
ROG นั้นเปิดตัวคอมพิวเตอร์สายเกมที่มีการแยกแยะซีรีย์กันชัดเจนครับแน่นอนว่าในรุ่นที่เราจะเอามารีวิวนั้นจะเป็น Zephyrus ที่จะเน้นการพกพา และ บางเบาเป็นหลักจะไม่เหมือนกับพวก STRIX ทั้งหลายที่จะมีความหนาและไฟต่างๆนั้นจะเยอะกว่าอันนี้ก็จะแล้วแต่คนชอบกันไปครับ ในครั้งนี้เราจะมาอยู่กับ ROG Zephyrus M ที่เป็นซีรีย์บางเบา และ สเปคใช้งานได้ดีมากๆทั้งในแง่ของการเล่นเกม และ กรทำงานเรนเดอร์งานต่างๆเพราะด้วยหน้าจอที่รองรับความแม่นยำของสีที่ดี และ ความลื่นไหลของจอภาพครับและมันจะเหมาะกับการทำงานทั่วไปมากขึ้นเพราะดีไซน์ที่ไม่ได้สายเกมเยอะเกินไปทำให้หลายๆคนนั้นเอาไปทำงานทั่วไป พกพาไปทำงานข้างนอกได้แบบไม่เขินครับ

ROG Zephyrus M นั้นเปิดตัวมาด้วยจุดเด่นที่เน้นการพกพาที่บางเบาด้วยขนาดที่เล็กลงและบางลง ตัวเครื่อง 18.9 มิลลิเมตร และหนัก 1.9 กิโลกรัม หน้าจอที่รองรับได้ดีมากๆในการทำงานและเล่นเกม รวมถึงการใช้งานที่รองรับสูงสุด 8 ชั่วโมงในการพกพาทำงานข้างนอกครับ ส่วนทางด้านของสเปคนั้นต้องบอกว่าทำได้ดีและน่าสนใจอย่างมาก ในส่วนของสเปคนั้นจะมาพร้อมกับ INTEL และมีแค่สเปคเดียวครับคือใช้งาน intel Core i7-9750H 2.6 – 4.5 GHz + NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti (6GB GDDR6)RAM 8GB DDR4 Bus 2666MHz SSD M.2 NVMe PCIE 3.0 512GB และใช้งาน หน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว FullHD IPS 240Hz 3ms ตัวเทพแบบเดียวกับ Zephyrus S เลยนั้นเองครับ ส่วนเรื่องเสียงนั้นน่าจะมาพร้อมกับ ESS DAC Hires Audio ในตัวเลยทั้งเสียงลำโพงและหูฟังทำงานได้ดีมาก และ ทำราคาได้ดีกว่าเดิมเล็กน้อยเมื่อเทียบกับ สเปค ในภาพรวมครับ

ASUS ROG ZEPHYRUS M GU502 สนนราคาอยู่ที่ 49,990 บาท มีแค่รุ่นย่อยเดียวเท่านั้นครับ
Intel Core i7-9750H + GTX 1660TI 6GB GDDR6 RAM 8GB SSD 512 GB

UNBOX
- ตัวเครื่อง ROG ZEPHYRUS M
- สายชาร์จ + Power Adaptor
- คู่มือ

DESIGN
