การทำงานนอกสถานที่อาจจะเป็นเรื่องปกติสำหรับคนยุคใหม่กันแล้วครับ และสำหรับสายงานแบบผมเองแน่นอนว่า การเดินทางไปทางประเทศ ทำงานไปด้วยอาจจะเรียกได้ว่าเป็นเรื่องปกติกันเลยทีเดียว และข้อจำกัดอย่างนึงเลยเมื่อไปนอกสถานที่คือเรื่องของการพกพา คอมพิวเตอร์หนักๆไปทำงาน เพราะว่า เราเดินทางกันบ่อย และสะพายของเยอะ ทั้งกล้องต่างๆอยู่แล้วทำให้ คอมพิวเตอร์อาจจะไม่เหมาะสำหรับทริปเที่ยวต่างประเทศหรือต้องเดินทางบ่อยๆ วันนี้เลยลองพก MATEPAD 11 2023 ไปร่วมทริปเที่ยวต่างประเทศ และใช้เป็นเครื่องหลักในการทำงาน จดบันทึก แต่งภาพทั้งหลายครับ มาดูกันว่า 1 วัน มันจะใช้งานได้มากน้อยแค่ไหน และแบตจะเหลือเท่าไรกัน
HUAWEI MATEDPAD 11
มาพร้อมกับ หน้าจอ 10.95 นิ้ว 2.5K รีเฟรชเรต 120Hz รองรับ ปากกา HUAWEI M-Pencil ผ่านมาตรฐาน SGS และ TUV Rheinland รวมถึงค่าสีตรง DCI-P3 และใช้ Snapdragon 865 RAM 6GB และความจุ 128GB ระบบปฏิบัติการ HarmonyOS 3.1 แบตเตอรี่ความจุ 7,250mAh ชาร์จไว 22.5W ลำโพง 4 ตัว HUAWEI Histen 8.0 กล้องหลัก 13MP รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K กล้องหน้า 8 MP ถ่ายวิดีโอ 1080P ถือว่าสเปกไม่ธรรมดา
*** HUAWEI MatePad 11 2023 WIFI 6+128GB วางจำหน่ายในราคา 15,990 บาท ***
ON THE WAY !
เริ่มทริปด้วยการเดินทางเลยจริงๆครับจากกรุงเทพไปเมืองจีน แน่นอนว่าบนเครื่องเราก็หยิบ MATEPAD 11 มาดูหนังทำงานกันหน่อย และที่สำคัญคือขนาดที่ไม่ใหญ่มากทำให้การพกพา ขึ้นเครื่อง หรือ วางตรงที่วางอาหารบนเครื่องได้แบบสบายๆไม่เกะกะคนข้างๆหรือตัวเรา แถมยังมีที่วางมือถืออะไรได้อีกครับ และ ตำแหน่งองศาของการวางถือว่ากำลังดีในการใช้งานบนเครื่องแบบนี้ รวมถึงการทำงาน ก็สามารถใช้งานได้ดีเพราะคีย์บอร์ดสามารถพิมพ์งานได้ ตัวขายไทยจะมีภาษาไทยนะครับ รวมถึงจะยกใช้งานแบบคีย์บอร์ดไร้สายก็ได้ ไม่ต้องติดกับเครื่องไว้ครับถือว่าจุดนี้ทำได้ดี
MORNING !
