วันนี้ผมได้รับการรับเชิญจาก PR ของโรงแรม Marriott Executive Apartment Sukhumvit Park ให้มารีวิวมื้อค่ำที่ห้องอาหาร "Bistro M" กับเทศกาล Japanese Izakaya Dinner Buffet จัดทุกคืนวันศุกร์เริ่มเวลา 18.00-22.00 น. ปกติราคาบุฟเฟ่ต์คนละ 990 บาท Net. พิเศษมา 2 จ่าย 1 ! เพียงแค่กดมือถือเพิ่มเพื่อน Line Offical Account ของทางโรงแรมที่ลิงค์ https://lin.ee/Cy1rGot โปรฯเริ่มตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 28 ส.ค. 63 เท่านั้น ไลน์อาหารส่วนใหญ่จะเน้นเมนู Izakaya หรืออาหารแบบเดียวกับร้านนั่งดื่มหลังเลิกงานสไตล์ญี่ปุ่น ราคานี้ไม่รวมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แต่รวมน้ำเปล่าและน้ำอัดลมแบบกระป๋องดื่มได้ไม่อั้นเรียบร้อยแล้ว และหากใครอยากนั่งดื่มแบบชิลล์ๆตามสไตล์อิซากายะแท้ๆก็ยังคงจำหน่ายตามปกติ (คิดราคาแบบ A La Carte) โดยห้องอาหารตั้งอยู่ชั้น G สามารถมองเห็นป้าย Bistro M ได้อย่างเด่นชัดจากหน้าโรงแรม เราเข้าไปนั่งด้านในพร้อมกันเลยครับผม

ภายในห้องอาหารมีการเปลี่ยนแปลงจากฝรั่งเข้าสู่ญี่ปุ่นได้อย่างแนบเนียนด้วยโคมไฟและธีมการตกแต่งสีแดง-ดำตัดด้วยลายไม้อย่างลงตัว ถึงแม้ว่ารอบที่เรามาจะเป็นครั้งแรกที่จัดเทศกาลนี้แต่ก็มีลูกค้าคนอื่นมาใช้บริการเกือบเต็มทุกโต๊ะ โดยส่วนใหญ่ก็มักจะเชื่อใจในความเป็น Marriott หวังว่ามื้อนี้คงไม่ทำให้เราผิดหวังอีกตามเคยแน่นอน

เริ่มจากไลน์อาหารจุดแรกเป็นคุชิคัตสึ(ของทอดเสียบไม้สไตล์ญี่ปุ่น) ทั้งเนื้อ-ไก่และหมูไปจนถึงโคร๊อกเกะหรือมันฝรั่งบดชุบแป้งทอดพร้อมซอสตามแบบฉบับโอซาก้าแท้ๆ ข้างๆกันเป็นของทานเล่นแบบร้านอิซากายะที่เราคุ้นตาทั้งปลาหมึกหวานทาโกะจัง/หมึกสดวาซาบิ/ยำสาหร่ายญี่ปุ่น/ยำแซลมอนใส่ตะไคร้-ใบมะกรูดสไตล์ไทย/กิมจิ/ถั่วแระญี่ปุ่น ถือว่าเป็นไลน์อาหารสำหรับทานเล่นเรียกน้ำย่อยเบาๆหรือเอาไว้ทานคู่กับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชิลล์ๆครับ

ถัดมาเป็นไลน์อาหารที่เริ่มเข้าสู่การนั่งทานอย่างจริงจังเริ่มจากเมนูหมูทงคัตสึหรือหมูชุบเกล็ดขนมปังทอดสไตล์ญี่ปุ่น เสิร์ฟมาพร้อมกับซอสมะเขือเทศแทนที่จะเป็นซอสคงคัตสึตามปกติ(น่าเสียดายตรงจุดนี้) ข้างกันเป็นของย่างเสียบไม้ทั้ง ยากิโทริ/บูตะยากิ/กิวยากิหรือไก่ย่าง/หมูย่าง/เนื้อย่าง ทั้ง 3 สูตรเป็นแบบย่างเกลือทานกับซอสรสชาติเดียวกับคุชิคัตสึรสหวานเค็มอมเปรี้ยวนิดๆทานได้เพลินๆ ต่อกันด้วยเกี๊ยวซ่าหมูและไก่ทอดคาราอาเกะความอร่อยถือว่าได้มาตรฐาน ฝั่งตรงข้ามเป็นเทมปุระรามทั้งกุ้งและผักต่างๆพร้อมซอสจิ้มเทมปุระรสอ่อนๆตามแบบฉบับญี่ปุ่น ทาโกะยากิดูหน้าตาธรรมดาๆแต่ไส้ปลาหมึกแน่นมาๆแนะนำให้ทาน ส่วนโอโคโนมิยากิใส่ผักเยอะจนไม่ได้สัมผัสของแป้งแต่ได้รสหวานของผัสรวมถึงซอส/ปลาแห้ง/สาหร่ายแห้งแบบเต็มๆคำดี เรียกได้ว่าแล้วแต่คนจะชอบละกันครับ