ROG ที่ออกแบบมาสำหรับสายทำงานมากๆคือมันลงตัวทั้งความเรียบง่ายและความดุดันไม่มีการเล่นแสงไฟ สีลวดลายอะไรให้มันรกเลยครับ ถือว่ามันเหมือนเป็นความสมมาตรของตัวเครื่องเมื่อมองจากในทุกๆด้านเลยทีเดียว ส่วนตัวไฟด้านหลังตรงโลโก้อะไรก็มีสีแดงนิดหน่อยไม่ได้สว่างอะไรมากครับและ งานประกอบความแน่นหนาของวัสดุนั้นทำได้ดี วัสดุเป็นโลหะปัดลายในส่วนภายนอกทั้งหมดแต่ในส่วนด้านในเป็นพลาสติกคุณภาพสูงเพื่อที่จะทำให้น้ำหนักนั้นเบา รวมๆนั้นถือว่าเก็บงานการออกแบบแน่นหนาแข็งแรงทำได้ดีสมกับ ROG และวัสดุนั้นจะเป็นแบบเดียวกับตัว Zephyrus ก่อนหน้านี้ที่เคยรีวิวกันไปจะให้สัมผัสด้านๆไม่ลื่นครับ

ฝาหลังนั้นยังคงโดดเด่นด้วยการใช้วัสดุปัดลายสวยงามและเฉียงๆและโลโก้ ROG แบบสีแดงครับในรุ่นนี้ไม่สามารถเปลี่ยนสีได้นะ ส่วนเมื่อปิดไฟนั้นจะเป็นโครมเมี่ยมเงาๆสวยงามไปอีกแบบ ยังคงมีการเว้าในส่วนขอบด้านล่างที่จะช่วยเรื่องระบายความร้อนได้ดีอยู่เหมือนเดิม รวมถึงข้อพับการยกตัวเครื่องต่างๆยังใส่เข้ามาสมกับ Zephyrus ที่มีแบบนี้ในหลายๆตัว ส่วนการออกแบบรวมๆนั้นจะเรียบๆไม่ได้หวือหวามากนัก และหน้าจอก็ทำได้บางมากๆรวมถึงไม่มีกล้องหน้ามาให้แล้วนั้นเองในข้างหน้า ส่วนการวางคีย์บอร์ดต่างๆก็ไว้ตรงกลางพร้อมกับไฟ RGB PerKey และ วัสดุสีดำด้านทั้งหมดไม่ได้มีการเล่นตัดขอบหรือสีเงินอะไรแทรกเข้ามา

ในส่วนของฐานด้านล่างนั้นจะเห็นชิ้นส่วนที่เป็นชิ้นเดียวกันทั้งหมด สามารถแกะอัพเกรดในส่วนของ RAM ได้ และในส่วนยางรองนั้นจะเป็นแบบชิ้นทั้ง 4 มุมครับ จะเห็นได้ชัดว่าข้างล่างนั้นเรียบๆไม่ได้มีลวดลายอะไรแตกต่างกับพวก STRIX SCAR -HERO พวกนั้นแบบชัดเจนครับ แน่นอนว่าตัวนี้อาจจะเป็นเน้นใช้งานเรียบๆมากกว่าด้วยนั้นเอง ช่องลำโพงมีมาให้ซ้ายขวา และ ช่องระบายอากาศนั้นจะเป็นซ้ายขวา และด้านหลังของเครื่อง ในรุ่นนี้จะไม่มีระบบการยกตัวเครื่องอะไรมาให้นะครับเป็นแบบปกติเลยนั้นเอง ส่วนในวัสดุด้านในนั้นมีการเล่นลวดลาย 2 วัสดุเล็กน้อยแต่ก็เป็นพลาสติกสีดำด้านทั้งหมดและมีรูในส่วนแทบด้านบน

ตัวเครื่องรวมๆนั้นจะเป็นวัสดุพลาสติกดำเมื่อมาดูที่ด้านข้างนั้นจะเห็นช่องระบายความร้อนต่างๆ และตัวข้อพับหน้าจอที่ค่อนข้างแข็งแรง แม้จะไม่มีระบบยกตัวเครื่องอะไรแบบรุ่นพี่แต่ก็ระบายความร้อนได้ดีพอสมควรเลยแหละ ส่วนตรงหน้าจอด้านหน้านั้นจะเขียนชื่อรุ่นสีดำเงาเล็กๆครับไม่ได้เด่นอะไรมาก แต่ที่น่าสนใจนั้นในรุ่นใหม่ๆทั้งหมดเริ่มจะไม่มีกล้องหน้ามาให้แล้วนะ คือตัดออกไปเลยไม่ได้ไว้ขอบล่างอะไรทั้งนั้นคือไม่มีเลยนั้นเองเพื่อความบางของหน้าจอโดยรวม ส่วนช่องเว้าตรงด้านล่างของหน้าจอนั้นก็เพื่อจะรับลมเข้ามาระบายได้ดีกว่าเดิมซึ่งจะช่วยในการทำงานโดยการระบายความร้อนออกไปข้างหลังนั่นเองครับ

