A Risso’s dolphin, the kind Pelorus Jack was of. Photo: Tory Kallman/Shutterstock.com
ตอนเหนือสุดของเกาะทางใต้ของนิวซีแลนด์
มีสภาพเป็นอ่าวและและมีเสียงคลื่นซัดสาดอย่างรุนแรง
ก่อนที่จะเดินทางถึงชายฝั่งที่สลับซับซ้อนแห่งนี้
มีร่องน้ำที่แคบและอันตรายอย่างแรงที่เรียกว่า
French Pass
เรือต่าง ๆ มักจะหลีกเลี่ยงร่องน้ำแห่งนี้
เพราะกระแสน้ำที่นี่ไหลเชี่ยว/แรงมาก
จนสามารถลากเรือให้แล่นไปชนกับหินผา/หินโสโครกได้
รวมทั้งมีเสียงโหยหวนชวนขนลุก
Marlborough Sounds เสียงที่เกิดจาก
น้ำทะเลกระแทกพื้นที่หุบเขาจำนวนมากที่จมอยู่ใต้ทะเล
ทางตอนเหนือสุดของเกาะทางใต้ของนิวซีแลนด์
South Island หรือ Te Waipounamu
เสียง Marlborough ถูกสร้างขึ้นมาจากการทรุดตัวของแผ่นดิน
และแรงของกระแสน้ำ/คลื่น/ระดับน้ำทะเลที่ขึ้นลง
ไหลผ่านบริเวณหุบเขาใต้ทัองทะเล
ตามตำนานเทพปกรณัมของชนเผ่า
Māori ที่เชื่อกันว่า
เสียงนี้คือ เสียงพึมพำของเทพ
Aoraki ที่เรือ
wakas (ของชนเผ่า) จมลง
ความพยายามครั้งแรกของชาวยุโรป
ที่จะนำเรือแล่นผ่านร่องน้ำแห่งนี้
คือ หายนะที่ติดตามมาอย่างใกล้ชิด
ในปี 1827
พลเรือเอกชาวฝรั่งเศส
Jules Dumont d'Urville
ได้จัดทำทำแผนที่ชายฝั่งของเกาะใต้
โดยสั่งให้คนนำร่องแล่นเรือเข้าสู่เส้นทาง
ที่ตั้งอยู่ระหว่าง
Rangitoto ki te Tonga
หรือที่รู้จักกันในนามเกาะ
D'Urville (ตามชื่อพลเรือเอก)
และบนชายฝั่งแผ่นดินใหญ่
เส้นทาง French Pass ช่วยร่นระยะทางประมาณ 15 ไมล์
สำหรับนักเดินเรือที่ต้องการล่องเรือระหว่างเกาะเหนือและเกาะใต้
North หรือ Te Ika-a-Māui กับ South Islands หรือ Te Waipounamu
แทนทางเลือกการแล่นเรือไปอัอมเกาะ D'Urville
แต่ต้องยอมรับความเสี่ยงกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว
ในขณะที่เรือ
Astrolabe ของ Jules Dumont d'Urville
ซึ่งเป็นเรือรบที่น่าเกรงขามของกองทัพเรือฝรั่งเศส
ได้แล่นเรือเข้าช่องแคบที่สุดของพื้นที่แห่งนี้
ลำเรือได้ถูกกระแสน้ำเหวี่ยงเรือไปมาด้านข้าง
และกระแสน้ำที่รุนแรงบังคับจนเรือต้องแล่นไปยังโขดหิน
แม้ว่าลูกเรือจะพยายามควบคุมเรือได้
แต่เรือ Astrolabe ก็ยังกระแทกหินถึงสองครั้ง
และเรือถูกพัดไปที่แนวปะการัง
หลังจากเหตุการณ์ร้ายแรงที่เกิดขึ้นมา
ทำให้ Jules Dumont d'Urville ได้เสนอแนะว่า
ไม่สมควรที่ใครจะพยายามแล่นเรือผ่าน French Pass
ยกเว้นในที่สุดกว่า 60 ปีต่อมา
French Pass กลายเป็นเส้นทางธรรมชาติยอดนิยม
สำหรับเรือที่เดินทางระหว่าง
Wellington กับ
Nelson
ไม่ใช่เพราะสาเหตุที่มีคนนำร่องเก่งขึ้น
หรือลูกเรือมีความชำนาญมากขึ้น
French Pass ยังคงดุร้ายและเป็นอันตรายอย่างที่เคยเป็นมา
สาเหตุหลักที่มีการเปลี่ยนแปลง คือ
