[SR] รีวิว ROG ZEPHYRUS M15 บางเบา I7 GEN10 พร้อม RTX 2060 และหน้าจอ 4K !


 
ROG เดินหน้าลุยตลาดกันอย่างต่อเนื่องและในครั้งนี้มาเป็นทีม intel กันบ้างแน่นอนว่ารุ่นล่าสุดที่เปืดตัวสำหรับ ROG นั้นถือว่ามีหลากหลายรุ่นที่น่าสนใจมากๆครับในการใช้งาน intel Gen10 ครั้งนี้แน่นอนว่าทั้งเรื่องของสเปก อะไรจัดเต็มแน่นอนและมาพร้อมกับประสิทธิภาพที่ดีกว่าเดิมเยอะมากในรุ่นนี้ พร้อมกับในตระกูลที่เราเอามารีวิวนั้นจะเป็น Zephyrus  ที่เน้นเรื่องของความบางเบา พกพาได้ง่าย แต่ยังคงแรงและเล่นเกมลื่นๆอยู่ครับ และ ในตระกูลนี้จะเป็นรุ่น  M15ที่เป็นตัวแรงอีกรุ่นก็ว่าได้ครับมาพร้อมกับสเปก การใช้งานที่จัดเต็มแน่นๆทั้งหน้าจอ ระบบเสียง ลำโพง หรือว่าจะเป็น พอร์ตเชื่อมต่อที่รองรับเยอะมากมาย และ WIFI 6 รวมถึงใช้งาน ซิลิโคนเทพ ที่ใส่เข้ามาของ  แบรนด์ THERMAL GRIZZLY อีกทั้งระบบเสียงใส่  ESS SABRE HIRES เข้ามาด้วยเช่นกันครับ และหน้าจอ 4K UHD 100% SRGB PANTONE VALIDATED ด้วยถือว่าทั้งหน้าจอ ระบบเสียง และ ประสิทธิภาพนั้นโหดอย่างมากครับ
 

 

 

 
ROG ZEPHYRUS M15 นั้นมาพร้อมกับ CPU ตัวล่าสุดของ INTEL ใช้งาน  Intel® Core™ i7-10875H ตัวล่าสุดพร้อมกับใช้งาน การ์ดจอ  NVIDIA® GeForce® RTX 2060 6GB GDDR6 รวมถึงให้ 16GB DDR4 3200MHz SDRAM / เป็น 8GB ONBOARD และ แบบปกติ 8GB นะครับผม ทางด้านความจุให้มาด้วย M.2 NVMe PCIe 3.0 1TB SSD with RAID 0 support   พร้อมกับหน้าจอที่จัดเต็มที่สุดในแง่ของคุณภาพ สูงสุดของสเปกนี้ ขนาด15.6-นิ้ว 4K UHD (3840×2160) IPS-level panel, 60Hz, 100% Adobe RGB, Pantone® Validated ถือว่ามีความแม่นยำสีค่อนข้างสูง ทำงานได้สบาย และ ให้ระบบเสียง ESS SABRE HIRES มาในตัวพร้อมรองรับ 7.1 ด้วยครับ และ ไฟแป้นพิมพ์นั้นให้มาเป็น RGB แต่เสียดายมากๆในไทยนั่นเป็นแค่ 1 Zone RGB นะครับ สีเดียวทั้งหมดไม่สามารถไล่สีได้ ส่วนทางด้านพอร์ตเชื่อมต่อให้มาครบมากๆทั้ง USB-C Thunderbolt 3 และ รองรับการชาร์จไฟเข้าด้วย รวมถึงแถมที่ชาร์จมาให้ 2 แบบเลยในกล่องครับถือว่าล้ำมากๆในจุดนี้ และงานออกแบบ วัสดุแมกนีเซียมอัลลอยทั้งหมดในโครงสร้างภายใน มีความเบาและบางอย่างมากเมื่อเทียบกับ Gaming Notebook ด้วยกันครับ และทางด้านเชื่อมต่อรองรับ WIFI 6+BT5.1 จัดเต็มพอสมควรในเรื่องของสเปกในการใช้งานจริง และ ที่เด่นๆคือเรื่องระบบระบายความร้อนใช้งาน ซิลิโคนพิเศษ THERMAL GRIZZLY มีความเย็นดีขึ้นแบบชัดเจนมาก
 
