ที่สรรเสริญกันว่า เลิศทุกแหล่งล้า ทรงภาษิตไว้
ว่า
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย รูปนี้มิใช่ของท่าน
ท่านทั้งหลายพึงละรูปนั้นเสีย
สังขารทั้งหลายไม่เที่ยงหนอ มีเกิด
และเสื่อมไปเป็นธรรมดา เกิดแล้วก็ดับ
ความสงบระงับแห่งสังขารเหล่านั้น เป็น
สุข ดังนี้.
...
ปล.
พระนิพพาน กล่าวคือ ความเข้าไปสงบระงับแห่งสังขารทั้งหลายเหล่านั้น เป็น
สันติสุข. นี้เป็นคำของพระอรหันต์ทั้งหลาย ดังนี้แล.
...
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความเกิดขึ้น
ความตั้งอยู่ ความบังเกิด ความปรากฏแห่งรูป เป็นความเกิดขึ้นแห่งทุกข์
เป็นความตั้งอยู่แห่งโรค เป็นความปรากฏแห่งชราและมรณะ.
ความเกิดขึ้น ความตั้งอยู่ ความบังเกิด ความปรากฏแห่งเวทนา ฯลฯ
แห่งสัญญา ฯลฯ แห่งสังขาร ฯลฯ แห่งวิญญาณ เป็นความเกิดขึ้นแห่งทุกข์
เป็นความตั้งอยู่แห่งโรค เป็นความปรากฏแห่งชราและมรณะ. (นามรูป)
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็ความดับโดยไม่เหลือ.ความ
สงบระงับ ความดับสูญแห่งปฐวีธาตุ ฯลฯ แห่งอาโปธาตุ ฯลฯ
แห่งเตโชธาตุ ฯลฯ แห่งวาโยธาตุ ฯลฯ แห่งอากาสธาตุ ฯลฯ แห่ง
วิญญาณธาตุ เป็นความดับโดยไม่เหลือแห่งทุกข์ เป็นความสงบระงับ
แห่งโรค เป็นความดับสูญแห่งชราและมรณะ.
(นิพพานนั้นมีความไม่สูญสิ้นไปเป็นธรรมดา.
เพราะอาศัยธาตุต่าง ๆ
ผัสสะต่าง ๆ จึงเกิด เพราะอาศัยผัสสะต่าง ๆ เวทนาต่าง ๆ จึงเกิด ...ฯลฯ)
....
ปล.
ความว่า รู้ว่า นี้เป็นการสลัดออกจากกาม และการสลัดออกจากกาม ฯ (รูปทั้งหลาย)
มีโดยอาการอย่างนี้. (รูปฌาน)
เพราะเป็นเหตุก้าวล่วงคืออุบายแห่ง
การก้าวล่วง. (นามทั้งหลาย)
รู้เหตุก้าวล่วงนั้น คืออรูป. (อรูปฌาน)
ธรรมชื่อว่า สัพพสังขารสมถะ (รอบรู้ธรรมที่ปัจจัยปรุงแต่งทั้งหมด, ธาตุ 6,อาการ 12 การดำรงอยู่ ภพ 3...)
เพราะเป็นที่สงบระงับแห่งสังขารทั้งมวล ได้แก่พระนิพพาน. เห็นอยู่ซึ่งพระนิพพานนั้น.
....
.ก็เพราะอวิชชานั้นแหละดับด้วยการสำรอกโดยไม่เหลือ ด้วยมรรคนั้นคือ วิราคะ (อาหาร 4.)
สังขารจึงดับ (สัญญาทั้งหลายจึงดับลง) เพราะสังขารดับ วิญญาณจึงดับ. . . ความดับแห่งกองทุกข์ทั้งมวลนี้ ย่อมมีด้วยอาการอย่างนี้.
(4). วิญญาณาหาร 🔂🌏🔄🔙
👻♾
....
อวิชชานั้นเอง. เป็นคติของสัตว์ทั้งหลายผู้เข้าถึงชาติ มรณะและสงสาร อัน
มีความเป็นอย่างนี้ (มนุษย์) และความเป็นอย่างอื่น
(สัตว์อื่นที่เหลือ ) บ่อย ๆ อวิชชา คือ ความหลง เป็นภัยอย่างใหญ่หลวงนี้ (ความตาย) เป็นความเที่ยงอยู่สิ้นกาลนาน สัตว์ทั้งหลายผู้ไป
ด้วยวิชชาเท่านั้น ย่อมไม่ไปสู่ภพใหม่ ฯ 🌤😎
...
มัวทำอะไรกัน เป็นผู้ประดุจดื่ม
น้ำผึ้งหอมแล้วก็นอน ก็แลอมตบทนั้น
ใครจะคัดค้านไม่ได้ เป็นของไม่ได้เจือปรุง แต่มีโอชา ผู้มีปัญญาคงได้ดื่ม
อมตธรรม เหมือนคนเดินทางได้ดื่มน้ำฝน
ฉะนั้น.