ด้านหลังส่วนที่เว้าไปนั้นยังคงการออกแบบที่ให้เห็นไฟสถานะอยู่เช่นเดิมมีไฟ 3 ดวงบอกสถานะการชาร์จไฟ การทำงานต่างๆครับจะเป็นจุดเว้าที่ช่วยในเรื่องของการระบายความร้อนออกไปด้านด้านหลังด้วย และในตำแหน่งเดียวกับเมื่อมองจากทางด้านหลังนั้นจะเป็นช่องระบายลมหลักๆของตัวเครื่องทั้งซ้ายและขวาของตัวเครื่องพร้อมกับโลโก้ ROG มาในแบบชื่อเต็มครับ

ตัวโลโก้นั้นจะเป็นไฟสีแดง แต่ต้องที่มืดจริงๆครับเพราะว่ามองได้ยากพอสมควร ที่มืดๆนั้นก็จะเห็นค่อนข้างชัดเลยแหละ ส่วนวัสดุนั้นเป็นการปัดลายกันคนละแบบและเป็นวัสดุโลหะทั้งหมดในส่วนของฝาหลังขึ้นชิ้นมาเต็มๆ เมื่อมาด้านหน้านั้นขอบจอค่อนข้างบางมากๆ และการที่ตัดกล้องหน้าออกไปทำให้ขอบด้านบนนั้นเท่ากับขอบบ้างๆได้อย่างลงตัว แต่มียางรองกันรอบๆหน้าจอได้ค่อนข้างครบและดูแข็งแรงไปในตัว หน้าจอตัวนี้เป็น 240Hz 3MS

SPEC
- Intel® Core™ i7 9750H Processor,
- ระบบปฏิบัติการ
Windows 10 Home – ASUS recommends Windows 10 Pro.
- ชิพเซ็ต
Intel® HM370 Express Chipset
- หน่วยความจำ
8 GB DDR4 2666MHz SDRAM Onboard memory, 1 x SO-DIMM socket for expansion, up to 24 GB SDRAM
- การแสดงผล
15.6″ (16:9) LED-backlit FHD (1920×1080) 240Hz Anti-Glare Panel with 72% NTSC
- กราฟฟิก
NVIDIA® GeForce® GTX 1660TI , with 6GB GDDR6 VRAM
- สตอเรจ
Solid state drive:
512GB PCIe® Gen3 SSD
- คีย์บอร์ด
Illuminated chiclet keyboardPer-key RGB
- WebCam
External Camera (1080p@60FPS), optional
- เน็ตเวิร์คกิ้ง
Wi-Fi
Integrated Wi-Fi 5 (802.11 ac (2×2))
Bluetooth
Bluetooth® 5.0
- อินเตอร์เฟส
1 x Microphone-in jack
1 x Microphone-in/Headphone-out jack
1 x Type-C USB 3.1 (Gen 2) with display and power delivery support
2 x Type-A USB 3.0 (USB 3.1 Gen 1)
1 x Type-A USB 3.1 (Gen 2)
1 x RJ45 LAN jack for LAN insert
1 x HDMI, HDMI support 2.0b
- ออดิโอ
Smart AMP
ASUS Sonic Studio
- แบตเตอรี่
4 -Cell 76 Wh Battery
- พาวเวอร์ อะแด๊ปเตอร์
Plug type :ø6.0 (mm)
Output :