เครื่องยนต์มีสมรรถภาพดีขึ้นกว่าเดิม
และการปรากฏตัวของปลาโลมา
ซึ่งในอีก 20 ปีต่อมา ปลาโลมาได้นำร่อง
นำพาเรือกลไฟ แล่นเข้าไปในน่านน้ำอันตรายอย่างซื่อสัตย์
ภาพถ่ายของ Pelorus Jack ที่หายากโดย Edgar Warwick
Pelorus Jack เป็นปลาโลมาพันธุ์
Risso (Grampus griseus)
ซึ่งไม่ค่อยพบเห็นในน่านน้ำนิวซีแลนด์
มึการระบุเพศด้วยการสังเกตจากขนาดของมัน
น่าจะยืนยันได้ว่าเป็นเพศผู้
Pelorus Jack ถูกพบครั้งแรกในปี 1888
เมื่อมันปรากฏตัวต่อหน้าเรือใบที่แล่นเรือเข้าใกล้ French Pass
เรื่องราวเริ่มต้น เมื่อลูกเรือของเรือใบ
ต้องการใช้ฉมวกแทงมันให้ตายในตอนแรก
แต่ภรรยาของกัปตันที่ดุร้ายน่ากลัว
ได้สั่งห้ามลูกเรือ
อย่าทำร้ายมัน
หลังจากนั้น Pelorus Jack ก็ทำการนำร่องผ่านช่องแคบ
โดยเวียนว่ายอยู่ที่ข้างเรือเป็นเวลา 12 ชั่วโมง
และอีกหลายปีต่อมา
Pelorus Jack ก็นำทางเรือทุกลำ
ก่อนที่จะแล่นผ่าน French Pass
Pelorus Jack ไม่ชอบเรือไม้ หรือเรือใบ
แต่ชอบเรือกลไฟที่สร้างจากเหล็กและแล่นด้วยความเร็วสูง
สันนิษฐานว่า Pelorus Jack ชอบเล่นกับคลื่นแรงแรง
ลูกคลื่นที่เกิดจากการแล่นของเรือกลไฟ
และเรือเหล็กสร้างคลื่นลูกโค้งได้ดีที่สุด
Pelorus Jack. Photographed by A. Pitt
Pelorus Jack ได้ชื่อมาจาก Pelorus Sound
ซึ่งเป็นหุบเขาที่มีธารน้ำคดเคี้ยวมาก
เป็นปากทางที่เรือต้องรอเข้าเทียบท่าเมือง Nelson
Pelorus Jack จะเล่นกับคลื่นของเรือเป็นระยะทาง 8 กิโลเมตร
จนกระทั่งถึงปากทางของ French Pass
แต่มันจะไม่ยอมว่ายน้ำเข้าไป
ในตอนขากลับ มันก็จะรอคอยเรืออีกครั้ง
และว่ายน้ำไปตลอดทางพร้อมกับเรือจนถึง
Clay Point
แล้วมันก็จะดำน้ำ/ว่ายหายไปอีกครั้ง
ในปี 1904 ผู้โดยสารคนหนึ่งบนเรือกลไฟ
SS Penguin
ได้ชักปืนพกขึ้นมาและพยายามยิง Pelorus Jack
แต่ถูกผู้โดยสารเรือช่วยกันจับกุมตัวไว้
ซึ่งในขณะนั้น ยังไม่มีกฎหมายคุ้มครองปลาโลมา
จึงต้องปล่อยตัวชายที่จิดใจชั่วร้ายไป
ตามหลักไม่มีกฎหมาย ไม่มีการลงโทษ
หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว
ชาวบ้านจึงเรียกร้องให้ออกกฎหมายในปีเดียวกัน
ซึ่งมีกฎหมายลงโทษบุคคลใดก็ตามที่ทำร้าย Pelorus Jack
หรือสมาชิกของเผ่าพันธุ์ปลาโลมา Pelorus Jack
ในเขตน่านน้ำ Cook Strait ปากแม่น้ำ และอ่าวที่อยู่ติดกัน
ตามตำนานเล่าว่า หลังจากเหตุการณ์ร้ายที่จะเกิดขึ้นนั้น
Pelorus Jack ก็ Convert ทางใครทางมันกับเรือกลไฟ SS Penguin
โดยไม่ยอมติดตามเรือกลไฟลำนี้ผ่านเข้าในเขตน่านน้ำอันตราย
5 ปีต่อมา 12 กุมภาพันธ์ 1909
เรือกลไฟ SS Penguin แล่นชนโขดหินและจมลง
ทำให้ผู้โดยสารตาย 75 คนและรอดตายได้ 30 คน
กลายเป็นภัยพิบัติทางทะเลที่เลวร้ายที่สุด
ของประเทศนิวซีแลนด์ในศตวรรษที่ 20
.
