ROG เป็นค่ายที่พัฒนาในนวัตกรรมใหม่ๆอยู่เสมอ และในครั้งนี้ได้เปิดตัว ROG ZEPHYRUS DUO ซึ่งเป็นนวัตกรรมล่าสุดของทางค่ายที่มาพร้อมกับ หน้าจอ 2 หน้าจอ จริงๆแล้วนั้นเราจะเห็นว่าทาง ASUS พัฒนาในเรื่องของการออกแบบ 2 หน้าจอมาเรื่อยๆ ทั้งที่เราคุ้นเคยกันในตระกูล Zenbook Pro Duo ในรุ่นก่อนๆและในครั้งนี้ได้จับมาใส่ในรุ่นเทพสายเกม ทำให้ในการใช้งานนั้นต้องบอกว่าได้ประโยชน์และใช้งานได้จริงแน่นอนสำหรับตัวนี้ มีการพัฒนาให้มีการยกหน้าจอขึ้นมาพร้อมกับรองรับฟีเจอร์สายเกมได้ดีมาก ขึ้นรวมถึงรองรับระบบสัมผัสได้ด้วย ทางด้านสเปกนั้นถือว่าจัดเต็มพอสมควรทั้งใช้งาน intel gen10 พร้อมกับ RTX 2070 รวมถึงงานประกอบอะไรที่เทพเหมือนเดิม พร้อมทั้งระบบเสียงลำโพง 4W และ รองรับ Hi-Res ด้วยเช่นกันในหูฟัง และหน้าจอ FHD 15.6” มาพร้อมกับ รีเฟรชเรทมากถึง 300Hz รองรับการใช้งานทำงานได้สบายรวมถึงเล่นเกมด้วยเช่นกัน
ทางด้านสเปกในตัว ZEPHYRUS DUO นั้นมาพร้อมกับ 2 รุ่นย่อยที่จะแตกต่างกันในเรื่องของสเปก i7 i9 และ RTX 2070 , 2080 Super รวมถึงหน้าจอ 4K และ RAM32GB ก็แตกต่างกัน ส่วนรุ่นที่เรารีวิวนี้จะเป็นรุ่นเริ่มต้นของ Zephyrus Duo ทำให้มันมาพร้อมกับ Intel i7-10875H และใช้งานการ์ดจอ NVIDIA® GeForce® RTX 2070 SUPER™ 8GB GDDR6 VRAM มาพร้อมกับ 16GB on board memory DDR4 3200 และทางด้านความจุให้มากับ 1TB M.2 NVMe™ PCIe® 3.0 Performance SSD ที่เร็วแรงมากๆ อีกทั้งเรื่องของหน้าจอตัวนี้จะใช้งาน FHD แต่ได้ 300Hz เลยทีเดียวมาพร้อมกับสเปก ขนาด 15.6-นิ้ว, หน้าจอด้าน Full HD (1920 x 1080), IPS panel 300Hz/3ms, 100% sRGB, Pantone® Validated, G-SYNC™ with 14.1-inch (3840 x 1100) ระบบสัมผัสในจอเล็ก ส่วนทางด้านลำโพงให้มาเต็มๆ 4W 2 ตัวและรองรับระบบเสียง Hi-Res ใช้ชิพเสียง ESS เช่นเดิมในการฟังเพลงต่างๆผ่านทางหูฟัง
ทางด้านราคา รุ่นที่เรารีวิวนั้นจะเป็น GX550LWS-HF062T (Gunmetal Gray)
Windows 10 Home/i7-10875H/RTX™ 2070 Max-Q 8GB GDDR6/DDR4 16GB/1TB M.2 NVMe™ PCIe® 3.0 SSD/MCAFEE 1YR/15.6” FHD 300Hz
ราคา 109,990.- บาท
ส่วนรุ่นท็อปสุดนั้นจะเป็น GX550LXS-HC060T (Gunmetal Gray)
Windows 10 Home/i9-10980HK/RTX™ 2080 Max-Q 8GB GDDR6/DDR4 16GB 3200 + 16GB[ON BD.]/1TB + 1TB M.2 NVMe™ PCIe® 3.0 RAID0 SSD/MCAFEE 1YR/15.6” 4K UHD 60Hz
