🐤/มาลาริน/6 ก.ค.ไทยพบโควิด 5ราย จากคูเวต ห่วงคนไทยการ์ดตก พรุ่งนี้มีนักธุรกิจจีนเข้าไทย สธ.มีมาตรการคุมเข้มชาวต่างชาติ

กลับจากคูเวตติด “โควิด” อีก 5 ราย ห่วงคนไทยกังวลลดลง อาจทำการ์ดตก เผยพรุ่งนี้มีนักธุรกิจจีนเข้าไทย



คนไทยกลับจากคูเวตติด “โควิด”เพิ่ม 5 ราย ทั้งหมดไม่มีอาการ ป่วยสะสมรวม 3,195 ราย ทั่วโลกป่วยพุ่ง 11.55 ล้านราย เผยวันลที่ 7 ก.ค. นำนักธุรกิจจากจีนเข้ามาพร้อมไฟลต์บินคนไทยกลับบ้านด้วย เหตุยังไม่เต็ม 500 คน ห่วงคนไทยกังวลโรคโควิดลดลง อาจทำให้การ์ดตก ขอยังเข้มการป้องกัน

วันนี้ (6 ก.ค.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงข่าวสถานการณ์โรคโควิด-19 ประจำวัน ว่า วันนี้มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ จำนวน 5 ราย หายกลับบ้านเพิ่ม 1 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม ยอดผู้ป่วยสะสมรวม 3,195 ราย มาจากสถานกักกันของรัฐ (State Quarantine) 258 ราย ติดเชื้อในประเทศ 2,444 ราย หายกลับบ้านรวม 3,072 ราย เสียชีวิตรวม 58 ราย ยังรักษาตัวใน รพ. 65 ราย

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ผู้ติดเชื้อทั้งหมด 5 ราย เดินทางมาจากประเทศคูเวต เป็นเพศชาย 4 ราย ได้แก่ อายุ 34 ปี 46 ปี 28 ปี และ 51 ปี อาชีพรับจ้าง และเพศหญิง 1 ราย อายุ 37 ปี อาชีพพนักงานนวด เดินทางถึงไทยวันที่ 29 มิ.ย. ซึ่งเป็นเที่ยวบินกับที่มีรายงานผู้ป่วยมาก่อนหน้านี้ 5 ราย โดยเข้าสถานกักกัน กทม. ตรวจเชื้อวันที่ 2 ก.ค. พบ 3 ราย และวันที่ 5 ก.ค. เจออีก 2 ราย ทั้งหมดไม่มีอาการ โดยคนไทยที่กลับมาจากคูเวตรวม 293 คน ป่วย 44 คน คิดเป็นอัตราป่วย 17.05 %

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สถานการณ์ทั่วโลกมีผู้ป่วยรวม 11.55 ล้านราย ป่วยวันเดียว 1.76 แสนราย เสียชีวิต 5.3 แสนราย เสียชีวิตวันเดียว 3,327 ราย สหรัฐอเมริกาเป็นอันดับ 1 ของโลก มีผู้ป่วย 2.98 ล้านราย คาดว่า จะแตะ 3 ล้านราย ในเร็วๆ นี้ โดยมีผู้ป่วยรายใหม่ 4.7 หมื่นราย บราซิล ป่วยสะสม 1.6 ล้านราย วันเดียวป่วย 2.6 หมื่นราย อินเดียสะสม 6.97 แสนราย ป่วยวันเดียว 2.3 หมื่นราย สำหรับเสียชีวิต บราซิลสูงสุด 535 ราย อย่างไรก็ตาม สเปน และฝรั่งเศส มีรายงานป่วยเป็น 0 ต่อเนื่อง 2-3 วัน ยังต้องติดตามกันต่อ ส่วนไทยอยู่ที่อันดับ 97 ของโลก

