จะไปไหนก็ไปเลย เที่ยวเลยแบบไม่มีรถ...

ดูพระอาทิตย์ตก ชมทะเลหมอก ส่องแสงแรกของวัน กินกันจนพุงกางงง...

สวัสดีค่ะทุกคน กระทู้นี้ เราจะพาทุกคนไปเชียงคานและภูเรือ จ.เลย ซึ่งตอนไปเราตั้งใจว่าจะกลับมาเขียนรีวิว เราจึงจดวิธีที่เราใช้ในการเดินทาง อาหารการกิน รวมถึงค่าใช้จ่ายไว้ค่ะ

ซึ่งเราไปเชียงคาน 2 คืน และภูเรือ 1 คืน ในช่วงวันที่ 16 - 19 พย 2559 ต้องบอกก่อนว่าเราเป็นคนแบบที่เรียกได้ว่า 'กินไม่ยั้งงง' 555++ ไม่รอช้าเรามาเริ่มกันเล้ยยย...


ขึ้นคานเลย [16.11.59]

เราจองตั๋วเครื่องบิน Air Asia ไว้ตั้งแต่ต้นปีค่ะ ราคาตั๋วเครื่องบินไป-กลับ 747฿


เมื่อมาถึงท่าอากาศยานเลย เราก็เดินหารถไป บขส. เพื่อพาทุกท่านไปขึ้นคานกันค๊าาาา...

เดินออกมาจากสนามบินเราจะพบกับรถตู้ไปเชียงคานราคา 250฿ แต่เราอยากนั่งรถชิวๆ เราจึงจะนั่งรถจาก บขส. ไป โดยเราต้องนั่งสามล้อหรือแท็กซี่เพื่อไปขึ้นรถที่ บขส. ค่าสามล้อจากสนามบินไป บขส. 50฿ ต่อคน (และแท็กซี่ 100฿ ต่อเที่ยว)



เมื่อมาถึง บขส.  เราสามารถนั่งรถเมล์หรือสองแถวก็ได้ค่ะ แต่เรายังมีเวลาอีกเยอะ เลยขอนั่งสองแถว ค่าโดยสารสองแถวไปเชียงคาน 35฿ ใช้เวลาชั่วโมงกว่าๆค่ะ บนรถคนค่อนข้างแน่น เลยได้ยืน แต่สนุกดี ตลกตรงที่เราเป็นคนหัวสูงค่ะ หัวเลยติดกับเพดานรถ 555+++


เมื่อถึงเชียงคาน มีพี่สามล้อเดินมาเสนอ ให้นั่งรถสามล้อเข้าไป ราคา 20฿ (เหมือนจะไม่ไกลมาก ตอนแรกคิดว่าจะทำท่าเก่งๆเดินไปที่พัก) แต่ๆๆ เนื่องจากเป็นช่วงเที่ยง อากาศค่อนข้างร้อนจึงตัดสินใจนั่งสามล้อเข้าที่พักค่ะ ล๊าาาๆ


เราพักที่สองผัวเมียเกสเฮ้าส์ 2 คืนเลยค่ะ เลือกที่พักเป็นแบบมีห้องน้ำในตัว ราคาคืนละ 900฿ (ถ้าประหยัดหน่อยเลือกแบบห้องน้ำรวมก็โอเคนะ เพราะจำนวนห้องพักไม่เยอะ) เจ้าของใจดีค่ะ ตกแต่งสวยงาม... (ในห้องน้ำมีหอยทาก 1 ตัวค่ะ น่าเอ็นดูววว...นางมาได้ไงไม่รู้)






มีหลายๆมุมที่น่าถ่ายรูปมากๆ ด้านล่างเป็นร้านกาแฟ หลังบ้านเลี้ยงแมวเหมียวไว้หลายตัวด้วยค่ะ ที่สำคัญมีจักรยานให้ใช้ฟรีด้วยจ้าาา ดีย์งัมมม... แต่สามทุ่มประตูหน้าบ้านจะปิดต้องเข้าประตูหลังบ้าน อิอิ เหมือนเป็นบ้านเราเองเลย เหมือนเวลาดึกแล้ว แม่ล็อกหน้าบ้าน แล้วให้ไปเข้าหลังบ้านยังไงยังงั้น…

ซึ่งช่วงกลางวันเราจะปั่นจักรยานหาร้านนั่งทานจนกว่าพุงจิแตกกก... แล้วช่วงเย็นเราจึงจะเดินทานตามร้านรถเข็นที่ถนนคนเดินริมฝั่งแม่น้ำโขงจนกว่าจิพอใจ...