ราคา 149,990.- บาท
UNBOX
ตัวกล่องนั้นมีการออกแบบสวยงามและแปลกตา การเปิด/ปิดของตัวกล่องนั้นสวยงามเลยทีเดียวยังคงเอกลักษณ์สวยงามเปิดแบบแบ่งครึ่งครับส่วนทางด้านอุปกรณ์ในกล่องนั้นให้มาพร้อมใช้งาน ชอบที่ทาง ROG ให้มาทั้งที่ชาร์จแบบ DC in ทั่วไปรองรับ 240W และที่ชาร์จ USB-C สำหรับการพกพาข้างนอก 65W ถือว่าตอบโจทย์มากๆ
- ตัวเครื่อง ROG ZEPHYRUS DUO
- ที่ชาร์จ USB-C PD 65W
- ที่ชาร์จ DC IN 240W
- ตัวกล้อง ROG EYE WEBCAM FHD60FPS
- ที่รองวางมือแบบยาง
- คู่มือ และ การใช้งานต่างๆ
DESIGN
งานออกแบบทางด้าน ROG Zephyrus Duo ยังคงมีการออกแบบที่มีกลิ่นอายจาก Zephyrus รุ่นก่อนๆหรือตระกูล S ของค่ายที่จะดับคีย์บอร์ดมาข้างล่างสุดนั้นเอง แต่ครั้งนี้มีการเปลี่ยนแปลงขยายให้เต็มพื้นที่มากขึ้นและเอาหน้าจอแบบยกระดับได้ใส่เข้ามาแทนในส่วนด้านบนทำให้เป็นรุ่นแรกที่มีการใส่หน้าจอ 2 ตัวเข้ามาในตระกูลนี้รวมถึงเป็นการพัฒนาต่อเนื่องจากรุ่น Zenbook Pro Duo ที่มีการออกแบบคล้ายๆกันครับและครั้งนี้หน้าจอยกขึ้นมาทำให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น ลดแสงสะท้อน รวมถึงวัสดุงานออกแบบมีความสวยงามและแข็งแรงเช่นเดิมของตระกูลนี้ และทางด้านน้ำหนักนั้นจะมีน้ำหนัก 2.4 kg ครับถือว่าในการพกพาไปไหนมาไหนบ่อยๆนั้นอาจจะเป็นข้อจำกัดนิดหน่อย
งานออกแบบทางด้านฝาหลังนั้นยังคงเส้นสายแนวเฉียงที่เป็นเอกลักษณ์ของค่ายอยู่เช่นเดิมแต่ครั้งนี้มาพร้อมกับวัสดุทำจากโลหะผสมแม็กนีเซียม-อลูมิเนียม ถือว่ามีทั้งเรื่องของความแข็งแรงและการใช้งานรวมถึงเวลาสัมผัสนั้นดูดีด้วยเช่นกันครับฝาหลังนั้นจะออกสีเทาฟ้าๆนิดหน่อยพอสวยงามและมีเส้นพาดเฉียงนิดๆให้เป็นเอกลักษณ์พร้อมกับโลโก้ ROG สีโครมเมี่ยม แต่ด้านหลังนั้นจะไม่มีไฟอะไรนะครับแอบน่าเสียดายนิดหน่อย ส่วนด้านหน้าจอขอบบางสวยงามพร้อมกับจอที่ 2 และกล้องหน้าจริงๆมีให้มาแยกนะครับแต่ก็เป็น ROG EYE แบบที่เราเคยเห็นกันไปในรุ่นอื่นๆครับ
ขอบหน้าจอยังคงทำได้บางเช่นเดิมทั้งขอบด้านบนและขอบด้านล่างครับและการที่ตัดกล้องหน้าออกไปนั้นทำให้ขอบด้านบนมีความบางมากๆจนเท่ากันทั้งหมดในขอบซ้ายขวาและขอบด้านบนจึงทำให้ดีไซน์ดูทันสมัยและสวยงามที่สุด อีกทั้งขอบด้านล่างนั้นยังคงมีความหนาเพราะต้องให้พอดีกับตัวเครื่องและมีพื้นที่ในการจัดวางอะไรต่างๆของระบบครับ แต่การที่ตัดกล้องหน้าออกไปถือว่าดี เพราะกล้องหน้าที่ให้มามีคุณภาพสูง FHD 60FPS และมีตัวช่วยอะไรเยอะแยะสามารถใช้งานได้จริงมากกว่ากล้องแบบติดมากับเครื่องเยอะมาก ใครที่เน้นใช้กล้องก็ไม่ต้องหาซื้อเพิ่มเลยครับ