ในช่วงหลายปีต่อมา
ชื่อเสียงของ Pelorus Jack ก็โด่งดังและเป็นที่รู้จักกันดี
มีผู้โดยสารจำนวนมากยอมแล่นเรือในเส้นทาง Nelson - Wellington
เพื่อไปเฝ้าดูมันว่ายน้ำแล่นไปพร้อมกับเรือ
รวมทั้งนักเขียนนวนิยายที่โด่งดังเช่น
Mark Twain นักเขียนชาวอเมริกัน
และ
Frank T. Bullen นักเขียนชาวอังกฤษ
ในปี 1906
นักท่องเที่ยวคนหนึ่งเขียนจดหมายถึง London Daily Mail ว่า
" ในช่วงยี่สิบปีที่ผ่านมา ทุกคนที่โดยสารเรือกลไฟที่แล่นผ่านพื้นที่นี้
จะมองเห็นปลาสีขาวตัวใหญ่ คล้ายปลาฉลาม คล้ายปลาโลมา
ที่มีชื่อเรียกกันว่า Pelorus Jack
ในครั้งแรก จะสังเกตเห็นมันกระโดดขึ้นจากทะเลในระยะไกล
แต่อีกในไม่กี่นาทีต่อมา มันก็ว่ายน้ำนำทางที่ด้านหน้าหัวเรือ
บางครั้งมันก็กระโดดเหนือน้ำเพียงไม่กี่นาที
แล้วก็ว่ายน้ำไปข้างหน้า จนพ้นจากสายตา
แต่ในบางครั้ง มันก็ว่ายนำหน้าอยู่ถึง 10 นาที
มันไม่ชอบว่ายน้ำร่วมกับเรือใบ หรือเรือที่ทำจากไม้
แต่ถ้าเป็นเรือกลไฟ(ทำจากเหล็ก) ที่จะข้าม
Marlborough Sounds
ไม่ว่าจะเป็นเวลากลางวันหรือเวลากลางคืน
Pelorus Jack จะอยู่ร่วมเดินทาง/นำทางเรือเสมอ "
View of Te Aumiti / French Pass. Photo: Ricard MC/Shutterstock.com
.