มาถึงจุดที่เรียกว่าเป็น Highlight อย่างโซนซูชิและซาชิมิ ส่วนตัวเคยทานซูชิที่เป็นชุดน้ำชาของที่นี่แล้วจำได้ว่ารสชาติดีมากๆ มีให้เลือกหลากหลายหน้าทั้งข้าวห่อสาหร่ายไส้ปูอัด+ไข่หวาน+แตงกวา/โรลแซลมอนมากิ/ซูชิหน้ากุ้งต้ม/ซูชิหน้าปลาซาบะดอง/ซูชิหน้าไข่หวาน+ยำสาหร่าย/ซูชิหน้าปลาแซลมอน/ซูชิหน้าแซลมอนเบิร์นไฟ+มายองเนสและซูชิหน้าหมึกทาโกะพร้อมกับซาชิมิที่เดินมาสั่งได้ตามใจทั้ง แซลมอน/ปลาไหลญี่ปุ่น/ปูอัดและทูน่า ส่วนพื้นที่ด้านหลังเป็นครัวมีการปรุงอาหารสดรวมถึงมีจุดรับออเดอร์อาหารปรุงร้อนพิเศษโดยเราสามารถสั่งได้จากที่โต๊ะเลยครับ

จุดสุดท้ายเป็นโต๊ะกลางขนาดใหญ่รวบรวมสลัด/ผลไม้สดและของหวานต่างๆเอาไว้อย่างมากมาย ทั้งข้าวโพด/กระหล่ำปลีสีม่วง/แตงกวา/มะเขือเทศเชอรี่/ผักสลัดหลากสี ข้างๆกันเป็นขนมหวานสไตล์ญี่ปุ่นทั้ง โมจิย่างถั่วแดง/โมจิย่างซอสโชยุ/เครปเย็นนูเทลล่ากล้วยหอม ขนมหวานสไตล์ฝรั่งอย่างเค้กมอคค่าสตรอเบอรี่/เค้กส้มช๊อกโกแลตและเค้กมินต์ไวท์ช๊อกโกแลต/วุ้นน้ำผลไม้ (พั้นซ์-องุ่น-สับปะรด-ลิ้นจี่) หน้าฟรุ๊ตสลัด ผลไม้สดมีแคนตาลูป/แตงโม /แก้วมังกร/มะละกอให้เลือกตักทานได้ตามใจ ดูไลน์อาหารมีไม่เยอะมากแต่ถ้าคุณภาพสูงรสชาติดีก็ไม่มีปัญหาครับ

ชุดเมนูอาหารต่อมาเป็น Highlight ที่ทางห้องอาหารอยากนำเสนอ จานแรกเป็นคุชิคัตสึ(ของเสียบไม้ทอด)กับไก่ทอดคาราอาเกะเสิร์ฟพร้อมกับน้ำจิ้มคุชิคัตสึสไตล์โอซาก้ารสเปรี้ยวหวานหอมกลิ่นโชยุ โดยในจานนี้ทอดเสิร์ฟมาร้อนๆแต่ที่ไลน์อาหารค่อนข้างชืดไปหน่อยครับ จานต่อมาเป็นเทมปุระทอดที่สีแป้งค่อนข้างเข้มเกินไปหน่อย รสชาติโดยรวมก็คือเทมปุระที่อร่อยแค่หน้าตายังต้องปรับปรุงอีกหน่อย ถัดมาเป็นชุดอาหารรวมทั้งหมึกทาโกะวาซาบิที่เนื้อปลาหมึกเคี้ยวหนึบกว่าร้านอื่น/ยำปลาแซลมอนรสชาติเปรี้ยว-เผ็ดกลางๆหอมเครื่องสมุนไพรดี/เครปเย็นห่อนูเทลล่าและกล้วยหอมที่หน้าตาดูเฉยๆแต่อร่อยเกินคาด/หมึกทาโกะจังรสหวานหอมกลิ่นน้ำมันงาเคี้ยวกรุบกรอบ/สลัดผักราดน้ำสลัดงารสหวานมันอร่อยตามมาตรฐานสลัดญี่ปุ่น/ถั่วแระญี่ปุ่นนึ่งขาดแค่เกลือโรยหนักอีกหน่อยจะอร่อยเพลินกว่าเดิมเยอะ/โมจิย่างราดซอสโชยุรสหวานเค็มหอมกลิ่นโชยุอ่อนๆ/ซูชิทุกหน้าถือว่าใช้วัตถุดิบทุกอย่างดีตามมาตรฐานเสียแค่ข้าววันนี้ปรุงรสอ่อนไปหน่อยและแอบแฉะนิดๆ (คาดว่าน่าจะยังไม่เชี่ยวชาญ) ยังต้องปรับปรุงครับ

