กลับมาพบกับมิตรรักชาวพันทิปกันอีกแล้ว อากาศช่วงนี้บางวันก็ร้อน บางวันก็ฝนตก เอาแน่นอนไม่ได้ แต่ที่ชัวร์คือวันไหนซักผ้า วันนั้นจะฝนตก ฮา แต่ไม่ว่าสภาพอากาศฟ้าฝนจะเป็นอย่างไร ที่แน่ๆ HUAWEI ยังคงร้อนแรงเช่นเคย จับมือส่งโปรดักส์ใหม่ๆ เข้าสู่ตลาดแบบรัวๆ
หลังจากที่เดือนก่อน เราได้มีโอกาสรีวิวพี่ใหญ่คนโตของตระกูล MatePad Pro กันไป วันนี้ก็ถึงคราวน้องรอง HUAWEI MatePad 11 ออกมาโชว์ตัว ขอบอกว่ามีความซื้อง่ายจ่ายง่ายด้วยนะเออ เพราะราคาเปิดตัวอยู่ที่ 15K+ จะเอามา Work หรือจะ Play โอเคไหม กำเงินอยู่หมื่นกลางถอยตัวนี้แล้วคุ้มเปล่า คำตอบมารออยู่ด้านล่างนี่แล้ว
HUAWEI MatePad 11 จะมีวางขายด้วยกันทั้งหมด 2 สี สี Matte Grey และสีใหม่ Isle Blue สีฟ้าอ่อนเบาๆ
ข้อมูลจำเพาะ
Dimension : 253.8mm x 165.3mm x 7.25mm
Display size : 10.95” TFT LCD (IPS) Display
Chipset : Qualcomm Snapdragon 865 Processor
Operating System : HarmonyOS
Memory/Storage : 6GB RAM + 128GB ROM
Supports MicroSD Expandable Storage, Up to 256GB
WIFI : WIFI 6 , 2*2 MIMO
Speaker : 4 x Full Frequency Speakers
(HUAWEI Histen 7.0 and, Harmon/Kardon™ Tuning)
Microphone : 4 x Microphones
Battery / Charging : Battery 7250mAh, HUAWEI Supercharge 22.5W
โดยรวมหน้าตา HUAWEI MatePad 11 ก็จะยังคงคล้ายกับดีไซน์ก่อนหน้า Minimal Look แต่ถ้าสังเกตแบบชัดๆ จะรู้สึกได้ว่าการออกแบบของ HUAWEI MatePad 11 มีความสมมาตร สัดส่วนค่อนข้างลงตัวกว่าเดิมนิดๆ ขอบมุมตัวเครื่องทั้ง 4 ด้านมีความกลมมนเพิ่มขึ้น
ขนาดหน้าจอจะอยู่ที่ 10.95 นิ้ว ขณะที่น้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ประมาณ 485 กรัม กำลังดีที่จะพกพาไปไหนมาไหนได้แบบสบายๆ ไม่ถ่วงหรือหนักกระเป๋าจนเกินไป กล้องหน้าความละเอียดอยู่ที่ 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง F2.0 พร้อม Fixed Focus
ด้านหลังยังคงมีความคลีนๆ ตรงกลางเป็นตำแหน่งโลโก้ มุมขวาเป็นตำแหน่งของกล้องหลังความละเอียดอยู่ที่ 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง F1.8 พร้อม AutoFocus กดถ่ายภาพละลายหลังหน้าชัดหลังเบลอได้แน่นอน
หน้าจอ HUAWEI MatePad 11 มีการอัปเกรดหลายส่วน เพื่อรองรับความบันเทิงและการทำงาน ความละเอียดหน้าจออยู่ที่ 2560*1600 พิกเซล HUAWEI FullView Display ความคมชัด 16.7 ล้านสี มาตรฐานสีแบบ DCI-P3 colour gamut เป็นมาตรฐานสีของการผลิตภาพยนตร์ดิจิทัลในอเมริกา
HUAWEI MatePad 11 มีการปรับปรุงเรื่องอัตราส่วนพื้นที่หน้าจอ (Screen to body ratio) โดยมีสูงถึง 86% จากพื้นที่ทั้งหมด ข้อดีของการมีอัตราส่วนพื้นที่หน้าจอสูงขึ้น มันทำให้การดูหนัง การสัมผัส และการเขียนด้วยลายมือตอบสนองได้เร็วขึ้น