เริ่มทริปวันแรกครับ อากาศที่จีนกำลังเย็นๆสบายตัวแอปแสดงสถานะสภาพอากาศทั้งวันได้สบายๆซึ่งข้อดีคือเราสามารถกดได้จากหน้า Service Widget ได้เลยครับเข้าถึงง่าย รวมถึงเราจะชาร์จแบตให้เต็ม 100% และลุยใช้งานทั้งวัน ว่าแบตเมื่อกลับมานั้นจะเหลือเท่าไรโดยใช้งานเชื่อมต่อ Wifi เป็นหลักกันเลยนั้นเองอีกทั้งเชื่อมต่อหูฟังต่างๆใช้งานจริง เพราะทริปนี้เราจะไม่พกคอมพิวเตอร์ไป และด้วยตัว Tablet บางแค่ 7.2 มม. และหนัก 480 กรัมเท่านั้น แต่ในการใช้งานเค้าให้เคสป้องกันรอบตัวเครื่องมาให้ และ จะรองรับการทำงานร่วมกับ คีย์บอร์ดที่แถมมาให้ก็ช่วยป้องกันเครื่องได้ดีครับ และที่สำคัญตัวคีย์บอร์ดระยะกดของปุ่ม 1.5 มม. บอกเลยว่าเหมือนกับคอมพิวเตอร์มาก
CHECK AGENDA
ที่ชอบมากๆของการออกแบบส่วนนี้คือ Service Widget ของตัวแอปในเครื่องที่มีการออกแบบหลากๆหลายและสามารถแสดงตารางคิวงานที่เราจะไปวันนี้ได้ผ่านหน้าจอหลักได้เลย ไม่ต้องกดเข้าไปดูหรือตั้งค่าอะไรให้ยุ่งยาก และ รองรับแอปอื่นๆที่ติดมากับเครื่องได้หลากหลายมากครับถือว่าสะดวก และในหน้าที่เราเห็นก็สามารถเข้าไปแก้ไข หรือ เลื่อนขึ้นลงตามเวลาได้เลยอันนี้สะดวกมาก
และเมื่อเราแตะเข้าไปในส่วนตารางงาน Service Widget แล้วเข้าไปดูตารางแล้วอยากจะ Note ส่วนตัวเพิ่มเราก็สามารถใช้ปากกาที่ติดอยู่กับเครื่องเอามาใช้งานได้ทันทีและตัวปากกาค่อนข้างไว และ ใช้งานได้ดีกว่าเจนแรกๆแน่นอนครับ รวมถึงการชาร์จแบบไร้สายแค่แปะไปบนเครื่องเท่านั้นเลย
QUICK NOTE M PENCIL
จริงๆในส่วนที่ชอบคือขนาด 11 นิ้วไม่หนักไม่ใหญ่ไป และใช้งาน Huawei Notes ได้สบายมากๆครับ เพราะแอปที่พัฒนามาเพื่อรองรับการใช้งานแบบนี้ถือว่าทำได้ดีมากๆเราสามารถจดข้อมูลเวลาไปร่วมงาน และ สามารถกดถ่ายภาพจากแอปนั้นและแทรกเข้ามาในแอปได้ทันที รวมถึงสามารถเขียนอธิบายได้เลยว่า เค้าจะพูดเรื่องไหน ตรงจุดไหนบ้าง และ เราก็จัดการเขียนไปในแอปได้ทั้งหมด รวมถึงการแก้ไข ย้ายรูป ข้อความต่างๆตัวแอปสามารถทำได้ทั้งหมดว่าจะวงเปลี่ยนแค่ข้อความสลับไปบนล่าง หรือ จะดูดสีต่างๆในตัวภาพเอามาเป็นสีของปากกาได้เลยง่ายมากๆครับ
