หากคุณเพิ่งเริ่มต้นเข้าสู่โลกการเทรด นอกจากการเลือกโบรกเกอร์แล้ว การเลือกผลิตภัณฑ์เทรดก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน
วันนี้ผมจะมาแนะนำการเลือกสินค้าเทรดของโบรกเกอร์ EBC
EBC เป็นโบรกอังกฤษ มีใบรับรอง FCA CIMA ASIC และมีผลิตภัณฑ์หลัก ๆ ได้แก่:
1.เงินตราต่างประเทศ (Forex)
2.สินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity)
3.ดัชนี (Index)
สามารถดูรายละเอียดสินค้าทั้งหมด 109 ชนิด ได้ที่ :
https://www.ebc.com/th/trading-product/
ผลิตภัณฑ์หลัก ๆ ที่มีต้นทุนสเปรดต่ำ ไม่ผันผวน เหมาะกับผู้เริ่มต้นมีดังนี้:
1. เงินตราต่างประเทศ (Forex)
ควรเลือกเทรดในสกุลเงิน EUR/USD เนื่องจากมีความผันผวนและสเปรดที่ค่อนข้างต่ำ
จากรูปด้านล่างจะเห็นได้ว่า ค่าสเปรดชั้นที่ 1 และ 2 ของโบรกเกอร์ EBC มีสเปรดอยู่ที่ 0
(อ้างอิงข้อมูลจากเว็ปไซต์ EBC)
ซึ่งจากที่ผมเห็นมา โบรกเกอร์ส่วนใหญ่จะมีสเปรดเริ่มต้น 0 เพียงชั้นเดียว ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างสภาพคล่องของโบรกเกอร์และการเสนอราคา
2. สินค้าโภคภัณฑ์
ควรเลือกเทรดทองคำ แทนที่เลือกเทรดในสินค้าอื่นๆ
ถึงแม้ว่าทองคำจะมีความผันผวนก็ตาม แต่หากดูจากกราฟในอดีตก็อาจจะไม่ผันผวนเท่าสินทรัพย์อื่น ๆ
เนื่องจาก ในระยะยาวทองคำยังคงเป็นแนวโน้มขาขึ้น
สิ่งที่ต้องพิจารณาคือ ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อราคาทองคำ ได้แก่ อัตราเงินเฟ้อ, อัตราดอกเบี้ย, อารมณ์ตลาด และการซื้อทองคำจากธนาคารกลาง สิ่งนี้ควรติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะอาจส่งผลต่อราคาได้โดยตรง ผมแนะนำให้ดูข่าวสารจากยูทูป บทความของเพจต่างๆ
ค่าธรรมเนียมทองคำ EBC
1.Spread: วิ่งอยู่ที่ 1.8-1.9 จุด ซึ่งค่าเฉลี่ยในอุตสาหกรรมอยู่ที่ประมาณ 2.8-3.2 จุด
2.Swap: การถือครองข้ามคืนอยู่ที่ $10-23/lot ซึ่งค่าเฉลี่ยในอุตสาหกรรมอยู่ที่ประมาณ $18-25/lot
3.ตลาดหุ้น
การลงทุนในตลาดหุ้นอาจเป็นเรื่องยากสำหรับนักลงทุนมือใหม่ เพราะการดูงบประมาณ ผลการดำเนินการ รวมถึงความไม่แน่นอนของบริษัทต่างๆ อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงได้ ผมแนะนำให้ลงทุนใน ดัชนีหุ้น (Stock Index)
เนื่องจาก ดัชนีหุ้นจะสะท้อนถึงแนวโน้มหุ้นในอุตสหกรรมนั้นๆ ไม่ใช่แค่หุ้นรายตัว หากเกิดความผันผวนของหุ้นรายตัว ก็อาจจะไม่ส่งผลกระทบต่อ ดัชนีหุ้น นอกจากนี้ Stock Index ยังสะท้อนถึงความมั่นคงของเศรษฐกิจในแต่ละประเทศ
หากลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ไทย สามารถลงทุนได้ในตลาดหลักทรัพย์ Set Index
หากลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐ หรือตลาดหุ้นในประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ (Emerging Markets) ที่มีการเติบโตสูง หากอยากลงทุนในประเทศไทย
ตารางด้านล่างคือ ค่า Spread ซึ่งผมถือว่าเป็นราคาที่ต่ำสุดในตลาดเลยก็ว่าได้
(อ้างอิงข้อมูลจากเว็ปไซต์ EBC)
โดยรวมแล้ว สำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่เริ่มต้น ควรพิจารณาความเสี่ยงและความผันผวนของตลาดให้ดี ควรเริ่มเทรดสินค้าหลัก ๆ เช่น คู่เงิน EUR/USD ทองคำ หรือดัชนีหุ้น