19.5 V DC, 11.8 A, 230 W
- ขนาด
NB:
360 x 252 x 18.9 mm (WxDxH)
- น้ำหนัก
NB:
1.9 kg

PERFORMANCE

PC MARK นั้นทำคะแนนไปได้ค่อนข้างสูง กว่าตัว Zephyrus G ที่ใช้ Ryzen 7 ครับเพราะในรุ่น M นี้ ทำไปได้ 5,87 คะแนน จริงๆพวกระดับราคานี้การใช้งานทั่วไปทำงานคงไม่ต้องกังวลตอบโจทย์ทำงาน ทั่วไปแทบจะทุกรูปแบบครับ ไม่ต้องห่วงเลยแหละ ตั้งแต่ Word ไปยังตัดต่อ รองรับได้สบายด้วยความแรงทั้ง CPU -GPU ที่รองรับกันอย่างดีและระบายความร้อนได้ดีด้วย จากการทดสอบเสร็จแล้วนั้น ความร้อนตัวเครื่องวัดได้ที่ CPU 81 GPU 78 องศาครับผม ถือว่าเทียบกับตัว Zephyrus G ตัวนั้นจะคุมความร้อนได้ดีกว่าในตัว CPU ครับ

3D MARK นั้น ทำคะแนนเรียกได้ว่าสูง รวมถึงการทดสอบทั้ง 4 แบบนะครับ ตัว TIMESPY ที่เน้นไปเจาะกลุ่มคอมพิวเตอร์ระดับท็อป เกมมิ่ง ทำคะแนนได้ 5604 ถือว่าดีกว่า zephyrus g แบบชัดเจนและในส่วนของ Firestrike 13010 และ Firestrike Ultra นั้นทำได้ 3124 และ Time Spy Extream นั้นแบบสุดโหดทำไปได้ 2601 คะแนน ต้องบอกว่าผ่านการทดสอบใช้งานระดับสูงๆของ 3D Mark สบายๆ และทำได้ดีกว่าตัว Zephyrus G ค่อนข้างชัดแม้จะเป็นการ์ดจอตัวเดียวกันครับ ส่วนในเรื่องความร้อน แอดมินทดสอบต่อเนื่อง 3 แบบและวัดความร้อนนั้นประมาณ CPU 87 และ GPU 81 ไม่มีแอร์ และ ไม่มีพัดลมเปิดช่วยครับผม ถือว่าจัดการได้ดีอยู่ ยังไม่แตะ 90 ครับแต่ถ้าเทียบกับ Ryzen ตัวนั้นจะเย็นกว่าแต่ก็ไม่แรงเท่านั้นเองครับ

CINEBENCH R15 /R20 นั้น ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูง ในตัว R20 นั้นที่ประมวลผลหนักหน่วงกว่าเดิม ทำคะแนน 3063 CB เลยครับ ประมวลผลหนักๆได้แบบสบาย และในตัว R15 นั้นทำไปได้ 101FPS และ 1266CB ครับ และยิ่งไปกว่านั้นคือ วัดความร้อนนั้นประมาณ CPU 79 และ GPU 74 ไม่มีแอร์ และ ไม่มีพัดลมเปิดช่วยครับผม ถือว่าดีกว่าที่คิด และใช้งานได้ไวกว่าเดิมไปอีกด้วย SSD 512GB แบบ M.2 NVMe การอ่านที่ 1658MB/s และเขียนที่ 892MB/s ถือว่าอยู่ในระดับที่ค่อนข้างไวและใช้งานได้สบายรวมถึงสามารถอัพเกรดได้อีก แต่เมื่อเทียบในเรทราคานี้ถือว่าค่อนข้างช้าไปนิดในการอ่านเขียนนะครับน่าจะให้ตัวแรงกว่านี้มาให้เลยติกเครื่อง
[SR] รีวิว ROG ZEPHYRUS M (GU502) บางเบาจอเทพ 240Hz สเปค i7 + GTX 1660TI