อีกทั้งการที่ตัวเครื่องรองรับการใช้งาน SuperHub ทำให้เราฝากรูปที่ถ่ายไว้ และโยนไปแอปอื่นๆได้สบาย โดยที่ไม่ต้องก๊อปปี้วางให้ยุ่งยากครับ อีกทั้ง ตัวเครื่องก็สามารถแบ่งหน้าจอ Multi- Windows ใช้งาน 3 แอปแบบสบายๆ เราจะดูที่จดตรงกลาง แต่งรูปไว้ด้านหลังสุด และแอป WPS สำหรับดูบรีฟ หรือข้อมูลทางการอีกหน้าต่างหนึ่งได้สบายๆ ซึ่งหลังจากที่ใช้งานด้วยพลัง Snapdragon ถือว่าจัดการเรื่องความลื่นไหลได้ดีมากๆ ที่เห็นในภาพก็ไม่มีหน่วงหรือช้าเลยแม้แต่น้อยครับ ถือว่า ใช้ทั้ง 3 แอปได้ลื่นไหลและแม้จะเป็น Lightroom ที่กินพลังงานก็ตามในจุดนี้ และถ้าใช้งาน Huawei Super Device ด้วยเราก็สามารถโยนภาพจาก SuperHub ไปอีกเครื่องได้ทันทีครับ หรือ จะโยน Note ที่เราจดต่างๆ หรือแม้แต่จะโยนภาพจากกล้อง Mate 50 Pro มาก็ได้เช่นกันนะ สะดวกมาก
Huawei M-Pencil 2 Generation นั้นเป็นปากกาหน้าตาสีเงินสวยงามและน้ำหนักกำลังดี รองรับการสั่งงานด้วยการแตะสัมผัสได้สบายๆครับซึ่งเมื่อเราเขียนๆแล้วอยากจะลบก็สามารถแตะ 2 ครั้งบนปากกาเปลี่ยนเป็นยางลบได้สบายๆซึ่งถือว่าทำได้ดี อีกทั้งปากกา การตอบสนองต่างๆทำได้ดี ที่สำหรับแค่ซื้อเครื่องก็ได้ปากกา ไม่ต้องไปหาซื้อให้ยุ่งยากครับ และการตอบสนองต่อความไว ลื่นไหลทำได้ดี ในการวาดเขียน และ เอียงรองรับน้ำหนักการกดไล่น้ำหนักได้ดี แต่อาจจะลื่นไปนิดๆถ้าติดฟิล์มแบบด้านหน้าจะช่วยในการเขียนได้ดีขึ้นครับในหลายๆจังหวะถ้าจอเดิมๆจะลื่นง่ายไปหน่อย
TAKE A PHOTO EDIT
การถ่ายภาพตัวนี้ใส่กล้องหลักมาให้ในความละเอียด 13MP ไม่มีมุมกว้างพิเศษอะไรครับเพราะว่ากล้องหลังนั้นหลายๆคนอาจจะไม่ค่อยใช้งานนัก แต่เมื่อมาทำงานแบบนี้หลายๆคนก็อาจจะต้องใช้บ้าง ซึ่งข้อดีของ HUAWEI คือถ้าเราใช้มือถือ HUAWEI ด้วยก็ง่ายๆในการส่งไฟล์ ย้ายรูปต่างๆซึ่งเมื่อเราถ่ายเสร็จอยากจะเขียนแต่งภาพอะไรก็สามารถทำได้ผ่านแอปเลยถือว่าสะดวกเอาเรื่องครับ
และเราสามารถโยนไฟล์ในตัว SuperHub ได้เลยว่าจะไปส่งแอปไหนต่อ ดูดสีจากแอปไหนต่อครับ ซึ่งในภาพเราจะเห็นว่าเราสามารถลากได้หลากหลายไฟล์ไม่ใช่แค่ภาพ จะเป็น Notes ต่างๆก็สามารถทำได้ทั้งหมด ถ้าใครที่ใช้งานหลายๆ Device การที่มันสามารถโยนข้ามแอป ข้ามมือถือได้บอกเลยว่าเป็นเรื่องที่สะดวก และ ไวมากๆครับ จริงๆเป็นฟีเจอร์ที่ชอบมากๆในบรรดา Huawei Device ทั้งหมดเลย แต่น่าเสียดายอย่างนึงว่า ถ้ามีซิมใส่ใช้งาน การใช้งานหลายๆอย่างจะดีขึ้นเยอะ
AFTERNOON TEA – DCI-P3