หลังจากเก็บของในที่พักแล้ว เราปั่นจักรยานคู่ใจ(จักรยานของที่พักซึ่งเราใช้ทุกวันที่อยู่เชียงคานนั่นเอง)


ร้านแม่งามอิ่มอร่อย ค่าเสียหายทั้งหมด 130฿ แจกแจงได้ดังนี้ ข้าวเปียก 50฿ ไข่กระทะ 30฿ โจ้ก 40฿ น้ำ 10฿ อร่อยดีค่ะ บวกกับบรรยากาศดีๆ ริมแม่น้ำโขง




ต่อๆๆ ด้วยของหวาน ที่ร้าน See i 249 เราสั่งเป็นชุดชาร้อนและมาการอง จะบอกว่ามาการอง อร่อยมาก กรอกนอกนุ่มใน กัดเข้าไปแล้วหลับตา โคตรฟิน เป็นรสสัมผัสที่ดีมากกกกก... ควรโดนค่ะมาการองร้านนี้ ส่วนชาร้อนเป็นชาจากฝรั่งเศส หอมค่ะหอมม... ซึ่งชื่อร้านมาจากบ้านเลขที่ 249 แต่พี่เค้ากำลังจะย้ายไปอยู่ กทม. แถววัชรพลแล้วโดยยังคงเป็นบ้านเลขที่ 249 เหมือนเดิม เกร๋ป่ะหล่ะ!!! ค่าเสียหายทั้งหมด 400฿


ยังไม่หยุดเท่านี้ เรามาต่อที่ร้าน With a view และบังเอิญมากกก... พี่คนขายจำได้ค่ะว่าเจอเราบนรถสองแถว สร้างความประทับใจไปอิ๊กก.. เราสั่งเค้กมะตูม 70฿ รสชาติอร่อยแบบไทยๆ ไม่หวานมาก โอเคเลยค่ะ ส่วนเครื่องดื่มเราสั่งลาเต้+วิปครีม 80฿ บรรยากาศริมโขงค่ะ ฟินนน...





ช่วงบ่ายถึงเย็นเราก็ปั่นๆๆ สองขาปั่นๆๆ จักรยานคู่ใจคันเดิมเล่นแถวริมแม่น้ำโขง บรรยากาศตามภาพเลยจ้า...








นี่นี่นี่... ที่พักเราตอนกลางคืน สวยมั้ย...



เมื่อกลางวันยังไม่ทันย่อย ก็มาถึงมื้อเย็น เราเริ่มต้นที่ปาท่องโก๋ยัดไส้ ลุงมุข ไส้ใบเตย 30฿ โคตรอร่อย หอม หวาน มัน ไส้เยอะมาก แย่งกันกินเลย สุโค่ยยยยยยย ต้องซ้ำ...(เบ็ดเสร็จสองวัน เรากินปลาท่องโก๋ลุงมุขไป 6 ชิ้น)



บ้านเปานุ่ม ซาลาเปาหน้าการ์ตูน 20฿


กุ้งน้ำโขงย่าง ไม้ใหญ่ 20฿ ไม้เล็ก 10฿ อร่อยดี มีความกุ้ง อยากกิน 20 ไม้ เพราะชอบกินและไม้เดียวไม่อิ่มค่ะ555++


ส้มตำคำแพง เราสั่งตำป่าด๊องแด๊ง 50฿ อย่างเยอะ อร่อยแซ่บ จะบอกว่ารสชาติดีเว่อร์ สั่งเผ็ดปกติคือกำลังดี ตอนนี้ยังอยากกินอีกเลย แต่ไม่มีโต๊ะให้นั่งค่ะ เราเลยมานั่งกินริมฝั่งโขง ซัดส้มตำกันหมุบหมับๆ ดูพระจันทร์เต็มดวง ที่อุณหภูมิ 23 องศา ตอน 2 ทุ่มเศษ โรแมนติกไหมหล่ะ😜 (และวันที่สองเราก็กินกันอีกรอบค่ะ ตำป่าด๊องแด๊งเหมือนเดิม) ร้านนี้แนะนำเลยค่ะ สำหรับคนแซ่บ ๆ อย่างเราๆ


และปิดท้ายที่โรตีผีตาโขน ไส้กล้วย ไข่ ชีส 50฿ อร่อยยยค่ะ ฟินอีกแย้วววว...