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า การนำคนไทยกลับจากต่างประเทศ วันที่ 6 ก.ค. มีทั้งหมด 328 คน มาจากสิงคโปร์ 128 คน และเกาหลีใต้ 200 คน ส่วนวันที่ 7 ก.ค. มาจากญี่ปุ่น 160 คน จีน (เซี่ยงไฮ้) 30 คน และ จีน (ปักกิ่ง) 30 คน ทั้งนี้ การกลับมาไม่ถึง 500 คน ก็จะเติมนักธุรกิจจากประเทศนั้นเข้าไปในเที่ยวบินด้วย อย่างจีน (เซี่ยงไฮ้) มีนักธุรกิจ 20 คน ส่วน จีน (ปักกิ่ง) มีนักธุรกิจ 32 คน พอเข้าเมืองไทยจะอยู่ในสถานกักกันที่รัฐจัดให้ ส่วนคนไทยกลับมาแล้ว 5.29 หมื่นกว่าคน กลับบ้านได้ 4.38 หมื่นคน เจอป่วย 258 คน 

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สำหรับแพลตฟอร์มไทยชนะ มีกิจการลงทะเบียนแล้ว 2.62 แสนร้าน ประชาชนดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน 6.23 แสนคน เราต้องการความร่วมมือ แม้จะยังไม่มีการติดเชื้อในระบบประเทศไทย แต่เรายังไม่มีวัคซีนในร่าง แต่แอปฯ จะเป็นเหมือนวัคซีนภายนอก หากติดเชื้อจะมีการแจ้งเตือนโดยเร็ว ขอให้พกพาไว้ ทั้งนี้ จากการตรวจในจุดต่างๆ ก็ได้รับความร่วมมือสูงขึ้นเรื่อยๆ บางที่ยังไม่สวมหน้ากากอยู่บ้าง ต้องช่วยกัน การ์ดตกไม่ได้ ซึ่งจากการสำรวจของสวนดุสิตโพล 1,109 คน พบว่า คนกังวลลดลง 52.93% กังวลเหมือนเดิม 29.94% กังวลมากขึ้น 4.69% ไม่กังวล 12.44% เรียกว่า 2 ใน 3 ไม่กังวล อาจทำให้การ์ดตกได้

https://mgronline.com/qol/detail/9630000069147

กรมควบคุมโรคแจงมาตรการคุมเข้มชาวต่างชาติเข้ามารับการรักษาในไทย

วันที่ 06 ก.ค. 2563 เวลา 12:21 น.



กรมควบคุมโรคแจงมาตรการคุมเข้าชาวต่างชาติเข้ามารับการตรวจรักษาพยาบาลในไทย ชี้ต้องมีผลตรวจปลอดเชื้อโควิด รวมทั้งให้อยู่เฉพาะในโรงพยาบาลเท่านั้น
 
นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า หลังจากสถานการณ์โรคโควิด-19 ในประเทศไทยเริ่มคลี่คลายและไม่มีผู้ติดเชื้อภายในประเทศมานานมากกว่า 1 เดือน และมีประกาศข้อกำหนด ฉบับที่ 12 ออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 และ คำสั่ง ศบค. ฉบับที่ 6 อนุญาตให้ผู้ไม่มีสัญชาติไทยซึ่งมีความจำเป็นต้องเข้ามารับการตรวจรักษาพยาบาลในประเทศไทย และผู้ติดตามของบุคคลดังกล่าว แต่ต้องไม่เป็นกรณีที่เข้ามาเพื่อการรักษาพยาบาลโรคโควิด 19

ทั้งนี้ รวมถึงผู้ป่วยเดิมที่จำเป็นต้องเดินทางเข้ามารับการรักษาพยาบาล หรือผู้ป่วยใหม่ที่จำเป็นต้องมารับการรักษาในประเทศไทยต้องเป็นผู้ป่วยที่มีผลตรวจปลอดโรคโควิด-19 และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคของประเทศไทยอย่างเข้มงวด
 
