รีวิวสอบ TOEIC 2000

กระทู้สนทนา
สวัสดีทุกคน...

เราเพิ่งไปสอบ TOEIC มาเมื่อ เดือน กค.2020  สอบวัน พฤหัส ได้ผล สดๆ ร้อน วันนี้ คือวันเสาร์ ... คะแนนที่ได้ สมดังที่ตั้งใจไว้คือ 860

ก่อนสอบเคยคิดไว้ว่า ถ้าสอบได้คะแนนอย่างที่ตั้งใจ จะมาตั้งกระทู้ แย่งปันประสบการณ์...เพราะก่อนสอบเราก็มาหาอ่านประสบการณ์ เส้นทางการเดินทางจากที่นี่เช่นกัน...ได้เวลาตอบแทนคุณกันบ้าง

ออกตัว!!! สิ่งที่เขียน คือ ควาทคิดเห็นส่วนตัว ประสบการณ์ส่วนตัวในวันนั้น นะจ๊ะ...ถ้าน้องๆ จะเอาไปปรับใข้ในอนาคตก็โปรดใช้วิจรณญาณด้วยเด้อ...วิธีของพี่อาจไม่ได้ผลกับคนอื่นนะคะ

ม่ะ เริ่ม! เล่าประสบการณ์สอบ โทอิค July 2020


1. จงโทรไปจองก่อนสอบ

ตอนนี้ที่ไปสอบ...สถาบันเพิ่งเปิดมาจากโควิท ไม่นาน ดังนั้นทางสถาบันสอบจึงกำหนดให้โทรไปจอง...เราโทรไป กะว่าจะเอาเสาร์ อีกสักสองอาทิตย์...แต่ปรากฎว่า เสาร์เต็มแล้วทั้งเดือนจ้า.....เลยเลือกวันธรรมดาแทน...เพราะฉนั้น หากคุณต้องการวันเสาร์จริงๆ แนะนำให็โทรล่วงหน้าเป็นเดือนนะจ๊ะ...(แต่วันที่ไปถึง...ก็คนต่อแถวเข้าคิวแบบลงทะเบียน walk in นะ....แต่จะมาต่อแถวต่อคิวทำไมถ้าไม่จำเป็นใช่ป่ะ😁...โทรมาจองเถอะ)


2. สถานที่สอบตึก BB ข้างตึกแกรมมี่.. (ถ้าเดินจากรถไฟฟ้ามา...คือเจอตึกแกรมมี่ก่อน...แล้วตึกถัดไปนะคะ)..ทีแรก จินตนาการว่าถึงก่อนตึกแกรมมี่.....แหมตกใจ หาไม่เจอ คิดว่าตึกหาย


3. เวลาปิดเช็คอิน..เจ้าหน้าที่จะบอกตอนเราไปจองว่าควรมาก่อน 1 ชม. แต่เหมือนเราจะเห็นป้ายแว้บๆ ว่า..เช็คอินจะประมาณ ปิด!!! 10-15 นาที ก่อนเวลารอบสอบ !!! ที่บอกไว้เผื่อใครรถติดแล้วยังมาไม่ถึงจะได้ไม่ลก ตกใจว่าเค้าจะปิดก่อนนะจ๊ะ

แต่เผื่อเวลาไว้จะดีกว่า...เดี่ยวลิงอ่านต่อไปนะ... เราว่าควรไปพอดีๆ เวลา สักก่อน 1 ชม. กำลังดี ...เพราะขั้นตอนเช็คอินประมาณ 20-30 นาที (ขึ้นกับจำนวนคนแต่ละรอบ) ดังต่อไปนี้!


-วันสอบ...เรานัดเวลามาแล้วตอน 9.00 เราไปถึงตั้งแต่ 7.30..เพราะหนีช่วงรถไฟฟ้าแน่น...

(ทิป: สำหรับคนที่ไม่ค่อยได้ขึ้นรถไฟฟ้า...ตัวเธอจงจำไว้วันธรรมดา ช่วงที่รถแน่นสุดๆๆๆ คือช่วง 7.30-9.00 แน่นชนิดบางทีเราเอาตัวแทรกเข้าไปไม่ได้อ่ะ จงระวังไว้เด้อ)

เราก็เลยกะว่ามาเช้าๆ มานั่งรอได้ จะได้ไม่ลก แต่!!!