- ROG ZEPHYRUS M15 ในไทยมาพร้อมกับราคา 69,990 บาท
Windows 10 Home/I7-10875H/DDR4 8GB+8GB[ON BD.]/1TB PCIE SSD/RTX2060/WIFI6/15.6″ 4K UHD 60Hz IPS-level Adobe:100%
 

 

 
UNBOX
 
ตัวกล่องนั้นงานออกแบบอะไรมีความใกล้เคียงกับของเดิมครับ แต่ทางด้านอุปกรณ์ที่ให้มานั้นถือว่าจัดเต็มมากขึ้นเยอะพอสมควรเลยทีเดียว เพราะเราจะเห็นว่ามีที่ชาร์จ Adaptor ให้มาทั้งแบบปกติ และ USB-C ที่เป็นแบบ PD รองรับการชาร์จไฟได้เหมือนกันแต่จะเน้นใช้งานแบบพกพา หรือ จะเน้นใช้งานที่บ้านก็แล้วแต่สะดวกเลยนั้นเองครับ ถือว่าดีมากๆ และขนาดของที่ชาร์จ USB-C ก็มีขนาดเล็กมากๆ เราจะเห็นว่ามีกล้อง WEBCAM ROG EYE มาให้ด้วยสำหรับการใช้งานกล้องเพราะในตัว ROG M15 นั้นไม่มีกล้องมาให้นั้นเอง ถือว่าให้ของมาครบเพียงพอมากๆ
 

 
ROG EYE นั้นเป็นกล้องหน้าเสริมที่ทำออกมาตอบโจทย์คนที่ใช้งาน สตรีมมิ่ง หรือ คุยงายพอสมควรครับเพราะรุ่นนี้ให้มารองรับในความละเอียด 1080P 60fps เลยทีเดียวพร้อมกับมุมมองที่ดี มี Auto Focus รวมถึงมีการเพิ่มแสงสว่างให้ใบหน้าด้วย ถือว่าใช้งานง่ายคุณภาพสูงพอสมควร ปกติจะขายอยู่ที่ราคา 2,790 บาทครับตัวนี้
 

 
DESIGN
 
งานออกแบบนั้นในรุ่นนี้ถือว่าเป็นยุคใหม่ของ ROG ก็ว่าได้ครับเพราะว่าดีไซน์ งานออกแบบมีการเปลี่ยนแปลงชัดเจนโลโก้ข้างหลังไม่มีใหญ่ๆแบบจะเป็นเขียนแบบรุ่น G14 ที่ออกมาแล้วที่เป็นเขียนว่าปีไหน รวมถึงชื่อเต็มพร้อมโลโก้แค่นั้นครับ ถือว่ามีความเรียบหรูมากขึ้นเยอะ ดูดีแต่ก็น่าเสียดายว่าไม่มีไฟข้างหลังแล้วที่เป็นโลโก้ของค่ายนี้ ส่วนน้ำหนักต้องบอกว่าทำได้ดีอย่างมาก เมื่อเทียบกับสเปก และ ความบางเบาของมันรวมถึงการพกพาที่ง่ายมากในรุ่นนี้ ส่วนโครงสร้างวัสดุนั้นเป็นแมกนีเซียมอัลลอยทั้งหมด มีการทำวัสดุแบบด้านรอบเครื่องหุ้มอีกชั้นนึง ทำให้ผิวสัมผัสนั้นดีพอสมควรเลย ฝาหลังก็เล่นลวดลายแบบจุดที่มีสะท้อนแสงสีรุ้งได้ด้วย และ หุ้มด้วยพลาสติกด้านอีกชั้นนึง
 

 

