คลังเผยรายได้รัฐ8เดือนต่ำเป้า11.2% ต่ำกว่าเป้าฯ เกือบ2 แสนล้าน

5 สิงหาคม 2563

คลังผลจัดเก็บรายได้รัฐบาลช่วง 8 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2563 ต่ำเป้า​ 11.2% โดย​กรมสรรพากรจัดเก็บต่ำเป้าถึง​ 1.39​ แสนล้าน​ หรือ​ 11.3%
 
นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิในช่วง 8 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2563 (ตุลาคม 2562 – พฤษภาคม 2563) รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ จำนวน 1.5​ ล้านล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 1.89 ล้านบาท หรือ 11.2% โดยเป็นผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) และความจำเป็นของรัฐบาลในการดำเนินนโยบายการคลังผ่านมาตรการทางภาษีเพื่อบรรเทาภาระให้แก่ประชาชนและเพิ่มสภาพคล่องให้แก่ผู้ประกอบการในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ด้วยการขยายเวลาการยื่นแบบแสดงรายการและชำระภาษีต่าง ๆ ออกไปเป็นภายในเดือนกรกฎาคม – กันยายน 2563 และการลดอัตราภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิในช่วง 8 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2563 ซึ่งเป็นปีที่ไม่ปกติ จึงไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกับผลการจัดเก็บรายได้ในช่วงสถานการณ์ปกติได้ ดังนั้น ขอให้ระมัดระวังในการนำข้อมูลไปใช้ในการวิเคราะห์ด้วย
 
 
ทั้งนี้ หน่วยงานที่จัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการเป็นสำคัญ ได้แก่ กรมสรรพากร จัดเก็บรายได้รวม 1.08 ล้านล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 1.39 แสนล้านบาท หรือ 11.3% โดยภาษีที่จัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการที่สำคัญ ได้แก่
ภาษีมูลค่าเพิ่ม จัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการเป็นผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจและการค้าที่หดตัวเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ประกอบกับมีการขยายเวลาการยื่นแบบแสดงรายการและชำระภาษีผ่านระบบอินเทอร์เน็ตในเดือนเมษายนและพฤษภาคม 2563 ออกไปเป็นภายในวันที่ 1 มิถุนายน 2563 ภาษีเงินได้นิติบุคคล จัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ เนื่องจากมีการขยายเวลาการยื่นแบบแสดงรายการและชำระภาษีสำหรับภาษีเงินได้นิติบุคคลจากกำไรสุทธิของปี 2562 (ภ.ง.ด. 50) ออกไปเป็นภายในเดือนสิงหาคม 2563 และสำหรับภาษีเงินได้นิติบุคคลจากประมาณการกำไรสุทธิในช่วงครึ่งแรกของปี 2563 (ภ.ง.ด. 51) ออกไปจนถึงเดือนกันยายน 2563 และการลดอัตราภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย (ภ.ง.ด. 53) จากอัตรา 3% เหลืออัตรา 1.5% ตั้งแต่เดือนเมษายน – กันยายน 2563

ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ เนื่องจากมีการขยายเวลาการยื่นแบบแสดงรายการและชำระภาษีสำหรับเงินได้พึงประเมินประจำปีภาษี พ.ศ. 2562 (ภ.ง.ด. 90 และ ภ.ง.ด. 91) ออกไปเป็นภายในเดือนสิงหาคม 2563
กรมสรรพสามิต จัดเก็บรายได้รวม 3.62 แสนล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 70,960 ล้านบาท หรือ 16.4% โดยภาษีที่จัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการที่สำคัญ ได้แก่ ภาษีสรรพสามิตรถยนต์ จัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ เนื่องจากปริมาณรถยนต์ที่ชำระภาษีขยายตัวต่ำกว่าที่ประมาณการไว้ ซึ่งเป็นผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจและโควิด-19 ประกอบกับมีการขยายเวลาการยื่นแบบแสดงรายการและชำระภาษีสำหรับภาษีที่ต้องชำระในเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน 2563 ออกไปเป็นภายในวันที่ 15 กรกฎาคม 2563 ภาษีน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน จัดเก็บได้กว่าประมาณการ เนื่องจากมีการขยายเวลาการยื่นแบบแสดงรายการและชำระภาษีให้แก่ผู้ประกอบอุตสาหกรรมสินค้าน้ำมันฯ ที่ผลิตในราชอาณาจักรในเดือนเมษายน – มิถุนายน 2563
กรมศุลกากร จัดเก็บรายได้รวม 6.43 หมื่นล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 8.5​ พันล้านบาท หรือ​ 11.7% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการหดตัวของมูลค่าการนำเข้า
อย่างไรก็ดี การจัดเก็บรายได้ของหน่วยงานอื่นและการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจ สูงกว่าประมาณการ 1.19 หมื่น และ 4.74 พันล้านบาท หรือ 10.1% และ 3.3% ตามลำดับ

https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/892379?utm_source=homepage&utm_medium=internal_referral&utm_campaign=finance

https://thaipublica.org/2020/08/mof-below-expectation-incomes/
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่