สุรินทร์ – หม่าล่า เมนูรสเด็ด ปิ้ง ๆ ย่างๆ เมนูอาหารที่ถูกใจวัยรุ่นอยู่ในขณะนี้ ขายดีทำกำไรวันละพัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ชุมชนบ้านตาพราม ซอยทางเข้า อบต.เทพรักษา อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ที่หน้าร้านขายชำเล็กๆของป้าลี ได้เปิดขายเมนูรสเด็ด “หม่าล่า” เมนูอาหารประเภทปิ้งๆย่างๆ ที่ถูกอกถูกใจคนทุกเพศทุกวัยอยู่ในขณะนี้ โดยเปิดขายวันละไม่กี่ชั่วโมง ทำกำไรวันละ 500 – 600 บาท สำหรับเมนูหมาล่า คือเครื่องเทศรสเผ็ดที่มีต้นกำเนิดมาจากมณฑลเสฉวน ประเทศจีน ใครที่คิดว่าคนจีนไม่กินเผ็ดอาจจะต้องคิดใหม่ เพราะคนเสฉวนนี่แหละ คือคนที่กินเผ็ดได้อย่างแท้จริง เป็นความเผ็ดล้ำลึก และแปลกใหม่ชนิดที่ไม่ได้มีความใกล้เคียงกับรสชาติเผ็ดจากพริกสวนของบ้านเราเลย อธิบายได้สั้นๆ ง่ายๆ ว่า หมาล่า เป็นเครื่องเทศที่ให้รสชาติ “เผ็ดจนลิ้นชา” ได้เลยทีเดียว โดยคำว่า “หมา” หมายถึงอาการชาที่ปลายลิ้น ในขณะที่คำว่า “ล่า” หมายถึง รสชาติเผ็ด ส่วนประกอบที่ทำให้หมาล่ามีรสชาติเผ็ดจนลิ้นชาได้ คือ เครื่องเทศที่มีชื่อว่า ฮวาเจียว หรือพริกไทยเสฉวน รูปร่างคล้ายเม็ดพริกไทยดำโดยพริกนี้เป็นรสชาติหลักของหมาล่า
ป้าลี นางมาลี จงหาญ อายุ 61 ปี อยู่บ้านเลขที่ 170 เจ้าของร้านดังกล่าว กล่าวว่าตนเองเปิดเป็นร้านขายของชำทั่วไป และเปิดเป็นร้านขายส้มตำด้วย พอตกเย็นหยุดขายส้มตำ จึงได้คิดหาเมนูอาหารมาขายเป็นรายได้เสริม จึงมานำอาหารเมนู หม่าล่า มาทดลองขายแค่อาทิตย์แรกก็ได้การตอบรับจากลูกเป็นอย่างดี โดยเฉพาะวัยเด็กและวัยหนุ่มสาว ที่แวะเวียนมาอุดหนุนกันอย่างเนื่องแน่น โดยที่ร้านขายอยู่ที่ไม้ละ 5 บาท เท่านั้นถือว่าไม่แพง ช่วงแรกขายแค่ไม่กี่ชั่วโมงก็หมด จนทุกวันขายดีมากจึงขยายเวลาขายจนถึงค่ำมืดโดยมีลูกๆหลานๆช่วยกันขาย วันหนึ่งทำกำไรได้ 500 – 600 บาท บางวันขายได้สูงสุดวันละเป็น 1,000 ก็มี ถือว่ากระแสตอบรับจากวัยรุ่นเป็นอย่างดี “นางมาลี กล่าวเพิ่มเติมว่า” วิธีปรุงหมาล่า สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นต้ม ผัด แกง ทอด และปิ้งย่าง ที่เรานิยมทานกันในไทย คือการทาเป็นซอสชุ่มๆ บนอาหารเสียบไม้ย่าง เช่น หมู ไก่ กุ้ง เบคอน เห็ด กระเจี๊ยบ ฯลฯ ///////////////////////////