เมื่อทำงานมาช่วงเช้าเรามานั่งพักทานกาแฟกันครับ แน่นอนว่าถ้าเป็นพวก Laptop หรือ คอมเราอาจจะยกมานั่งทำงานบนโต๊ะก็อาจจะแปลกๆ ดูรบกวนคนอื่น แต่ถ้าพวก Tablet มันจะเป็นอีกแนวทางนึงเลย เราสามารถหยิบมาแต่งรูปทำงานได้ทันที โดยที่ไม่ดูทางการมากไป อันนี้เป็นจุดที่ผมค่อนข้างชอบเลยแหละ และทำงานได้ไวมากๆ เราสามารถดึงภาพจากกล้องผ่าน Huawei Share ได้ทันที เอามาแต่งต่อในเครื่องนี้ที่สีจอสว่าง และ ได้มาตรฐาน DCI-P3 ที่แม่นยำ รวมถึงสู้แสงได้ดีระดับนึงเมื่อเทียบกับราคานี้ และได้ขนาดหน้าจอใหญ่ทำงานง่ายกว่า อีกทั้ง ยังดึงภาพจาก Huawei Matepad 11 2023 มาแต่งได้ด้วย หรือจะเอามาเช็กไฟล์ว่ามีขาดตกหล่นอะไรไหม
LIGHTROOM
แต่ที่แอบแปลกใจคือไฟล์ภาพเค้าดีกว่าที่คิดเลยนะ เอามาแต่งใน Lightroom ได้สบายๆดึงสี สว่างต่างๆได้ดีขึ้นในภาพที่เราเห็นจะเป็นภาพจากกล้องตัวนี้เลยครับ หลังจากเอามาแต่งดึงสี เข้า Preset ที่ทางผมใช้งานบ่อยๆไฟล์มันดูดีเลยแหละ ก็ถือว่าแก้ขัดได้ในหลายๆครั้งที่เราไม่ได้หยิบกล้องอะไรไปและจำเป็นต้องถ่ายออกมานั้นเองลองไปดูตัวอย่างภาพกันได้เลย และข้อดีคือจอสีตรงแบบนี้ทำให้ถ่าย และ แต่งออกมาได้ง่าย สีไม่เพี้ยนเวลาส่งรูปต่างๆได้ดีครับถือว่าเป็นจุดที่ลงตัวเลย
CAMERA SAMPLE
CAPCUT
รวมถึงการตัดต่อคลิป CAPCUT ก็สามารถทำงานได้ลื่นไหลพอสมควรการใส่หลายๆ Layer และ เอามาแต่ง จากนั้น Export ก็ทำงานได้ไว สามารถย้ายไฟล์ไปมาลงมือถือไปอัปต่อได้สบายๆ เท่าที่ลองมานั้นทำงานได้ดี และไม่ต้องเปลืองแบตมือถือในการตัดต่อครับ ในหลายๆครั้งเราจะถ่ายจากกล้องมือถือ และ Huawei Share มาบนเครื่องนี้จากนั้นก็โยนกลับไปอัปต่อในมือถือได้ทันทีเลย
NETFLIX AND CHILL ความละเอียดสูง !
รวมถึงสื่อที่ชอบและทางผมดูประจำคือ NETFLIX ครั้งนี้มาในความละเอียดคมชัดสูงสุดเลยครับคุณภาพจัดเต็ม เราสามารถดูได้สบายๆเต็มจอ และ สีสวยงาม 11 นิ้วจัดเต็ม และ ที่ชอบมากๆคือลำโพง 4 ตัว ในงบราคาแบบนี้คือดีมาก ดังสะใจแถมมิติไม่ธรรมดาครับ ดูหนังใน NETFLIX บอกเลยว่าประทับใจมากๆ และ สามารถใช้งานแอปได้แบบปกติไม่มีข้อจำกัดอะไรทั้งนั้น
END OF THE DAY : BATTERY
ส่วนเรื่องของการใช้งานแบตเราทดสอบตั้งแต่ 8 โมงเช้า จนถึง 4 ทุ่ม เราสามารถใช้งานต่อได้อีกสบายๆ แบตเหลือ 55% เกินครึ่งครับ บอกเลยว่าอึดมากๆ อาจจะด้วยรุ่นนี้ใช้งาน Wifi เป็นหลักด้วยเช่นกัน รวมถึงตัวระบบ HUAWEI เองก็จัดการแบตได้ดีมาตั้งแต่ยุคไหนๆทำให้เรื่องนี้สบายใจได้ แถมได้ชาร์จไว 22.5W ชาร์จไวที่แถมมาให้ในกล่องก็เต็มไวๆสบายทำงานต่อได้ทันทีครับ
[SR] รีวิว HUAWEI MATEPAD 11 2023 ลุยพกทำงาน เที่ยวต่างประเทศใน 1 วัน ไหวไหม !