ฝาส่วนของฐานนั้นจะไม่สามารถอัพเกรดอะไรได้มากนัก ส่วนการแกะต้องใช้งานหัวเฉพาะครับและแน่นอนว่าในส่วนข้างในนั้นจะเป็น RAM 16GB Onboard มาให้เลยพร้อมกับ M.2 SSD มาให้ใช้งาน จะเห็นว่าฝาฐานนั้นสวยงามพอสมควรมีการเขียนชื่อรุ่นและช่องระบายอากาศที่แปลกตาเล่นกับรูปทรงอะไรสวยงามช่องระบายต่างๆนั้นจะจัดวางตามตำแหน่งพัดลมคู่ด้านหลังและยิงออกด้านขอบเครื่องทั้งด้านหลังและด้านข้างพร้อมกันทั้งหมด 4 ทิศทางครับถือว่าจัดเต็มพอสมควรเลยแหละ และการยกขึ้นของตัวฐานที่วางยางรองต่างๆนั้นมีขนาดใหญ่และสูงพอสมควรเลย
วัสดุสวยงามในทั้งตัวเครื่องเพราะใช้งาน โลหะผสมกับแม็กนีเซียม-อลูมิเนียมทำให้การขึ้นรูปวัสดุการเก็บงานรวมถึงผิวสัมผัสอะไรนั้นมีความสวยงามากๆในการใช้งานจริง ดีเทลต่างๆเก็บออกมาได้สวยงามมากครับและโทนสีจะออกเทาๆฟ้าๆเล่นกับแสงได้ดีอยู่พอสมควรสวยงามและมีการตัดกับโครมเมี่ยมนิดๆทำให้ดูไม่เรียบมากเกินไปด้วยเช่นกัน
การออกแบบขาพับหน้าจออะไรต่างๆนั้นถือว่ามีการออกแบบมุมอะไรให้มีความแข็งแรงรองรับกับหน้าจอได้ดีและยังเป็นส่วนของกลไกในการพับหน้าจอที่ 2 ด้วยเช่นกันจึงจะเห็นว่ามีการออกแบบที่แข็งแรงมากๆในส่วนนี้ครับ และในขอบฝาหลังนั้นจะยังคงมีความเว้าที่เป็นเอกลักษณ์ของค่ายอยู่พอสมควรช่วยในการระบายอากาศและบอกไฟสถานะเวลาพับฝาได้ด้วยจะเห็น 3 ตำแหน่งปกติพื้นฐานครับ
ทางด้านแป้นพิมพ์ที่มีการย้ายลงมาทำให้เราคุ้นเคยไปนึกถึง ROG Zephyrus S ในรุ่นก่อนๆพร้อมกับมีหน้าจอที่ 2 มาแทนในส่วนด้านบนครับจริงๆถือว่าปรับตัวอะไรไม่ยากถ้าหากเคยใช้งานรุ่นพวกนั้นมาก่อน แต่ถ้าใครมาใช้งานครั้งแรกนั้นจะไม่มีที่วางมือก็อาจจะต้องปรับตัวกันพอสมควรและเมื่อยมืออยู่บ้าง ส่วนวัสดุข้างในก็เป็นสีเดียวกับภาพรวมทั้งหมดสวยงามพอสมควรเลยแหละขึ้นรูปชิ้นเดียวกันเน้นๆครับ และ Touchpad ให้มามุมขวาพร้อมกับตัวเลข