ในช่วงเริ่มต้นควรประเมินการรับความเสี่ยงของตนเอง หากชอบความเสี่ยงต่ำ 3 สิ่งที่ผมแนะนำไปเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด นอกจากนี้ควรเลือกโบรกเกอร์ที่โปร่งใส ต้นทุนต่ำ มีใบอนุญาตที่ได้มาตรฐาน
เทรด Forex ตัวไหนดี EBC มีคำตอบ
วันนี้ผมจะมาแนะนำการเลือกสินค้าเทรดของโบรกเกอร์ EBC
EBC เป็นโบรกอังกฤษ มีใบรับรอง FCA CIMA ASIC และมีผลิตภัณฑ์หลัก ๆ ได้แก่:
1.เงินตราต่างประเทศ (Forex)
2.สินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity)
3.ดัชนี (Index)
สามารถดูรายละเอียดสินค้าทั้งหมด 109 ชนิด ได้ที่ :https://www.ebc.com/th/trading-product/
ผลิตภัณฑ์หลัก ๆ ที่มีต้นทุนสเปรดต่ำ ไม่ผันผวน เหมาะกับผู้เริ่มต้นมีดังนี้:
1. เงินตราต่างประเทศ (Forex)
ควรเลือกเทรดในสกุลเงิน EUR/USD เนื่องจากมีความผันผวนและสเปรดที่ค่อนข้างต่ำ
จากรูปด้านล่างจะเห็นได้ว่า ค่าสเปรดชั้นที่ 1 และ 2 ของโบรกเกอร์ EBC มีสเปรดอยู่ที่ 0
2. สินค้าโภคภัณฑ์
ควรเลือกเทรดทองคำ แทนที่เลือกเทรดในสินค้าอื่นๆ
ถึงแม้ว่าทองคำจะมีความผันผวนก็ตาม แต่หากดูจากกราฟในอดีตก็อาจจะไม่ผันผวนเท่าสินทรัพย์อื่น ๆ
สิ่งที่ต้องพิจารณาคือ ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อราคาทองคำ ได้แก่ อัตราเงินเฟ้อ, อัตราดอกเบี้ย, อารมณ์ตลาด และการซื้อทองคำจากธนาคารกลาง สิ่งนี้ควรติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะอาจส่งผลต่อราคาได้โดยตรง ผมแนะนำให้ดูข่าวสารจากยูทูป บทความของเพจต่างๆ
ค่าธรรมเนียมทองคำ EBC
1.Spread: วิ่งอยู่ที่ 1.8-1.9 จุด ซึ่งค่าเฉลี่ยในอุตสาหกรรมอยู่ที่ประมาณ 2.8-3.2 จุด
2.Swap: การถือครองข้ามคืนอยู่ที่ $10-23/lot ซึ่งค่าเฉลี่ยในอุตสาหกรรมอยู่ที่ประมาณ $18-25/lot
3.ตลาดหุ้น
การลงทุนในตลาดหุ้นอาจเป็นเรื่องยากสำหรับนักลงทุนมือใหม่ เพราะการดูงบประมาณ ผลการดำเนินการ รวมถึงความไม่แน่นอนของบริษัทต่างๆ อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงได้ ผมแนะนำให้ลงทุนใน ดัชนีหุ้น (Stock Index)
เนื่องจาก ดัชนีหุ้นจะสะท้อนถึงแนวโน้มหุ้นในอุตสหกรรมนั้นๆ ไม่ใช่แค่หุ้นรายตัว หากเกิดความผันผวนของหุ้นรายตัว ก็อาจจะไม่ส่งผลกระทบต่อ ดัชนีหุ้น นอกจากนี้ Stock Index ยังสะท้อนถึงความมั่นคงของเศรษฐกิจในแต่ละประเทศ
หากลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ไทย สามารถลงทุนได้ในตลาดหลักทรัพย์ Set Index
หากลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐ หรือตลาดหุ้นในประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ (Emerging Markets) ที่มีการเติบโตสูง หากอยากลงทุนในประเทศไทย
ตารางด้านล่างคือ ค่า Spread ซึ่งผมถือว่าเป็นราคาที่ต่ำสุดในตลาดเลยก็ว่าได้
ในช่วงเริ่มต้นควรประเมินการรับความเสี่ยงของตนเอง หากชอบความเสี่ยงต่ำ 3 สิ่งที่ผมแนะนำไปเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด นอกจากนี้ควรเลือกโบรกเกอร์ที่โปร่งใส ต้นทุนต่ำ มีใบอนุญาตที่ได้มาตรฐาน