ROG นั้นเปิดตัวคอมพิวเตอร์สายเกมที่มีการแยกแยะซีรีย์กันชัดเจนครับแน่นอนว่าในรุ่นที่เราจะเอามารีวิวนั้นจะเป็น Zephyrus ที่จะเน้นการพกพา และ บางเบาเป็นหลักจะไม่เหมือนกับพวก STRIX ทั้งหลายที่จะมีความหนาและไฟต่างๆนั้นจะเยอะกว่าอันนี้ก็จะแล้วแต่คนชอบกันไปครับ ในครั้งนี้เราจะมาอยู่กับ ROG Zephyrus M ที่เป็นซีรีย์บางเบา และ สเปคใช้งานได้ดีมากๆทั้งในแง่ของการเล่นเกม และ กรทำงานเรนเดอร์งานต่างๆเพราะด้วยหน้าจอที่รองรับความแม่นยำของสีที่ดี และ ความลื่นไหลของจอภาพครับและมันจะเหมาะกับการทำงานทั่วไปมากขึ้นเพราะดีไซน์ที่ไม่ได้สายเกมเยอะเกินไปทำให้หลายๆคนนั้นเอาไปทำงานทั่วไป พกพาไปทำงานข้างนอกได้แบบไม่เขินครับ
ROG Zephyrus M นั้นเปิดตัวมาด้วยจุดเด่นที่เน้นการพกพาที่บางเบาด้วยขนาดที่เล็กลงและบางลง ตัวเครื่อง 18.9 มิลลิเมตร และหนัก 1.9 กิโลกรัม หน้าจอที่รองรับได้ดีมากๆในการทำงานและเล่นเกม รวมถึงการใช้งานที่รองรับสูงสุด 8 ชั่วโมงในการพกพาทำงานข้างนอกครับ ส่วนทางด้านของสเปคนั้นต้องบอกว่าทำได้ดีและน่าสนใจอย่างมาก ในส่วนของสเปคนั้นจะมาพร้อมกับ INTEL และมีแค่สเปคเดียวครับคือใช้งาน intel Core i7-9750H 2.6 – 4.5 GHz + NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti (6GB GDDR6)RAM 8GB DDR4 Bus 2666MHz SSD M.2 NVMe PCIE 3.0 512GB และใช้งาน หน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว FullHD IPS 240Hz 3ms ตัวเทพแบบเดียวกับ Zephyrus S เลยนั้นเองครับ ส่วนเรื่องเสียงนั้นน่าจะมาพร้อมกับ ESS DAC Hires Audio ในตัวเลยทั้งเสียงลำโพงและหูฟังทำงานได้ดีมาก และ ทำราคาได้ดีกว่าเดิมเล็กน้อยเมื่อเทียบกับ สเปค ในภาพรวมครับ
ASUS ROG ZEPHYRUS M GU502 สนนราคาอยู่ที่ 49,990 บาท มีแค่รุ่นย่อยเดียวเท่านั้นครับ
Intel Core i7-9750H + GTX 1660TI 6GB GDDR6 RAM 8GB SSD 512 GB
UNBOX
- ตัวเครื่อง ROG ZEPHYRUS M
- สายชาร์จ + Power Adaptor
- คู่มือ
DESIGN
