หนอนฯลี้ภัยรถติดและฝุ่นจิ๋วในกรุงเทพ มาเช่าบ้านเพื่อนอยู่ที่แม่กลองได้สี่ปีแล้ว

ปกติในช่วงนี้ของปี จะเป็นช่วงงานยุ่งที่ต้องเดินทางเยอะมาก บ้านที่อยู่นี้เคยลงพืชผักสวนครัว แต่พอไม่อยู่บ้านทีละหลายวัน ต้นไม้ส่วนใหญ่ก็"ไม่รอด" 

ปีนี้โคขวิดทำชีวิตเปลี่ยน ได้อยู่บ้านนานนนนนเชียว

พอฝนมา พื้นที่ว่างก็งามสะพรั่งไปด้วยสีเขียวของต้นไม้ที่มาเกิดเอง ซึ่งไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่ามันเจริญงอกงามเร็วมาก  เพราะเพื่อนหนอนฯจะจัดให้คนมาตัดหญ้าให้อยู่เป็นระยะ

งามเร็วจนเป็นแบบนี้ค่ะ มองแทบไม่เห็นว่าเป็นต้นมะม่วง กล้วย มะนาว 



แล้วต้นมะลิซ่อนอยู่ตรงไหนหว่า

นี่มันไม่ใช่ "รกชัฏ"
แต่มัน "รกชัดๆ"

ตรงห้องรับแขก เป็นกระจกบานยาว วัชพืชก็ขึ้นเขียวสวยเลย มองผ่านกระจกก็สวยดี เปิดกระจกก็ดึงเล่นได้



พอหนอนฯไปเรียนวิชาเภสัชกรรมไทย ครูบอกว่าให้เก็บตัวอย่างชิ้นส่วนพืชไปเข้าชั้นเรียนด้วยทุกครั้ง
หนอนฯก็อาศัยดึงๆเด็ดๆต้นไม้รอบบ้านนี่ล่ะค่ะ เอาไปเข้าชั้นเรียน

ดังนั้น หนอนฯจึงขอเรียกสวนรอบบ้านนี้ว่า "สวนสมุนไพร"



ล่าสุดหนอนฯดึงเถากะทกรกรกไปเข้าชั้นเรียน มีเพื่อนในชั้นหลายท่านไม่รู้จัก ไม่เคยเห็น

หนอนฯเลยอยากเอามาให้ดูกัน ว่ามันไม่ใช่วัชพืช แต่เป็นสมุนไพร เป็นผักกินได้ ตอนสมัยเด็กหนอนฯก็เคยเห็นผู้ใหญ่กินค่ะ  

มะ มาดูว่ากินยังไง



ดอกมันสวยดีเนอะ

หนอนฯทำแบบที่เคยเห็นนะคะ โดยการนำยอดอ่อนมาลวก กินกับน้ำพริกค่ะ



จะนำมาใส่แกงเลียงแบบตำลึงก็ได้ค่ะ

แต่เรื่องใหญ่คือ ยอดอ่อนที่นำมาใช้ "ต้องปรุงสุก ผ่านความร้อน"นะคะ 

สำคัญมาก!
เพราะยอดอ่อนและผลดิบของกะทกรกนั้นมีสารประกอบไซยาไนด์ ที่เป็นอันตราย คงน่าจะคล้ายกับยอดมันสำปะหลัง ที่เมื่อกินดิบอาจถึงตายได้

ยอดกะทกรกลวก รสชาติอ่อนๆ กินเป็นผักลวกจะกินง่ายเพราะรสชาติไม่ขมไม่ฝาดค่ะ เหมาะมากที่จะกินแกล้มกับน้ำพริกทั้งหลาย

เสียดายที่หนอนฯหาผลสุกแก่จัดไม่เจอ เลยไม่มีรูปมาให้ดู

หมายเหตุ 
ตอนนี้สวนสมุนไพรของหนอนฯ โดนเพื่อนจัดคนมาตัดเหี้ยนเตียนเรียบร้อยไปแล้ว เสียดายจัง (ล้อเล่นค่ะ อิอิ)  ฤดูฝนอย่างนี้ แป๊ปเดียวก็ขึ้นใหม่แล้วค่ะ ไม่ทราบว่าดินดีด้วยหรือไม่ มากันเร็วมาก ท่านใดมีบ้านมีที่ดินที่ไม่ค่อยได้เข้าไปดู ช่วงหน้าฝนอย่างนี้ ต้นไม้ที่เราไม่ได้ปลูกงามเร็วมาก ไม่อยากได้เล้ยยยยย

.......................