ใครเคยเล่นผีอำบ้างครับแชร์เล่าประสบการณ์กันได้ครับ

ผมขอเล่าประสบการณ์ของผมให้ฟังก่อนอันนี้เรื่องจริงที่เกิดกับผมตั้งแต่สมัยตอนเด็กๆครั้งแรกที่โดนผีอำตอนนั้นอายุประมาณ8-9ปี ตอนนั้นผมไม่สบายนอนอยู่ๆก็ฝันว่ามีล้อขนาดใหญ่มากๆกลิ้งมาทับผมพยายามวิ่งหนีสุดชีวิตฝันนานมากซ้ำไปซ้ำมา ตอนนั้นแปลกใจมากว่าทำไมผมฝันได้ทั้งที่ผมลืมตาอยู่และรู้สึกตัวว่าตัวเองขยับไม่ได้ส่งเสียงร้องให้แม่มาช่วยก็ไม่มีเสียง จนเสียงหลุดออกมาแม่ตกใจว่าเป็นอะไรแม่ก็หาพระมาคล้องคอสักพักก็หาย และเป็นแบบนี้ประจำเวลาผมป่วยเป็นไข้ฝันแบบเดิมๆคือฝันเห็นล้อดำๆใหญ่ๆกลิ้งมาทับแล้ววิ่งหนีซ้ำไปซ้ำมา จนเดียวนี้ก็ยังเป็นประจำเวลาไม่สบายครับ
จนผมอายุประมาณ11ปีตอนนั้นยอมรับเลยว่าเป็นคนกลัวผีมากๆ มีอยู่วันนึงผมนอนอยู่ในบ้านเวลาประมาณหัวค่ำผมก็เกิดอาการผีอำขณะที่โดนผีอำผมได้นึกไปถึงยายข้างบ้านที่ตายไปไม่กี่วัน ผลก็คือหน้ายายคนนั้นลอยมาอยู่ต่อหน้าต่อตาผมชัดมากเห็นประมาณครึ่งตัวท่อนล่างมองไม่เห็นอะไรเลยผมขยับตัวก็ไม่ได้อึดอัดไปหมดร้องเรียกให้คนอื่นมาช่วยแต่ก็ไม่มีเสียงสักพักพอผมรู้สึกตัวก็หายไปหมดเลยครับ
ผมก็เคยคิดว่าสิ่งที่เราคิดขนาดตอนโดนผีอำมันเกิดมาจากความคิดของเราสร้างภาพขึ้นมา แต่พอผมมาเจออีกเหตุการหนี่งผมก็เริ่มสงสัยว่ามันจริงรึป่าว ตอนนั้นผมอายุ 15 ปีผมย้ายไปอยู่จังหวัดระนองไปเช่าห้องแถวเก่าๆอยู่กับพี่ชายและแม่ อยู่ได้ประมาณ 1เดือนก็มีคนพูดให้ฟังว่าเจ้าของห้องเช่าคนเก่าเสียไปนานแล้วใครที่มาอยู่ใหม่ๆจะโดนแกหลอกประจำทุกราย มีอยู่คืนนึงผมนอนอยู่คนเดียวแม่กับพี่ไปทำงานผมนอนไปได้สักพักหลับๆตื่นๆนอนเปิดไฟสว่างจ้าเลยอยู่ก็เกิดอาการผีอำตอนนั้นผมนอนคลุมหน้าไว้เพราะว่ากลัวผีมากๆจู่ๆเกิดอาการผีอำผมก็นึกถึงเรื่องที่เขาเล่าเรื่องเจ้าของห้องเช่าให้ฟังผมก็รู้สึกว่าผ้าห่มที่ผมใช้ห่มอยู่โดนดึงลงล่างไปทีละนิดจนถึงปลายเท้าแล้วผมก็มองเห็นผู้ชายแก่ๆโพกผ้าขาวม้าสีแดงลายสก็อตไม่สวมเสื้อยืนอยู่ปลายเท้าผมเห็นเพียงครึ่งท่อนบน ผมตกใจมากๆตอนที่แกยิ้มมาตอนนั้นผมขยับตัวอะไรไม่ได้เลย ในห้องผมก็มองเห็นทุกอย่างเหมื่อนไม่ได้หลับเพราะเปิดไฟเอาไว้ หลังจากผมขยับตัวได้แกก็หายไปเลย ตื่นมาตอนเช้าผมก็เล่าให้คนเก่าๆแถวนั้นฟังและบอกลักษณะสิ่งที่ผมเห็นเมื่อคืนตรงกับเจ้าของห้องแถวที่ตายไปนานแล้ว ผมโดนเข้าแล้วโดนผีเจ้าของห้องแถวหลอกหลังจากวันนั้นผมไม่กล้านอนคนเดียวอีกเลย