ROG ที่ออกแบบมาสำหรับสายทำงานมากๆคือมันลงตัวทั้งความเรียบง่ายและความดุดันไม่มีการเล่นแสงไฟ สีลวดลายอะไรให้มันรกเลยครับ ถือว่ามันเหมือนเป็นความสมมาตรของตัวเครื่องเมื่อมองจากในทุกๆด้านเลยทีเดียว ส่วนตัวไฟด้านหลังตรงโลโก้อะไรก็มีสีแดงนิดหน่อยไม่ได้สว่างอะไรมากครับและ งานประกอบความแน่นหนาของวัสดุนั้นทำได้ดี วัสดุเป็นโลหะปัดลายในส่วนภายนอกทั้งหมดแต่ในส่วนด้านในเป็นพลาสติกคุณภาพสูงเพื่อที่จะทำให้น้ำหนักนั้นเบา รวมๆนั้นถือว่าเก็บงานการออกแบบแน่นหนาแข็งแรงทำได้ดีสมกับ ROG และวัสดุนั้นจะเป็นแบบเดียวกับตัว Zephyrus ก่อนหน้านี้ที่เคยรีวิวกันไปจะให้สัมผัสด้านๆไม่ลื่นครับ
ฝาหลังนั้นยังคงโดดเด่นด้วยการใช้วัสดุปัดลายสวยงามและเฉียงๆและโลโก้ ROG แบบสีแดงครับในรุ่นนี้ไม่สามารถเปลี่ยนสีได้นะ ส่วนเมื่อปิดไฟนั้นจะเป็นโครมเมี่ยมเงาๆสวยงามไปอีกแบบ ยังคงมีการเว้าในส่วนขอบด้านล่างที่จะช่วยเรื่องระบายความร้อนได้ดีอยู่เหมือนเดิม รวมถึงข้อพับการยกตัวเครื่องต่างๆยังใส่เข้ามาสมกับ Zephyrus ที่มีแบบนี้ในหลายๆตัว ส่วนการออกแบบรวมๆนั้นจะเรียบๆไม่ได้หวือหวามากนัก และหน้าจอก็ทำได้บางมากๆรวมถึงไม่มีกล้องหน้ามาให้แล้วนั้นเองในข้างหน้า ส่วนการวางคีย์บอร์ดต่างๆก็ไว้ตรงกลางพร้อมกับไฟ RGB PerKey และ วัสดุสีดำด้านทั้งหมดไม่ได้มีการเล่นตัดขอบหรือสีเงินอะไรแทรกเข้ามา
ในส่วนของฐานด้านล่างนั้นจะเห็นชิ้นส่วนที่เป็นชิ้นเดียวกันทั้งหมด สามารถแกะอัพเกรดในส่วนของ RAM ได้ และในส่วนยางรองนั้นจะเป็นแบบชิ้นทั้ง 4 มุมครับ จะเห็นได้ชัดว่าข้างล่างนั้นเรียบๆไม่ได้มีลวดลายอะไรแตกต่างกับพวก STRIX SCAR -HERO พวกนั้นแบบชัดเจนครับ แน่นอนว่าตัวนี้อาจจะเป็นเน้นใช้งานเรียบๆมากกว่าด้วยนั้นเอง ช่องลำโพงมีมาให้ซ้ายขวา และ ช่องระบายอากาศนั้นจะเป็นซ้ายขวา และด้านหลังของเครื่อง ในรุ่นนี้จะไม่มีระบบการยกตัวเครื่องอะไรมาให้นะครับเป็นแบบปกติเลยนั้นเอง ส่วนในวัสดุด้านในนั้นมีการเล่นลวดลาย 2 วัสดุเล็กน้อยแต่ก็เป็นพลาสติกสีดำด้านทั้งหมดและมีรูในส่วนแทบด้านบน
ตัวเครื่องรวมๆนั้นจะเป็นวัสดุพลาสติกดำเมื่อมาดูที่ด้านข้างนั้นจะเห็นช่องระบายความร้อนต่างๆ และตัวข้อพับหน้าจอที่ค่อนข้างแข็งแรง แม้จะไม่มีระบบยกตัวเครื่องอะไรแบบรุ่นพี่แต่ก็ระบายความร้อนได้ดีพอสมควรเลยแหละ ส่วนตรงหน้าจอด้านหน้านั้นจะเขียนชื่อรุ่นสีดำเงาเล็กๆครับไม่ได้เด่นอะไรมาก แต่ที่น่าสนใจนั้นในรุ่นใหม่ๆทั้งหมดเริ่มจะไม่มีกล้องหน้ามาให้แล้วนะ คือตัดออกไปเลยไม่ได้ไว้ขอบล่างอะไรทั้งนั้นคือไม่มีเลยนั้นเองเพื่อความบางของหน้าจอโดยรวม ส่วนช่องเว้าตรงด้านล่างของหน้าจอนั้นก็เพื่อจะรับลมเข้ามาระบายได้ดีกว่าเดิมซึ่งจะช่วยในการทำงานโดยการระบายความร้อนออกไปข้างหลังนั่นเองครับ