ประเดิมการทดสอบเรื่องหน้าจอ ด้วยการสตรีมหนังจากแอปฯ Monomax มาดูหน่อย ค่าสมาชิกจะอยู่ที่เดือนละ 250 บาท แต่รู้สึกว่าคุ้มเพราะซีรีส์และหนังค่อนข้างเยอะ เลือกแล้วได้ดู ไม่จบด้วยการล้มตัวนอนไปก่อน ฮา อีกจุดที่ชอบ มีหนังที่พากย์ไทยด้วย บางวันทำงานอยู่ในห้องเหงาๆ ก็เปิดให้หนังพูดไปเรื่อยๆ ฮา
อัตราส่วนพื้นที่หน้าจอมากขึ้น ทำให้มีพื้นที่รับชมคอนเทนต์ได้มากขึ้น
ออกตัวก่อนว่าไม่ได้เป็นเซียนเกม อาศัยเล่นตอนรอลูกค้าหรืองานไม่มีบ้าง 55+ ในเลขห้ามีน้ำตาซ่อนอยู่ยังไง้ไม่รู้ แต่ความที่ HUAWEI MatePad 11 มีอัตรารีเฟรซเรทอยู่ที่ 120 Hz มันก็ทำให้เราอยากรู้ว่าต่างยังไงบ้าง เพราะระดับอัตรารีเฟรชเรทเท่านี้ ข้อดีคือทำให้เวลาดูวีดีโอหรือเล่นเกม จอจะแสดงรายละเอียดได้มากขึ้น รวมถึงไม่มีการสั่นไหวหรือการกระพริบ หรือเวลาเล่นเกมที่ต้องอาศัยความแม่นยำสูงๆ ไวๆ ก็จะไม่มีอาการดีเลย์ จังหวะที่ต้องการความแม่นยำสูงก็ทำได้แบบเป๊ะๆ ไปเลย
ส่วนเรื่องการลดแสงสีฟ้า HUAWEI MatePad 11 ได้รับการรับรอง TÜV Rheinland รวมถึงหน้าจอไม่เกิดการกระพริบบ่อย ลดความเสียหายต่อสายตาน้อยลง
ว่ากันด้วยเรื่องงานเสียง อันนี้ไม่ต้องพูดกันเยอะ อยากให้ไปสัมผัสด้วยตัวเอง แต่ถ้าใครเคยจับๆ ดีไวซ์ของหัวเว่ยมาบ้างก็จะรู้ว่าแน่นหนึบขนาดไหน สำหรับ HUAWEI MatePad 11 เอฟเฟกต์เสียงด้วย HUAWEI Histen 7.0 ปรับแต่งโดย Harmon/Kardon™ ไม่ว่าจะดูหนังหรือฟังเพลง มีความเสียงใส ดัง ชัด ได้ทุกมิติเพราะมีลำโพงทั้งหมด 4 ตัว
เรื่องแอปพลิเคชัน โดยรวมแอปฯ ที่ใช้ในประชีวิตประจำวันมีให้โหลดครบเกือบทุกแอปฯ ไม่ว่าจะเป็น LINE, Tiktok, Joox หรือแอปฯ ธนาคารต่างๆ ก็สามารถดาวน์โหลดได้จาก HUAWEI AppGallery แต่ที่อยากจะพูดถึงมากที่สุดและยังไม่มีที่ไหนก็คือ ฟีเจอร์ที่มีชื่อ App Multipiler หรือการเปิดหนึ่งแอปพลิเคชันแบบสองหน้าต่าง ตอนนี้ก็มีหลายแอปฯ ที่รองรับการใช้งานฟีเจอร์นี้ เช่น Rabbit Reward, BBTV CH7, Joox Music, WeChat, Bugaboo.TV, The 1, 3BB, Pantip, Lazada, JD Central, Line TV ข้อดีของการเปิดสองหน้าต่าง มันสะดวกตรงที่เราไม่ต้องสลับหน้าต่างไปมา อยากดูสองหน้าต่างพร้อมกันก็ทำได้เลย
สามารถปรับเส้นคั่น ระหว่างสองหน้าต่างได้ ถ้าอยากให้หน้าต่างด้านไหนมีพื้นที่ในการดูคอนเทนต์มากหน่อย เราก็ปรับด้วยการเลื่อนเส้นคั่นไปซ้ายไปขวา และถ้าสองหน้าต่างไม่พอ มีฟีเจอร์ Multi-WIndow ที่สามารถเรียกหน้าต่างมาดูพร้อมกันสูงสุด 4 หน้าต่าง 4 แอปฯ (ใช้งานร่วมกับสมาร์ตโฟน)
เราสามารถเก็บหน้าต่างลอยได้สูงสุดถึง 10 หน้าต่างในแถบเมนูด้านข้าง
[BR] HUAWEI MatePad 11 แท็บเล็ต จอ 120 Hz คุ้มสุดในงบหมื่นกลาง จัดเลย!
