เมื่อ 2 รัฐมนตรีจากพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมเปิดงาน “อาหารไทย อาหารโลก” จากวิสัยทัศน์ “เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด”
รมต.พาณิชย์
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประกาศวิสัยทัศน์ สร้างไทยเป็นศูนย์กลางสินค้าเกษตรโลก ด้วยพันธกิจผนึกกำลัง 2 กระทรวง
“เกษตร-พาณิชย์” มุ่งเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน ดันจีดีพี จนถึงเพิ่มรายได้เกษตรกร สู่เป้าหมายไทยศูนย์กลางอาหารโลก เชื่อมั่น
“อาหารไทย” ส่งออกเติบโตเป็นบวกแม้ฝ่าวิกฤตต่อเนื่อง
การใช้ยุทธศาสตร์
“เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด” ถือเป็นภาคต่อของการพัฒนาอาหารไทย ภายใต้ยุทธศาสตร์ ตลาดนำการผลิต ภายใต้พันธกิจร่วม 2 กระทรวง คือ
“1 สร้าง 3 เพิ่ม”
1 สร้างไทยให้เป็นศูนย์กลางสินค้าเกษตรของโลก
3 เพิ่ม คือ 1. เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของอาหารไทย / 2. เพิ่มจีพีดี หรือผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ / 3. เพิ่มรายได้ให้เกษตรกรและผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องทุกระดับ
ดังนั้น เพื่อจะให้บรรลุวิสัยทัศน์ดังกล่าวได้ ทั้งพาณิชย์และเกษตร และทุกภาคส่วนจะต้องมีพันธกิจ 4 ข้อ ร่วมกัน คือ
พันธกิจที่ 1. การสร้าง Single Big Data ร่วมกันของกระทรวงเกษตรฯและกระทรวงพาณิชย์ ให้เป็นฐานข้อมูลร่วม
พันธกิจที่ 2. การสร้างแพลตฟอร์มกลางให้เกิดขึ้น ภายใต้วิสัยทัศน์ “เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด” เพื่อให้ใช้งานร่วมกันของทุกฝ่าย
พันธกิจที่ 3. การสร้างความเชื่อมั่นต่อสินค้าเกษตรและอาหารไทย ในมาตรฐานความปลอดภัย และการตรวจสอบย้อนกลับได้
พันธกิจที่ 4. การพัฒนาทรัพยากรบุคคลและผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพ โดยยกระดับคนที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรม เพื่อให้สามารถสร้างผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดโลกได้
"มีคำถามว่าอาหารไทย จะพัฒนาสู่อาหารโลก เป็นไปได้หรือไม่ ผมขอยืนยันว่า เป้าหมายนี้เป็นไปได้ และเป็นไปได้แน่นอน เพราะการส่งออกอาหารไทยเวลานี้เราอยู่อันดับที่ 11 ของโลกอยู่แล้ว ทำไมจะก้าวสู่ อันดับที่ 10 9 8 จนถึงอันดับที่ 3 ที่ 2 หรือที่ 1 ทำไมจะเป็นไปไม่ได้"
"มาถึงวันนี้ผมคิดว่าภายใต้ความร่วมมือร่วมใจของพวกเราและภายใต้คำมั่นสัญญาที่เราจะต้องยึดมั่นต่อไปนี้ที่จะจับมือเดินหน้าไปด้วยกันไม่ว่าจะเป็นกระทรวงเกษตร กระทรวงพาณิชย์ หน่วยงานภาครัฐอื่นๆ รวมทั้งภาคเอกชนให้เกษตรกรไทยเราสามารถที่จะบรรลุ 4 พันธกิจและบรรลุเป้าหมายอื่นๆได้อย่างแน่นอน"