ด้านหลังส่วนที่เว้าไปนั้นยังคงการออกแบบที่ให้เห็นไฟสถานะอยู่เช่นเดิมมีไฟ 3 ดวงบอกสถานะการชาร์จไฟ การทำงานต่างๆครับจะเป็นจุดเว้าที่ช่วยในเรื่องของการระบายความร้อนออกไปด้านด้านหลังด้วย และในตำแหน่งเดียวกับเมื่อมองจากทางด้านหลังนั้นจะเป็นช่องระบายลมหลักๆของตัวเครื่องทั้งซ้ายและขวาของตัวเครื่องพร้อมกับโลโก้ ROG มาในแบบชื่อเต็มครับ
ตัวโลโก้นั้นจะเป็นไฟสีแดง แต่ต้องที่มืดจริงๆครับเพราะว่ามองได้ยากพอสมควร ที่มืดๆนั้นก็จะเห็นค่อนข้างชัดเลยแหละ ส่วนวัสดุนั้นเป็นการปัดลายกันคนละแบบและเป็นวัสดุโลหะทั้งหมดในส่วนของฝาหลังขึ้นชิ้นมาเต็มๆ เมื่อมาด้านหน้านั้นขอบจอค่อนข้างบางมากๆ และการที่ตัดกล้องหน้าออกไปทำให้ขอบด้านบนนั้นเท่ากับขอบบ้างๆได้อย่างลงตัว แต่มียางรองกันรอบๆหน้าจอได้ค่อนข้างครบและดูแข็งแรงไปในตัว หน้าจอตัวนี้เป็น 240Hz 3MS
SPEC
- Intel® Core™ i7 9750H Processor,
- ระบบปฏิบัติการ
Windows 10 Home – ASUS recommends Windows 10 Pro.
- ชิพเซ็ต
Intel® HM370 Express Chipset
- หน่วยความจำ
8 GB DDR4 2666MHz SDRAM Onboard memory, 1 x SO-DIMM socket for expansion, up to 24 GB SDRAM
- การแสดงผล
15.6″ (16:9) LED-backlit FHD (1920×1080) 240Hz Anti-Glare Panel with 72% NTSC
- กราฟฟิก
NVIDIA® GeForce® GTX 1660TI , with 6GB GDDR6 VRAM
- สตอเรจ
Solid state drive:
512GB PCIe® Gen3 SSD
- คีย์บอร์ด
Illuminated chiclet keyboardPer-key RGB
- WebCam
External Camera (1080p@60FPS), optional
- เน็ตเวิร์คกิ้ง
Wi-Fi
Integrated Wi-Fi 5 (802.11 ac (2×2))
Bluetooth
Bluetooth® 5.0
- อินเตอร์เฟส
1 x Microphone-in jack
1 x Microphone-in/Headphone-out jack
1 x Type-C USB 3.1 (Gen 2) with display and power delivery support
2 x Type-A USB 3.0 (USB 3.1 Gen 1)
1 x Type-A USB 3.1 (Gen 2)
1 x RJ45 LAN jack for LAN insert
1 x HDMI, HDMI support 2.0b
- ออดิโอ
Smart AMP
ASUS Sonic Studio
- แบตเตอรี่
4 -Cell 76 Wh Battery
- พาวเวอร์ อะแด๊ปเตอร์
Plug type :ø6.0 (mm)
Output :