ในปี 1912 มีคนเห็น Jack Pelorus ครั้งสุดท้าย
มีข่าวลือต่าง ๆ นานาตามมาว่า
มันถูกฉมวกแทงตายโดยเรือล่าปลาวาฬนอร์เวย์
หรือถูกตีด้วยใบพัดเรือกลไฟ
แต่มันน่าจะเสียชีวิตเพราะวัยชรา
เพราะอายุเฉลี่ยของปลาโลมา Risso
คือ ระหว่างวันที่ 25 ถึง 30 ปี
ดังนั้นอายุของ Jack Pelorus ก็สุกหง่อมเต็มทีแล้ว
เพราะในช่วงบั้นปลายชีวิตของ Jack Pelorus
มันเริ่มว่ายน้ำได้ช้าลงมาก
จนเรือกลไฟมักจะลดความเร็วลง
เพื่อให้สหายสุงอายุของเรือกลไฟ
จะได้ว่ายน้ำตามเรือกลไฟได้ทัน
ข่าวสันนิษฐานการตายของ Jack Pelorus
มีการรายงานข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์
ทั้งของประเทศนิวซีแลนด์ อังกฤษและสหรัฐอเมริกา
แต่ก็ยังมีสิ่งตีพิมพ์ตะวันตกหลายฉบัย
ที่เหน็บแนมข่าวเกี่ยวกับการตายของ Jack Pelorus
“ ยัอนกลับไปในปี 1886 ผมรู้จัก Jack Pelorus
มันเฉลียวฉลาดและว่องไว มันเป็นปลาโลมาวัยหนุ่ม ที่พราวสีฟ้าและสีขาว
แน่นอนมันเป็นปลาสุภาพบุรุษมากที่สุด เท่าที่ผมเคยพบเห็นมา
มันเป็นปลาตระกูลสูงที่มีครีบ ในช่องแคบ 2 แห่งที่อยู่ด้านตรงข้ามซีกโลก(สหรัฐอเมริกา) "
New York Times บรรยายในหน้าหนังสือพิมพ์
Jack Pelorus ยังได้รับการจดจำในรูปแบบอื่น ๆ อีกมากมาย
มีชื่อ Jack Pelorus ในร้านจำหน่ายเครื่องดื่มช็อคโกแลตแห่งหนึ่ง
มีท่าเต้น Jack Pelorus ยอดนิยมใน Scottish (สกอตแลนด์)
สุนัขพันธุ์ bulldogs 2 ตัวก็ตั้งชื่อว่า Pelorus Jack I (1913-1916)
และ Pelorus Jack II (1916-1919)
พวกมันได้กลายเป็นสัญลักษณ์ mascots ของกองทัพเรือ
เรือลาดตระเวณประจัญบาญ (battlecruiser) HMS New Zealand
เรียบเรียง/ที่มา
https://bit.ly/2BRQdZY
https://bit.ly/2PaLS7c
https://bit.ly/312Hw7A
https://bit.ly/2BMrjuz
https://bit.ly/2DbJJ8G
Pelorus Jack : ปลาโลมาที่นำร่องเรือ
A Risso’s dolphin, the kind Pelorus Jack was of. Photo: Tory Kallman/Shutterstock.com
ตอนเหนือสุดของเกาะทางใต้ของนิวซีแลนด์
มีสภาพเป็นอ่าวและและมีเสียงคลื่นซัดสาดอย่างรุนแรง
ก่อนที่จะเดินทางถึงชายฝั่งที่สลับซับซ้อนแห่งนี้
มีร่องน้ำที่แคบและอันตรายอย่างแรงที่เรียกว่า French Pass
เรือต่าง ๆ มักจะหลีกเลี่ยงร่องน้ำแห่งนี้
เพราะกระแสน้ำที่นี่ไหลเชี่ยว/แรงมาก
จนสามารถลากเรือให้แล่นไปชนกับหินผา/หินโสโครกได้
รวมทั้งมีเสียงโหยหวนชวนขนลุก
Marlborough Sounds เสียงที่เกิดจาก