โดยตั้งแต่วันที่ 1-5 ก.ค.ที่ผ่านมา มีคนต่างชาติเดินทางเข้ามารับบริการที่โรงพยาบาลในกรุงเทพมหานครจำนวน 3 ราย โดยทั้ง 3 รายเป็นผู้ป่วยเก่าที่เคยมารับการรักษาพยาบาลอยู่แล้ว (มาจากประเทศเมียนมา มัลดีฟส์ และกาตาร์ ประเทศละ 1 ราย และมีญาติผู้ดูแลติดตามมาด้วยจากประเทศเมียนมา 1 คนและมัลดีฟส์ 1 คน) ซึ่งทั้งผู้ป่วยและผู้ติดตามต้องผ่านการตรวจ ซึ่งไม่พบเชื้อก่อโรคโควิด-19 ที่ประเทศต้นทาง และมีเอกสารสำคัญครบถ้วนก่อนได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้ามาในประเทศไทย ได้แก่

🐤เอกสารหรือหนังสือรับรองของสถานพยาบาลจากประเทศต้นทางที่ระบุความจำเป็นในการเข้ามารักษาพยาบาล,
🐤เอกสารหรือหนังสือรับรองของสถานพยาบาลในประเทศไทยที่ยืนยันการรับผู้เดินทางเข้ามารักษาพยาบาลและการจัดสถานที่กักกันในสถานพยาบาล เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 14 วัน,
🐤ใบรับรองแพทย์ที่ยืนยันว่าผู้เดินทางมีสุขภาพเหมาะสมต่อการเดินทาง (Fit to Fly Health Certificate) หรือตามสภาพการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยทางการแพทย์
🐤และใบรับรองแพทย์ที่ยืนยันว่าตรวจไม่พบเชื้อก่อโรคโควิด-19 ภายในไม่เกิน 72 ชั่วโมง ก่อนการเดินทาง,
🐤เอกสารหลักฐานซึ่งแสดงถึงหลักประกันที่ผู้เดินทางสามารถรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลและค่าใช้จ่ายอื่นใดทั้งหมดที่เกิดขึ้นระหว่างอยู่ในประเทศ
🐤และกรมธรรม์ประกันภัยที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพและรักษาพยาบาลไม่น้อยกว่า 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ,
🐤หนังสือที่รับรองว่าเป็นบุคคลที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรได้ (Certificate of Entry - COE)

ทั้งนี้คนต่างชาติที่ได้รับอนุญาตเดินทางมาถึงประเทศไทยจะมีการคัดกรองอาการทางเดินหายใจและวัดไข้ ต้องเดินทางโดยยานพาหนะของสถานพยาบาลเท่านั้น และมีระบบติดตามตัวหรือติดตั้งแอพพลิเคชันตามที่ทางราชการกำหนด เพื่อใช้ในการเฝ้าระวังและติดตามอาการในระหว่างที่เข้ารับการกักกัน

ที่สำคัญจะต้องตรวจหาเชื้อโควิด-19 อีก 3 ครั้ง ได้แก่....🐤

🐤ครั้งที่ 1 เมื่อเดินทางมาถึงสถานพยาบาล
🐤ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 5-7
🐤และครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 13-14 ของระยะเวลาที่ถูกกักกัน ซึ่งในกรณีเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลไม่ถึง 14 วัน ทางสถานพยาบาลจะดำเนินการให้ผู้ป่วยอยู่กักกันจนครบ 14 วัน รวมทั้งญาติและผู้ติดตาม จะถูกกักกันให้อยู่ในโรงพยาบาลเดียวกันกับผู้ป่วยเป็นระยะเวลา 14 วัน หลังจากตรวจไม่พบเชื้อ

อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ขอให้ประชาชนมั่นใจในมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 ที่เข้มงวดของประเทศไทย เพื่อป้องกันและจำกัดการแพร่ระบาดของโรค แม้จะมีคนต่างชาติเดินทางเข้ามารับการรักษาพยาบาล แต่เป็นการบริหารจัดการในโรงพยาบาลที่ได้ผ่านการรับรองมาตรฐานแล้ว จึงมั่นใจได้ในเรื่องความปลอดภัย หากประชาชนมีข้อสงสัยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422

https://www.posttoday.com/social/general/627755

ไทยยังป้องกันโควิด19 ได้อยู่ค่ะ....👌

แต่อย่าประมาท ทำการ์ดตกนะคะ

ถ้าโควิดสงบ เศรษฐกิจจะฟื้นตามมาค่ะ

ทุกอย่างรัฐบาลพร้อมกระตุ้นรายได้เข้าประเทศ 

ส่งเสริมการทำมาหากินของประชาชน และนักธุรกิจ 

เตรียมพร้อมนะคะ

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 11
การแถลงข่าวของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(โควิด-19) วันที่ 6 ก.ค. 2563
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
การแถลงข่าวของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(โควิด-19)
ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล
วันที่ 6 กรกฎาคม 2563





รายงานข้อมูลสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19  ณ วันจันทร์ที่ 6 กรกฎาคม 2563

ประเทศไทย
ผู้ติดเชื้อสะสม 3,195 ราย ใน 68 จังหวัด (เพิ่มขึ้น 5 ราย)
   -ไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่จากภายในประเทศ ติดต่อกันเป็นวันที่ 42
   -และมีผู้ติดเชื้อในกลุ่มผู้ที่กลับจากต่างประเทศใน State quarantine เพิ่มขึ้น 5 ราย
เสียชีวิตรวม 58 ราย (ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นในวันนี้)
รักษาหายป่วยแล้ว 3,072 ราย (96.15%) (มีผู้ป่วยกลับบ้านเพิ่มขึ้น 1 ราย)

ผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เพิ่มขึ้นในวันนี้ 5 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากประเทศคูเวตและเข้า State quarantine โดยเข้ารับการรักษาที่กรุงเทพมหานคร

สถานการณ์โลกในวันนี้ ยอดผู้ติดเชื้อสะสมของอินเดียแซงหน้ารัสเซียขึ้นมาเป็นลำดับที่ 3 ของโลกแล้ว

สำหรับสถานการณ์ในอาเซียนวันนี้ ยอดผู้ติดเชื้อของฟิลิปปินส์พุ่งสูงขึ้น โดยทำสถิติสูงที่สุดนับจากที่เคยรายงานมาอยู่ที่ 2,424 ราย แบ่งเป็นยอดรายใหม่ 1,147 ราย และที่เหลือเป็นยอดรายงานล่าช้า ทำให้ผู้ติดเชื้อสะสมของฟิลิปปินส์อยู่ที่ 44,254 ราย

ประมวลข้อมูลโดย กรมควบคุมโรค และศูนย์ปฏิบัติการด้านนวัตกรรมการแพทย์ และการวิจัยและพัฒนา สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษาฯ (อว.)
https://www.facebook.com/nrctofficial/posts/2909677975824422

แถลงความคืบหน้า สถานการณ์ โรคไวรัสโควิด-19 ประจำวันที่ 6 กรกฎาคม​ 2563
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แถลงความคืบหน้า สถานการณ์ โรคไวรัสโควิด-19
ณ​ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
ประจำวันที่ 6 กรกฎาคม​ 2563





การตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อวินิจฉัยโรคโควิด-19 👍

ประเทศไทยได้มีการตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อวินิจฉัยโรคโควิด-19 โดยการตรวจหาสารพันธุกรรม (RT-PCR) ซึ่งเป็นวิธีมาตรฐานสากล ไปแล้ว 629,818 ตัวอย่าง คิดเป็น 9,457 ตัวอย่างต่อประชากรหนึ่งล้านคน ณ วันที่ 3 กรกฎาคม 2563

