อยากทำอะไร ก็ต้องทำเลย รออะไร

อยากลดน้ำหนักแต่ไม่อยากออกกำลังกาย อยากผอมและรู้ดีว่าคุมอาหารอย่างเดียวมันไม่พอ แต่ก็ยังไม่ชอบออกกำลังกาย หลายครั้งที่เราไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ เพียงเพราะไม่ชอบไม่อยากทำในสิ่งที่เราควรทำ นี่เป็นเพียงแค่ตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น และมันก็เกิดขึ้นได้กับหลายๆ คน
 
If it is important to you, you will find a way. If not, you will find excuses.
ถ้ามันสำคัญ เราก็จะหาทางทำจนได้ แต่ถ้าไม่ เราก็จะหาข้ออ้าง และความกลัวนั่นกลัวนี่ ก็เหมือนเชื้อเพลิงที่เติมให้มีข้ออ้างเกิดขึ้นมากขึ้นเรื่อยๆ เราหาข้ออ้างตอนที่กลัวว่าคนอื่นจะไม่ยอมรับ กลัวว่าจะทำไม่ได้ ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ลองทำด้วยซ้ำ
อย่ารอจนกว่าจะมีแรงจูงใจ
ความคิด ความรู้สึก อารมณ์ แรงจูงใจ แรงบันดาลใจ สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นและหายไป
ปัญหาไม่ใช่เพราะขาดแรงจูงใจ เราต่างมีวันที่รู้สึกมีแรงจูงใจ และในบางวันก็รู้สึกขาดแรงจูงใจ ไม่มีใครที่จะรู้สึกถึงแรงจูงใจได้ทุกวัน เหตุผลที่คนประสบความสำเร็จ คนที่ได้ในสิ่งที่ต้องการ คือการที่สามารถลงมือทำสิ่งที่จำเป็นถึงแม้ว่าจะรู้สึกไม่อยากทำ คนที่รู้ว่าต้องทำโดยที่ไม่สนว่าจะอยู่ในอารมณ์ไหน แม้จะเครียดทั้งวัน ข้าวเช้าไม่ได้กิน เมื่อคืนนอนไม่หลับ ฝนตกรถติด แต่ก็ยังพาตัวเองไปวิ่งออกกำลังกายได้
ไม่พอใจในสิ่งที่เป็นอยู่ตอนนี้
หากถามว่าชีวิตเป็นยังไง หลายคนก็คงจะตอบว่า “ก็ดีนะ เรื่อยๆ” ทั้งๆ ที่ในใจรู้สึกว่าชีวิตนี้ยังขาดหลายอย่าง ยังรู้สึกไม่พอใจในสิ่งที่เป็นอยู่ในตอนนี้ ยังไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ
และปัญหาก็ไม่ใช่เพราะไม่รู้วิธีการ เพราะทุกสิ่งที่เราต้องการนั้น ข้อมูลมันหาได้จาก Google เพราะมันมีคนที่เคยทำและสำเร็จมาก่อน มีรายละเอียดขั้นตอนการลงมือทำเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการในชีวิต ปัญหาอยู่ที่เราพอใจที่จะโกหกตัวเองและบอกว่า ชีวิตเราก็ดี เรื่อยๆ
เราโกหกตัวเอง ในเวลาที่บอกกับคนอื่นหรือตัวเองว่า ชีวิตเราก็ดี เรื่อยๆ ทั้งๆ ที่ในใจยังมีสิ่งที่ต้องการอีก มันทำให้เรารู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องดิ้นรน ไม่ต้องผลักดันตัวเอง เพราะชีวิตตอนนี้มันก็ดีอยู่แล้ว การที่เราไม่จริงใจกับตัวเอง ก็เหมือนกับทำร้ายจิตใจตัวเอง แล้วเราก็ไม่มีทางที่จะเป็นที่หนึ่งในใจตัวเอง เพราะเราล้มเลิกทั้งๆ ที่ยังไม่ได้เริ่ม
การจะได้ในสิ่งที่ต้องการนั้น เราจะต้องฝืนบังคับตัวเอง ให้ลงมือทำสิ่งที่จำเป็น ไม่ว่าเวลานั้นจะรู้สึกอยากทำหรือไม่ก็ตาม ทำสิ่งที่หลายๆ คนไม่อยากทำ
ไม่อยากผิดหวังในตัวเอง
ใน TED Talks How to stop screwing yourself over Mel Robbins บอกไว้ว่า การจะผลักตัวเองให้หลุดออกจากวงโคจรที่คุ้นเคย หลุดออกจากกิจวัตรที่ทำเป็นประจำนั้น ต้องอาศัยพลัง Activation energy พลังที่จะเปลี่ยนแปลงเราจากการดำเนินชีวิตแบบไร้คนขับ
เค้าแนะนำว่าให้เริ่มต้นจากการค้นหาสิ่งที่เราต้องการในชีวิต เลือกสิ่งที่เราต้องการ และหยุดบอกตัวเองว่าชีวิตมันก็เรื่อยๆ ดีนะ