กลไกการยกของหน้าจอที่ 2 นั้นยกขึ้นมาสวยงามและใช้งานได้จริงเพราะในรุ่นก่อนหน้าจอมันจะเป็นแบบเรียบๆในรุ่น Zenbook Duo อาจจะทำให้เจอแสงสะท้อนได้ง่ายแต่ในรุ่นนี้มีการพัฒนาเพื่อหลบจุดนั้นได้ดีมากๆการยกกลไกนั้นจะเป็นส่วนเดียวกับเวลาเราเปิดหน้าจอใช้งานครั้บมันจะยกขึ้นตามองศาหน้าจอหลักและสุดที่ตำแหน่งแบบในภาพครับ ถือว่ามีความแข็งแรงพอสมควรและสามารถออกแบบให้หลบซ่อนได้ดีเวลาพับไปแล้ว แต่ข้อระวังหรือข้อสังเกตคือจะมีฝุ่นเข้าไปส่วนที่พับได้ง่ายมากๆในช่องว่างตรงที่ยกขึ้นมา อาจจะต้องเป่าลมกันบ่อยๆ แต่ฝุ่นนั้นจะไม่ลงไปข้างในระบบ บอร์ดแน่ๆเพราะตรงพัดลมจะเห็นมีตระแกรงฟิลเตอร์กันฝุ่นอยู่ด้วยนั้นเองกลมๆข้างในส่วนนั้นครับ
ROG EYE นั้นยังคงให้มาเพราะว่าในรุ่นนี้ไม่มีกล้อง Webcam มาให้ทำให้ต้องใช้ตัวนี้มาแทนครับ แต่ส่วนตัวแล้วถือว่าให้มาแบบนี้ถือว่าดีกว่าเพราะว่าในการใช้งานจริง คุณภาพดีกว่ากล้องติดหน้าจอเยอะมากๆและใช้งานได้จริงเอาไปทำงาน สตรีมเกมได้ทันที จัดมุมมองได้ แตกต่างกับกล้องติดหน้าจอทั่วไปเยอะส่วนนี้ถือว่าดีครับ และทางด้านที่รองมือนั้นให้มาด้วยครับในการใช้งานเพราะว่าการออกแบบแบบนี้ทำให้วางมือลำบากเวลาพิมพ์ใช้งานด้วยเช่นกัน แต่ที่วางนั้นแอบสั้นไปนิดหน่อยในการใช้งานจริงแต่ก็มีความนุ่มเพราะเป็นวัสดุแบบยางกำลังดีสีเดียวกับตัวเครื่อง
SPEC
- Intel® Core™ i7-10875H
- NVIDIA® GeForce® RTX 2070 SUPER™ 8GB GDDR6 VRAM (Boost Clock: 1390MHz, 90W)
- RAM 16GB on board memory DDR4 3200
- 1TB M.2 NVMe™ PCIe® 3.0 Performance SSD
- หน้าจอ ขนาด 15.6-inch, Non-glare Full HD (1920 x 1080), IPS panel 300Hz/3ms, 100% sRGB, Pantone® Validated, G-SYNC™
- หน้าจอที่ 2 ขนาด 14.1-inch (3840 x 1100) touchscreen
- แป้นพิมพ์ Backlit chiclet keyboard พร้อม Per-key RGB lighting ระยะ 1.4mm travel distance N key rollover
- ลำโพง 2 ตัว x 4W speakers with Smart AMP technology ชิพเสียง ESS, High-res certified และ Array Microphone
1 x USB 3.2 Gen 2 Type C with DisplayPort™ 1.4, Thunderbolt™ 3 and Power Delivery
2 x USB 3.2 Gen 1 Type A
1 x USB 3.2 Gen 2 Type A
1 x HDMI 2.0b
1 x 3.5mm Microphone-in jack
1 x 3.5mm Microphone-in/Headphone-out jack
1 x RJ45
- 240W Power Adaptor พร้อมรองรับการชาร์จ Support Type-C PD 3.0 up to 65W
- Intel® Wi-Fi 6 with Gig+ performance (802.11ax) // Bluetooth 5.0
- Width: 36.0cm Depth: 26.8cm Height: 2.0cm น้ำหนัก 2.4 kg
[SR] รีวิว ROG ZEPHYRUS DUO 15 โน๊ตบุ๊ค 2 จอ 300HZ พร้อม I7+RTX 2070 ในราคา 109K !