น้ำทะเลกระแทกพื้นที่หุบเขาจำนวนมากที่จมอยู่ใต้ทะเล
ทางตอนเหนือสุดของเกาะทางใต้ของนิวซีแลนด์
South Island หรือ Te Waipounamu
เสียง Marlborough ถูกสร้างขึ้นมาจากการทรุดตัวของแผ่นดิน
และแรงของกระแสน้ำ/คลื่น/ระดับน้ำทะเลที่ขึ้นลง
ไหลผ่านบริเวณหุบเขาใต้ทัองทะเล
ตามตำนานเทพปกรณัมของชนเผ่า Māori ที่เชื่อกันว่า
เสียงนี้คือ เสียงพึมพำของเทพ Aoraki ที่เรือ wakas (ของชนเผ่า) จมลง
ความพยายามครั้งแรกของชาวยุโรป
ที่จะนำเรือแล่นผ่านร่องน้ำแห่งนี้
คือ หายนะที่ติดตามมาอย่างใกล้ชิด
ในปี 1827
พลเรือเอกชาวฝรั่งเศส Jules Dumont d'Urville
ได้จัดทำทำแผนที่ชายฝั่งของเกาะใต้
โดยสั่งให้คนนำร่องแล่นเรือเข้าสู่เส้นทาง
ที่ตั้งอยู่ระหว่าง Rangitoto ki te Tonga
หรือที่รู้จักกันในนามเกาะ D'Urville (ตามชื่อพลเรือเอก)
และบนชายฝั่งแผ่นดินใหญ่
เส้นทาง French Pass ช่วยร่นระยะทางประมาณ 15 ไมล์
สำหรับนักเดินเรือที่ต้องการล่องเรือระหว่างเกาะเหนือและเกาะใต้
North หรือ Te Ika-a-Māui กับ South Islands หรือ Te Waipounamu
แทนทางเลือกการแล่นเรือไปอัอมเกาะ D'Urville
แต่ต้องยอมรับความเสี่ยงกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว
ในขณะที่เรือ Astrolabe ของ Jules Dumont d'Urville
ซึ่งเป็นเรือรบที่น่าเกรงขามของกองทัพเรือฝรั่งเศส
ได้แล่นเรือเข้าช่องแคบที่สุดของพื้นที่แห่งนี้
ลำเรือได้ถูกกระแสน้ำเหวี่ยงเรือไปมาด้านข้าง
และกระแสน้ำที่รุนแรงบังคับจนเรือต้องแล่นไปยังโขดหิน
แม้ว่าลูกเรือจะพยายามควบคุมเรือได้
แต่เรือ Astrolabe ก็ยังกระแทกหินถึงสองครั้ง
และเรือถูกพัดไปที่แนวปะการัง
หลังจากเหตุการณ์ร้ายแรงที่เกิดขึ้นมา
ทำให้ Jules Dumont d'Urville ได้เสนอแนะว่า
ไม่สมควรที่ใครจะพยายามแล่นเรือผ่าน French Pass
ยกเว้นในที่สุดกว่า 60 ปีต่อมา
French Pass กลายเป็นเส้นทางธรรมชาติยอดนิยม
สำหรับเรือที่เดินทางระหว่าง Wellington กับ Nelson
ไม่ใช่เพราะสาเหตุที่มีคนนำร่องเก่งขึ้น
หรือลูกเรือมีความชำนาญมากขึ้น
French Pass ยังคงดุร้ายและเป็นอันตรายอย่างที่เคยเป็นมา
สาเหตุหลักที่มีการเปลี่ยนแปลง คือ
เครื่องยนต์มีสมรรถภาพดีขึ้นกว่าเดิม
และการปรากฏตัวของปลาโลมา
ซึ่งในอีก 20 ปีต่อมา ปลาโลมาได้นำร่อง
นำพาเรือกลไฟ แล่นเข้าไปในน่านน้ำอันตรายอย่างซื่อสัตย์
ภาพถ่ายของ Pelorus Jack ที่หายากโดย Edgar Warwick
Pelorus Jack เป็นปลาโลมาพันธุ์ Risso (Grampus griseus)
