ต้องย้อนความไปในอดีตอาการกำเริบสักตอนอยู่ปี2-3 ตอนนี้เราอายุ 27ปี ต้องบอกว่าเราต่อสู้กับโรคนี้มา5-6ปีแหละ และจะมาแชร์ประสบการณ์แบบหมดเปลือกให้กัลคนที่ป่วยเป็นโรคภูมิแพ้
โรคภูมิแพ้ที่เราเป็น เราเป็นเกี่ยวกับทางเดินหายใจไม่ใช่ผิวหนัง
เวลามีอาการแพ้ เราจะมีน้ำมูก จามบ้าง น้ำตาไหลนิดหน่อย สรุปแล้ว ตอนที่เราเป็นโรคนี้ตอนแรกๆ อาการเราค่อนข้างเยอะ เพราะเราไม่รู้จักโรคภูมิแพ้และไม่ได้ดูแลตัวเองให้มีร่างกายที่แข็งแรง เช่น อยากกินอะไรก็กิน, ไม่ออกกำลังกาย และ ไม่รู้วิธีหลีกเลี่ยงโรคภูมิแพ้ แต่พอเวลาผ่านไป เราก็โชคดีด้วย เพราะ มันจะมีบางสถานที่ๆแล้วไปแล้วอาการภูมิแพ้ไม่กำเริบ เราก็ลองสังเกตุดูว่าทำไมและทำไม เราสังเกตุว่าเวลาอาการภูมิแพ้ไม่กำเริบ มันจะมีเงื่อนไขของมันอยู่ เช่น นอนไม่เปิดแอร์ ไม่มีพัดลมเป่าใส่หน้า(ถ้าใบพัดของพัดลมมีฝุ่นติดด้วยนี้าการจะออกเร็วมาก จะแพ้ทันที )แลการออกกำลังกาย เราสังเกตุว่าถ้ามีเงื่อนไข 3ตัวนี้อยู่ครบอาการจะไม่ค่อยเกิด
1.)ออกกำลังกาย(ผมออกทุกวัน เป็นวิธีเพิ่มภูมิคุ้มกันตอนพระอาทิตย์ขึ้นที่ดีที่สุด) นอกจากจะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรงเเล้วยังทำให้หุ่นดีอีก แข็งแรงทั้งภายในและภายนอก
2.) นอนเปิดพัดลม(อย่าเปิดพัดลมเป่าหน้า)
3.อย่ากินอาหารหรือขนมกรบกรอบ(อันนี่ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม แต่ความรู้สึกส่วนตัวโดยเฉพาะ พวกมันฝรั่งกรอบ กินเยอะเเล้วจะแพ้ น้ำอัดลมด้วย ไอศครีม) ***แล้วแต่อาการคนนะ แต่อย่างกรณีผมกินได้นิดหน่อย แต่ไม่ใช่แบบนั่งกินเป็นชั่วโมงหรือทั้งวัน ข้อนี้อาจจะไม่สำคัญมากหรอก แต่ถ้าลดอาหารขยะไปได้ หุ่นเราก็จะดี***
4.)นอนเร็ว(วิธีที่จะฟื้นจากภูมิแพ้ตอนพระอาทิตย์ตก คือนอนหลับพักผ่อน ให้ภูมิคุ้มกันมันซ่อมแซมตัวเองเนี้ยละ)
ส่วนอันนี้เป็นกฎส่วนตัวที่ผมมักท่องในใจเสมอ คาถาป้องกันภูมิแพ้ที่ผมคิดขึ้นเอง
1.)กิน กินอาหารดีๆเป็นหลัก ไม่ใช่ขนม อาหาร5หมู่
2.)นอน นอนให้เร็วนอนให้พอ ทำความสะอาดที่นอน ดูดไรฝุ่น ซักผ้าปูที่นอน
3.)ออก ออกกำลังกายตอนเช้าแนะนำให้ออกตอนเช้า เพราะยิ่งร่างกายเราแข็งแรงเร็ว เราก็ได้ใช้ผลของการออกกำลังกายทั้งวัน เช่น ถ้าออกกำลังตอนม8โมงเช้า คุณจะมีภูมิคุ้มกันตั้งแต่ 8.30 โมง ยันหมดวัน ถ้าออกตอนบ่าย3 คุณก็ป่วยยังบ่าย3นั้นแหละ และสุขภาพจะดีขึ้นหลังบ่าย3 ออกกำลังกายให้ออกจนเหงื่อตกแนะนำการวิ่ง ให้คิดเลยว่าเหงื่อคือน้ำมูก ถ้าเหงื่ออน้ำมูกจะไม่ออก มันจะออกพร้อมกัน2น้ำไม่ได้ แต่ถ้าคุณแพ้มาอยู่เเล้วมีอาการภูมิแพ้กำเริบอย่างหนัก การออกกำลังกายจะช่วยทำให้ภูมิคุ้มกันคุณกลับมาดีได้เร็วขึ้น