ROG เป็นค่ายที่พัฒนาในนวัตกรรมใหม่ๆอยู่เสมอ และในครั้งนี้ได้เปิดตัว ROG ZEPHYRUS DUO ซึ่งเป็นนวัตกรรมล่าสุดของทางค่ายที่มาพร้อมกับ หน้าจอ 2 หน้าจอ จริงๆแล้วนั้นเราจะเห็นว่าทาง ASUS พัฒนาในเรื่องของการออกแบบ 2 หน้าจอมาเรื่อยๆ ทั้งที่เราคุ้นเคยกันในตระกูล Zenbook Pro Duo ในรุ่นก่อนๆและในครั้งนี้ได้จับมาใส่ในรุ่นเทพสายเกม ทำให้ในการใช้งานนั้นต้องบอกว่าได้ประโยชน์และใช้งานได้จริงแน่นอนสำหรับตัวนี้ มีการพัฒนาให้มีการยกหน้าจอขึ้นมาพร้อมกับรองรับฟีเจอร์สายเกมได้ดีมาก ขึ้นรวมถึงรองรับระบบสัมผัสได้ด้วย ทางด้านสเปกนั้นถือว่าจัดเต็มพอสมควรทั้งใช้งาน intel gen10 พร้อมกับ RTX 2070 รวมถึงงานประกอบอะไรที่เทพเหมือนเดิม พร้อมทั้งระบบเสียงลำโพง 4W และ รองรับ Hi-Res ด้วยเช่นกันในหูฟัง และหน้าจอ FHD 15.6” มาพร้อมกับ รีเฟรชเรทมากถึง 300Hz รองรับการใช้งานทำงานได้สบายรวมถึงเล่นเกมด้วยเช่นกัน
ทางด้านสเปกในตัว ZEPHYRUS DUO นั้นมาพร้อมกับ 2 รุ่นย่อยที่จะแตกต่างกันในเรื่องของสเปก i7 i9 และ RTX 2070 , 2080 Super รวมถึงหน้าจอ 4K และ RAM32GB ก็แตกต่างกัน ส่วนรุ่นที่เรารีวิวนี้จะเป็นรุ่นเริ่มต้นของ Zephyrus Duo ทำให้มันมาพร้อมกับ Intel i7-10875H และใช้งานการ์ดจอ NVIDIA® GeForce® RTX 2070 SUPER™ 8GB GDDR6 VRAM มาพร้อมกับ 16GB on board memory DDR4 3200 และทางด้านความจุให้มากับ 1TB M.2 NVMe™ PCIe® 3.0 Performance SSD ที่เร็วแรงมากๆ อีกทั้งเรื่องของหน้าจอตัวนี้จะใช้งาน FHD แต่ได้ 300Hz เลยทีเดียวมาพร้อมกับสเปก ขนาด 15.6-นิ้ว, หน้าจอด้าน Full HD (1920 x 1080), IPS panel 300Hz/3ms, 100% sRGB, Pantone® Validated, G-SYNC™ with 14.1-inch (3840 x 1100) ระบบสัมผัสในจอเล็ก ส่วนทางด้านลำโพงให้มาเต็มๆ 4W 2 ตัวและรองรับระบบเสียง Hi-Res ใช้ชิพเสียง ESS เช่นเดิมในการฟังเพลงต่างๆผ่านทางหูฟัง
ทางด้านราคา รุ่นที่เรารีวิวนั้นจะเป็น GX550LWS-HF062T (Gunmetal Gray)
Windows 10 Home/i7-10875H/RTX™ 2070 Max-Q 8GB GDDR6/DDR4 16GB/1TB M.2 NVMe™ PCIe® 3.0 SSD/MCAFEE 1YR/15.6” FHD 300Hz
ราคา 109,990.- บาท
ส่วนรุ่นท็อปสุดนั้นจะเป็น GX550LXS-HC060T (Gunmetal Gray)
Windows 10 Home/i9-10980HK/RTX™ 2080 Max-Q 8GB GDDR6/DDR4 16GB 3200 + 16GB[ON BD.]/1TB + 1TB M.2 NVMe™ PCIe® 3.0 RAID0 SSD/MCAFEE 1YR/15.6” 4K UHD 60Hz