ซึ่งไม่ค่อยพบเห็นในน่านน้ำนิวซีแลนด์
มึการระบุเพศด้วยการสังเกตจากขนาดของมัน
น่าจะยืนยันได้ว่าเป็นเพศผู้
Pelorus Jack ถูกพบครั้งแรกในปี 1888
เมื่อมันปรากฏตัวต่อหน้าเรือใบที่แล่นเรือเข้าใกล้ French Pass
เรื่องราวเริ่มต้น เมื่อลูกเรือของเรือใบ
ต้องการใช้ฉมวกแทงมันให้ตายในตอนแรก
แต่ภรรยาของกัปตันที่ดุร้ายน่ากลัว
ได้สั่งห้ามลูกเรือ อย่าทำร้ายมัน
หลังจากนั้น Pelorus Jack ก็ทำการนำร่องผ่านช่องแคบ
โดยเวียนว่ายอยู่ที่ข้างเรือเป็นเวลา 12 ชั่วโมง
และอีกหลายปีต่อมา
Pelorus Jack ก็นำทางเรือทุกลำ
ก่อนที่จะแล่นผ่าน French Pass
Pelorus Jack ไม่ชอบเรือไม้ หรือเรือใบ
แต่ชอบเรือกลไฟที่สร้างจากเหล็กและแล่นด้วยความเร็วสูง
สันนิษฐานว่า Pelorus Jack ชอบเล่นกับคลื่นแรงแรง
ลูกคลื่นที่เกิดจากการแล่นของเรือกลไฟ
และเรือเหล็กสร้างคลื่นลูกโค้งได้ดีที่สุด
Pelorus Jack. Photographed by A. Pitt
Pelorus Jack ได้ชื่อมาจาก Pelorus Sound
ซึ่งเป็นหุบเขาที่มีธารน้ำคดเคี้ยวมาก
เป็นปากทางที่เรือต้องรอเข้าเทียบท่าเมือง Nelson
Pelorus Jack จะเล่นกับคลื่นของเรือเป็นระยะทาง 8 กิโลเมตร
จนกระทั่งถึงปากทางของ French Pass
แต่มันจะไม่ยอมว่ายน้ำเข้าไป
ในตอนขากลับ มันก็จะรอคอยเรืออีกครั้ง
และว่ายน้ำไปตลอดทางพร้อมกับเรือจนถึง Clay Point
แล้วมันก็จะดำน้ำ/ว่ายหายไปอีกครั้ง
ในปี 1904 ผู้โดยสารคนหนึ่งบนเรือกลไฟ SS Penguin
ได้ชักปืนพกขึ้นมาและพยายามยิง Pelorus Jack
แต่ถูกผู้โดยสารเรือช่วยกันจับกุมตัวไว้
ซึ่งในขณะนั้น ยังไม่มีกฎหมายคุ้มครองปลาโลมา
จึงต้องปล่อยตัวชายที่จิดใจชั่วร้ายไป
ตามหลักไม่มีกฎหมาย ไม่มีการลงโทษ
หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว
ชาวบ้านจึงเรียกร้องให้ออกกฎหมายในปีเดียวกัน
ซึ่งมีกฎหมายลงโทษบุคคลใดก็ตามที่ทำร้าย Pelorus Jack
หรือสมาชิกของเผ่าพันธุ์ปลาโลมา Pelorus Jack
ในเขตน่านน้ำ Cook Strait ปากแม่น้ำ และอ่าวที่อยู่ติดกัน
ตามตำนานเล่าว่า หลังจากเหตุการณ์ร้ายที่จะเกิดขึ้นนั้น
Pelorus Jack ก็ Convert ทางใครทางมันกับเรือกลไฟ SS Penguin
โดยไม่ยอมติดตามเรือกลไฟลำนี้ผ่านเข้าในเขตน่านน้ำอันตราย
5 ปีต่อมา 12 กุมภาพันธ์ 1909
เรือกลไฟ SS Penguin แล่นชนโขดหินและจมลง
ทำให้ผู้โดยสารตาย 75 คนและรอดตายได้ 30 คน
กลายเป็นภัยพิบัติทางทะเลที่เลวร้ายที่สุด
ของประเทศนิวซีแลนด์ในศตวรรษที่ 20
.
