พอนึกถึงการเที่ยวพักผ่อนสบายๆไม่วุ่นวาย สถานที่แรกที่เราคิดถึงคือ “เชียงคาน” เมืองเล็กๆริมแม่น้ำโขง เหมาะกับการใช้ชีวิตง่ายๆ แบบสโลวไลฟ์ มากๆ

  ทริปนี้เราไปกับเพื่อน 2 คน วางแพลนกันแบบหลวมมากๆเพราะว่ากะจะไปใช้ชีวิตแบบช้าๆ ไม่เร่งรีบ ซึมซับบรรยากาศชิวๆริมแม่น้ำโขง

ไฮไลท์ของทริปนี้

 ริมฝั่งโขง

 Phuthok ภูทอก - ทะเลหมอก เชียงคาน จ.เลย

 เฮือนเก่าเชียงคาน

 Cafe de River

 แก่งคุดคู้ อ.เชียงคาน จ.เลย

 ถนนคนเดินเชียงคาน

 ร้านนั่งชิล Mae Nam Mee Kang Guesthouse at Chiangkhan

 ตักบาตรข้าวเหนียว

 Skywalk สกายวอร์คท่าดีหมี อ.เชียงคาน

 ที่พัก บ้านละมุลอุ่นโขงเชียงคาน ที่พัก

 เดินทางโดย SUN BUS

กล้องที่ใช้ iPhone X, Panasonic lumix GF8, pentexzoom70X (ถ้าเป็นกล้องฟิล์มจะ no filter นะคะ)

 ส่วนรายละเอียดของทริปนี้จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลยจ้า

ริมแม่น้ำโขง เป็นสถานที่ ที่เหมาะแก่การเดินเล่น ปั่นจักรยาน รอดูพระอาทิตย์ตก ในช่วงเราไปคนไม่เยอะมาก อากาศกำลังดี เย็นสบาย ส่วนใหญ่ที่พักที่นี่ก็จะติดริมแม่น้ำโขงเลย ทำให้เราไปเดินเล่นได้ง่าย

คิดอะไรไม่ออก ไม่รู้จะไปไหน แนะนำให้มานั่งเพลินๆที่นี่เลยจ้า

อ่ะๆ พอดีมีพี่ที่เป็นนั่งปั่นจักรยานมาขอถ่ายรูปกับพวกเรา เราเลยขอให้เขาถ่ายรูปคู่ให้ซะเลย แชะๆ มีรูปคู่แล้ววว

Phuthok ภูทอก - ทะเลหมอก เชียงคาน จ.เลย

 เราไปในเช้าวันแรก ขี่มอเตอร์ไซต์จากที่พักประมาณ 8 กม. ใช้เวลาประมาณ 20 นาที เพราะมันมืดดดด เนื่องจากทางขึ้นมันค่อนข้างยาก ต้องใช้ผู้เชียวชาญทางในการขับเท่านั้น พอไปถึงจุดขึ้นรถก็นำรถไปฝากไว้ แล้วไปซื้อตั๋วเพื่อขึ้นรถไปข้างบน โดยมีค่าขึ้นรถคนละ 25 บาทเท่านั้น รถที่พาขึ้นไปก็จะเป็นรถกะบะ ขึ้นได้คันละประมาณ 8 คนจ้า

อากาศดีเย็นนิดหน่อย วิวมองเห็นทั้งภูเขา ทะเลหมอก และแม่น้ำโขง จุดทะเลหมอกมีหลายจุด ให้นักท่องเที่ยวไม่แออัดจนเกินไป ตอนแรกคือเราลุ้นกันมากๆว่าจะได้เจอทะเลหมอกไหม เพราะบางคนมาไม่เจอทะเลหมอกก็มี แต่เราโชคดีมากที่ได้เจอทะเลหมอกกก มันสวยมากแก สวยแบบจริงๆ

ถ่ายรูปกับทะเลหมอกซักหน่อยแล้วกัน no filter กันเลยจ้า

พระอาทิตย์กำลังจะขึ้นแล้วววว

พอซึมซับบรรยากาศจนจุใจ เราก็เดินทางลงมายังที่จอดรถ มาเจอข้าวจี่ เลยแวะชิมรองท้องกันซักหน่อย

พอดูทะเลหมอกเสร็จก็มาเดินเล่นที่ เฮือนเก่าเชียงคานกันเลยจ้า อากาศค่อนข้างร้อน บ้านแต่ละหลังสวยมาก วินเทจสุดๆ