การทำงานนอกสถานที่อาจจะเป็นเรื่องปกติสำหรับคนยุคใหม่กันแล้วครับ และสำหรับสายงานแบบผมเองแน่นอนว่า การเดินทางไปทางประเทศ ทำงานไปด้วยอาจจะเรียกได้ว่าเป็นเรื่องปกติกันเลยทีเดียว และข้อจำกัดอย่างนึงเลยเมื่อไปนอกสถานที่คือเรื่องของการพกพา คอมพิวเตอร์หนักๆไปทำงาน เพราะว่า เราเดินทางกันบ่อย และสะพายของเยอะ ทั้งกล้องต่างๆอยู่แล้วทำให้ คอมพิวเตอร์อาจจะไม่เหมาะสำหรับทริปเที่ยวต่างประเทศหรือต้องเดินทางบ่อยๆ วันนี้เลยลองพก MATEPAD 11 2023 ไปร่วมทริปเที่ยวต่างประเทศ และใช้เป็นเครื่องหลักในการทำงาน จดบันทึก แต่งภาพทั้งหลายครับ มาดูกันว่า 1 วัน มันจะใช้งานได้มากน้อยแค่ไหน และแบตจะเหลือเท่าไรกัน
HUAWEI MATEDPAD 11
มาพร้อมกับ หน้าจอ 10.95 นิ้ว 2.5K รีเฟรชเรต 120Hz รองรับ ปากกา HUAWEI M-Pencil ผ่านมาตรฐาน SGS และ TUV Rheinland รวมถึงค่าสีตรง DCI-P3 และใช้ Snapdragon 865 RAM 6GB และความจุ 128GB ระบบปฏิบัติการ HarmonyOS 3.1 แบตเตอรี่ความจุ 7,250mAh ชาร์จไว 22.5W ลำโพง 4 ตัว HUAWEI Histen 8.0 กล้องหลัก 13MP รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K กล้องหน้า 8 MP ถ่ายวิดีโอ 1080P ถือว่าสเปกไม่ธรรมดา
*** HUAWEI MatePad 11 2023 WIFI 6+128GB วางจำหน่ายในราคา 15,990 บาท ***
ON THE WAY !
เริ่มทริปด้วยการเดินทางเลยจริงๆครับจากกรุงเทพไปเมืองจีน แน่นอนว่าบนเครื่องเราก็หยิบ MATEPAD 11 มาดูหนังทำงานกันหน่อย และที่สำคัญคือขนาดที่ไม่ใหญ่มากทำให้การพกพา ขึ้นเครื่อง หรือ วางตรงที่วางอาหารบนเครื่องได้แบบสบายๆไม่เกะกะคนข้างๆหรือตัวเรา แถมยังมีที่วางมือถืออะไรได้อีกครับ และ ตำแหน่งองศาของการวางถือว่ากำลังดีในการใช้งานบนเครื่องแบบนี้ รวมถึงการทำงาน ก็สามารถใช้งานได้ดีเพราะคีย์บอร์ดสามารถพิมพ์งานได้ ตัวขายไทยจะมีภาษาไทยนะครับ รวมถึงจะยกใช้งานแบบคีย์บอร์ดไร้สายก็ได้ ไม่ต้องติดกับเครื่องไว้ครับถือว่าจุดนี้ทำได้ดี
MORNING !