-ไม่มีที่นั่งรอ!!!! อย่าคิดว่ามาเช้าๆ นั่งรอแอร์เย็น ไม่มี! ไม่มี! ย้ำไม่มี! ลิฟท์เปิดออกมา...โอ้วแม่เจ้า คนออเต็มหน้าลิฟท์ (กลุ่มคนที่มาต่อคิวสอบ แบบไม่ได้จอง) ที่จะยืนยังไม่มี

แต่ได้ยินเจ้าหน้าที่จะร้องบอกว่า...คนที่จองคิวมาแล้วรอบ 8.00 แยกเข้ามาทางซ้ายได้เลยค่ะ (เห็นป่ะ ! เราบอกแล้ว..จองมาก่อนเถอะ!) แล้วระหว่างนั้น เจ้าหน้าที่ก็จะเรียกคิวของคนที่มาต่อคิวยาวๆนั่นเป็นระยะๆ ให้ไปลงทะเบียนอีกทางหนึ่ง...(มั้งนะ อันนี้เราเดา...เพราะเราจองมา)


-ทีนี่เราเลยหาห้องน้ำฉี่ก่อน...แม่เจ้า!!! มี 2 ห้องถ้วน!!! ต่อคิวไปสิจ๊ะ....แต่ๆๆๆ ฉันมีทริคมาบอก ซึ่งฉันรู้ทีหลังจากเข้าไปเช็คอิน...แล้วเจ้าหน้าที่บอกว่า...เราสามารถใช้บันไดหนีไฟไปเข้าห้องน้ำชั้นอื่นๆ ได้นะจ๊ะ


-บันไดหนีไฟ คือที่นั่งรอ....หลังจากฉี่เสร็จ...เพิ่งจะ 7.45 ...ฉันก็พอจะเดาได้ว่า...แน่นอน..เค้ายังคงต้องเรียกคนรอบ 8.00 ยังไม่เสร็จ ฉันเลยมานั่งที่บันไดหนีไฟแล้วกิน!...อันนี้เป็นทริคแล้วแต่คน...ให้สังเกตุตัวเองกันไว้...ของเรา...ปกติเราจะหิวประมาณ 10.00 แบบอยากของว่างไรงี้...แล้วเวลา 10.00 คือสอบอยู่แน่ๆ ..เราก็เลยเตรียมแซนวิช กับ โค้ก มากินตอน 7.45-8.00 เพื่อให้น้ำตาลในเลือดมีพอเวลาสอบ


-พอ 8.05 กินเสร็จ (คิดแล้วว่า กว่าโค้กจะถึงกระเพาะ พอลงทะเบียนเสร็จ จะปวดฉี่อีกทีพอดี) เราก็ลุกจากตรงบันได ออกไปหน้าลิฟท์ ซึ่งตามคาด...เจ้าหน้าที่ก็จะประกาศว่า...รอบ 9.00 เช็คอินด้านซ้ายได้เลยค่ะ เราก็ไปเข้าแถว...แถวจะแบ่งเป็นสองแถวตามอักษรนำหน้าชื่อ


การเช็คอิน

ทีแรกคิดว่าจะแบบ one stop service....แบบนั่งโต๊ะทีเดียวจบ!

โนว์ ๆๆๆๆ เลยจ้า 😭  เดินต่อแถววนเป็นลูกเป็ดเลย (เพราะฉนั้น ไม่ต้องพกหนังสงหนังสือ แบบกะมาอ่านหน้าห้องสอบ...เธอไม่มีที่ ไม่มีเวลาจ้า! มาตัวเบาๆ ดีที่สุด)

ขั้นตอน

1. เข้าแถว วัดอุณหภูมิ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะมีชื่อคนจองอยู่ในรายชื่อแล้ว เธอเตรียมบัตรประชาชนไว้ได้เลย เพื่อให้เค้าเทียบชื่อในบัตรประชาชน

2. รับซอง ปากกา แล้วจ่ายหน้าซองเอง...ชื่อให้เขียนภาษาอังกฤษ ตามที่สมัคร ที่อยู่เขียนภาษาไทยได้

3. เข้าถ่ายรูป ตรวจสอบบัตร จ่ายเงิน...จะต้องเข้าแถวยาวอีกแล้ว.... แล้วเจ้าหน้าที่จะเรียกเข้าไปตามช่องๆ (จินตนาการแบบ เคาท์เตอร์ธนาคาร หรือ เค้าท์เตอร์ทำวีซ่า ไรงี้)

ใช้เวลาสักพักทีเดียวตรงนี้

4. เดินวนไปเอาซองที่เราจ่ายหน้าเองไปให้เจ้าหน้าที่

5. เดินวนไปอีกจุด เพื่อรับบัตรสอบ (กระดาษที่มีรูปเราที่ถ่ายเมื่อกี้นั่นแหละ) เซ็นท์ชื่อตัวเองในล็อคบุ๊ค ด้วยปากกา บัตรนี้จะมีห้องสอบบอก และเจ้าหน้าที่ระดสายข้อมือให้