มุมถ่ายรูปยอดฮิต เราจะพลาดได้ยังไงงงง

ร้าน Cafe de River

 ร้านนี้เป็นร้านดัง ใครมาเชียงคานคือต้องมา ร้านที่ติดแม่น้ำโขงมีจุดถ่ายรูปหลากหลาย เช่น แคมป์ สะพาน มีทั้งที่เป็นห้องแอร์และเป็นบาร์ข้างนอก

เราสั่งชาเขียวและเค้กมะพร้าวอ่อน ชาเขียวกลมกล่อม ไม่หวานมาก เค้กมะพร้าวนุ่ม รสชาติอร่อยเลยทีเดียว พอทานเสร็จก็ออกไปถ่ายรูปด้านนอกจ้า แอบบอกว่าร้านนี้จะไม่ชิวสักเท่าไหร่เพราะคนค่อนข้างเยอะ ค่าเสียหายร้านนี้ก็ 259 บาทจ้า

ด้วยความที่มาภาคอีสาน จะไม่ให้อยากกินส้มตำได้ยังไง เราเลยเลือกร้าน ตำลืมผัวชิดฮิมโขง

 ภายในร้านจะเป็น 2 ชั้น เราเลือกชั้นด้านบน แต่โต๊ะที่ติดริมน้ำมีแค่โต๊ะเดียวและมีคนนั่งอยู่แล้วเราเลยไม่ได้นั่ง บรรยากาศค่อนข้างชิลเลยทีเดียว

ด้วยความหิวเราเลยสั่งไปแบบเพลินๆ พออาหารมาคือตกใจมาก เพราะมันเยอะแกกก จานใหญ่โตมากกก รสชาติอาหารก็คงต้องบอกว่าอร่อยเช่นเคย เพราะมันอร่อยทุกอย่างจริงๆ คือส้มตำเราว่าหายากนะที่แบบจะถูกปากเรา แต่ที่นี่คือ ทำอะไร สั่งอะไรก็อร่อย ค่าเสียหายมื้อนี้ก็จะแพงขึ้นมาหน่อย ราคา 530 บาทจ้า

แก่งคุดคู้ อ.เชียงคาน จ.เลย

 ตอนแรกเราจะไปดูพระอาทิตย์ตกแต่ถ้าจะดูต้องเหมาเรือไปเองรอบละ 800 บาท คุณลุงที่ขายตั๋วก็เลยแนะนำให้เรารอคนที่อยากไปดูเหมือนกัน แล้วหารค่าเรือกัน เราเลยนั่งชิลๆ ถ่ายรูปเล่นๆกัน

เวลาผ่านไปประมาณ 3 ชม. ไม่มีใครสนใจไปดูพระอาทิตย์ตกเลยแกกก “ไม่มี ไม่มีเลยเจ้าค่ะ” เราเลยตัดสินใจไปล่องเรือเฉยๆก็ได้ ก็เลยไปซื้อตั๋วล่องเรือแบบธรรมดาก็ ค่าตั๋วคนละ 50 บาท แถมหางตั๋วยังนำไปแลกน้ำมะพร้าวสดกินได้ด้วย ดีมากๆ พอลงเรือใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง พาไปชมวิวฝั่งลาว โบกมือทักทายน้องๆฝั่งนู้น เป็นบรรยากาศที่ชิลละน่ารักมากๆ

ถนนคนเดินเชียงคาน

 เราเดินทั้ง 2 วันเลย มีทั้งของกินและของให้เราช็อปปิ้งมากมาย เช่นเสื้อผ้า โปสการ์ด ของฝากต่างๆ

เมนูที่มาเชียงคานแล้วต้องลองให้ได้คือกุ้งเสียบไม้ ราคาไม้ละ20 บาท กุ้งคือสด เนื้อหวาน เคี้ยวแล้วเพลินดี

เราแวะกินข้าวกันก่อนที่ ร้านอิ่มอร่อยสมใจ เชียงคาน จ.เลย

 เมนูที่สั่งคือข้าวเปียกเส้น เล้งแซ่บ ยำหมูยอ ข้าวเปล่า และโค้ก จะบอกว่ามันอร่อยมากแก ข้าวเปียกเส้นมีความเหนียวหนึบของเส้น ยำหมูยอก็คือหมูยอแบบแน่นมาก น้ำยำแซ่บอีหลีเด้อ รวมค่าเสียหายไป 245 บาทจ้า คุณภาพเกินราคาจริงๆ ปลื้มมมม