4.)อุ่น หมายถึง อาบน้ำอุ่น พยายามอย่าให้อุณหภูมิมันต่างกันมาก เช่น อาบน้ำเย็นเเล้วออกมาเจอ อากาศร้อน
5.)ฝุ่น กวาด ถู ใช้เครื่องดูดไรฝุ่น
6.)ยา ทานอาหารเสริมหรือยาลดน้ำมูก ถ้า5ข้อที่กล่าวมายังเอาไม่อยู่ ผมพยายามทำทั้ง6ข้อ ปัจจุบัน เชื่อไหม ยังป่วยอยู่ เพราะที่ทำงานเปิดแอร์และเวลาเดินออกมาใกล้ๆถนนจะหายใจไม่ค่อยออกเหมือนเจอฝุ่นบนถนน
ใครทำมั้ง6ข้อแล้วไม่หายก็ไม่เป็นไร เพราะคุณยังมีผมเป็นเพื่อน ตอนนี้ก็ทานอาหารเสริมกับพยายามหาที่นอนน้ำมานอน เพราะไรฝุ่นไม่อยู่ในน้ำมานอน ผมก็หาความรู้ไปเรื่อยๆครับ ที่สำคัญเวลาทำงานถ้าเป็นไปได้ให้ปรับอุณหภูมิแอร์ อย่าต่ำกว่า24องศา อย่าเดินเข้าสถานที่ๆเปิดแอร์ เพราะแอร์ทำให้อากาศเย็นเเล้วคนที่เป็นภูมิแพ้ เกินมาร้อนๆ ถ้าเจออากาศสลับกันมากๆ เดี๋ยวร้อนจัดเดี๋ยวเย็นจัดก็แพ้ได้ แค่นี้แหละครับ ที่สร้างบทความนี้ขึ้นมาเพราะไม่อยากให้ใครป่วยเป็นภูมิแพ้ เพราะตัวผมเองก็เป็นและยังกินยาอยู่ หวังอยู่เหมือนกันว่าจะมีวันที่ไม่ต้องใช้ยา แต่ถ้าใครทำงานในห้องแอร์(รวมถึงผมด้วย) มียาก็กินไปเถอะ เพราะห้องแอร์ มันลดภูมิคุ้มกันเราครับเราต้องกินยาเสริมลดอาการภูมิแพ้
***ใครที่บอกออกกำลังกายแล้วไม่หาย แน่นอนครับ มันมีกันหลายปัจจัยที่จะทำให้หายแพ้ การออกกำลังกายเป็นแค่1ในวิธีแก้ปัญหาเท่านั้น คุณดูดฝุ่นหรือยัง ซักผ้าปูที่นอนหรือยัง ดูดไรฝุ่นไหม รวมถึงอาหารการกิน และการนอนเร็วและไม่เปิดแอร์หรือพัดลมจ่อหน้า)
วิธีจัดการโรคภูมิแพ้ รวมคำถามและปัญหา อ่านเข้าใจง่าย
โรคภูมิแพ้ที่เราเป็น เราเป็นเกี่ยวกับทางเดินหายใจไม่ใช่ผิวหนัง
เวลามีอาการแพ้ เราจะมีน้ำมูก จามบ้าง น้ำตาไหลนิดหน่อย สรุปแล้ว ตอนที่เราเป็นโรคนี้ตอนแรกๆ อาการเราค่อนข้างเยอะ เพราะเราไม่รู้จักโรคภูมิแพ้และไม่ได้ดูแลตัวเองให้มีร่างกายที่แข็งแรง เช่น อยากกินอะไรก็กิน, ไม่ออกกำลังกาย และ ไม่รู้วิธีหลีกเลี่ยงโรคภูมิแพ้ แต่พอเวลาผ่านไป เราก็โชคดีด้วย เพราะ มันจะมีบางสถานที่ๆแล้วไปแล้วอาการภูมิแพ้ไม่กำเริบ เราก็ลองสังเกตุดูว่าทำไมและทำไม เราสังเกตุว่าเวลาอาการภูมิแพ้ไม่กำเริบ มันจะมีเงื่อนไขของมันอยู่ เช่น นอนไม่เปิดแอร์ ไม่มีพัดลมเป่าใส่หน้า(ถ้าใบพัดของพัดลมมีฝุ่นติดด้วยนี้าการจะออกเร็วมาก จะแพ้ทันที )แลการออกกำลังกาย เราสังเกตุว่าถ้ามีเงื่อนไข 3ตัวนี้อยู่ครบอาการจะไม่ค่อยเกิด
1.)ออกกำลังกาย(ผมออกทุกวัน เป็นวิธีเพิ่มภูมิคุ้มกันตอนพระอาทิตย์ขึ้นที่ดีที่สุด) นอกจากจะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรงเเล้วยังทำให้หุ่นดีอีก แข็งแรงทั้งภายในและภายนอก
2.) นอนเปิดพัดลม(อย่าเปิดพัดลมเป่าหน้า)