6. จะมีโต๊ะ ให้เคลียร์ของก่อนนำกระเป๋าไปฝาก ตอนนี้ก็ถอดนาฬิกาเก็บ กระเป๋าตังค์เอาเข้าได้ แต่ต้องไม่มีซิมการ์ด หรือพวกกุญแจ

ทริค...ใครติดยาดมเหมือนเรา...ให้ใช้ยาดมแบบน้ำ แป๊ะลงในแมส เราก็จะได้กลินไปสัก ชม. ได้ ... ใครติดลูกอม...ก็อมเลยตอนนี้


7. ไปต่อห้องฝากกระเป๋า มันจะเป็นช่องๆ ตามห้องสอบ..เจ้าหน้าที่จะให้เราวางเอง


ทั้งหมดนี้เราใช้เวลา 20-25 นาที


เวลาตอนนั้นก็คือ 8.30 มีเวลาไปฉี่ได้อีกรอบ...คราวนี้รู้แล้วว่า..ลงไปอีกชั้นได้ ก็เลยไม่ต้องต่อคิวห้องน้ำ


พอ 8.40 เราเข้าไปนั่งรอหน้าห้องสอบ...อย่างน้อยมีแอร์อ่ะ😁 เพราะที่อื่นๆ จะไม่มีเก้าอี้เลย!!!

เจ้าหน้าที่หน้าห้อง จะขอเอาเสื้อกันหนาวไปตรวจ และให้เราเปิดกระเป๋าตังค์ให้ดู แล้วก็จะเอาที่ตรวจโลหะ ไล่ตามตัวเราเหมือนเจ้าหน้าที่สนามบิน...จากนั้นจะสุ่ม ชี้โต๊ะสอบให้เราไปนั่ง ที่โต๊ะจะมีดินสอ 2 แท่ง ปากกา 1 ด้าม ยางลบ 1 แท่ง ไว้ให้

พอสัก 8.45 จะเริ่มเปิดเทป แบบ โทอิค คืออะไรยังไง ตรงนี้คือที่เค้าเปิดก่อนเวลาเพราะมันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับการสอบ

9.00 เวลาสอบ!

แต่ยังไม่ได้ทำข้อสอบจ้า😁

เจ้าหน้าที่จะแจกกระดาษคำตอบให้ แล้วค่อยๆ บอกทีละเสต็ป...ว่าหยิบปากกาเขียนชื่อ...วางปากกา เปลี่ยนเป็นดินสอ..ฝนอักษรชื่อ.. บลาๆๆๆ ก็ตั้งสติ แล้วทำตามเข้าไป

ทั้งหมดนี้!!! เราใช้เวลา 14 นานมากแม่!!!

(เพราะฉนั้น!!! ใครนัดผู้ปกครองมารับ หรือไปธุระต่อ อย่าคิดว่าได้รอบสอบ 9.00 จะเสร็จ 11.00 โนวๆ จ้า...อย่างวันนั้น เราสอบเสร็จ 11.14 เจ้าหน้าที่เก็บข้อสอบ เกือบ 10 นาที ...เค้าจะดูความเรียบร้อยของกระดาษคำตอบทีละคน เน้นทีละคน..ได้ออกจากน้องเกือบๆ 11.30)

ตอนนี้ฝนข้อมูลจนปวดมือแล้ววว (ใครนามสกุลยาวก็นะ...สู้ๆ ) แต่!! ข้อดีตรงนี้คือ...สำหรับเราที่ไม่ได้เข้าห้องสอบมานาน...เราใช้เวลาตรงนี้ ลองว่า เราฝนแบบไหนเร็วสุด...ฝนแบบวนๆ หรือฝนแบบเอียงๆ จะถนัดกว่าไรงี้..สำหรับเราฝนเอียงๆ ลงมาถนัดสุด ตอนทำข้อสอบก็จะฝนแบบนี้




ส่วนข้อสอบ....


พวกเธอไปหาจากกระทู้ หรือ แหล่งอื่นได้ เราจะได้ไม่พูดซ้ำมาก...

ต่อไปนี้เราจะพูดถึง...ประสบการณ์ส่วนตัว...เน้น...ความรู้สึกส่วนตัว..ซึ่งมันอาจจะใช้ได้ผล หรือไม่ได้ผลกับพวกเธอก็ได้นะ.. แต่เธอลองอ่านดูแล้วกัน


1. พาร์ทฟังแบบดูภาพ !

