พฤติการณ์ตบทรัพย์จากข้าราชการในการแปรญัตติงบประมาณ ของผู้ทรงเกียรติถูกเปิดโปงออกมาหลังนายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมน้ำบาดาล เปิดเผยว่ามีอนุกรรมาธิการรายหนึ่งเรียกรับเงินจำนวน 5 ล้านบาท กลายเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ฉาวโฉ่ กระทบภาพลักษณ์ไปทั้งสภาฯ มีการไล่หาตัวส.ส.คนดังกล่าว และเรียกหาหลักฐาน และจี้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
แม้เรื่องราวในลักษณะที่ว่านี้ มักจะได้ยินกันมานาน แต่ไม่มีใครออกมายอมรับ หรือมีหลักฐานในการดำเนินการกับผู้กระทำผิด ทำให้เข้าใจได้ว่า เหตุใดจึงมีการวิ่งเต้นเพื่อที่จะได้เข้าไปเป็นคณะกรรมาธิการ
ในมุมของงานต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน ปฏิกิริยาของ นายศักดิ์ดา ข้าราชการระดับอธิบดี ถือเป็นการแสดงออกถึงการไม่ทนต่อการทุจริตของข้าราชการ และเสียงดังออกมาจากคณะกรรมมาธิการ
ขณะที่อีกด้านหนึ่งก็มีข้าราชการส่งเสียงกันเงียบๆ เช่น ก่อนหน้านี้ ดร.มานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ออกมาโพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊ก เตือนว่า อย่าคุกคามข้าราชการที่พูดความจริง หลังเปิดเผยข้อมูลการทุจริตในหน่วยราชการที่ ข้าราชการพบเห็น ปรากฏว่ามีผู้บริหารระดับสูงบางกระทรวงสั่งให้สืบหาตัวข้าราชการที่ตอบแบบสอบถามหรือให้ข้อมูลกับคณะผู้วิจัยงานชิ้นนี้ โดยอ้างว่าทำให้กระทรวงเสื่อมเสียชื่อเสียง
ดร.มานะ ระบุผ่านเพจเฟซบุ๊คด้วยว่า โกงกินเป็นเรื่องเลวร้าย ดังนั้นการที่ข้าราชการตระหนักรู้ว่าการ ทำอะไร มากแค่ไหน คือการโกง จึงเป็นเรื่องสำคัญ ขณะที่หน่วยงานใดมีข้าราชการออกมาคัดค้านและร้องเรียนเมื่อพบเห็นการโกง ถือเป็นเรื่องสำคัญยิ่งกว่า เพราะหมายถึง บุคลากรในองค์กรนั้นได้เรียนรู้วัฒนธรรมที่ถูกต้องว่า เพื่อประโยชน์ของส่วนรวมนอกจากตัวเราเองไม่โกง ต้องไม่ยอมให้ใครโกงด้วย
อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือป.ป.ช. กล่าวในการบรรยายพิเศษ งานสัมมนาสาธารณะเรื่อง “ITAทางออกประเทศไทย สู่การยกระดับ CPI” ของนักบริหารยุทธศาสตร์การป้องกันและปราบปรามการทุจริตระดับสูง (นยปส.) ว่า ค่าดัชนีการรับรู้การทุจริต (CPI) ของประเทศไทยในปี 62 ได้คะแนนอยู่ที่ 36 ซึ่งยังต่ำกว่าเป้าหมายตามยุทธศาสตร์ระยะ 3 และแผนแม่บทของสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ 20 ปี จึงต้องมีกำกับและติดตามรายงานของรัฐในการปฏิบัติตามนโยบายต่อต้านทุจริตของรัฐบาล โดยใช้เครื่องมือประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานภาครัฐ (ITA) เพื่อยกระดับคะแนน CPI ซึ่งปี 65 ตั้งเป้าหมายได้คะแนนไม่น้อยกว่า 50 คะแนน มีข้อร้องเรียนเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่รัฐลดลง 10% ต่อปี การทุจริตของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองลดลง 25% และเหลือ 10% ขณะที่ในปี 80 ตั้งเป้าได้ 100 คะแนนเต็ม แม้ยากแต่นับเป็นเรื่องท้าทาย
ทั้งนี้ พล.ต.อ.วัชรพล ได้วางเป้าหมายให้ประเทศไทยขยับอันดับติด 1 ใน 20 ประเทศที่มีความโปร่งใสการบริหารจัดการปัญหาทุจริตภายใน 15 ปีหลังจากนี้ อย่างไรก็ตาม เมื่อดูสถิติที่ผ่านมาประเทศไทยได้คะแนน 30 กว่าไม่เคยถึง 40 คะแนน ทำให้ยังมีข้อท้วงติงความเป็นไปได้ที่จะติด 1 ใน 20 แต่ก็เป็นภารกิจใหญ่ที่ท้าทายว่าประเทศไทยจะยกระดับคะแนน CPI ได้มากแค่ไหน
กระนั้น กรณีของอธิบดีกรมน้ำบาดาล และข้าราชการที่ถูกคุกคาม จึงเป็นอีกบทพิสูจน์สำคัญ ว่าประเทศไทยจะผลักดันให้ไปสู่เป้าหมาย 1 ใน 20 ประเทศที่มีความโปร่งใสได้สำเร็จหรือไม่
https://siamrath.co.th/n/175278
มีหนาว!เบอร์โทร'ส.ส.ตบทรัพย์' ถึงมือ'ชวน'แล้ว
มีหนาว! เบอร์โทรบุรุษลึกลับ “ส.ส.ดาวไถ”ตบทรัพย์ถึงมือ “ชวน” แล้ว
อ่านต่อที่ :
https://www.dailynews.co.th/politics/789893
ติดตามเรื่องนี้กันดีไหม...ทำไมม็อบปลดแอกไม่สนใจส.ส.ตบทรัพย์ ทุจริต
น่าจะไล่แห่พวกนี้ออกนอกสภาไปบ้างนะ
จะมาไล่อะไรคนทำงานดูแลประชาชน
📅📅มาลาริน/โตไปไม่โกง สนใจทางนี้กันดีไหม..เมื่อข้าราชการไม่ทนต่อทุจริต
พฤติการณ์ตบทรัพย์จากข้าราชการในการแปรญัตติงบประมาณ ของผู้ทรงเกียรติถูกเปิดโปงออกมาหลังนายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมน้ำบาดาล เปิดเผยว่ามีอนุกรรมาธิการรายหนึ่งเรียกรับเงินจำนวน 5 ล้านบาท กลายเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ฉาวโฉ่ กระทบภาพลักษณ์ไปทั้งสภาฯ มีการไล่หาตัวส.ส.คนดังกล่าว และเรียกหาหลักฐาน และจี้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
แม้เรื่องราวในลักษณะที่ว่านี้ มักจะได้ยินกันมานาน แต่ไม่มีใครออกมายอมรับ หรือมีหลักฐานในการดำเนินการกับผู้กระทำผิด ทำให้เข้าใจได้ว่า เหตุใดจึงมีการวิ่งเต้นเพื่อที่จะได้เข้าไปเป็นคณะกรรมาธิการ
ในมุมของงานต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน ปฏิกิริยาของ นายศักดิ์ดา ข้าราชการระดับอธิบดี ถือเป็นการแสดงออกถึงการไม่ทนต่อการทุจริตของข้าราชการ และเสียงดังออกมาจากคณะกรรมมาธิการ
ขณะที่อีกด้านหนึ่งก็มีข้าราชการส่งเสียงกันเงียบๆ เช่น ก่อนหน้านี้ ดร.มานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ออกมาโพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊ก เตือนว่า อย่าคุกคามข้าราชการที่พูดความจริง หลังเปิดเผยข้อมูลการทุจริตในหน่วยราชการที่ ข้าราชการพบเห็น ปรากฏว่ามีผู้บริหารระดับสูงบางกระทรวงสั่งให้สืบหาตัวข้าราชการที่ตอบแบบสอบถามหรือให้ข้อมูลกับคณะผู้วิจัยงานชิ้นนี้ โดยอ้างว่าทำให้กระทรวงเสื่อมเสียชื่อเสียง