หลังจากกินข้าวเสร็จก็ไม่รอช้าที่จะต้องหาของหวานตามสเต็ปจ้า สิ่งแรกที่นึกถึงคือโรตีผีตาโขน เราสั่งเป็นโรตีกล้วยหอม ซึ่งร้านให้เราเติมนมและช็อกโกแลตเองตามใจชอบเลย จะใส่เยอะแค่ไหหนก็ได้ ไม่อ้วนหรอกแกรรร รสชาติคือแบบ อร่อยแบบอร่อยจริงๆ ไม่เคยกินโรตีที่ไหนอร่อยขนาดนี้ 

(เว่อไปป่ะ55555)

“บัวลอยบ้านตาสี ตามคำสัญญา” ร้านนี้คือคุณลุงทำแป้งสดเลยค้า ไม่ทำทิ้งไว้เลย ขายถ้วยต่อถ้วย ราคาถ้วยละ 35 บาท แถวก็ไม่ยาวมากเพราะแกทำเร็วมาก ส่วนรสชาติก็ ไม่หวานมาก แป้งหนึบ ลูกไม่ใหญ่มาก ใส่เผือกและข้าวโพดด้วย อร่อยแกกก อร่อยอีกแล้ววว 55555

พอเดินๆไปก็ไปเจอลูกชก ที่ป้าเขาโฆษณาว่า 30 ปีมีหนเดียว ราคาถ้วยละ 35 บาท ลองสิค้าบ รออะไร รสชาติก็คล้ายๆลูกตาลเชื่อมเลย ทานแล้วหวานๆรู้สึกสดชื่นดี และอีกเมนูที่ไม่อยากให้พลาดคือ “จิ๊กโก๋ยัดไส้” ซึ่งเคยอ่านเจอในรีวิวว่าถ้ามาแล้วต้องโดน มันจะเป็นคล้ายๆปอเปี้ยสด แต่ใช้แป้งของปาท่องโก๋ ซึ่งก็เช่นเคย อร่อยอีกแล้ววว ราคาชิ้นละ 30 บาท

นอกจากมีของกินทั้งคาวหวานแล้วนั้นนนน ที่ขาดไม่ได้คือ ร้านนั่งชิลลลลลลล

เราเลือกร้าน Mae Nam Mee Kang Guesthouse at Chiangkhan

 เพราะเราอยากกิน Craft Beer 5555 บรรยากาศในร้านไม่แออัดมาก นั่งสบาย เพลงเพราะ ข้างบนของร้านจะเป็นเกสเฮ้าส์

เราก็สั่งมา 2 แบบ เบาๆ ทางร้านน่ารักมาก มีขนมให้กินฟรีด้วย ส่วนพี่เจ้าของก็แนะนำได้ดีมากๆ เฟรนลี่ เดินวนมาชนแก้วกับทุกโต๊ะเลย

เช้าวันที่ 2 เราตื่นนอนกัน 04.30 น. เพื่ออาบน้ำแต่งตัวแบบพื้นเมืองเพื่อตักบาตรข้าวเหนียว พระจะเริ่มทยอยเดินมาทีละวัด เรื่อยๆ และจะมีพี่ที่ขายของตักบาตรคอยบอกตลอดว่า พระจะมาแล้ว พระเหลืออีกกี่วัด ทำให้เราใส่บาตรพระได้เกือบครบทุกรูป

มีพี่ใจดีถ่ายรูปให้อีกแล้วววว

พอตักบาตรเสร็จ เราก็ไปเดินเล่นริมแม่น้ำโขงดูบรรยากาศตอนเช้า บรรยากาศดีไม่แพ้ตอนเย็นเลย

ฮักนะเชียงคาน

Skywalk สกายวอร์คท่าดีหมี อ.เชียงคาน

 จะบอกว่ามันไกลมาแก เราขี่มอเตร์ซ์กัน 20 กม. ละคือเป็นเขา ทรหดมาก งืออออ

พอไปถึงก็ต้องซื้อบัตรเพื่อให้รถพาขึ้นไป ราคาคนละ 20 บาท พอขึ้นไปก็ต้องไปรอต่อคิวเพื่อเดินชมสกายวอร์ค เพราะเขาจะให้เข้าได้เป็นชุดๆ คนจะได้ไม่เยอะจนเกินไป วิวสวยมาก มองเห็นทั้งริม2ฝั่งโขงเลยแต่ก็สูงมากกกก แต่คนที่ไปเที่ยวคือเยอะเพราะเพิ่งเปิดใหม่ เรารอเกือบ2 ชม. อ่ะแกรรร คือบับบบ ไม่ไหวววว 5555