ในช่วงเวลาที่เสียงของธรรมชาติเริ่มถูกกลบด้วยเสียงเครื่องยนต์และธุรกิจท่องเที่ยว "ทราย สก๊อต" หรือ "สิรณัฐ สก๊อต" กลายเป็นหนึ่งในบุคคลต้นแบบด้านการอนุรักษ์ทะเลที่ถูกพูดถึงมากที่สุด ด้วยฉายา “มนุษย์เงือก” และผลงานมากมายที่ไม่ได้เกิดจากแค่ความรักในทะเล แต่คือการลงมือทำอย่างจริงจัง จนล่าสุดเจ้าตัวประกาศยุติบทบาท "ที่ปรึกษาอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช" ด้วยเหตุผลเพื่อส่งเสียงสะท้อนจากท้องทะเลให้ดังขึ้นในอีกทาง
📌โปรไฟล์ไม่ธรรมดา ทายาท “ภิรมย์ภักดี” ผู้เปลี่ยนคลื่นทะเลให้กลายเป็นเวทีชีวิต
ทราย สก๊อต เป็นลูกครึ่งไทย-สก็อตแลนด์ วัย 28 ปี ทายาทรุ่นที่ 4 ของตระกูล “ภิรมย์ภักดี” เจ้าของธุรกิจชื่อดัง “สิงห์ คอร์เปอเรชั่น” เป็นบุตรชายของ “จีรานุช ภิรมย์ภักดี” กับอดีตสามีชาวสก็อตแลนด์ และเป็นน้องชายของ "พาย สุนิษฐ์ สก๊อต" แฟนหนุ่มของนักแสดงสาว "มายด์ ลภัสลัล"
แม้จะเติบโตในครอบครัวที่เพียบพร้อม แต่ทรายเลือกเส้นทางชีวิตที่แตกต่าง เขาจบการศึกษาด้านแอนิเมชันจาก
California Institute of the Arts ประเทศสหรัฐอเมริกา ทว่าความรักที่มีต่อท้องทะเลไทยพาเขากลับบ้าน พร้อมภารกิจที่ยิ่งใหญ่กว่าแค่ชื่อเสียงหรือความร่ำรวย
📌“มนุษย์เงือก” ที่ใช้ร่างกายและหัวใจเพื่อทะเล
เขาเริ่มต้นบทบาทนักอนุรักษ์ด้วยการก่อตั้งโครงการ
Sea You Strong รวมกลุ่มคนรักทะเลมาช่วยกันเก็บขยะชายฝั่ง สร้างกิจกรรมรณรงค์ทั่วภาคใต้ และจัดการว่ายน้ำข้ามจังหวัดระยะทางไกลถึง 70 กม. เพื่อกระตุ้นให้สังคมหันมาสนใจปัญหาทะเล
ทรายเป็นคนไทยคนแรกที่ว่ายน้ำระยะ 50 กม. ภายใน 2 วัน และว่ายน้ำเดี่ยวข้ามทะเลจากหาดอ่าวนาง-เกาะปอดะ (ไปกลับ) รวมระยะเกือบ 30 กม. จนถูกขนานนามว่า "อควาแมนเมืองไทย"
📌พลังโซเชียลเพื่อปกป้องธรรมชาติ
ตลอด 4 ปีในฐานะที่ปรึกษาอธิบดีกรมอุทยานฯ ทรายไม่เคยรับค่าตอบแทนแม้แต่บาทเดียว แต่ใช้ช่องทางออนไลน์เป็นสื่อกลางสะท้อนปัญหา ทั้งเรื่องการท่องเที่ยวที่ไม่ยั่งยืน พฤติกรรมของนักท่องเที่ยวต่างชาติ และระบบราชการที่ยังมีช่องโหว่ โดยเขายังกล้าเปิดเผยเรื่องค่าตอบแทนต่ำของเจ้าหน้าที่ชั่วคราวที่ทำงานหนักแต่ไม่มีสวัสดิการใด ๆ
📌ประกาศลาออก พร้อมเสียงสะท้อนจากคลิปดราม่า
เหตุการณ์ล่าสุดที่ทรายตักเตือนนักท่องเที่ยวต่างชาติซึ่งแสดงพฤติกรรมเหยียดเชื้อชาติ กลายเป็นคลิปไวรัลในโลกออนไลน์ เขาประกาศชัดว่านั่นคือ "คลิปสุดท้ายในฐานะเจ้าหน้าที่" พร้อมโพสต์ข้อความลาออก โดยไม่มีความขุ่นข้องใจต่ออธิบดี พร้อมขอบคุณสำหรับโอกาสที่ผ่านมา
มากกว่าตำแหน่ง คือจิตวิญญาณของผู้ปกป้องทะเล
แม้จะยุติบทบาททางราชการ แต่ทรายยังคงยืนยันว่าเขาจะไม่หยุดทำงานเพื่อทะเลไทย เพราะ "เราอาจไม่ใช่เจ้าของทะเล แต่เรารู้วิธีรักษาเขาให้อยู่กับเราไปตลอด"
“ผมไม่กลัวที่จะพูดในสิ่งที่ถูกต้อง แม้มันจะขัดใจใครบางคน ผมไม่ใช่คนสมบูรณ์แบบ แต่ผมเลือกจะทำในสิ่งที่ดี”