ในช่วงหลายปีต่อมา
ชื่อเสียงของ Pelorus Jack ก็โด่งดังและเป็นที่รู้จักกันดี
มีผู้โดยสารจำนวนมากยอมแล่นเรือในเส้นทาง Nelson - Wellington
เพื่อไปเฝ้าดูมันว่ายน้ำแล่นไปพร้อมกับเรือ
รวมทั้งนักเขียนนวนิยายที่โด่งดังเช่น
Mark Twain นักเขียนชาวอเมริกัน
และ Frank T. Bullen นักเขียนชาวอังกฤษ
ในปี 1906
นักท่องเที่ยวคนหนึ่งเขียนจดหมายถึง London Daily Mail ว่า
" ในช่วงยี่สิบปีที่ผ่านมา ทุกคนที่โดยสารเรือกลไฟที่แล่นผ่านพื้นที่นี้
จะมองเห็นปลาสีขาวตัวใหญ่ คล้ายปลาฉลาม คล้ายปลาโลมา
ที่มีชื่อเรียกกันว่า Pelorus Jack
ในครั้งแรก จะสังเกตเห็นมันกระโดดขึ้นจากทะเลในระยะไกล
แต่อีกในไม่กี่นาทีต่อมา มันก็ว่ายน้ำนำทางที่ด้านหน้าหัวเรือ
บางครั้งมันก็กระโดดเหนือน้ำเพียงไม่กี่นาที
แล้วก็ว่ายน้ำไปข้างหน้า จนพ้นจากสายตา
แต่ในบางครั้ง มันก็ว่ายนำหน้าอยู่ถึง 10 นาที
มันไม่ชอบว่ายน้ำร่วมกับเรือใบ หรือเรือที่ทำจากไม้
แต่ถ้าเป็นเรือกลไฟ(ทำจากเหล็ก) ที่จะข้าม Marlborough Sounds
ไม่ว่าจะเป็นเวลากลางวันหรือเวลากลางคืน
Pelorus Jack จะอยู่ร่วมเดินทาง/นำทางเรือเสมอ "
View of Te Aumiti / French Pass. Photo: Ricard MC/Shutterstock.com
ในปี 1912 มีคนเห็น Jack Pelorus ครั้งสุดท้าย
มีข่าวลือต่าง ๆ นานาตามมาว่า
มันถูกฉมวกแทงตายโดยเรือล่าปลาวาฬนอร์เวย์
หรือถูกตีด้วยใบพัดเรือกลไฟ
แต่มันน่าจะเสียชีวิตเพราะวัยชรา
เพราะอายุเฉลี่ยของปลาโลมา Risso
คือ ระหว่างวันที่ 25 ถึง 30 ปี
ดังนั้นอายุของ Jack Pelorus ก็สุกหง่อมเต็มทีแล้ว
เพราะในช่วงบั้นปลายชีวิตของ Jack Pelorus
มันเริ่มว่ายน้ำได้ช้าลงมาก
จนเรือกลไฟมักจะลดความเร็วลง
เพื่อให้สหายสุงอายุของเรือกลไฟ
จะได้ว่ายน้ำตามเรือกลไฟได้ทัน
ข่าวสันนิษฐานการตายของ Jack Pelorus
มีการรายงานข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์
ทั้งของประเทศนิวซีแลนด์ อังกฤษและสหรัฐอเมริกา
แต่ก็ยังมีสิ่งตีพิมพ์ตะวันตกหลายฉบัย
ที่เหน็บแนมข่าวเกี่ยวกับการตายของ Jack Pelorus
“ ยัอนกลับไปในปี 1886 ผมรู้จัก Jack Pelorus
มันเฉลียวฉลาดและว่องไว มันเป็นปลาโลมาวัยหนุ่ม ที่พราวสีฟ้าและสีขาว
แน่นอนมันเป็นปลาสุภาพบุรุษมากที่สุด เท่าที่ผมเคยพบเห็นมา
มันเป็นปลาตระกูลสูงที่มีครีบ ในช่องแคบ 2 แห่งที่อยู่ด้านตรงข้ามซีกโลก(สหรัฐอเมริกา) "
New York Times บรรยายในหน้าหนังสือพิมพ์
Jack Pelorus ยังได้รับการจดจำในรูปแบบอื่น ๆ อีกมากมาย
มีชื่อ Jack Pelorus ในร้านจำหน่ายเครื่องดื่มช็อคโกแลตแห่งหนึ่ง
มีท่าเต้น Jack Pelorus ยอดนิยมใน Scottish (สกอตแลนด์)
สุนัขพันธุ์ bulldogs 2 ตัวก็ตั้งชื่อว่า Pelorus Jack I (1913-1916)
และ Pelorus Jack II (1916-1919)
พวกมันได้กลายเป็นสัญลักษณ์ mascots ของกองทัพเรือ
เรือลาดตระเวณประจัญบาญ (battlecruiser) HMS New Zealand
เรียบเรียง/ที่มา
https://bit.ly/2BRQdZY
https://bit.ly/2PaLS7c
https://bit.ly/312Hw7A
https://bit.ly/2BMrjuz
https://bit.ly/2DbJJ8G