เมนูเด็ดแซ่บจัดจ้าน! หม่าล่า เมนูอาหารทำง่าย ขายดีฟันกำไรวันละพัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ชุมชนบ้านตาพราม ซอยทางเข้า อบต.เทพรักษา อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ที่หน้าร้านขายชำเล็กๆของป้าลี ได้เปิดขายเมนูรสเด็ด “หม่าล่า” เมนูอาหารประเภทปิ้งๆย่างๆ ที่ถูกอกถูกใจคนทุกเพศทุกวัยอยู่ในขณะนี้ โดยเปิดขายวันละไม่กี่ชั่วโมง ทำกำไรวันละ 500 – 600 บาท สำหรับเมนูหมาล่า คือเครื่องเทศรสเผ็ดที่มีต้นกำเนิดมาจากมณฑลเสฉวน ประเทศจีน ใครที่คิดว่าคนจีนไม่กินเผ็ดอาจจะต้องคิดใหม่ เพราะคนเสฉวนนี่แหละ คือคนที่กินเผ็ดได้อย่างแท้จริง เป็นความเผ็ดล้ำลึก และแปลกใหม่ชนิดที่ไม่ได้มีความใกล้เคียงกับรสชาติเผ็ดจากพริกสวนของบ้านเราเลย อธิบายได้สั้นๆ ง่ายๆ ว่า หมาล่า เป็นเครื่องเทศที่ให้รสชาติ “เผ็ดจนลิ้นชา” ได้เลยทีเดียว โดยคำว่า “หมา” หมายถึงอาการชาที่ปลายลิ้น ในขณะที่คำว่า “ล่า” หมายถึง รสชาติเผ็ด ส่วนประกอบที่ทำให้หมาล่ามีรสชาติเผ็ดจนลิ้นชาได้ คือ เครื่องเทศที่มีชื่อว่า ฮวาเจียว หรือพริกไทยเสฉวน รูปร่างคล้ายเม็ดพริกไทยดำโดยพริกนี้เป็นรสชาติหลักของหมาล่า
ป้าลี นางมาลี จงหาญ อายุ 61 ปี อยู่บ้านเลขที่ 170 เจ้าของร้านดังกล่าว กล่าวว่าตนเองเปิดเป็นร้านขายของชำทั่วไป และเปิดเป็นร้านขายส้มตำด้วย พอตกเย็นหยุดขายส้มตำ จึงได้คิดหาเมนูอาหารมาขายเป็นรายได้เสริม จึงมานำอาหารเมนู หม่าล่า มาทดลองขายแค่อาทิตย์แรกก็ได้การตอบรับจากลูกเป็นอย่างดี โดยเฉพาะวัยเด็กและวัยหนุ่มสาว ที่แวะเวียนมาอุดหนุนกันอย่างเนื่องแน่น โดยที่ร้านขายอยู่ที่ไม้ละ 5 บาท เท่านั้นถือว่าไม่แพง ช่วงแรกขายแค่ไม่กี่ชั่วโมงก็หมด จนทุกวันขายดีมากจึงขยายเวลาขายจนถึงค่ำมืดโดยมีลูกๆหลานๆช่วยกันขาย วันหนึ่งทำกำไรได้ 500 – 600 บาท บางวันขายได้สูงสุดวันละเป็น 1,000 ก็มี ถือว่ากระแสตอบรับจากวัยรุ่นเป็นอย่างดี “นางมาลี กล่าวเพิ่มเติมว่า” วิธีปรุงหมาล่า สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นต้ม ผัด แกง ทอด และปิ้งย่าง ที่เรานิยมทานกันในไทย คือการทาเป็นซอสชุ่มๆ บนอาหารเสียบไม้ย่าง เช่น หมู ไก่ กุ้ง เบคอน เห็ด กระเจี๊ยบ ฯลฯ ///////////////////////////