หลังจากที่เดือนก่อน เราได้มีโอกาสรีวิวพี่ใหญ่คนโตของตระกูล MatePad Pro กันไป วันนี้ก็ถึงคราวน้องรอง HUAWEI MatePad 11 ออกมาโชว์ตัว ขอบอกว่ามีความซื้อง่ายจ่ายง่ายด้วยนะเออ เพราะราคาเปิดตัวอยู่ที่ 15K+ จะเอามา Work หรือจะ Play โอเคไหม กำเงินอยู่หมื่นกลางถอยตัวนี้แล้วคุ้มเปล่า คำตอบมารออยู่ด้านล่างนี่แล้ว
HUAWEI MatePad 11 จะมีวางขายด้วยกันทั้งหมด 2 สี สี Matte Grey และสีใหม่ Isle Blue สีฟ้าอ่อนเบาๆ
ข้อมูลจำเพาะ
Dimension : 253.8mm x 165.3mm x 7.25mm
Display size : 10.95” TFT LCD (IPS) Display
Chipset : Qualcomm Snapdragon 865 Processor
Operating System : HarmonyOS
Memory/Storage : 6GB RAM + 128GB ROM
Supports MicroSD Expandable Storage, Up to 256GB
WIFI : WIFI 6 , 2*2 MIMO
Speaker : 4 x Full Frequency Speakers
(HUAWEI Histen 7.0 and, Harmon/Kardon™ Tuning)
Microphone : 4 x Microphones
Battery / Charging : Battery 7250mAh, HUAWEI Supercharge 22.5W
โดยรวมหน้าตา HUAWEI MatePad 11 ก็จะยังคงคล้ายกับดีไซน์ก่อนหน้า Minimal Look แต่ถ้าสังเกตแบบชัดๆ จะรู้สึกได้ว่าการออกแบบของ HUAWEI MatePad 11 มีความสมมาตร สัดส่วนค่อนข้างลงตัวกว่าเดิมนิดๆ ขอบมุมตัวเครื่องทั้ง 4 ด้านมีความกลมมนเพิ่มขึ้น
ขนาดหน้าจอจะอยู่ที่ 10.95 นิ้ว ขณะที่น้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ประมาณ 485 กรัม กำลังดีที่จะพกพาไปไหนมาไหนได้แบบสบายๆ ไม่ถ่วงหรือหนักกระเป๋าจนเกินไป กล้องหน้าความละเอียดอยู่ที่ 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง F2.0 พร้อม Fixed Focus
ด้านหลังยังคงมีความคลีนๆ ตรงกลางเป็นตำแหน่งโลโก้ มุมขวาเป็นตำแหน่งของกล้องหลังความละเอียดอยู่ที่ 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง F1.8 พร้อม AutoFocus กดถ่ายภาพละลายหลังหน้าชัดหลังเบลอได้แน่นอน
หน้าจอ HUAWEI MatePad 11 มีการอัปเกรดหลายส่วน เพื่อรองรับความบันเทิงและการทำงาน ความละเอียดหน้าจออยู่ที่ 2560*1600 พิกเซล HUAWEI FullView Display ความคมชัด 16.7 ล้านสี มาตรฐานสีแบบ DCI-P3 colour gamut เป็นมาตรฐานสีของการผลิตภาพยนตร์ดิจิทัลในอเมริกา
HUAWEI MatePad 11 มีการปรับปรุงเรื่องอัตราส่วนพื้นที่หน้าจอ (Screen to body ratio) โดยมีสูงถึง 86% จากพื้นที่ทั้งหมด ข้อดีของการมีอัตราส่วนพื้นที่หน้าจอสูงขึ้น มันทำให้การดูหนัง การสัมผัส และการเขียนด้วยลายมือตอบสนองได้เร็วขึ้น