 
ตัวเครื่องในภาพรวมนั้นเราจะเห็นว่า ดีไซน์ตัวโมเดลนั้นยังคงดีไซน์เหมือนกับตระกูล  Zephyrus รุ่นอื่นๆครับทั้งโครงทรงถ้ามองผ่านๆแต่ในรุ่นนี้จะแตกต่างกันที่วัสดุ และ ฝาหลังที่มีการเปลี่ยนแปลงแบบชัดเจน ทำให้เรื่องของน้ำหนัก การพกพานั้นยังคงเด่นและทำได้ดีเมื่อเทียบกับ Gaming Notebook ทั่วๆไปนั้นรุ่นนี้จะทำได้เบาเบางมากแบบชัดเจน ฝาหลังนั้นจะเป็นเล่นแสงสีสวยงามเวลาเจอแสงแดดลาย Dot สวยงามอย่างมาก จะเป็นลวดลายแบบเฉียงที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์พร้อมกับการหุ้มด้วยพลาสติดขุ่นอีกชั้นทำให้มันมีความนุ่มนวลเวลาเจอแสง และในด้านในนั้นเราจะเห็นการออกแบบที่คล้ายกับรุ่นก่อนๆจุดนี้ไม่ได้แตกต่างกันกับตัวอื่นๆเท่าไรนักครับ
 

 

 

 
ฝาหลังนั้นจะเป็นจุดที่เปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนที่สุดก็ว่าได้เ ราจะเห็นว่ายังคงมีเอกลักษณ์ของค่ายได้ดี คือเส้นแนวทแยงต่างๆจะเห็นว่าพื้นผิววัสดุนั้นจะเป็นแบบจุดๆที่มีเล่นแสงสวยงามพอสมควร ส่วนอีกฝั่งนั้นเราจะเห็นว่าเป็นสีเทาด้านปกติ จะหุ้มด้วยพลาสติกแบบขุ่นอีกชั้นนึงครับถือว่าทำให้มันดูซอฟท์ลงพอสมควร และทางด้านโลโก้นั้นเราจะเห็นว่าเป็นแบบใหม่ ที่มีโลโก้  ROG และเขียนชื่อเต็มรวมถึงปีที่ก่อตั้งด้วย จริงๆนั้นแอบชอบแบบนี้มากกว่าแบบเดิมเยอะเลยทีเดียวครับแต่การที่เราหุ้มนั้นจะเป็นพลาสติกขุ่นด้านนอก ทำให้มันเป็นรอยได้ง่ายพอสมควรเวลาใช้งานพวกนี้
 

 

 

 
ฝาหลังนั้นเป็นวัสดุโลหะทั้งหมด เราจะเห็นว่ามีช่องระบายความร้อนค่อนข้างเยอะในส่วนนี้ทั้งด้านบน ซ้ายขวา และ ตรงกลาง และแน่นอนว่าลำโพงจะอยู่ส่วนมุมด้านหน้าของเครื่องทั้งหมด ซ้ายขวา และยังมีช่องระบายตอบขอบเครื่องด้านหลัง และ ซ้ายขวา ครับ เมื่อเปิดเข้ามาข้างใน จะเห็นว่าเมนบอร์ดนั้นมีการออกแบบอะไรที่ค่อนข้างดี พัดลมระบายซ้ายขวา พร้อมกับ   Heat pipe  ทั้งหมด 6 เส้นจัดเต็มพอสมควรเลย แต่ทางด้านการอัพเกรดนั้นเราจะเห็นว่ารองรับ  SSD M.2 อีก 1 ช่องเปล่าสามารถอัพเกรดได้ และ ทางด้าน RAM นั้นจะเป็น Onboard  ที่มีมาให้ 8GB และ ใส่มาให้อีก 8GB หรือการรองรับเพิ่มได้อีกสูงสุด 16GB ที่สามารถเพิ่มได้นั้นเองครับ ก็ถือว่ายังรองรับได้ดี
 

 

 
หน้าจอนั้นจะมาพร้อมกับความละเอียดสูง 4K ที่รองรับ UHD และ ความแม่นยำของสีค่อนข้างสูงคือ sRGB 100% พร้อมกับ รองรับ Pantone การันตีความแม่นยำอีกทีทางด้านหน้าจอนั้นเน้นในเรื่อง ของคุณภาพความแม่นยำสีอย่างมากจึงทำให้ไม่ได้เน้นในเรื่องของ Refresh Rate เท่าไรนักตัวนี้จึงรองรับสูงสุดที่  60Hz เท่านั้นแต่การออกแบบขอบหน้าจออะไรนั้นถือว่ามีความบางพอสมควร และแน่นอนว่าตัวหน้าจอไม่มีกล้อง Webcam มาให้เช่นเดิมเลย
 