ราคา 149,990.- บาท
UNBOX
ตัวกล่องนั้นมีการออกแบบสวยงามและแปลกตา การเปิด/ปิดของตัวกล่องนั้นสวยงามเลยทีเดียวยังคงเอกลักษณ์สวยงามเปิดแบบแบ่งครึ่งครับส่วนทางด้านอุปกรณ์ในกล่องนั้นให้มาพร้อมใช้งาน ชอบที่ทาง ROG ให้มาทั้งที่ชาร์จแบบ DC in ทั่วไปรองรับ 240W และที่ชาร์จ USB-C สำหรับการพกพาข้างนอก 65W ถือว่าตอบโจทย์มากๆ
- ตัวเครื่อง ROG ZEPHYRUS DUO
- ที่ชาร์จ USB-C PD 65W
- ที่ชาร์จ DC IN 240W
- ตัวกล้อง ROG EYE WEBCAM FHD60FPS
- ที่รองวางมือแบบยาง
- คู่มือ และ การใช้งานต่างๆ
DESIGN
งานออกแบบทางด้าน ROG Zephyrus Duo ยังคงมีการออกแบบที่มีกลิ่นอายจาก Zephyrus รุ่นก่อนๆหรือตระกูล S ของค่ายที่จะดับคีย์บอร์ดมาข้างล่างสุดนั้นเอง แต่ครั้งนี้มีการเปลี่ยนแปลงขยายให้เต็มพื้นที่มากขึ้นและเอาหน้าจอแบบยกระดับได้ใส่เข้ามาแทนในส่วนด้านบนทำให้เป็นรุ่นแรกที่มีการใส่หน้าจอ 2 ตัวเข้ามาในตระกูลนี้รวมถึงเป็นการพัฒนาต่อเนื่องจากรุ่น Zenbook Pro Duo ที่มีการออกแบบคล้ายๆกันครับและครั้งนี้หน้าจอยกขึ้นมาทำให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น ลดแสงสะท้อน รวมถึงวัสดุงานออกแบบมีความสวยงามและแข็งแรงเช่นเดิมของตระกูลนี้ และทางด้านน้ำหนักนั้นจะมีน้ำหนัก 2.4 kg ครับถือว่าในการพกพาไปไหนมาไหนบ่อยๆนั้นอาจจะเป็นข้อจำกัดนิดหน่อย
งานออกแบบทางด้านฝาหลังนั้นยังคงเส้นสายแนวเฉียงที่เป็นเอกลักษณ์ของค่ายอยู่เช่นเดิมแต่ครั้งนี้มาพร้อมกับวัสดุทำจากโลหะผสมแม็กนีเซียม-อลูมิเนียม ถือว่ามีทั้งเรื่องของความแข็งแรงและการใช้งานรวมถึงเวลาสัมผัสนั้นดูดีด้วยเช่นกันครับฝาหลังนั้นจะออกสีเทาฟ้าๆนิดหน่อยพอสวยงามและมีเส้นพาดเฉียงนิดๆให้เป็นเอกลักษณ์พร้อมกับโลโก้ ROG สีโครมเมี่ยม แต่ด้านหลังนั้นจะไม่มีไฟอะไรนะครับแอบน่าเสียดายนิดหน่อย ส่วนด้านหน้าจอขอบบางสวยงามพร้อมกับจอที่ 2 และกล้องหน้าจริงๆมีให้มาแยกนะครับแต่ก็เป็น ROG EYE แบบที่เราเคยเห็นกันไปในรุ่นอื่นๆครับ
ขอบหน้าจอยังคงทำได้บางเช่นเดิมทั้งขอบด้านบนและขอบด้านล่างครับและการที่ตัดกล้องหน้าออกไปนั้นทำให้ขอบด้านบนมีความบางมากๆจนเท่ากันทั้งหมดในขอบซ้ายขวาและขอบด้านบนจึงทำให้ดีไซน์ดูทันสมัยและสวยงามที่สุด อีกทั้งขอบด้านล่างนั้นยังคงมีความหนาเพราะต้องให้พอดีกับตัวเครื่องและมีพื้นที่ในการจัดวางอะไรต่างๆของระบบครับ แต่การที่ตัดกล้องหน้าออกไปถือว่าดี เพราะกล้องหน้าที่ให้มามีคุณภาพสูง FHD 60FPS และมีตัวช่วยอะไรเยอะแยะสามารถใช้งานได้จริงมากกว่ากล้องแบบติดมากับเครื่องเยอะมาก ใครที่เน้นใช้กล้องก็ไม่ต้องหาซื้อเพิ่มเลยครับ