ในครั้งนี้รัฐบาลและกระทรวงต่างๆ จะต้องจับมือร่วมกันปรับปรุงกฎระเบียบต่างๆ ที่เป็นอุปสรรค ทำให้การประกอบธุรกิจง่ายขึ้น เพื่อให้การที่จะประกอบกิจการด้านอาหารสามารถที่จะทำได้อย่างมีศักยภาพมากขึ้น รวมทั้งในเรื่องของการที่จะต้องเร่งรัดการทำข้อตกลงทางการค้าทั้งพหุภาคี ทวิภาคี และในรูปแบบอื่นๆ เพื่อให้เราสามารถที่จะแสวงหาความได้เปรียบหรือไม่เสียเปรียบในทางการค้าในการก้าวเข้าสู่ความเป็นหนึ่งในตลาดโลกในอนาคตให้ได้
รวมทั้งการที่จะต้องเตรียมการและเตรียมความพร้อมในเรื่องของการที่จะเดินหน้าพาอาหารไทยเข้าสู่ยุค Post-Covid คือ หลังสถานการณ์โควิด หรือแม้แต่ในช่วงวิกฤตโควิดที่เราไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลาเท่าไหร่ ในเรื่องของคุณภาพมาตรฐานและที่เน้นย้ำไปแล้ว เรื่องความปลอดภัย ถ้าเราร่วมมือร่วมใจกันได้ทางกระทรวงเกษตร กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอื่นๆ ภาคเอกชนและภาคเกษตรกร
วันนี้จะเป็นอีกวันหนึ่งที่จะได้นับหนึ่งพาประเทศของเราเดินไปข้างหน้าทำให้อาหารไทยของเราสามารถไปเป็นอาหารโลกได้ต่อไปในอนาคต ได้ประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน
ที่มา :
- นสพ. แนวหน้า - 'จุรินทร์-เฉลิมชัย'ผนึกกำลัง'เกษตร-พาณิชย์' ลุยตลาดส่งออกอาหารไทยอาหารโลก
- นสพ. ไทยรัฐ - "จุรินทร์-เฉลิมชัย" ผนึกกำลังโชว์วิสัยทัศน์ "เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด"
สุดยอด!!! เมื่อ 2 รมต. จับมือสร้างไทยเป็นอาหารโลก
รมต.พาณิชย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประกาศวิสัยทัศน์ สร้างไทยเป็นศูนย์กลางสินค้าเกษตรโลก ด้วยพันธกิจผนึกกำลัง 2 กระทรวง “เกษตร-พาณิชย์” มุ่งเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน ดันจีดีพี จนถึงเพิ่มรายได้เกษตรกร สู่เป้าหมายไทยศูนย์กลางอาหารโลก เชื่อมั่น “อาหารไทย” ส่งออกเติบโตเป็นบวกแม้ฝ่าวิกฤตต่อเนื่อง
การใช้ยุทธศาสตร์ “เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด” ถือเป็นภาคต่อของการพัฒนาอาหารไทย ภายใต้ยุทธศาสตร์ ตลาดนำการผลิต ภายใต้พันธกิจร่วม 2 กระทรวง คือ “1 สร้าง 3 เพิ่ม”
1 สร้างไทยให้เป็นศูนย์กลางสินค้าเกษตรของโลก
3 เพิ่ม คือ 1. เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของอาหารไทย / 2. เพิ่มจีพีดี หรือผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ / 3. เพิ่มรายได้ให้เกษตรกรและผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องทุกระดับ
ดังนั้น เพื่อจะให้บรรลุวิสัยทัศน์ดังกล่าวได้ ทั้งพาณิชย์และเกษตร และทุกภาคส่วนจะต้องมีพันธกิจ 4 ข้อ ร่วมกัน คือ
พันธกิจที่ 1. การสร้าง Single Big Data ร่วมกันของกระทรวงเกษตรฯและกระทรวงพาณิชย์ ให้เป็นฐานข้อมูลร่วม