19.5 V DC, 11.8 A, 230 W
- ขนาด
NB:
360 x 252 x 18.9 mm (WxDxH)
- น้ำหนัก
NB:
1.9 kg
PERFORMANCE
PC MARK นั้นทำคะแนนไปได้ค่อนข้างสูง กว่าตัว Zephyrus G ที่ใช้ Ryzen 7 ครับเพราะในรุ่น M นี้ ทำไปได้ 5,87 คะแนน จริงๆพวกระดับราคานี้การใช้งานทั่วไปทำงานคงไม่ต้องกังวลตอบโจทย์ทำงาน ทั่วไปแทบจะทุกรูปแบบครับ ไม่ต้องห่วงเลยแหละ ตั้งแต่ Word ไปยังตัดต่อ รองรับได้สบายด้วยความแรงทั้ง CPU -GPU ที่รองรับกันอย่างดีและระบายความร้อนได้ดีด้วย จากการทดสอบเสร็จแล้วนั้น ความร้อนตัวเครื่องวัดได้ที่ CPU 81 GPU 78 องศาครับผม ถือว่าเทียบกับตัว Zephyrus G ตัวนั้นจะคุมความร้อนได้ดีกว่าในตัว CPU ครับ
3D MARK นั้น ทำคะแนนเรียกได้ว่าสูง รวมถึงการทดสอบทั้ง 4 แบบนะครับ ตัว TIMESPY ที่เน้นไปเจาะกลุ่มคอมพิวเตอร์ระดับท็อป เกมมิ่ง ทำคะแนนได้ 5604 ถือว่าดีกว่า zephyrus g แบบชัดเจนและในส่วนของ Firestrike 13010 และ Firestrike Ultra นั้นทำได้ 3124 และ Time Spy Extream นั้นแบบสุดโหดทำไปได้ 2601 คะแนน ต้องบอกว่าผ่านการทดสอบใช้งานระดับสูงๆของ 3D Mark สบายๆ และทำได้ดีกว่าตัว Zephyrus G ค่อนข้างชัดแม้จะเป็นการ์ดจอตัวเดียวกันครับ ส่วนในเรื่องความร้อน แอดมินทดสอบต่อเนื่อง 3 แบบและวัดความร้อนนั้นประมาณ CPU 87 และ GPU 81 ไม่มีแอร์ และ ไม่มีพัดลมเปิดช่วยครับผม ถือว่าจัดการได้ดีอยู่ ยังไม่แตะ 90 ครับแต่ถ้าเทียบกับ Ryzen ตัวนั้นจะเย็นกว่าแต่ก็ไม่แรงเท่านั้นเองครับ
CINEBENCH R15 /R20 นั้น ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูง ในตัว R20 นั้นที่ประมวลผลหนักหน่วงกว่าเดิม ทำคะแนน 3063 CB เลยครับ ประมวลผลหนักๆได้แบบสบาย และในตัว R15 นั้นทำไปได้ 101FPS และ 1266CB ครับ และยิ่งไปกว่านั้นคือ วัดความร้อนนั้นประมาณ CPU 79 และ GPU 74 ไม่มีแอร์ และ ไม่มีพัดลมเปิดช่วยครับผม ถือว่าดีกว่าที่คิด และใช้งานได้ไวกว่าเดิมไปอีกด้วย SSD 512GB แบบ M.2 NVMe การอ่านที่ 1658MB/s และเขียนที่ 892MB/s ถือว่าอยู่ในระดับที่ค่อนข้างไวและใช้งานได้สบายรวมถึงสามารถอัพเกรดได้อีก แต่เมื่อเทียบในเรทราคานี้ถือว่าค่อนข้างช้าไปนิดในการอ่านเขียนนะครับน่าจะให้ตัวแรงกว่านี้มาให้เลยติกเครื่อง
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้