ทราย สก๊อต คือหนึ่งในภาพแทนของคนรุ่นใหม่ที่ไม่เพียงแต่มีความฝัน แต่ลงมือสร้างการเปลี่ยนแปลงในโลกใบนี้ด้วยตัวเอง ไม่ใช่ด้วยการโบกมือจากฝั่ง แต่เป็นการว่ายฝ่าคลื่นกลางทะเล… เพื่อลมหายใจของธรรมชาติไทยอย่างแท้จริง
ประวัติ "ทราย สก๊อต" ทายาทตระกูลดังสิงห์ มนุษย์เงือกแห่งทะเลใต้
📌โปรไฟล์ไม่ธรรมดา ทายาท “ภิรมย์ภักดี” ผู้เปลี่ยนคลื่นทะเลให้กลายเป็นเวทีชีวิต
ทราย สก๊อต เป็นลูกครึ่งไทย-สก็อตแลนด์ วัย 28 ปี ทายาทรุ่นที่ 4 ของตระกูล “ภิรมย์ภักดี” เจ้าของธุรกิจชื่อดัง “สิงห์ คอร์เปอเรชั่น” เป็นบุตรชายของ “จีรานุช ภิรมย์ภักดี” กับอดีตสามีชาวสก็อตแลนด์ และเป็นน้องชายของ "พาย สุนิษฐ์ สก๊อต" แฟนหนุ่มของนักแสดงสาว "มายด์ ลภัสลัล"
แม้จะเติบโตในครอบครัวที่เพียบพร้อม แต่ทรายเลือกเส้นทางชีวิตที่แตกต่าง เขาจบการศึกษาด้านแอนิเมชันจาก California Institute of the Arts ประเทศสหรัฐอเมริกา ทว่าความรักที่มีต่อท้องทะเลไทยพาเขากลับบ้าน พร้อมภารกิจที่ยิ่งใหญ่กว่าแค่ชื่อเสียงหรือความร่ำรวย
📌“มนุษย์เงือก” ที่ใช้ร่างกายและหัวใจเพื่อทะเล
เขาเริ่มต้นบทบาทนักอนุรักษ์ด้วยการก่อตั้งโครงการ Sea You Strong รวมกลุ่มคนรักทะเลมาช่วยกันเก็บขยะชายฝั่ง สร้างกิจกรรมรณรงค์ทั่วภาคใต้ และจัดการว่ายน้ำข้ามจังหวัดระยะทางไกลถึง 70 กม. เพื่อกระตุ้นให้สังคมหันมาสนใจปัญหาทะเล
ทรายเป็นคนไทยคนแรกที่ว่ายน้ำระยะ 50 กม. ภายใน 2 วัน และว่ายน้ำเดี่ยวข้ามทะเลจากหาดอ่าวนาง-เกาะปอดะ (ไปกลับ) รวมระยะเกือบ 30 กม. จนถูกขนานนามว่า "อควาแมนเมืองไทย"
📌พลังโซเชียลเพื่อปกป้องธรรมชาติ
ตลอด 4 ปีในฐานะที่ปรึกษาอธิบดีกรมอุทยานฯ ทรายไม่เคยรับค่าตอบแทนแม้แต่บาทเดียว แต่ใช้ช่องทางออนไลน์เป็นสื่อกลางสะท้อนปัญหา ทั้งเรื่องการท่องเที่ยวที่ไม่ยั่งยืน พฤติกรรมของนักท่องเที่ยวต่างชาติ และระบบราชการที่ยังมีช่องโหว่ โดยเขายังกล้าเปิดเผยเรื่องค่าตอบแทนต่ำของเจ้าหน้าที่ชั่วคราวที่ทำงานหนักแต่ไม่มีสวัสดิการใด ๆ
📌ประกาศลาออก พร้อมเสียงสะท้อนจากคลิปดราม่า
เหตุการณ์ล่าสุดที่ทรายตักเตือนนักท่องเที่ยวต่างชาติซึ่งแสดงพฤติกรรมเหยียดเชื้อชาติ กลายเป็นคลิปไวรัลในโลกออนไลน์ เขาประกาศชัดว่านั่นคือ "คลิปสุดท้ายในฐานะเจ้าหน้าที่" พร้อมโพสต์ข้อความลาออก โดยไม่มีความขุ่นข้องใจต่ออธิบดี พร้อมขอบคุณสำหรับโอกาสที่ผ่านมา
มากกว่าตำแหน่ง คือจิตวิญญาณของผู้ปกป้องทะเล
แม้จะยุติบทบาททางราชการ แต่ทรายยังคงยืนยันว่าเขาจะไม่หยุดทำงานเพื่อทะเลไทย เพราะ "เราอาจไม่ใช่เจ้าของทะเล แต่เรารู้วิธีรักษาเขาให้อยู่กับเราไปตลอด"
“ผมไม่กลัวที่จะพูดในสิ่งที่ถูกต้อง แม้มันจะขัดใจใครบางคน ผมไม่ใช่คนสมบูรณ์แบบ แต่ผมเลือกจะทำในสิ่งที่ดี”
ทราย สก๊อต คือหนึ่งในภาพแทนของคนรุ่นใหม่ที่ไม่เพียงแต่มีความฝัน แต่ลงมือสร้างการเปลี่ยนแปลงในโลกใบนี้ด้วยตัวเอง ไม่ใช่ด้วยการโบกมือจากฝั่ง แต่เป็นการว่ายฝ่าคลื่นกลางทะเล… เพื่อลมหายใจของธรรมชาติไทยอย่างแท้จริง