ต่อมาเป็นอาหารที่ต้องสั่งแบบพิเศษทั้งข้าวหน้าแกงกระหรี่หมูทงคัตสึทอด แกงกระหรี่รสชาติเข้มข้นถึงกลิ่นซุปหมูแครอทและผักต่างๆต้มมาเปื่อยดีส่วนกลิ่นเครื่องเทศและความเผ็ดจัดอยู่ในระดับเด็กทานได้ ทานกับหมูทอดชิ้นหนาๆและข้าวสวยญี่ปุ่นนุ่มๆเข้ากันได้เป็นอย่างดี จานต่อมาเป็นซาชิมิปลา 3 อย่างทั้ง ปลาทูน่าซาชิมิแบบไม่มีกลิ่นคาวเลือด/ปลาแซลมอนซาชิมิแทรกไขมันเนื้อละเอียดตามมาตรฐานแต่ปลาไหลญี่ปุ่นของที่นี่สัมผัสเนื้อแน่นแปลกๆเหมือนทานเนื้อไก่ไม่นุ่มและหอมซอสย่างรสหวานๆเค็มๆแบบที่อื่น สุดท้ายเป็นราเมนหมูทอดเส้นเหนียวนุ่มซุปมีกลิ่นหอมของคัตสึโอะและสาหร่ายรสเค็มหวานๆทานกับหมูทอดอร่อยดีครับ นอกจากนี้ยังมีข้าวหน้าหมูทอดสไตล์ญี่ปุ่นหรือ Katsudon และข้าวหน้าไก่กับไข่หรือ Oyakodon สั่งจากใบที่โต๊ะได้อีกด้วย สั่งแล้วยื่นให้พนักงานได้เลยครับ

ใครที่เป็นสายดื่มสามารถเดินมาดูราคาที่ซุ้มเครื่องดื่มพิเศษตรงด้านหน้าห้องอาหารได้เลยครับ โดยวันนี้ PR ได้จัดไวน์มาให้ผมได้ชิม 3 แก้วนั่นก็คือ Lindemans Semillon - Chardonnay เป็นไวน์ขาวรสเปรี้ยวอมฝาดนิดๆมีกลิ่นของแอลกอฮอล์เบาๆเหมาะทานกับจานปลา ราคา 180 บาท DB Family Cabernet Sauvignon เป็นไวน์แดงรสฝาดปนขมหอมกลิ่นองุ่นแดง ผสมกับความฉุนของแอลกอฮอล์ขึ้นจมูกเข้ากันได้ดีกับจานเนื้อวัว ราคา 180 บาท สุดท้ายคือ Rothbury Sparkling ราคา 180 บาท เป็นไวน์ขาวที่มีรสหวานหอมอมเปรี้ยวนิดๆส่วนกลิ่นของแอลกอฮอล์เบาๆดื่มได้ง่ายจะดื่มเล่นๆหรือทานคู่กับอาหารจานไหนก็อร่อย ใครชอบไวน์รสหวานตัวนี้เหมาะมากครับ

โดยรวมแล้วอาหารมื้อนี้ถือว่ากลางๆในเรื่องรสชาติ ส่วนวัตถุดิบที่เลือกใช้ดีอยู่แล้วสไตล์ Marriott เหมือนกับว่าพ่อครัวของที่นี่เคยทำอาหารญี่ปุ่นในปริมาณน้อยๆมาก่อน เมื่อมาทำทีละมากๆทำให้เกิดข้อผิดพลาดหลายจุดทั้ง การปรุงรสข้าวซูชิที่อ่อนเกินไปแถมมีข้าวบางส่วนเละด้วย/กับข้าวสำหรับทำข้าวหน้าก็รสอ่อนเกินไปพอทานกับข้าวสวยยิ่งจืด/ของทอดและย่างถูกวางทิ้งไว้จนชืดทำให้ไขมันหมูและเนื้อจับเป็นก้อนเย็นตามอุณหภูมิห้อง/ทงคัตสึไม่มีน้ำจิ้มแต่ให้ทานกับซอสมะเขือเทศอันนี้คืองง อันที่จริงมียังอีกหลายรายละเอียดเล็กๆน้อยๆแต่เราขอข้ามไป เอาเป็นว่าปัญหาทั้งหมดนี้ผมได้แจ้ง PR ไปแล้วคาดว่าน่าจะมีการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นต่อไป แต่ถ้าใครจะไปแค่ลุยซาชิมิและทานเครื่องเคียงต่างๆ ราคา 990 บาท มา 2 จ่าย 1 ตกคนละ 495 บาท ถือว่าปลาสดคุณภาพดีพอที่จะมาแล้วจ้า สำหรับวันนี้รับคะแนนความอร่อยและความคุ้มค่าไป 4 ดาวครับผม (ถ้าไม่มีโปรโมชั่นให้ 3 ดาวนะ) 🌟🌟🌟🌟

พิกัด : เลขที่ 90 ซอยสุขุมวิท 24 แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร 10110
เทศกาล Japanese Izakaya Dinner Buffet เปิดให้บริการทุกวันศุกร์เวลา 18.00-22.00 น.
โทร. 02-302-5555
Facebook : https://www.facebook.com/marriottsukhumvitpark/
ลิงค์ Google Maps : https://goo.gl/maps/xk7FWNMtRaSz2rXW9