เริ่มทริปวันแรกครับ อากาศที่จีนกำลังเย็นๆสบายตัวแอปแสดงสถานะสภาพอากาศทั้งวันได้สบายๆซึ่งข้อดีคือเราสามารถกดได้จากหน้า Service Widget ได้เลยครับเข้าถึงง่าย รวมถึงเราจะชาร์จแบตให้เต็ม 100% และลุยใช้งานทั้งวัน ว่าแบตเมื่อกลับมานั้นจะเหลือเท่าไรโดยใช้งานเชื่อมต่อ Wifi เป็นหลักกันเลยนั้นเองอีกทั้งเชื่อมต่อหูฟังต่างๆใช้งานจริง เพราะทริปนี้เราจะไม่พกคอมพิวเตอร์ไป และด้วยตัว Tablet บางแค่ 7.2 มม. และหนัก 480 กรัมเท่านั้น แต่ในการใช้งานเค้าให้เคสป้องกันรอบตัวเครื่องมาให้ และ จะรองรับการทำงานร่วมกับ คีย์บอร์ดที่แถมมาให้ก็ช่วยป้องกันเครื่องได้ดีครับ และที่สำคัญตัวคีย์บอร์ดระยะกดของปุ่ม 1.5 มม. บอกเลยว่าเหมือนกับคอมพิวเตอร์มาก
CHECK AGENDA
ที่ชอบมากๆของการออกแบบส่วนนี้คือ Service Widget ของตัวแอปในเครื่องที่มีการออกแบบหลากๆหลายและสามารถแสดงตารางคิวงานที่เราจะไปวันนี้ได้ผ่านหน้าจอหลักได้เลย ไม่ต้องกดเข้าไปดูหรือตั้งค่าอะไรให้ยุ่งยาก และ รองรับแอปอื่นๆที่ติดมากับเครื่องได้หลากหลายมากครับถือว่าสะดวก และในหน้าที่เราเห็นก็สามารถเข้าไปแก้ไข หรือ เลื่อนขึ้นลงตามเวลาได้เลยอันนี้สะดวกมาก
และเมื่อเราแตะเข้าไปในส่วนตารางงาน Service Widget แล้วเข้าไปดูตารางแล้วอยากจะ Note ส่วนตัวเพิ่มเราก็สามารถใช้ปากกาที่ติดอยู่กับเครื่องเอามาใช้งานได้ทันทีและตัวปากกาค่อนข้างไว และ ใช้งานได้ดีกว่าเจนแรกๆแน่นอนครับ รวมถึงการชาร์จแบบไร้สายแค่แปะไปบนเครื่องเท่านั้นเลย
QUICK NOTE M PENCIL
จริงๆในส่วนที่ชอบคือขนาด 11 นิ้วไม่หนักไม่ใหญ่ไป และใช้งาน Huawei Notes ได้สบายมากๆครับ เพราะแอปที่พัฒนามาเพื่อรองรับการใช้งานแบบนี้ถือว่าทำได้ดีมากๆเราสามารถจดข้อมูลเวลาไปร่วมงาน และ สามารถกดถ่ายภาพจากแอปนั้นและแทรกเข้ามาในแอปได้ทันที รวมถึงสามารถเขียนอธิบายได้เลยว่า เค้าจะพูดเรื่องไหน ตรงจุดไหนบ้าง และ เราก็จัดการเขียนไปในแอปได้ทั้งหมด รวมถึงการแก้ไข ย้ายรูป ข้อความต่างๆตัวแอปสามารถทำได้ทั้งหมดว่าจะวงเปลี่ยนแค่ข้อความสลับไปบนล่าง หรือ จะดูดสีต่างๆในตัวภาพเอามาเป็นสีของปากกาได้เลยง่ายมากๆครับ