พอผมอายุประมาณ17-18 ผมได้ดูรายการในทีวีมีหมอออกรายการทีวีมาอธิบายอาการเกิดผีอำและวิธีป้องกันหลังจากนั้นผมไม่กลัวเลยครับ หมอบอกว่าผีอำเกิดจากการที่เรานอนไม่ขยับตัวเป็นเวลานานหรือนอนทับแขนตัวเองนานเกินไปทำให้ตอนที่เรากำลังจะหลับหรือตอนครึ่งหลับครึ่งตื่นร่างกายเกิดอาการชา ทำให้ร่างกายเราขยับตัวไม่ได้และภาพในความคิดของเราไปซ้อนกับภาพในห้องที่ตาเรามองเห็นอยู่ทำให้เราคิดว่าผีอำ ทั้งที่มันเกิดจากความคิดของเราเพราะตอนที่โดนผีอำส่วนใหญ่จะนึกแต่สิ่งที่น่ากลัว และเป็นง่ายมากๆตอนที่วันนั้นเราทำงานมาเหนื่อยๆ หมอบอกวิธีป้องกันก็คือนอนพลิกตัวบ่อยๆทุก10นาทีก่อนหลับทำให้ไม่เกิดอาการผีอำครับ แต่ถ้าวันไหนเกิดอาการผีอำก็ให้ขยับตัวแรงๆ(ดิ้น)ถึงแม้จะขยับไม่ได้สักพักอาการมันจะหายไปเองไม่ต้องไปสวดมนต์

หลังๆจากวันนั้นผมก็ลองสิครับรออะไรอยู่ละไม่กลัวแล้วนิ วันนั้นผมทำงานมาเหนื่อยมากๆกินข้าวอาบน้ำเสร็จนอนครับทำตามที่หมอบอกนอนทับแขนตัวเองเลย นอนอยู่ท่าเดียวท่านั้นเลยไม่ขยับตัว สักพักพอใกล้ๆหลับรู้สึกเหมื่อนมีเงาอะไรดำๆมืดๆมาทับตัวเรามันคืออาการแรกเริ่มผมรู้สึกร่างกายมันวูบๆขยับตัวไม่ได้แล้วผมก็นึกถึงสัตว์ประหลาดขึ้นมา ผลก็คือมีตัวดำๆ4ขาลิ้นยาวๆน่าเกลียดน่ากลัวมากๆกำลังเดินอยู่บนฝาผนังบ้านไต่ไปถึงใต้ฝ้าเพดานห้อยหัวลงมาหยุดต่อหน้าผมแล้วมันแลบลิ้นมาที่ผม ตกใจสิครับผมก็เลยหลับตานอนรอให้มันหายไปพอผมขยับตัวได้มันก็หายไปครับ

หลังจากนั้นผมก็ทำอีกในเมื่อรู้แล้วว่าผีอำมันเกิดจากความคิดของเราผมก็เลยลองทำอีกแต่ครั้งนี้พิศดารหน่อยผมอยากรู้ว่าผลเป็นยังไง ครั้งนี้ผมก็ทำให้เกิดอาการผีอำเหมื่อนเดิมครับแต่ครั้งนี้ผมลองไม่นอนทับแขนตัวเองแต่นอนท่านอนหงายแทนครับ ส่วนมือไว้ข้างๆลำตัวนอนแบบไม่ขยับตัวนานมากก็เข้าสู่อาการผีอำผมก็คิดขึ้นมาว่าให้ตัวเองลองลุกขึ้นเดินไปที่ประตูหน้าบ้าน จู่ๆตัวผมเองก็ลุกขึ้นเดินไปที่ประตูพอเดินไปถึงหน้าประตูผมก็หันกลับมามองด้านหลัง สิ่งที่ผมเห็นข้างหลังทำให้ผมตกใจมากๆ เพราะสิ่งที่ผมเห็นคือตัวผมเองที่นอนอยู่ครับ เห็นตัวเองนอนลืมตาอยู่นิ่งๆ ผมก็หันหน้ากลับมาที่ประตูจะเปิดประตูออกไปข้างนอกแต่อยู่ๆความคิดที่ว่าถ่าออกไปข้างนอกแล้วกลับมาไม่ได้แล้วจะทำยังไงครับผมก็เลยเดินกลับไปนอนทับร่างตัวเองตอนนั้นรู้สึกวูบๆที่ตัวมากๆสักพักก็ตื่นขึ้นมาครับเหนื่อยมากๆครับกลัวนิดหน่อย กลัวไม่ได้กลับมาครับ

ผมว่าอาการผีอำ ต่างจากความฝันครับ ตรงที่ความฝันเกิดจากตอนเรานอนหลับสนิทเราไม่สามารถเลือกสถานที่ได้ครับว่าเป็นที่ไหนและไม่สามารถควบคุมความฝันได้ 100% ยกเว้นถ้าเราฝึกทำ lucid dream มากจนชำนาญแล้ว แต่ผีอำ สถานที่จะเป็นที่ๆเรานอนอยู่ทุกครั้งเพราะเราลืมตาอยู่มองเห็นทุกอย่างในห้อง สิ่งที่เห็นคือเราตั้งใจคิดขึ้นมาตรงหน้าได้ทุกครั้ง แต่ความฝันไม่สามารถทำให้เหมื่อนความคิดได้ทุกครั้ง แต่ผีอำมันไม่ใช่ความฝันครับ ตรงที่ความฝันเราจะลืมเกือบทั้งหมดจำไม่ค่อยได้ว่าฝันแต่ละครั้งเราฝันอะไรบ้าง ผ่านไปไม่ถึงเดือนหรือไม่ถึงวันเราก็ลืมแล้วบ้างทีตื่นเช่าขึ้นมาก็จำอะไรไม่ได้แล้วครับแต่ผีอำเราจำได้ทุกครั้งไม่ว่านานแค่ไหนเราก็จำได้แม่นได้ทั้งหมดเลยครับทุกรายละเอียด เหมื่อนอย่างเช่นผีลุงห้องแถวทั้งที่ผมไม่เคยเห็นหน้าตาแกเลยแต่สามารถบอกลักษณะได้หมด พูดแล้วขนลุกครับ

จนเดียวนี้ผมยังอยากรู้เลยว่าถ้าวันนั้นผมเดินเปิดประตูออกไปจะเป็นยังไงสงสัยจนถึงทุกวันนี้

อีกอย่างน่ะครับที่ผมรู้คือหลังจากที่ผมทำผีอำมาหลายครั้งจนคล่องแล้วพบว่าถ้ามีใครเดินผ่านหน้าเราตอนเราเกิดอาการผีอำเราจะมองเห็นเขาเดินไปแบบเร็วมากๆเร็วกว่าฟาด 8 อีกเห็นเป็นเงาขาวๆลางๆไปแบบมองไม่ทันทั้งที่เขาเดินช้าๆ ตอนนั้นผมรู้สึกตัวจึงถามว่าใครเดินผ่านไปเมื่อตะกี้ตกลงเป็นพี่ชายผมครับ

พอผมทำได้คล่องผมพบวิธีเร่งให้ผีอำให้ไวขึ้นคือตอนเรานอนนิ่งๆเคลิ้มๆใกล้จะหลับให้เราทำตัวให้ขนลุกถี่ๆอาการผีอำจะเป็นได้ไวมากๆครับไม่เกิน 5นาทีครับ

จนเดียวนี้ผมเลิกทำแล้วครับแต่ก็ยังมีอาการอยู่นานๆครั้งพอใกล้ๆจะเข้าสู่ผีอำผมรีบนอนผลิกตัวไปอีกด้านทันทีก่อนที่เราจะโดนผีอำเพราะหลังจากนั้นเราจะขยับตัวไม่ได้แล้วครับ หายเลยครับไม่เป็นเลยครับทำตามที่หมอบอกนอนผลิกตัวบ่อยๆ ผีอำทำมากไม่ดีครับเกิดอาการชาเป็นอัมพาตได้ครับเดียวนี้ผมเป็นบ่อยครับอยู่ๆชาที่มือที่ขาเจ็บมือเจ็บขาแบบไม่มีสาเหตุ ผมทำมานานน่าจะเกิน 50 ครั้งได้แล้วครับแต่ที่ยังไม่กล้าทำคือผีอำแล้วเดินออกไปข้างนอกบ้านกลัวครับ

เพื่อนๆคนใหนยังไม่เคยโดนผีอำลองเอาไปฝึกดูครับครั้งแรกน่ากลัวสุดๆครับขอบอก แต่ถ้าไม่กลัวลองทำบ่อยๆดูครับรับรองสนุกแบบสยองๆ

สุดท้ายแล้วผมมีประโยคของหลวงพี่ท่านนึงที่วัดแถวบ้านผมใว้สำหรับคนที่กลัวผีให้เก็บเอาไปคิดดูครับครับท่านได้กล่าวเอาไว้ว่า "จงอย่ากลัวในสิ่งที่เรามองไม่เห็น จงอย่ากลัวในสิ่งที่ทำอะไรเราไม่ได้ ให้กลัวคนเป็นๆดีกว่าเพราะทำให้เราตายได้ " ซึ่งทำให้ผมเลิกกลัวผีจนถึงทุกวันนี้ครับ
ท่านได้สอนอะไรๆกับผมหลายอย่างเช่น " คนเราเกิดมาก็ต้องตายกันทุกคนไม่มีใครไม่ตายเพราะฉะนั้นก็ไม่ต้องกลัวตาย ร่างกายนี้ก็ไม่ใช่ร่างกายของเราตายไปเราก็ต้องไปหาร่างใหม่อยู่ดี แต่จะไปเกิดอยู่ในร่างอะไรอยู่ที่กรรมของแต่ละคน "  ปัจจุบันหลวงพี่ท่านนี้ได้มรณะภาพไปนานแล้วผมก็ยังจำคำสอนของท่านเสมอคับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่