 

 

 
งานออกแบบส่วนอื่นๆในด้านในนั้นจะยังคงงานออกแบบเดิมอยู่ครับ ไม่ได้แตกต่างจากเดิมเท่าไร ส่วนทางด้านปุ่มพิเศษ 4 ปุ่มยังคงวางตำแหน่งไว้ด้านบนใช้งานได้สะดวกเช่นเดิมในการทำงาน หรือเล่นเกม สตรีมมิ่งต่างๆ และในด้านขวานั้นจะเป็นปุ่ม Power ครับพร้อมกับงานออกแบบพื้นผิวที่แตกต่างกันในส่วนนั้น และขาพับของรุ่นนี้ยังคงกางได้ไม่มากนัก แต่มีความแข็งแรงพอสมควร แต่ไม่ได้มีการยกตัวเครื่องอะไรเป็นปกติของตระกูลนี้ถือว่าทำได้ดีเลย
 

 

 
ROG EYE นั้นเป็นกล้อง Webcam ที่ขายแยกครับแต่ในรุ่นนี้ให้มาในกล่องด้วยทำให้รองรับการใช้งานทั้งการคุยงาน หรือจะเป็นการสตรีมมิ่งเกม ก็รองรับสเปกนั้นจะรองรับที่ FHD 60FPS รองรับการใช้งาน Autofocus และรองรับการเพิ่มแสงสว่างให้ใบหน้าด้วย เชื่อมต่อผ่าน Micro-USB เสียบแล้วใช้งานได้เลยครับส่วนการติดตั้งรองรับการหนีบบนหน้าจอ หรือตั้งแยกก็ได้ทั้งหมด เพื่อการปรับมุมมองต่างๆที่ไม่ต้องยึดกับบนหน้าจออย่างเดียวด้วยรุ่นนี้
 

 

 

 
ตัวกล้องนั้นจะเป็นงานออกแบบสี่เหลี่ยมเรียบๆ ไม่ได้มีอะไรมากแต่ยังคงเอกลักษณ์ของค่ายไว้นิดหน่อยด้านหน้านั้นจะเป็นกล้องหลัก พร้อมไมค์ 2 ตัว และ ไฟ LED แสดงสถานะว่าใช้งานอยู่ พร้อมดีไซน์ด้านหน้าแบบกระจกเรียบส่วนด้านข้างเราจะเห็นว่ามันสามารถกางออกมาได้เยอะ และ ปรับมุมได้อีกเช่นกันครับว่าจะเอียงก้มลมมากน้อยแค่ไหนส่วนด้านหลังยังคงดีไซน์สวยงาม พร้อมกับใส่โลโก้มาให้มุมซ้ายของกล้อง และตรงกลางเป็นที่ชาร์จ Micro-USB
 

 

 
ในการใช้งานจริงนั้นจะสามารถใช้งานได้ 2 แบบสามารถตั้งข้างนอกได้โดยมีขาตั้งมาให้ที่เป็นวัสดุโลหะ มีน้ำหนักพอสมควรสามารถเสียบ และ ปรับมุมได้หลากหลาย ตั้งได้ว่าเราจะเอาตำแหน่งไหนของตัวกล้องมุมกล้องต่างๆ อีกทั้งมีที่ยึดที่แข็งแรง และไม่เลื่อนได้ง่ายถือว่าเป็นวัสดุที่ดีมากๆในตัวขาตั้งและกล้อง หรือถ้าไม่อยากตั้งนั้นจะสามารถหนีบไว้กับตัวหน้าจอตัว ROG ได้เลยครับ และ หนีบจะกิ๊บตรงขอบหน้าจอพอดี และยังคงสามารถปรับมุมได้ปกติ ส่วนที่หนีบกับมุมนั้นจะแตกต่างกัน ส่วนขนาดนั้นใหญ่พอสมควรแต่ก็ไม่ได้กินเข้ามาพื้นที่ตรงหน้าจอไม่เกะกะ
 
ชื่อสินค้า:   ROG ZEPHYRUS M15
คะแนน:     

SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - ได้รับสินค้ามาใช้รีวิวฟรี โดยต้องคืนสินค้าให้เจ้าของสินค้า
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่