อีกทั้งการที่ตัวเครื่องรองรับการใช้งาน SuperHub ทำให้เราฝากรูปที่ถ่ายไว้ และโยนไปแอปอื่นๆได้สบาย โดยที่ไม่ต้องก๊อปปี้วางให้ยุ่งยากครับ อีกทั้ง ตัวเครื่องก็สามารถแบ่งหน้าจอ Multi- Windows ใช้งาน 3 แอปแบบสบายๆ เราจะดูที่จดตรงกลาง แต่งรูปไว้ด้านหลังสุด และแอป WPS สำหรับดูบรีฟ หรือข้อมูลทางการอีกหน้าต่างหนึ่งได้สบายๆ ซึ่งหลังจากที่ใช้งานด้วยพลัง Snapdragon ถือว่าจัดการเรื่องความลื่นไหลได้ดีมากๆ ที่เห็นในภาพก็ไม่มีหน่วงหรือช้าเลยแม้แต่น้อยครับ ถือว่า ใช้ทั้ง 3 แอปได้ลื่นไหลและแม้จะเป็น Lightroom ที่กินพลังงานก็ตามในจุดนี้ และถ้าใช้งาน Huawei Super Device ด้วยเราก็สามารถโยนภาพจาก SuperHub ไปอีกเครื่องได้ทันทีครับ หรือ จะโยน Note ที่เราจดต่างๆ หรือแม้แต่จะโยนภาพจากกล้อง Mate 50 Pro มาก็ได้เช่นกันนะ สะดวกมาก
Huawei M-Pencil 2 Generation นั้นเป็นปากกาหน้าตาสีเงินสวยงามและน้ำหนักกำลังดี รองรับการสั่งงานด้วยการแตะสัมผัสได้สบายๆครับซึ่งเมื่อเราเขียนๆแล้วอยากจะลบก็สามารถแตะ 2 ครั้งบนปากกาเปลี่ยนเป็นยางลบได้สบายๆซึ่งถือว่าทำได้ดี อีกทั้งปากกา การตอบสนองต่างๆทำได้ดี ที่สำหรับแค่ซื้อเครื่องก็ได้ปากกา ไม่ต้องไปหาซื้อให้ยุ่งยากครับ และการตอบสนองต่อความไว ลื่นไหลทำได้ดี ในการวาดเขียน และ เอียงรองรับน้ำหนักการกดไล่น้ำหนักได้ดี แต่อาจจะลื่นไปนิดๆถ้าติดฟิล์มแบบด้านหน้าจะช่วยในการเขียนได้ดีขึ้นครับในหลายๆจังหวะถ้าจอเดิมๆจะลื่นง่ายไปหน่อย
TAKE A PHOTO EDIT
การถ่ายภาพตัวนี้ใส่กล้องหลักมาให้ในความละเอียด 13MP ไม่มีมุมกว้างพิเศษอะไรครับเพราะว่ากล้องหลังนั้นหลายๆคนอาจจะไม่ค่อยใช้งานนัก แต่เมื่อมาทำงานแบบนี้หลายๆคนก็อาจจะต้องใช้บ้าง ซึ่งข้อดีของ HUAWEI คือถ้าเราใช้มือถือ HUAWEI ด้วยก็ง่ายๆในการส่งไฟล์ ย้ายรูปต่างๆซึ่งเมื่อเราถ่ายเสร็จอยากจะเขียนแต่งภาพอะไรก็สามารถทำได้ผ่านแอปเลยถือว่าสะดวกเอาเรื่องครับ
และเราสามารถโยนไฟล์ในตัว SuperHub ได้เลยว่าจะไปส่งแอปไหนต่อ ดูดสีจากแอปไหนต่อครับ ซึ่งในภาพเราจะเห็นว่าเราสามารถลากได้หลากหลายไฟล์ไม่ใช่แค่ภาพ จะเป็น Notes ต่างๆก็สามารถทำได้ทั้งหมด ถ้าใครที่ใช้งานหลายๆ Device การที่มันสามารถโยนข้ามแอป ข้ามมือถือได้บอกเลยว่าเป็นเรื่องที่สะดวก และ ไวมากๆครับ จริงๆเป็นฟีเจอร์ที่ชอบมากๆในบรรดา Huawei Device ทั้งหมดเลย แต่น่าเสียดายอย่างนึงว่า ถ้ามีซิมใส่ใช้งาน การใช้งานหลายๆอย่างจะดีขึ้นเยอะ
AFTERNOON TEA – DCI-P3