พระตถาคต...
ว่า
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย รูปนี้มิใช่ของท่าน
ท่านทั้งหลายพึงละรูปนั้นเสีย
สังขารทั้งหลายไม่เที่ยงหนอ มีเกิด
และเสื่อมไปเป็นธรรมดา เกิดแล้วก็ดับ
ความสงบระงับแห่งสังขารเหล่านั้น เป็น
สุข ดังนี้.
...
ปล.
พระนิพพาน กล่าวคือ ความเข้าไปสงบระงับแห่งสังขารทั้งหลายเหล่านั้น เป็น
สันติสุข. นี้เป็นคำของพระอรหันต์ทั้งหลาย ดังนี้แล.
...
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความเกิดขึ้น
ความตั้งอยู่ ความบังเกิด ความปรากฏแห่งรูป เป็นความเกิดขึ้นแห่งทุกข์
เป็นความตั้งอยู่แห่งโรค เป็นความปรากฏแห่งชราและมรณะ.
ความเกิดขึ้น ความตั้งอยู่ ความบังเกิด ความปรากฏแห่งเวทนา ฯลฯ
แห่งสัญญา ฯลฯ แห่งสังขาร ฯลฯ แห่งวิญญาณ เป็นความเกิดขึ้นแห่งทุกข์
เป็นความตั้งอยู่แห่งโรค เป็นความปรากฏแห่งชราและมรณะ. (นามรูป)
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็ความดับโดยไม่เหลือ.ความ
สงบระงับ ความดับสูญแห่งปฐวีธาตุ ฯลฯ แห่งอาโปธาตุ ฯลฯ
แห่งเตโชธาตุ ฯลฯ แห่งวาโยธาตุ ฯลฯ แห่งอากาสธาตุ ฯลฯ แห่ง
วิญญาณธาตุ เป็นความดับโดยไม่เหลือแห่งทุกข์ เป็นความสงบระงับ
แห่งโรค เป็นความดับสูญแห่งชราและมรณะ.
(นิพพานนั้นมีความไม่สูญสิ้นไปเป็นธรรมดา.
เพราะอาศัยธาตุต่าง ๆ
ผัสสะต่าง ๆ จึงเกิด เพราะอาศัยผัสสะต่าง ๆ เวทนาต่าง ๆ จึงเกิด ...ฯลฯ)
....
ปล.
ความว่า รู้ว่า นี้เป็นการสลัดออกจากกาม และการสลัดออกจากกาม ฯ (รูปทั้งหลาย)
มีโดยอาการอย่างนี้. (รูปฌาน)
เพราะเป็นเหตุก้าวล่วงคืออุบายแห่ง
การก้าวล่วง. (นามทั้งหลาย)
รู้เหตุก้าวล่วงนั้น คืออรูป. (อรูปฌาน)
ธรรมชื่อว่า สัพพสังขารสมถะ (รอบรู้ธรรมที่ปัจจัยปรุงแต่งทั้งหมด, ธาตุ 6,อาการ 12 การดำรงอยู่ ภพ 3...)
เพราะเป็นที่สงบระงับแห่งสังขารทั้งมวล ได้แก่พระนิพพาน. เห็นอยู่ซึ่งพระนิพพานนั้น.
....
.ก็เพราะอวิชชานั้นแหละดับด้วยการสำรอกโดยไม่เหลือ ด้วยมรรคนั้นคือ วิราคะ (อาหาร 4.)
สังขารจึงดับ (สัญญาทั้งหลายจึงดับลง) เพราะสังขารดับ วิญญาณจึงดับ. . . ความดับแห่งกองทุกข์ทั้งมวลนี้ ย่อมมีด้วยอาการอย่างนี้.
(4). วิญญาณาหาร 🔂🌏🔄🔙
👻♾
....
อวิชชานั้นเอง. เป็นคติของสัตว์ทั้งหลายผู้เข้าถึงชาติ มรณะและสงสาร อัน
มีความเป็นอย่างนี้ (มนุษย์) และความเป็นอย่างอื่น
(สัตว์อื่นที่เหลือ ) บ่อย ๆ อวิชชา คือ ความหลง เป็นภัยอย่างใหญ่หลวงนี้ (ความตาย) เป็นความเที่ยงอยู่สิ้นกาลนาน สัตว์ทั้งหลายผู้ไป
ด้วยวิชชาเท่านั้น ย่อมไม่ไปสู่ภพใหม่ ฯ 🌤😎
...
มัวทำอะไรกัน เป็นผู้ประดุจดื่ม
น้ำผึ้งหอมแล้วก็นอน ก็แลอมตบทนั้น
ใครจะคัดค้านไม่ได้ เป็นของไม่ได้เจือปรุง แต่มีโอชา ผู้มีปัญญาคงได้ดื่ม
อมตธรรม เหมือนคนเดินทางได้ดื่มน้ำฝน
ฉะนั้น.