ฝาส่วนของฐานนั้นจะไม่สามารถอัพเกรดอะไรได้มากนัก ส่วนการแกะต้องใช้งานหัวเฉพาะครับและแน่นอนว่าในส่วนข้างในนั้นจะเป็น RAM 16GB Onboard มาให้เลยพร้อมกับ M.2 SSD มาให้ใช้งาน จะเห็นว่าฝาฐานนั้นสวยงามพอสมควรมีการเขียนชื่อรุ่นและช่องระบายอากาศที่แปลกตาเล่นกับรูปทรงอะไรสวยงามช่องระบายต่างๆนั้นจะจัดวางตามตำแหน่งพัดลมคู่ด้านหลังและยิงออกด้านขอบเครื่องทั้งด้านหลังและด้านข้างพร้อมกันทั้งหมด 4 ทิศทางครับถือว่าจัดเต็มพอสมควรเลยแหละ และการยกขึ้นของตัวฐานที่วางยางรองต่างๆนั้นมีขนาดใหญ่และสูงพอสมควรเลย
วัสดุสวยงามในทั้งตัวเครื่องเพราะใช้งาน โลหะผสมกับแม็กนีเซียม-อลูมิเนียมทำให้การขึ้นรูปวัสดุการเก็บงานรวมถึงผิวสัมผัสอะไรนั้นมีความสวยงามากๆในการใช้งานจริง ดีเทลต่างๆเก็บออกมาได้สวยงามมากครับและโทนสีจะออกเทาๆฟ้าๆเล่นกับแสงได้ดีอยู่พอสมควรสวยงามและมีการตัดกับโครมเมี่ยมนิดๆทำให้ดูไม่เรียบมากเกินไปด้วยเช่นกัน
การออกแบบขาพับหน้าจออะไรต่างๆนั้นถือว่ามีการออกแบบมุมอะไรให้มีความแข็งแรงรองรับกับหน้าจอได้ดีและยังเป็นส่วนของกลไกในการพับหน้าจอที่ 2 ด้วยเช่นกันจึงจะเห็นว่ามีการออกแบบที่แข็งแรงมากๆในส่วนนี้ครับ และในขอบฝาหลังนั้นจะยังคงมีความเว้าที่เป็นเอกลักษณ์ของค่ายอยู่พอสมควรช่วยในการระบายอากาศและบอกไฟสถานะเวลาพับฝาได้ด้วยจะเห็น 3 ตำแหน่งปกติพื้นฐานครับ
ทางด้านแป้นพิมพ์ที่มีการย้ายลงมาทำให้เราคุ้นเคยไปนึกถึง ROG Zephyrus S ในรุ่นก่อนๆพร้อมกับมีหน้าจอที่ 2 มาแทนในส่วนด้านบนครับจริงๆถือว่าปรับตัวอะไรไม่ยากถ้าหากเคยใช้งานรุ่นพวกนั้นมาก่อน แต่ถ้าใครมาใช้งานครั้งแรกนั้นจะไม่มีที่วางมือก็อาจจะต้องปรับตัวกันพอสมควรและเมื่อยมืออยู่บ้าง ส่วนวัสดุข้างในก็เป็นสีเดียวกับภาพรวมทั้งหมดสวยงามพอสมควรเลยแหละขึ้นรูปชิ้นเดียวกันเน้นๆครับ และ Touchpad ให้มามุมขวาพร้อมกับตัวเลข