3.อย่ากินอาหารหรือขนมกรบกรอบ(อันนี่ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม แต่ความรู้สึกส่วนตัวโดยเฉพาะ พวกมันฝรั่งกรอบ กินเยอะเเล้วจะแพ้ น้ำอัดลมด้วย ไอศครีม) ***แล้วแต่อาการคนนะ แต่อย่างกรณีผมกินได้นิดหน่อย แต่ไม่ใช่แบบนั่งกินเป็นชั่วโมงหรือทั้งวัน ข้อนี้อาจจะไม่สำคัญมากหรอก แต่ถ้าลดอาหารขยะไปได้ หุ่นเราก็จะดี***
4.)นอนเร็ว(วิธีที่จะฟื้นจากภูมิแพ้ตอนพระอาทิตย์ตก คือนอนหลับพักผ่อน ให้ภูมิคุ้มกันมันซ่อมแซมตัวเองเนี้ยละ)
ส่วนอันนี้เป็นกฎส่วนตัวที่ผมมักท่องในใจเสมอ คาถาป้องกันภูมิแพ้ที่ผมคิดขึ้นเอง
1.)กิน กินอาหารดีๆเป็นหลัก ไม่ใช่ขนม อาหาร5หมู่
2.)นอน นอนให้เร็วนอนให้พอ ทำความสะอาดที่นอน ดูดไรฝุ่น ซักผ้าปูที่นอน
3.)ออก ออกกำลังกายตอนเช้าแนะนำให้ออกตอนเช้า เพราะยิ่งร่างกายเราแข็งแรงเร็ว เราก็ได้ใช้ผลของการออกกำลังกายทั้งวัน เช่น ถ้าออกกำลังตอนม8โมงเช้า คุณจะมีภูมิคุ้มกันตั้งแต่ 8.30 โมง ยันหมดวัน ถ้าออกตอนบ่าย3 คุณก็ป่วยยังบ่าย3นั้นแหละ และสุขภาพจะดีขึ้นหลังบ่าย3 ออกกำลังกายให้ออกจนเหงื่อตกแนะนำการวิ่ง ให้คิดเลยว่าเหงื่อคือน้ำมูก ถ้าเหงื่ออน้ำมูกจะไม่ออก มันจะออกพร้อมกัน2น้ำไม่ได้ แต่ถ้าคุณแพ้มาอยู่เเล้วมีอาการภูมิแพ้กำเริบอย่างหนัก การออกกำลังกายจะช่วยทำให้ภูมิคุ้มกันคุณกลับมาดีได้เร็วขึ้น
4.)อุ่น หมายถึง อาบน้ำอุ่น พยายามอย่าให้อุณหภูมิมันต่างกันมาก เช่น อาบน้ำเย็นเเล้วออกมาเจอ อากาศร้อน
5.)ฝุ่น กวาด ถู ใช้เครื่องดูดไรฝุ่น
6.)ยา ทานอาหารเสริมหรือยาลดน้ำมูก ถ้า5ข้อที่กล่าวมายังเอาไม่อยู่ ผมพยายามทำทั้ง6ข้อ ปัจจุบัน เชื่อไหม ยังป่วยอยู่ เพราะที่ทำงานเปิดแอร์และเวลาเดินออกมาใกล้ๆถนนจะหายใจไม่ค่อยออกเหมือนเจอฝุ่นบนถนน
ใครทำมั้ง6ข้อแล้วไม่หายก็ไม่เป็นไร เพราะคุณยังมีผมเป็นเพื่อน ตอนนี้ก็ทานอาหารเสริมกับพยายามหาที่นอนน้ำมานอน เพราะไรฝุ่นไม่อยู่ในน้ำมานอน ผมก็หาความรู้ไปเรื่อยๆครับ ที่สำคัญเวลาทำงานถ้าเป็นไปได้ให้ปรับอุณหภูมิแอร์ อย่าต่ำกว่า24องศา อย่าเดินเข้าสถานที่ๆเปิดแอร์ เพราะแอร์ทำให้อากาศเย็นเเล้วคนที่เป็นภูมิแพ้ เกินมาร้อนๆ ถ้าเจออากาศสลับกันมากๆ เดี๋ยวร้อนจัดเดี๋ยวเย็นจัดก็แพ้ได้ แค่นี้แหละครับ ที่สร้างบทความนี้ขึ้นมาเพราะไม่อยากให้ใครป่วยเป็นภูมิแพ้ เพราะตัวผมเองก็เป็นและยังกินยาอยู่ หวังอยู่เหมือนกันว่าจะมีวันที่ไม่ต้องใช้ยา แต่ถ้าใครทำงานในห้องแอร์(รวมถึงผมด้วย) มียาก็กินไปเถอะ เพราะห้องแอร์ มันลดภูมิคุ้มกันเราครับเราต้องกินยาเสริมลดอาการภูมิแพ้
***ใครที่บอกออกกำลังกายแล้วไม่หาย แน่นอนครับ มันมีกันหลายปัจจัยที่จะทำให้หายแพ้ การออกกำลังกายเป็นแค่1ในวิธีแก้ปัญหาเท่านั้น คุณดูดฝุ่นหรือยัง ซักผ้าปูที่นอนหรือยัง ดูดไรฝุ่นไหม รวมถึงอาหารการกิน และการนอนเร็วและไม่เปิดแอร์หรือพัดลมจ่อหน้า)