ประเดิมการทดสอบเรื่องหน้าจอ ด้วยการสตรีมหนังจากแอปฯ Monomax มาดูหน่อย ค่าสมาชิกจะอยู่ที่เดือนละ 250 บาท แต่รู้สึกว่าคุ้มเพราะซีรีส์และหนังค่อนข้างเยอะ เลือกแล้วได้ดู ไม่จบด้วยการล้มตัวนอนไปก่อน ฮา อีกจุดที่ชอบ มีหนังที่พากย์ไทยด้วย บางวันทำงานอยู่ในห้องเหงาๆ ก็เปิดให้หนังพูดไปเรื่อยๆ ฮา
อัตราส่วนพื้นที่หน้าจอมากขึ้น ทำให้มีพื้นที่รับชมคอนเทนต์ได้มากขึ้น
ออกตัวก่อนว่าไม่ได้เป็นเซียนเกม อาศัยเล่นตอนรอลูกค้าหรืองานไม่มีบ้าง 55+ ในเลขห้ามีน้ำตาซ่อนอยู่ยังไง้ไม่รู้ แต่ความที่ HUAWEI MatePad 11 มีอัตรารีเฟรซเรทอยู่ที่ 120 Hz มันก็ทำให้เราอยากรู้ว่าต่างยังไงบ้าง เพราะระดับอัตรารีเฟรชเรทเท่านี้ ข้อดีคือทำให้เวลาดูวีดีโอหรือเล่นเกม จอจะแสดงรายละเอียดได้มากขึ้น รวมถึงไม่มีการสั่นไหวหรือการกระพริบ หรือเวลาเล่นเกมที่ต้องอาศัยความแม่นยำสูงๆ ไวๆ ก็จะไม่มีอาการดีเลย์ จังหวะที่ต้องการความแม่นยำสูงก็ทำได้แบบเป๊ะๆ ไปเลย
ส่วนเรื่องการลดแสงสีฟ้า HUAWEI MatePad 11 ได้รับการรับรอง TÜV Rheinland รวมถึงหน้าจอไม่เกิดการกระพริบบ่อย ลดความเสียหายต่อสายตาน้อยลง
ว่ากันด้วยเรื่องงานเสียง อันนี้ไม่ต้องพูดกันเยอะ อยากให้ไปสัมผัสด้วยตัวเอง แต่ถ้าใครเคยจับๆ ดีไวซ์ของหัวเว่ยมาบ้างก็จะรู้ว่าแน่นหนึบขนาดไหน สำหรับ HUAWEI MatePad 11 เอฟเฟกต์เสียงด้วย HUAWEI Histen 7.0 ปรับแต่งโดย Harmon/Kardon™ ไม่ว่าจะดูหนังหรือฟังเพลง มีความเสียงใส ดัง ชัด ได้ทุกมิติเพราะมีลำโพงทั้งหมด 4 ตัว
เรื่องแอปพลิเคชัน โดยรวมแอปฯ ที่ใช้ในประชีวิตประจำวันมีให้โหลดครบเกือบทุกแอปฯ ไม่ว่าจะเป็น LINE, Tiktok, Joox หรือแอปฯ ธนาคารต่างๆ ก็สามารถดาวน์โหลดได้จาก HUAWEI AppGallery แต่ที่อยากจะพูดถึงมากที่สุดและยังไม่มีที่ไหนก็คือ ฟีเจอร์ที่มีชื่อ App Multipiler หรือการเปิดหนึ่งแอปพลิเคชันแบบสองหน้าต่าง ตอนนี้ก็มีหลายแอปฯ ที่รองรับการใช้งานฟีเจอร์นี้ เช่น Rabbit Reward, BBTV CH7, Joox Music, WeChat, Bugaboo.TV, The 1, 3BB, Pantip, Lazada, JD Central, Line TV ข้อดีของการเปิดสองหน้าต่าง มันสะดวกตรงที่เราไม่ต้องสลับหน้าต่างไปมา อยากดูสองหน้าต่างพร้อมกันก็ทำได้เลย
สามารถปรับเส้นคั่น ระหว่างสองหน้าต่างได้ ถ้าอยากให้หน้าต่างด้านไหนมีพื้นที่ในการดูคอนเทนต์มากหน่อย เราก็ปรับด้วยการเลื่อนเส้นคั่นไปซ้ายไปขวา และถ้าสองหน้าต่างไม่พอ มีฟีเจอร์ Multi-WIndow ที่สามารถเรียกหน้าต่างมาดูพร้อมกันสูงสุด 4 หน้าต่าง 4 แอปฯ (ใช้งานร่วมกับสมาร์ตโฟน)
เราสามารถเก็บหน้าต่างลอยได้สูงสุดถึง 10 หน้าต่างในแถบเมนูด้านข้าง
BR - Business Review : กระทู้นี้เป็นกระทู้รีวิวจากผู้สนับสนุน