สำหรับคอหนังจีนคงจะต้องเคยได้ยินสุภาษิตจีนที่ว่า
"ลูกผู้ชาย 10 ปี ล้างแค้นก็ยังไม่สาย" (君子报仇，十年不晚)
หมายถึง การจะกระทำการใด ๆ ต้องรู้จักอดทนรอไว้ให้โอกาศอันควรมาถึงค่อยลงมือ สำนวนนี้เตือนสติว่า เราต้องใจเย็นสุขุม อย่าปล่อยให้อารมณ์ครอบงำ แม้กระทั่งการล้างแค้น ก็อย่าเอาแต่ความแค้นมาเป็นตัวตั้ง แต่ควรทำด้วยสติและปัญญาในเวลาที่พอเหมาะพอดี
สำหรับซีพีแล้วเป็นการอดทนรออย่างสุขุม รอจนถึงโอกาสอันสมควรถึง 23 ปี กว่าที่ความฝันของ นายธนินท์ เจียรวนนท์ จะเป็นจริง ในการได้ "โลตัส" กลับมาอยู่ในความครอบครองอีกครั้ง หลังจากเครือเจริญโภคภัณฑ์ชนะการประมูลซื้อ “กลุ่มเทสโก้เอเชีย” ซึ่งประกอบด้วย เทสโก้ ประเทศไทย และเทสโก้ ประเทศมาเลเซีย
หากมองย้อนกลับไป จะพบว่า ท่านเจ้าสัวมักจะพูดอยู่เสมอๆ ว่า “โลตัสเป็นเสมือนลูก (คนเล็ก)” เพราะเขาเป็นคนปลุกปั้นแบรนด์ “โลตัส” ขึ้นมาในเมืองไทยครั้งแรก โลตัสจึงถือได้ว่าเป็นแบรนด์ของคนไทยที่ก่อกำเนิดโดยเครือเจริญโภคภัณฑ์เมื่อปี 2537 โดยเปิดให้บริการครั้งแรกที่ซีคอนสแควร์ ในนาม ... โลตัส ซูเปอร์เซนเตอร์ ... แต่ต่อมาต้องขายกิจการไปในช่วงวิกฤตต้มยำกุ้งปี 2540 เพื่อรักษาธุรกิจหลักของเครือฯ ไว้ ดังนั้น เมื่อได้โอกาสที่บริษัทแม่ของกลุ่มเทสโก้ในประเทศอังกฤษประกาศขายกิจการในเมืองไทย ท่านเจ้าสัวย่อมไม่ปล่อยโอกาสที่จะ “ซื้อคืน”
แต่ก็ต้องแก่งแย่งจากกลุ่มมหาเศรษฐีไทยรายอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น เจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี กลุ่ม BJC ที่มีห้างกลุ่มไฮเปอร์มาร์เก็ต - BIG C และเจ้าสัวทศ จิราธิวัฒน์ กลุ่มเซ็นทรัล มีห้างกลุ่มซูเปอร์มาร์เก็ต - Tops
ทำให้การประมูลซื้อ "Tesco Lotus" เป็นดีลที่น่าจับตามาก เพราะเป็นเวทีประมูลที่ 3 ตระกูลมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดของเมืองไทย ทั้ง “เจียรวนนท์”, “สิริวัฒนภักดี” และ “จิราธิวัฒน์ มาร่วมประมูลพร้อมหน้ากัน
ปัจจุบัน Tesco Lotus ประเทศไทยมีสาขากว่า 2,000 สาขา (ข้อมูลปี 2561)
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 9 มี.ค. 2563 เว็บไซต์ของ TESCO Plc. ระบุว่า บริษัทได้ขายกิจการในไทยและมาเลเซียให้กับ “กลุ่มซีพี (CP Group)” โดยแบ่งเป็น บมจ. ซีพี ออลล์ (CP ALL) ถือหุ้น 40% บริษัท เจริญโภคภัณฑ์ โฮลดิ้ง จำกัด ถือหุ้น 40% และอีก 20% ที่เหลือถือโดยบริษัท ซีพี เมอร์แชนไดซิ่ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยในเครือของ บมจ. เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) โดยมูลค่าดีลครั้งนี้ร่วม 10.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ
“20 ปี ยังไม่สาย” กับการได้ “โลตัส” หวนคืนสู่ซีพีอีกครั้ง
แต่ก็ต้องแก่งแย่งจากกลุ่มมหาเศรษฐีไทยรายอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น เจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี กลุ่ม BJC ที่มีห้างกลุ่มไฮเปอร์มาร์เก็ต - BIG C และเจ้าสัวทศ จิราธิวัฒน์ กลุ่มเซ็นทรัล มีห้างกลุ่มซูเปอร์มาร์เก็ต - Tops
ปัจจุบัน Tesco Lotus ประเทศไทยมีสาขากว่า 2,000 สาขา (ข้อมูลปี 2561)
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 9 มี.ค. 2563 เว็บไซต์ของ TESCO Plc. ระบุว่า บริษัทได้ขายกิจการในไทยและมาเลเซียให้กับ “กลุ่มซีพี (CP Group)” โดยแบ่งเป็น บมจ. ซีพี ออลล์ (CP ALL) ถือหุ้น 40% บริษัท เจริญโภคภัณฑ์ โฮลดิ้ง จำกัด ถือหุ้น 40% และอีก 20% ที่เหลือถือโดยบริษัท ซีพี เมอร์แชนไดซิ่ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยในเครือของ บมจ. เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) โดยมูลค่าดีลครั้งนี้ร่วม 10.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