัดเจน ทำให้ยังไม่ถูกพัฒนามาใช้ จนมาถึงวันนี้ วันที่เรามีบริษัทที่เป็นหัวเรือใหญ่ในการพัฒนาเรื่องนี้ จนถึงขั้นที่สามารถผลิตรถบัสไฟฟ้าใช้ในประเทศได้จริงแล้วและที่ผ่านมานั้นได้ถูกนำมาใช้จริงแล้วด้วย
จากรูป คือรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า Mine bus รุ่น EV-X12 ของบริษัท พลังงานบริสุทธ์ หรืออีเอ ที่เป็นหัวแรงใหญ่ของนวัตกรรมขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าในประเทศไทยที่ ได้ร่วมกับ Smart bus เริ่มทดลองวิ่งตั้งแต่เดือน ก.ค.ที่ผ่านมาโดยให้บริการฟรีในเส้นทาง สาย 29 ม.ธรรมศาสตร์รังสิต - หัวลำโพง ,สาย 504 รังสิต - สะพานกรุงเทพ ,สาย 554 รังสิต -สนามบินสุวรรณภูมิ โดยจะวิ่งให้บริการ#ฟรีไม่เก็บค่าโดยสารใดๆทั้งสิ้นซึ่งส่วนตัวได้เคยลองนั่งแล้วบอกได้เลยว่านิ่มและนั่งสบายเลยทีเดียว นอกจากจะมีรถบัสไฟฟ้าวิ่งแล้ว ตัวบริษัทฯยังได้ส่งเรือไฟฟ้า MINE Smart Ferry ที่ได้จดทะเบียนเป็นเรือพลังงานไฟฟ้าลำแรกของไทยมาให้บริการในแม่น้ำเจ้าพระยาแล้วด้วย โดยเรือจุผู้โดยสารได้กว่า200 คนขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนขนาด 800 KWh ที่ราคาเที่ยวละ 20 บาท (ข้อมูลตรงนี้ไม่ชัวร์ จขกท.ถามหลายคนบอก 20 บาท แต่ จขกท.ยังไม่เคยไปขึ้นนะ ใครเคยขึ้นแล้วรู้ราคามายืนยันอีกที) ที่สำคัญคือออกแบบและผลิตโดยคนไทย 100%
จะเห็นได้ว่าพอมีหัวแรงใหญ่แล้วพัฒนาอย่างต่อเนื่องบริษัทคนไทยก็สามารถผลิตนวัตกรรมใหม่ๆได้เหมือนกัน ขออย่างเดียวคือรัฐฯอาจต้องลงมาช่วยสนับสนุนตรงส่วนนี้ ถ้าเป็นไปได้อยากให้เปลี่ยนรถโดยสารสาธารณะรุ่นควันดำเป็นรถไฟฟ้าให้หมด ไม่แน่ปัญหาผงฝุ่น PM 2.5 อาจลดลงอย่างมากก็เป็นได้ สุดท้ายใครเคยใช้บริการบ้างมาเล่าสู่กันฟังได้นะว่ารู้สึกอย่างไร
Ref :
https://www.thansettakij.com/content/motor/444465
Ref :
https://www.thairath.co.th/news/auto/news/1909156
รถบัสไฟฟ้า ความหวังใหม่ของรถโดยสารสาธารณะของ กทม.
Ref : https://www.thairath.co.th/news/auto/news/1909156