โจทย์มาปุ้บมองภาพให้ดี ตั้งสติมีอะไรในภาพ ...(ไม่ต้องโชว์เทพ...ถ้ารู้ตัวว่าเทพไม่พอ...แบบระหว่าเค้าอธิบาย แอบไปดูพาร์ท reading สักข้อแล้วกัน...โนว์...ตั้งสติ อยู่กับปัจจุบันพอ!!!)

พอตัวเลือกเป็นเสียงมา...สำหรับเรา!!! เราจะฟังแล้วแปลในใจ

เช่น ภาพรถบัส แล้วมีคนกำลังจะขึ้น อีกคนยืนรออยู่

A. มีรถบัสจอดอยู่เต็มไปเลย (เรา: ชริ! มีอยู่คันเดียวในรูป อย่ามาหลอก)

B: ผู้ชายกำลังซื้อตั๋ว (เรา: ชริ! ตั๋วมันอยู่ในมือแล้ว กำลังซื้ออะไรหล่ะ!)

C: ผู้หญิงกำลัง ON BOARD รถ (เออ! อันนี้แหละ!)

ไรงี้...แต่ที่สำคัญคือ เธอไปฝึกฟัง เธอเอ้ย....ในยูทูปคือมีเยอะแบบบ้านเบอะเลย ไปฝึก! ฟรีๆ

แล้วไม่อยากจะเมาท์! บางรูปฉันเคยเจอในแบบฝึกหัดจ้า!!! อิรูปผู้หญิงจะขึ้นรถนี่แหละ เลยจำแม่น

อ่อ!!! ห้ามขีดเขียนลงข้อสอบนะ...เธอต้องเขียนชื่อหน้าข้อสอบ!!! ถ้าเค้ามาจับได้ทีหลัง...ปรับไม่ตรวจเด้อ...เพร่ะฉนั้นตอนฝึก! ต้องฝึกแบบไม่เขียนอะไรลงข้อสอบเช่นกันนะ!


พาร์ทฟังแบบไม่มีโจทย์ไม่มีคำตอบ ...คือ ไม่มีอะไรให้มาเลย เพราะฉนั้นตั้งใจฟัง!!!

เราใช้วิธีตั้งใจฟังแบบ หลับตา! แล้วเหมือนจินตนการว่าดูคนเล่นละครอยู่ตามบทสนทนานั้นๆ เราว่ามันช่วยได้นะ หลับตา! เธอลองใช้ดู


แล้ว!!! ถ้าเป็นแบบฝึกหัดสมัยก่อน...ถ้าคำถามแบบ Yes No question...พวกเราจะตั้งใจฟังช้อยส์ที่มี Yes No ใช่ป่ะ...แต่ตอนนี้ ไม่แล้วจ้า...หอยหลอด..หลอกเก่ง!!! ขึ้นเยอะ...เพราะฉนั้นทางเดียวที่จะทำได้คือ ฟัง-ให้-รู้-เรื่อง !


พาร์ทฟังแบบมีโจทย์ มีตัวเลือกคำตอบ

เราใช้เทคนิคเดิมคือหลับตา...

คือถ้าพอมีเวลาสกรีนโจทย์แบบเร็ว...อย่าไปอะไรกับโจทย์มาก พวกตัวเลือกลืมไปก่อนอย่างเสียเวลา...แล้วเวลาเค้าพูด...หลับตาแล้วจินตนาการให้เห็นภาพว่าเค้ากำลังคุยกันเรื่องอะไร สถานที่แบบไหน

ตอนเราฝึก...เราเคยแบบ มัวแต่อ่านโจทย์! อ่านช้อยส์ แล้วพอเสียงมา เราสติหลุด...ตอนสอบเราเลยใช้เทคนิคนี้ คือฟังให้รู้เรื่องไปเลย! แล้วมาอ่านช้อยส์ทีหลัง มันช่วยให้ดีขึ้นสำหรับเรา...

คือเราว่าโทอิคข้อสอบฉลาดขึ้นแล้วอ่ะ...เค้าไม่ถามโต้งๆ แบบมีทางลัดจับจุดไปตอบอะไรแบบนี้แล้ว...มันคือการวัดจริงๆ ว่า!! เธอฟังรู้เรื่องหรือเปล่า!!! จริงๆ นะแกร เพราะฉนั้น หาเทคนิคที่ทำให้ฟังรู้เรื่อง แล้วโจทย์มายังไงก็จะตอบได้ส่วนมาก!