กลไกการยกของหน้าจอที่ 2 นั้นยกขึ้นมาสวยงามและใช้งานได้จริงเพราะในรุ่นก่อนหน้าจอมันจะเป็นแบบเรียบๆในรุ่น Zenbook Duo อาจจะทำให้เจอแสงสะท้อนได้ง่ายแต่ในรุ่นนี้มีการพัฒนาเพื่อหลบจุดนั้นได้ดีมากๆการยกกลไกนั้นจะเป็นส่วนเดียวกับเวลาเราเปิดหน้าจอใช้งานครั้บมันจะยกขึ้นตามองศาหน้าจอหลักและสุดที่ตำแหน่งแบบในภาพครับ ถือว่ามีความแข็งแรงพอสมควรและสามารถออกแบบให้หลบซ่อนได้ดีเวลาพับไปแล้ว แต่ข้อระวังหรือข้อสังเกตคือจะมีฝุ่นเข้าไปส่วนที่พับได้ง่ายมากๆในช่องว่างตรงที่ยกขึ้นมา อาจจะต้องเป่าลมกันบ่อยๆ แต่ฝุ่นนั้นจะไม่ลงไปข้างในระบบ บอร์ดแน่ๆเพราะตรงพัดลมจะเห็นมีตระแกรงฟิลเตอร์กันฝุ่นอยู่ด้วยนั้นเองกลมๆข้างในส่วนนั้นครับ
ROG EYE นั้นยังคงให้มาเพราะว่าในรุ่นนี้ไม่มีกล้อง Webcam มาให้ทำให้ต้องใช้ตัวนี้มาแทนครับ แต่ส่วนตัวแล้วถือว่าให้มาแบบนี้ถือว่าดีกว่าเพราะว่าในการใช้งานจริง คุณภาพดีกว่ากล้องติดหน้าจอเยอะมากๆและใช้งานได้จริงเอาไปทำงาน สตรีมเกมได้ทันที จัดมุมมองได้ แตกต่างกับกล้องติดหน้าจอทั่วไปเยอะส่วนนี้ถือว่าดีครับ และทางด้านที่รองมือนั้นให้มาด้วยครับในการใช้งานเพราะว่าการออกแบบแบบนี้ทำให้วางมือลำบากเวลาพิมพ์ใช้งานด้วยเช่นกัน แต่ที่วางนั้นแอบสั้นไปนิดหน่อยในการใช้งานจริงแต่ก็มีความนุ่มเพราะเป็นวัสดุแบบยางกำลังดีสีเดียวกับตัวเครื่อง
SPEC
- Intel® Core™ i7-10875H
- NVIDIA® GeForce® RTX 2070 SUPER™ 8GB GDDR6 VRAM (Boost Clock: 1390MHz, 90W)
- RAM 16GB on board memory DDR4 3200
- 1TB M.2 NVMe™ PCIe® 3.0 Performance SSD
- หน้าจอ ขนาด 15.6-inch, Non-glare Full HD (1920 x 1080), IPS panel 300Hz/3ms, 100% sRGB, Pantone® Validated, G-SYNC™
- หน้าจอที่ 2 ขนาด 14.1-inch (3840 x 1100) touchscreen
- แป้นพิมพ์ Backlit chiclet keyboard พร้อม Per-key RGB lighting ระยะ 1.4mm travel distance N key rollover
- ลำโพง 2 ตัว x 4W speakers with Smart AMP technology ชิพเสียง ESS, High-res certified และ Array Microphone
1 x USB 3.2 Gen 2 Type C with DisplayPort™ 1.4, Thunderbolt™ 3 and Power Delivery
2 x USB 3.2 Gen 1 Type A
1 x USB 3.2 Gen 2 Type A
1 x HDMI 2.0b
1 x 3.5mm Microphone-in jack
1 x 3.5mm Microphone-in/Headphone-out jack
1 x RJ45
- 240W Power Adaptor พร้อมรองรับการชาร์จ Support Type-C PD 3.0 up to 65W
- Intel® Wi-Fi 6 with Gig+ performance (802.11ax) // Bluetooth 5.0
- Width: 36.0cm Depth: 26.8cm Height: 2.0cm น้ำหนัก 2.4 kg
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้