ในหนังสือ The 5 Second Rule: Transform Your Life, Work, and Confidence with Everyday Courage เขียนโดยคนเดียวกัน ได้อธิบายถึงคนที่ผัดวันประกันพรุ่ง คนที่เอาแต่ฝันแต่ไม่ยอมลงมือทำสิ่งที่ควรทำ การตัดสินใจลงมือทำภายใน 5 วินาทีเป็นเทคนิคที่จะช่วยให้เราเริ่มต้นลงมือทำในเวลาที่เราต้องทำมัน
นับถอยหลังช่วยเปลี่ยนพฤติกรรม
ในตอนเช้า แทนที่จะงัวเงียกลิ้งตัวไปมา แทนที่จะหลับต่อ ให้เรานับถอยหลัง 5 4 3 2 1 แล้วเด้งลุกขึ้นมาทันที มันจะทำให้เราหลุดออกจากความกังวลและส่งความตั้งใจทั้งหมดไปยังสิ่งที่เราควรทำ แทนที่จะเห็นแก่ความสบายตามใจตัวเอง การนับถอยหลังจะช่วยตัดวงจรและสร้างให้เกิดนิสัยที่ดี
ในตอนที่รู้สึกไม่อยากออกกำลังกาย แทนที่จะล้มตัวลงนอนพัก ก็ให้นับถอยหลัง แล้วเด้งขึ้นมา เทคนิคง่ายๆ นี้ จะช่วยให้เราลงมือทำได้โดยที่ไม่ต้องรอแรงจูงใจ ช่วยให้ลงมือสร้างโอกาสแทนที่จะนั่งรอมันเกิดขึ้น ช่วยเราควบคุมชะตาชีวิตของตัวเองและกลายเป็นคนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
การนับถอยหลังอาจไม่ได้ทำให้ไลฟ์สไตล์ของเราเปลี่ยนแปลงไปมากนัก แต่อย่างน้อยมันจะช่วยผลักดันเราไปข้างหน้า ทำให้เรากล้าลงมือทำมากขึ้น
The best way to complete a task is to “just get started”
สัญชาตญาณมักจะบอกให้เราเอาแบบง่ายๆ เอาความสะดวกสบายไว้ก่อน แต่การนับถอยหลังจะให้เวลาเราได้ก้าวไปข้างหน้า การเริ่มต้นลงมือทำจะนำเราไปในเส้นทางที่สร้างโอกาสให้เกิดขึ้น
หลายครั้งที่เราเกิดความรู้สึกอยากทำบางอย่าง ความต้องการลึกๆ ในใจ ที่มันเกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้นๆ ถ้าเราไม่ลงมือทำภายในเวลา ความอยากมันจะเริ่มหายไป และเมื่อเวลาผ่านไปมันจะยิ่งยากมากขึ้นที่จะลงมือทำสิ่งนั้น
หากต้องการให้คนมองเราใหม่ อยากให้คนหันมาสนใจ สิ่งที่เราต้องทำคือแสดงตัวแล้วพูดมันออกมา หากต้องการความสนุก ให้ทุกวันมีแต่เรื่องที่พึงพอใจ หากต้องการความรู้สึกที่ได้ทำสำเร็จ สิ่งที่ต้องทำคือตัดสินใจนับถอยหลังแล้วลงมือทำทันที ทำสิ่งที่เราอยากทำแต่ไม่เคยกล้า
หยุดโกหกตัวเองว่ามันยังไม่ถึงเวลา หยุดรอคอยเวลาที่เหมาะสม เพราะสิ่งที่เราจะทำนั้นมันอาจไม่มีเวลาที่เหมาะสม มีแต่เวลาที่ลงมือทำกับเวลาที่ละเลย หัดใช้เทคนิคนับถอยหลังในการตัดสินใจสิ่งที่เราต้องการจะทำนั้น
อารมณ์ ความรู้สึก เปลี่ยนแปลงไปตลอดทั้งวัน ยากที่จะควบคุมให้ได้ดั่งใจ สิ่งที่ทำให้เราเป็นมืออาชีพนั้น คือการที่เราลงมือทำได้โดยไม่ต้องรอแรงจูงใจ ถึงแม้จะเหนื่อยล้า แต่ก็ยังผลักดันตัวเองให้ก้าวไปข้างหน้า ให้ก้าวผ่านขีดจำกัดของตัวเอง ความสามารถที่สกัดความรู้สึกออกไปแล้วลงมือทำได้อย่างต่อเนื่อง
มนุษย์เป็นสปีชีส์ที่มีความสามารถในการคิดและลงมือทำ แต่ส่วนใหญ่เรามักจะรอคอยความรู้สึกอยากแล้วค่อยลงมือทำ จริงๆ ควรจะบอกว่ามนุษย์เป็นสปีชีส์ที่ขับเคลื่อนด้วยอารมณ์และคิดเป็น
หยุดเป็นห่วงอารมณ์ของตัวเอง ไม่ว่าจะทำอะไรก็อย่าใช้อารมณ์เป็นที่ปรึกษา เพราะคำแนะนำที่เราจะได้นั้น มักจะทำให้เราทำตัวตามสบาย เอาง่ายๆ ไว้ก่อน ถือเป็นที่ปรึกษาที่แย่มาก ถ้าสิ่งที่ต้องการนั้นคือทำได้สำเร็จตามเป้าหมาย
ชีวิตเรามีค่ามากเกินกว่าจะเอาไปใช้กังวล หัดใช้เทคนิคนับถอยหลัง 5 4 3 2 1 แล้วเริ่มต้นใช้ชีวิตให้เต็มที่!
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่