เมื่อทำงานมาช่วงเช้าเรามานั่งพักทานกาแฟกันครับ แน่นอนว่าถ้าเป็นพวก Laptop หรือ คอมเราอาจจะยกมานั่งทำงานบนโต๊ะก็อาจจะแปลกๆ ดูรบกวนคนอื่น แต่ถ้าพวก Tablet มันจะเป็นอีกแนวทางนึงเลย เราสามารถหยิบมาแต่งรูปทำงานได้ทันที โดยที่ไม่ดูทางการมากไป อันนี้เป็นจุดที่ผมค่อนข้างชอบเลยแหละ และทำงานได้ไวมากๆ เราสามารถดึงภาพจากกล้องผ่าน Huawei Share ได้ทันที เอามาแต่งต่อในเครื่องนี้ที่สีจอสว่าง และ ได้มาตรฐาน DCI-P3 ที่แม่นยำ รวมถึงสู้แสงได้ดีระดับนึงเมื่อเทียบกับราคานี้ และได้ขนาดหน้าจอใหญ่ทำงานง่ายกว่า อีกทั้ง ยังดึงภาพจาก Huawei Matepad 11 2023 มาแต่งได้ด้วย หรือจะเอามาเช็กไฟล์ว่ามีขาดตกหล่นอะไรไหม
LIGHTROOM
แต่ที่แอบแปลกใจคือไฟล์ภาพเค้าดีกว่าที่คิดเลยนะ เอามาแต่งใน Lightroom ได้สบายๆดึงสี สว่างต่างๆได้ดีขึ้นในภาพที่เราเห็นจะเป็นภาพจากกล้องตัวนี้เลยครับ หลังจากเอามาแต่งดึงสี เข้า Preset ที่ทางผมใช้งานบ่อยๆไฟล์มันดูดีเลยแหละ ก็ถือว่าแก้ขัดได้ในหลายๆครั้งที่เราไม่ได้หยิบกล้องอะไรไปและจำเป็นต้องถ่ายออกมานั้นเองลองไปดูตัวอย่างภาพกันได้เลย และข้อดีคือจอสีตรงแบบนี้ทำให้ถ่าย และ แต่งออกมาได้ง่าย สีไม่เพี้ยนเวลาส่งรูปต่างๆได้ดีครับถือว่าเป็นจุดที่ลงตัวเลย
CAMERA SAMPLE
CAPCUT
รวมถึงการตัดต่อคลิป CAPCUT ก็สามารถทำงานได้ลื่นไหลพอสมควรการใส่หลายๆ Layer และ เอามาแต่ง จากนั้น Export ก็ทำงานได้ไว สามารถย้ายไฟล์ไปมาลงมือถือไปอัปต่อได้สบายๆ เท่าที่ลองมานั้นทำงานได้ดี และไม่ต้องเปลืองแบตมือถือในการตัดต่อครับ ในหลายๆครั้งเราจะถ่ายจากกล้องมือถือ และ Huawei Share มาบนเครื่องนี้จากนั้นก็โยนกลับไปอัปต่อในมือถือได้ทันทีเลย
NETFLIX AND CHILL ความละเอียดสูง !
รวมถึงสื่อที่ชอบและทางผมดูประจำคือ NETFLIX ครั้งนี้มาในความละเอียดคมชัดสูงสุดเลยครับคุณภาพจัดเต็ม เราสามารถดูได้สบายๆเต็มจอ และ สีสวยงาม 11 นิ้วจัดเต็ม และ ที่ชอบมากๆคือลำโพง 4 ตัว ในงบราคาแบบนี้คือดีมาก ดังสะใจแถมมิติไม่ธรรมดาครับ ดูหนังใน NETFLIX บอกเลยว่าประทับใจมากๆ และ สามารถใช้งานแอปได้แบบปกติไม่มีข้อจำกัดอะไรทั้งนั้น
END OF THE DAY : BATTERY
ส่วนเรื่องของการใช้งานแบตเราทดสอบตั้งแต่ 8 โมงเช้า จนถึง 4 ทุ่ม เราสามารถใช้งานต่อได้อีกสบายๆ แบตเหลือ 55% เกินครึ่งครับ บอกเลยว่าอึดมากๆ อาจจะด้วยรุ่นนี้ใช้งาน Wifi เป็นหลักด้วยเช่นกัน รวมถึงตัวระบบ HUAWEI เองก็จัดการแบตได้ดีมาตั้งแต่ยุคไหนๆทำให้เรื่องนี้สบายใจได้ แถมได้ชาร์จไว 22.5W ชาร์จไวที่แถมมาให้ในกล่องก็เต็มไวๆสบายทำงานต่อได้ทันทีครับ
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้