>>> สัญญานเม่า indicator กับ การตื่นทองคำ..!! !!

กระทู้สนทนา
ช่วงนี้เริ่มเห็นคนโพสอวดกำไรทองกันแล้ว ตามหน้าเพจ ตามเฟสต่างๆ หลายคนแห่ไปซื้อทองหวังขายหลัง 30000 บาทกันแล้ว..

การโพสอวดกำไรมันช่างคลับคล้ายคลับคลากับตอนที่ รายย่อยโพสโชว์กำไรหุ้นช่วงเดือน พ.ค.-มิ.ย. ที่หุ้นแรลลี่ยาวๆทะลุ 1400 จุด เลยนะฮะ..

เรื่องทองส่วนตัวนั้นบอกเลยว่าไม่ได้สันทันและไม่ได้ลงทุน เพราะมีหลายปัจจัยเข้ามากระทบและไม่สามารถวิเคราะห์ประเมินมูลค่าได้เหมือนการลงทุนหุ้นในหลายๆบริษัท

พอลองย้อนไปอ่านข่าวช่วงเกือบ 10ปีก่อน ที่ทองนิวไฮก่อนจะร่วงแรง อ่านไปเทียบไปกับเหตุการณ์เม่าอินดิเคเตอร์แล้ว ก็แอบเสียวกันตามๆไปจริงๆเลยนะนั้น..

เอาเป็นว่าหากใครสนใจก็ศึกษา วางแผน และใช้วิจารณญานกันดีๆนะครับ ราคาในวันหน้าจะขึ้นจะลงนั้นคงไม่มีใครตอบได้ เพราะมันคืออนาคต

ส่วนในวันนี้ เราคืออนาคตกว่า 10ปีต่อมา ของอดีตที่ทองเคยนิวไฮในวันนั้น ลองมองย้อนกลับไป หลายคนได้ขายที่ราคาเกือบสูงสุด หลายคนติดดอยรอจนแก่ จนเกษียณ ต่างคนต่างอารมณ์ พอมองจากวันอนาคตแบบนี้ ก็จะได้รู้สึกไปอีกแบบนึง..

ปล แต่ที่น่าสังเกต ช่วงเวลานั้น หลังจากทองนิวไฮไม่นาน พอทองเริ่มร่วง ตลาดหุ้นก็พุ่งแรลรี่ขึ้นไปต่อเนื่องยาวๆเลยนะฮะ..!! !!

โชคดี

เพี้ยนต้มน้ำรอเพี้ยนกินมาม่าเพี้ยนสู้สู้

______________________________________________________________

ทองคำกับสังคมไทยยังไปกันได้อีกนาน
ณ วันที่ 13/08/2555
 
 
 
สวัสดีครับ ท่านสมาชิกสมาคมค้าทองคำ ย่างเข้าสู่ครึ่งหลังของปี 2555 กันแล้วนะครับ ปีนี้ถือเป็นปีที่ทองคำเคลื่อนไหวผันผวนมากที่สุดอีกปีหนึ่ง หลังจากที่ในปี 2554 ราคาทองคำได้ขึ้นทำ New high ใกล้ 1,920 ดอลล่าร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ ทำให้ราคาทองคำในบ้านเราพุ่งขึ้นสูงสุด 27,100 บาทต่อทองคำ 1 บาท ก่อนที่จะอ่อนตัวลงในช่วงท้ายของปี ในช่วงเวลาแบบนี้ผู้ค้าทองคำอย่างท่านสมาชิกทุกท่านคงได้รับผลกระทบไม่มากก็น้อย แต่สิ่งหนึ่งที่น่าจะเป็นข้อดีของการเคลื่อนไหวราคาทองคำคือวันนี้นักลงทุนในประเทศต่างหันมาลงทุนในทองคำกันมากขึ้น ซึ่งจะยิ่งเป็นการตอกย้ำว่าทองคำกับสังคมไทยยังไปกันได้อีกนาน
 
 ในเดือนที่ผ่านมามีปัจจัยหลายประการที่เข้ามากระทบต่อราคาทองคำ วิกฤติทางการเงินที่เกิดขึ้นในขณะนี้ทำให้การคาดการณ์ทิศทางราคามีความยากลำบากยิ่งขึ้นเพราะมีตัวแปรที่หลากหลาย รวมถึงทัศนคติของนักลงทุนไม่นิ่งทำให้ มีการอ่อนไหวต่อข่าวสารและกระทบต่อราคาในที่สุด เรื่องใหญ่ใจความคงหนีไม่พ้นประเด็นหนี้สินยุโรปที่สร้างความวิตกกังวล ตั้งแต่กรีซซึ่งเป็นประเทศเล็ก ๆ ในกลุ่มยูโรโซนเริ่มมีปัญหากว่าสองปีปัญหานั้นดูกลับจะไม่ลดลงแต่ประการใดกลับยิ่งทวีความรุนแรงและกระจายตัวออกเป็นวงกว้าง มีหลายประเทศเริ่มที่จะติดโรคและต้องการยารักษาอย่างปัจจุบันทันด่วน ล่าสุด คือ ไซปรัสเป็นสมาชิกลำดับที่ 5 ที่ขอรับเงินช่วยเหลือจากต่างประเทศ จากที่ก่อนหน้า คือ สเปน ประเทศเศรษฐกิจลำดับที่ 4 ของยูโรโซน เป็นการสะท้อนให้เห็นความเปราะบางของปัญหาและทำให้เงินยูโรดอลล่าร์สหรัฐฯมีความผันผวนสูง ต่อเนื่องไปด้วยราคาน้ำมันที่ได้รับผลกระทบจากความเชื่อมั่นในระบบเศรษฐกิจและแน่นอนที่สุดราคาทองคำ นอกจากนี้ยังมีเรื่องความคาดหวัง QE3 ของนักลงทุนที่หมดไปหลังจาก FED ต่ออายุ Operation twistไปจนถึงสิ้นปี ทำให้โอกาสในการออกมาตรการเพิ่มเติมในปีนี้ลดลง แต่ในการประชุมสำคัญสุดท้ายของเดือนคือ EU Summit กลับมาสร้างความหวังในเชิงบวกอีกครั้งหลังจากที่ประชุม EU เห็นตรงกันเรื่องอำนาจของกองทุนกลไกรักษาเสถียรภาพทางการเงินยุโรป (ESM) และกองทุนรักษาเสถียรภาพทางการเงินยุโรป (EFSF) ที่จะทำให้สามารถเข้าช่วยเหลือภาคธนาคารได้โดยตรงรวมถึงการซื้อพันธบัตร ทำให้ราคาทองคำพุ่งส่งท้ายก่อนปลายปี
 
ราคาทองคำในประเทศยังมีปัจจัยเรื่องค่าเงินบาทเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยค่าเงินบาท(Spot rate) ในเดือนมิถุนายน เคลื่อนไหวในกรอบ 31.34- 31.95 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐฯ ความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทยังได้รับผลกระทบสำคัญ จากการแข็งค่าอ่อนค่าของสกุลเงินดอลล่าร์สหรัฐฯเป็นหลัก ประกอบกับเงินทุนที่ไหลเข้าออก ส่วนราคาทองคำแท่งในประเทศเคลื่อนไหวระหว่าง 23,400- 24,300 บาทต่อทองคำ 1 บาท โดยเริ่มทรงตัวหลังจากที่ราคาอ่อนตัวลง 3 เดือนติดกัน
 
ปานะพงษ์ สุทธีวงศ์
ผู้จัดการสมาคมค้าทองคำ

... ... ... ...



... ... ... ...

แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่