เออ...มันก็มีแหละ...ที่ฉันหลับตาฟังแล้ว...พอลืมตามาตอบไม่ได้แบบ...เออ...ตกลงนังผู้หญิงสรุปมันจะไปไหนนะ ..ลืมว่ะ....ก็เดาไป...แต่เจอช้อตแบบนี้ไปเกิน 2-3 ข้อจริงๆ นอกนั้นถ้าฟังได้ คือได้

มันจะมีหลอกๆ น้า....เช่นๆ ประมาณนี้ (อันนี้เราแต่งเองนะ จำไม่ได้แป๊ะๆ หรอก..ถ้าจำได้ฉันก็น้องออกแบบ ฉลาดเกมส์โกงแระ)

A. เออๆ วีคเอนด์นี้จะไปไหน

B. เออ...ว่าจะดูหนังเรื่อง abcd แล้วเธอหล่ะจะไปทำอะไร

(ตอนเหลือบมองโจทย์ก่อนฟัง..มีคำถามว่าจะดูหนังเรื่องอะไร?...แต่อีกใจคิดเลย อิโทอิค...คำตอบไม่โต้งๆ งี้แน่ๆ เดี่ยวมีหักมุมแน่ๆ)

A. อ่อ...หนัง abcsหรอเออ...เราเพิ่งไปดูเมื่ออาทิตย์ที่แล้วไม่ค่อยชอบเท่าไหร่...ส่วนฉัน ฉันจะไปตกปลาอ่ะ

B.ไม่หนุกหรอ...งั้นเดี่ยวไปดูเรื่อง gfhk แทนดีกว่า..เธอไปตกปลาหรอ...ดีจังอยากไป ไปที่ไหนอ่ะ

A. ยังไม่แน่อะ อาจจะที่ edf. เดี่ยวคุยกะป้าก่อน

B: อืมๆ ดีๆ ..เออ..เวลา gfhk ไม่ได้ว่ะ...ไปดูเรื่องตอนทุ่มหนึ่งดีกว่า

สรุปข้อนี้!!! ต้องไปดูในตารางที่เข้าให้มาจ้าว่าอิเรื่องตอน 1 ทุ่มคือเรื่องอะไร...ซึ่งเห็นป่ะ...อาจจะไม่มีการเอ่ยชื่อเรื่องนั้นในบทสนทนาเลยก็ได้!!

หลอกเก่งมากกกกก


ส่วนการอ่าน

พาร์ทแกรมม่า

ข้าน้อยไม่อาจแนะนำได้มาก 😭

ส่วนตัวคือจุดนี้คือเป็นจุดอ่อนของเรามาก.. ก็พยายามฟังคลิปครูดิวแล้วนะ หัดทำแบบฝึกหัดแล้วนะ พยายามแบบ...เออมีทริคแบบ เห็น the หา Noun แต่ ต้องดูก่อนมี noun อยู่ข้างหลังแล้วหรือยัง.. ถ้ามีแล้ว...ต้องหา adj. แทน บลาๆๆๆ


โฟร้ย!!!! เอาเข้าจริงๆ อย่างที่รู้ ข้อสอบตรงนี้มีเวลาข้อละ 20 วินาที!!!. ตรูหลุดจ้าาาาา
เพลง เพลิง ทะรง ทริค ลืม! ลืมหมด!!

สุดท้าย เราจะตอบแบบ....สัญชาตญาณ !!!!

ซึ่งจะทำยังไให้สัญชาติญาณ เธอคือถูก!!!!

เธอจงไปลุยทำข้องสอบ!!!!!

เธอจงไปตลุยข้อสอบ!!!

ให้มันเข้าไปในสายเลือด.. แล้วไปเจอปุ๊บ ตอบปั๊บให้ได้

ส่วนพวกทฤษฎีเธอต้องแม่นไปพร้อมกับตอนตลุยฝึกทำ... คือตอนฝึกทำเธอร้องเพลง adv หรือ verb ตบหน้าตบหลัง /// ได้ไง...แต่ตอนห้องสอบเธอจะมาร้องไม่ได้!!! มันไม่ทัน! มันต้องกาปุ๊บปั๊บจริงๆ

พาร์ทอ่าน เนื้อหาโดยรวมให้เข้าใจ จะ 1 บทความ อีเมล์โต้ตอบ 2 อัน หรือ 3 อันก็ตาม

สำหรัยเรา!! เทคนิคคือไม่มีเทคนิค!!! สุดท้าย เธอ ต้อง เข้า ใจ !!!!

สมัยก่อนอาจจะมีแบบ อ่ะโจทย์ถามเวลา ไปสกรีนตรงช่วงเวลาแล้วกัน

แต่ทีนี่ คือไม่ ไม่ เลย !!!

หลอกสบัด! ต้องเข้าใจจริงๆ

อ่ะๆ มีเทคนิคสะหน่อย

(ต่อๆ)
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่