พันธกิจที่ 2. การสร้างแพลตฟอร์มกลางให้เกิดขึ้น ภายใต้วิสัยทัศน์ “เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด” เพื่อให้ใช้งานร่วมกันของทุกฝ่าย
พันธกิจที่ 3. การสร้างความเชื่อมั่นต่อสินค้าเกษตรและอาหารไทย ในมาตรฐานความปลอดภัย และการตรวจสอบย้อนกลับได้
พันธกิจที่ 4. การพัฒนาทรัพยากรบุคคลและผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพ โดยยกระดับคนที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรม เพื่อให้สามารถสร้างผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดโลกได้
"มีคำถามว่าอาหารไทย จะพัฒนาสู่อาหารโลก เป็นไปได้หรือไม่ ผมขอยืนยันว่า เป้าหมายนี้เป็นไปได้ และเป็นไปได้แน่นอน เพราะการส่งออกอาหารไทยเวลานี้เราอยู่อันดับที่ 11 ของโลกอยู่แล้ว ทำไมจะก้าวสู่ อันดับที่ 10 9 8 จนถึงอันดับที่ 3 ที่ 2 หรือที่ 1 ทำไมจะเป็นไปไม่ได้"
"มาถึงวันนี้ผมคิดว่าภายใต้ความร่วมมือร่วมใจของพวกเราและภายใต้คำมั่นสัญญาที่เราจะต้องยึดมั่นต่อไปนี้ที่จะจับมือเดินหน้าไปด้วยกันไม่ว่าจะเป็นกระทรวงเกษตร กระทรวงพาณิชย์ หน่วยงานภาครัฐอื่นๆ รวมทั้งภาคเอกชนให้เกษตรกรไทยเราสามารถที่จะบรรลุ 4 พันธกิจและบรรลุเป้าหมายอื่นๆได้อย่างแน่นอน"
ในครั้งนี้รัฐบาลและกระทรวงต่างๆ จะต้องจับมือร่วมกันปรับปรุงกฎระเบียบต่างๆ ที่เป็นอุปสรรค ทำให้การประกอบธุรกิจง่ายขึ้น เพื่อให้การที่จะประกอบกิจการด้านอาหารสามารถที่จะทำได้อย่างมีศักยภาพมากขึ้น รวมทั้งในเรื่องของการที่จะต้องเร่งรัดการทำข้อตกลงทางการค้าทั้งพหุภาคี ทวิภาคี และในรูปแบบอื่นๆ เพื่อให้เราสามารถที่จะแสวงหาความได้เปรียบหรือไม่เสียเปรียบในทางการค้าในการก้าวเข้าสู่ความเป็นหนึ่งในตลาดโลกในอนาคตให้ได้
รวมทั้งการที่จะต้องเตรียมการและเตรียมความพร้อมในเรื่องของการที่จะเดินหน้าพาอาหารไทยเข้าสู่ยุค Post-Covid คือ หลังสถานการณ์โควิด หรือแม้แต่ในช่วงวิกฤตโควิดที่เราไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลาเท่าไหร่ ในเรื่องของคุณภาพมาตรฐานและที่เน้นย้ำไปแล้ว เรื่องความปลอดภัย ถ้าเราร่วมมือร่วมใจกันได้ทางกระทรวงเกษตร กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอื่นๆ ภาคเอกชนและภาคเกษตรกร
วันนี้จะเป็นอีกวันหนึ่งที่จะได้นับหนึ่งพาประเทศของเราเดินไปข้างหน้าทำให้อาหารไทยของเราสามารถไปเป็นอาหารโลกได้ต่อไปในอนาคต ได้ประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน
ที่มา :
- นสพ. แนวหน้า - 'จุรินทร์-เฉลิมชัย'ผนึกกำลัง'เกษตร-พาณิชย์' ลุยตลาดส่งออกอาหารไทยอาหารโลก
- นสพ. ไทยรัฐ - "จุรินทร์-เฉลิมชัย" ผนึกกำลังโชว์วิสัยทัศน์ "เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด"