เรื่องนานมาแล้วแหละครับ สมัยมอปลาย ผมเองก็ไม่ใช่คนดีอะไร เป็นผู้ชายปกติๆคนนึงที่มีแฟนเป็นผู้หญิง ใช้ชีวิตแบบผู้ชายทั่วๆไปนี่แหละครับ แตะบอล โดดเรียน มีเรื่องชกต่อย จนมาถึงจุดที่ทำให้ผมเปลี่ยนชีวิตจริงๆ และพังจริงๆ ตอนมอ 6 เล่าย้อนก่อนนะครับ คือผมมีเพื่อนชายที่สนิทมากๆอยู่คนนึง คือไปไหนไปกัน มีต้องมีกู สนิทกันมาตั้งแต่สมัยมอต้น และผมก็มีแฟนผญ.ที่คบกันมาเกือบๆ 3 ปี คบกันดีไม่ค่อยมีปัญหากัน จนกระทั้งมาถึงจุดพีค เหมือนละครเลยครับ ช่วงมอ 5 ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเอง ไอ่เพื่อนสนิทผมคนนี้แหละแอบไปมีอะไรกับแฟนผมในคืนวันลอยกระทง /ถามว่าผมรู้ได้ไง ? วันนั้นผมกำลังนั่งรถกลับบ้าน แล้วมันจะมีโรงแรมๆนึง อารมม่านรูดที่เด็กแถวนั้นพากันไปเอากัน มัน2 คนพากันซ้อนมอไซเข้าไป ผมเลยลงจากรถและเดินตามเข้าไป แต่ทางม่านรูดไม่ยอมให้ไปรบกวน ผมบอกผมมาหาเพื่อน แต่ผมก็ไม่ทันเห็นไงว่ามันเข้าไปช่องไหน
โคตรโมโห เลยโทรหามันทั้ง 2 ไม่รับสาย ผมเลยนั่งรอและโทรตามเพื่อนอีก 2 คนมา ทางม่านรูดก็กลัวจะมีปัญหากันในที่ของเขาก็เลยกันตัวพวกผมออกจากพื้นที่ ในใจผมไม่ทำไรมันหรอก แค่จะถามว่าทำแบบนี้ทำไม แล้วตอนนั้นคือเข่าทรุดอะ แทบยืนไม่ได้ ตันไปหมด ก็เลยให้เพื่อนอีก 2 คนมาอยู่ด้วย ก็เลยไปรอมันอยู่หน้าซอย พอมันออกมา ผมเดินไปต่อยหน้าเพื่อนผมก่อนเลย แบบ
ทำไมทำกับกูแบบนี้วะ ส่วนแฟนผมก็ไม่พูดไรสักคำหลบอยู่ข้างหลัง ก็จะพูดไรอีกก็จับได้ขนาดนี้ จากนั้นก็เป็นเรื่องบลาๆ จนไอ่เพื่อนที่เอาแฟนผมมันก็
ไม่ได้ให้ใจกับผมจริงๆอะ มันบอกแล้วทำไม ดีนักหรอ อวดโน้นนี่ เก่งนักหนิ อะไรต่างๆนาๆ ซึ่งคนละเรื่องกับที่อยู่ตรงหน้าตอนนั้น จนเพื่อน 2 คนที่ผมเรียกมา เคลียจนจบ หลังจากวันนั้นผมก็เลิกหมดทั้งเพื่อนทั้งแฟน โอเคจบตรงนี้ละกัน หลังจากนั้นก็เป็นศัตรูกันกับเพื่อนคนนั้น มีเรื่องชกกันบ่อยบลาๆๆในโรงเรียน ยิ่งอยู่ห้องเดียวกัน
โคตรทรมาน ผมก็พยายามนิ่งที่สุด เพราะโดนเชิญผู้ปกครองบ่อย ก็เลยพอละ ไม่คบก็คือไม่ต้องสนใจมันละ ละมัน 2 คนก็คบเป็นแฟนกันนะ ….... ไม่นานก็เห็นเลิกกัน / ผมก็โสดอยู่ประมาณ 3 เดือนได้ ไม่มีคนคุยเลย แล้วช่วงนั้นก็เฮิทหนักมาก และช่วงเวลานั้นแหละที่มีผู้ชายเข้ามาคนนึง เขาเป็นรุ่นพี่มอ 6 โรงเรียนเดียวกันนี่แหละ ก็ออกแนวมาให้กำลังใจ ซึ่งตอนนั้นเราเองก็ไม่ได้คิดไร เพราะรู้อยู่แล้วว่าเขาเป็นเกย์ แต่ก็ไม่ได้รังเกียจไรนะ ก็โอเคขอบคุณเขา ก็คุยเฟสบุ๊คมาเรื่อยๆ จนผ่านไปๆเขาก็เหมือนเขาจะเข้ามาในชีวิตเรามากขึ้น เริ่มทักกันที่โรเรียน ตอนนั้นเราก็รู้สึกแปลกๆนะ แต่เขาก็ดีอะ เทคแคร์ดี จนผ่านไปก็หลายเดือนอยู่ที่คุย ก็คือเขาจีบนั้นแหละ แต่เราไม่คิดว่าจะต้องคบกับผู้ชาย ก็เลยออกห่าง เมินใส่เขาเลย อารมแบบเทเขาอะ5555 แต่สุดท้ายก็เหมือนกับเราเองที่คิดถึงเขา อยากคุยด้วย (เขาเป็นคนที่คุยด้วยแล้วสบายใจที่สุด พูดได้ทุกอย่าง) ก็เลยตัดสินใจลองให้เขาจีบดู เริ่มออกไปเที่ยว กินข้าว ดูหนังข้างนอกด้วยกัน มันก็ดีนะ แต่เราอายอะ อายมากจนต้องแยกกันเดิน ค่อยไปเจอกันในโรงหนัง ผ่านไปๆเรื่อยๆก็เริ่มมีคนรู้ จนตัดสินใจคบกัน ตอนนั้นเริ่มไม่สนรอบข้างละนะ เพราะมั้นใจแล้วว่าเรารักเขา และความรักไม่ใช่เรื่องน่าอาย (กว่าจะได้คบไม่ได้ง่ายครับ ทะเลาะกับตัวเองทุกวัน) แต่ก็ยังไม่ได้มีอะไรกันนะ ตอนนั้นยังรับไม่ได้กับเรื่องแบบนั้น ไม่รู้ต้องเริ่มยังไงกับผู้ชายด้วยกัน เขาเองก็ยังไม่รู้ว่าเขาเป็นรุกหรือรับ เพราะไม่เคยเหมือนกัน จนสุดท้ายก็ลอง
หมดเลย คือรักแล้วอะ ไม่มีไรรังเกียจละ จนสุดท้ายลองไปลองมา ผมเองนี่แหละต้องเป็นฝ่ายรับ จากนั้นก็เริ่มคบแบบเปิดเผย เพื่อนเขา เพื่อนผมรู้ แฟนเก่าผมรู้ แต่ไม่แคร์ว่าใครจะมองยังไงแล้วตอนนั้น รู้แค่ว่ามีความสุขมาก เขาเป็นคนดีกว่าที่เราคิดไว้ซะอีก หลังจากนั้นชีวิตก็เหมือนจะดีนะ แต่!! เพื่อนเริ่มไม่คบกับผม ต้องบอกก่อนว่าเพื่อนผมเกือบจะทั้งหมดคือชายแท้ เริ่มตีตัวออกห่าง เพราะไลฟ์สไตล์ผมเปลี่ยนไป ทำให้เพื่อนที่คบเริ่มกลัวผม (สมัยนั้นคือเกย์ ตุ๊ดจะชอบจับผู้ชายอะนึกออกป่ะ) แล้วเพื่อนเราก็กลัวว่าเราจะไปทำแบบนั้นกับมัน เห้ยคือโคตรเสียใจ กูก็คือกูป้ะ แล้วที่เจ็บใจไปกว่านั้นคือคนต้นเรื่องที่ทำให้เพื่อนต้องเกลียดผมก็คือคนที่ไปเอากับเเฟนผม จนทำให้ผมมาเป็นแบบนี้ ด้วยลักษณะนิสัยผมที่เปลี่ยนไป แล้วคือผู้ชายสมัยนั้นอะไม่รู้เป็นไรมากป่าว (หรือเป็นแค่ไอ่เวรพวกนี้ไม่รู้นะ) ชอบมาจับตูด ตีตูดเหมือนเราเป็นตัวตลกอะ สนุกกันมาก ซึ่งผมไม่ชอบเลย แล้วผมก็ด่ากลับ ผลักแบบมันปลิวอะ แล้วมันก็มาไม่พอใจที่ไปผลักมัน ก็เลยเห้ยทีทำกูอะ คือปัญญาอ่อนมาก หลักจากนั้นแหละ ไอ่พวกเพื่อนที่เคยคบกับผมอะเริ่มไปตั้งก๊วนแอนตี้ผม ไปพูดอะไรกันไม่รู้แหละ จนเรื่อง
บานปลายกลายเป็นคนส่วนใหญในห้องไม่คุยกับผมอะ เพราะมันคือกลุ่มใหญ่อะ คือเห้ย ตลกมากชีวิตมัธยมกู ตอนนั้นผมก็ขึ้นมอ 6 ละ แฟนผมก็เรียนจบออกไปละ แต่ผมที่ยังอยู่กับสภาพเเวดล้อมเพื่อนไม่คบต่อไป ซึ่งผมมองว่าพวกมันโคตรปัญญาอ่อน ก็เลยไม่ได้แก้ไขตัวเองอะไรเลย ต่อต้านพวกมันทุกอย่าง ไม่สนไรเลยยั่วโมโหพวกมัน และชีวิตในละครก็เกิดขึ้นกับผม เช้าวันนึง 5555 โต๊ะเก้าอี้ผมเต็มไปด้วยบทความที่ถูกเขียนด้วยลิควิด เช่น อีตุ๊ด อีติ่ง อีส่วนเกินของห้อง เต็มโต๊ะไปหมด (นี่หรอสิ่งที่ชายแท้ เขาทำกัน หึ) ผมเครียดมากนะ เพราะเริ่มรู้ว่ามีอีกหลายคนเริ่มเป็นส่วนนึงกับพวกมันแกล้งผม เช้านั้นผมเห็นโต๊ะตัวเอง แล้วถีบโต๊ะล้มระเนระนาด เก้าอีหักหมด ผมเลยไปบอกครูประจำชั้นว่าให้ไปดูโต๊ะผม ก็เป็นเรื่อง บลาๆๆ สุดท้ายผมก็ได้โต๊ะใหม่ และยังคงต่อต้านพวกมันต่อไป เชื่อป่าวว่าทุกวันที่ยืนเข้าแถว ใครที่ยืนอยู่หลังผมจะเว้นที่ไว้อย่างห่างเพราะไม่อยากใกล้ผม อารมเหมือนผมเป็นตัวอะไรสักอย่าง ผมทนไม่ไหวเพราะผมก็อายเพื่อนห้องอื่นอะ ก็เลยหันไปด่ามัน คว_ไรอะ แล้วก็หันกลับ บอกตรงๆตอนนั้นโคตรกลัวโดนไอ่พวกนั้นรุมกระทืบ เพราะเรานี่คนเดียวเลยนะ แต่มันไม่ไหวแล้วเว้ย จนเพื่อนข้างห้องบอกให้ไปเข้าแถวกับมัน เวลาทำงานกลุ่มผมก็ไม่มีกลุ่มอยู่ เวลาพรีเซ้นงานพวกมันก็คอยกวน จนผมพูดออกไมว่า "หุบปาก" ปัญญาอ่อนมากชีวิตกูอะไรวะเนี่ยตอนนั้น แต่ผมไม่สนอะไรเลยครับ ก็เลยผ่านมันไปได้จนเรียนจบ (และก็ไปสนิทกับเพื่อนข้างห้อง จนถึงทุกวันนี้ก็ยังเป็นเพื่อนกันดีอยู่) เรื่องราวมันเกิดขึ้นมากมายในห้องเรียนห้องนั้น ผมที่ต้องใช้ชีวิตแบบนรกๆอยู่ในห้องที่มีคนเกลียดแทบทั้งห้อง เหนื่อยกับทุกๆวันมาก ชีวิตมันเปลี่ยนไปเลยจริงๆ แต่สุดท้ายแล้วก็ดีเหมือนกันที่เราเห็นอะไรหลายๆอย่างจากเพื่อนพวกนั้น ที่ผมต่อต้านคือผมต้องการจุดยืนของตัวผมเอง ใครรับไม่ได้ในตัวผมก็เรื่องของคุณ สำหรับผม ผมมองว่ามันคือเรื่องปัญญาอ่อนที่สุดในชีวิตที่ผมเจอมาเลยครับ (ที่เพื่อนเกลียดผมกันสาเหตุมันอาจจะมาจากการที่ผมเป็นคนปากดีด้วยแหละ ข้อนี้ไม่เถียง) หลังจากจบมอปลายผมก็ไม่ได้หวังว่าจะไปเจอเพื่อนดีตอนมหาลัยนะ แต่เหมือนชีวิตฟื้นใหม่อีกครั้ง เพื่อนที่เจอที่มหาลัยกลับเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดในชีวิต …......... ***ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ ผ่านมา 10 ปี ผมก็ยังคบกับแฟนเหมือนเดิมครับ รักกันมากกว่าวันแรกที่คบด้วยซ้ำ ผช.คนแรกและคนเดียวจริงๆ*** ตอนนี้ชีวิตดีมากครับ ทั้งเพื่อน ทั้งแฟน แฟนผมรับช่วงธุรกิจของที่บ้านต่อ ตอนนี้เป็นนักธุรกิจเต็มตัว งานผมก็ดีขึ้น เรียกได้ว่าตั้งแต่ผ่านจุดนั้นมาชีวิตก็มีแต่เรื่องดีดี ก็ต้องขอบคุณสังคมในวันนั้นที่ทำให้เรารู้จักระวังสังคมในวันนี้...........ขอบคุณที่อ่านจบครับ
เคยโดนเพื่อนแอนตี้สาเหตุเพราะเป็นเกย์