ดร.มานะ ระบุผ่านเพจเฟซบุ๊คด้วยว่า โกงกินเป็นเรื่องเลวร้าย ดังนั้นการที่ข้าราชการตระหนักรู้ว่าการ ทำอะไร มากแค่ไหน คือการโกง จึงเป็นเรื่องสำคัญ ขณะที่หน่วยงานใดมีข้าราชการออกมาคัดค้านและร้องเรียนเมื่อพบเห็นการโกง ถือเป็นเรื่องสำคัญยิ่งกว่า เพราะหมายถึง บุคลากรในองค์กรนั้นได้เรียนรู้วัฒนธรรมที่ถูกต้องว่า เพื่อประโยชน์ของส่วนรวมนอกจากตัวเราเองไม่โกง ต้องไม่ยอมให้ใครโกงด้วย
อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือป.ป.ช. กล่าวในการบรรยายพิเศษ งานสัมมนาสาธารณะเรื่อง “ITAทางออกประเทศไทย สู่การยกระดับ CPI” ของนักบริหารยุทธศาสตร์การป้องกันและปราบปรามการทุจริตระดับสูง (นยปส.) ว่า ค่าดัชนีการรับรู้การทุจริต (CPI) ของประเทศไทยในปี 62 ได้คะแนนอยู่ที่ 36 ซึ่งยังต่ำกว่าเป้าหมายตามยุทธศาสตร์ระยะ 3 และแผนแม่บทของสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ 20 ปี จึงต้องมีกำกับและติดตามรายงานของรัฐในการปฏิบัติตามนโยบายต่อต้านทุจริตของรัฐบาล โดยใช้เครื่องมือประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานภาครัฐ (ITA) เพื่อยกระดับคะแนน CPI ซึ่งปี 65 ตั้งเป้าหมายได้คะแนนไม่น้อยกว่า 50 คะแนน มีข้อร้องเรียนเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่รัฐลดลง 10% ต่อปี การทุจริตของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองลดลง 25% และเหลือ 10% ขณะที่ในปี 80 ตั้งเป้าได้ 100 คะแนนเต็ม แม้ยากแต่นับเป็นเรื่องท้าทาย
ทั้งนี้ พล.ต.อ.วัชรพล ได้วางเป้าหมายให้ประเทศไทยขยับอันดับติด 1 ใน 20 ประเทศที่มีความโปร่งใสการบริหารจัดการปัญหาทุจริตภายใน 15 ปีหลังจากนี้ อย่างไรก็ตาม เมื่อดูสถิติที่ผ่านมาประเทศไทยได้คะแนน 30 กว่าไม่เคยถึง 40 คะแนน ทำให้ยังมีข้อท้วงติงความเป็นไปได้ที่จะติด 1 ใน 20 แต่ก็เป็นภารกิจใหญ่ที่ท้าทายว่าประเทศไทยจะยกระดับคะแนน CPI ได้มากแค่ไหน
กระนั้น กรณีของอธิบดีกรมน้ำบาดาล และข้าราชการที่ถูกคุกคาม จึงเป็นอีกบทพิสูจน์สำคัญ ว่าประเทศไทยจะผลักดันให้ไปสู่เป้าหมาย 1 ใน 20 ประเทศที่มีความโปร่งใสได้สำเร็จหรือไม่
https://siamrath.co.th/n/175278
มีหนาว!เบอร์โทร'ส.ส.ตบทรัพย์' ถึงมือ'ชวน'แล้ว
มีหนาว! เบอร์โทรบุรุษลึกลับ “ส.ส.ดาวไถ”ตบทรัพย์ถึงมือ “ชวน” แล้ว
อ่านต่อที่ : https://www.dailynews.co.th/politics/789893
ติดตามเรื่องนี้กันดีไหม...ทำไมม็อบปลดแอกไม่สนใจส.ส.ตบทรัพย์ ทุจริต
น่าจะไล่แห่พวกนี้ออกนอกสภาไปบ้างนะ
จะมาไล่อะไรคนทำงานดูแลประชาชน