ในระหว่างวันที่ 27 มิถุนายน – 3 กรกฎาคม 2563 ได้ตรวจไปแล้ว 26,161 ตัวอย่าง

ปัจจุบันกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้ให้การรับรองห้องปฏิบัติการเพื่อวินิจฉัยโควิด-19 แล้วทั่วประเทศ 205 แห่ง

แหล่งข้อมูล: กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
https://www.facebook.com/nrctofficial/posts/2910221955770024






















รวมสไลด์การแถลงสถานการณ์โควิด-19 จาก ศบค.
วันจันทร์ที่ 6 กรกฎาคม 2563
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/160563528895313



เจาะลึก Medical and Wellness Program
และ ขั้นตอนการเข้ารับการรักษาใน Medical and Wellness Program
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/160638095554523


การเดินทางเข้าประเทศไทย เฉพาะบุคคลตามข้อยกเว้น

ผู้ที่จะเดินทางจะต้องขอหนังสือรับรองจากสถานทูตไทย หรือกงสุลไทย จากประเทศต้นทาง และเอกสารอื่นๆ ตามคำสั่ง ศบค. อย่างเคร่งครัด

เครื่องบินพาณิชย์ สำหรับนักท่องเที่ยวยังไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าประเทศไทย

เตรียมตัวก่อนเดินทาง Pre-departure
1. ตรวจสอบว่าเป็นบุคคลตามข้อยกเว้น 11 ประเภทหรือไม่*
2. เตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้อง ตามเงื่อนไขบุคคลแต่ละประเภท*
3. ติดต่อสถานทูตไทยหรือกงสุลไทยประจำประเทศต้นทาง เพื่อยื่นเอกสารที่ จำเป็น และปฏิบัติตามเงื่อนไขการจองตั๋วเครื่องบิน เพื่อขอหนังสือรับรอง Certificate of Entry (COE)
* ตรวจสอบข้อมูลบุคคลตามข้อยกเว้น 11 ประเภท ตามประกาศ ศูนย์ข้อมูล COVID-19 สแกนQR code หรือคลิก >> https://www.caat.or.th/th/moicovid
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สถานทูตไทย / กงสุลไทยประจำประเทศต้นทาง
กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 02 572 8442

วันเดินทางยื่นเอกสารต่อสายการบิน
1. เอกสารแสดงตน เช่น passport
2. หนังสือรับรอง Certificate of Entry (COE)
3. ใบรับรองการตรวจ COVID-19 FREE โดยวิธี PT-PCR มีอายุไม่เกิน 72 ชม. ก่อนการเดินทาง เฉพาะบุคคลบางประเภท *
4. ประกันภัยครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลโรคโควิด-19 ตลอดระยะเวลาในไทยไม่น้อยกว่า 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ เฉพาะบุคคลบางประเภท*
5. หน้ากากอนามัย เจลล้างมือ (ตามปริมาณที่สายการบินกำหนด)
ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมจากสายการบินที่ท่านจองไว้
* ตรวจสอบข้อมูลบุคคลตามข้อยกเว้น 11 ประเภท ตามประกาศ ศูนย์ข้อมูล COVID-19 สแกนQR code หรือคลิก >> https://www.caat.or.th/th/moicovid

ขณะอยู่บนเครื่อง On board
1. ใส่หน้ากากอนามัยตลอดการเดินทาง
2. ปฏิบัติบัติตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่ หรือลูกเรือ อย่างเคร่งครัด

เดินทางถึงประเทศไทย Arrival

ผู้เข้ามาระยะสั้นไม่เกิน 14 วัน
1. ตรวจหาเชื้อโดยวิธี RT-PCR ที่สนามบิน
2. ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น เพื่อใช้ติดตามอาการ และการเข้าสถานที่ต่างๆ

ผู้เข้ามาระยะยาวมากกว่า 14 วัน
1. ตรวจคัดกรองอาการ ทางเดินหายใจและวัดไข้
2. ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น เพื่อใช้ติดตามอาการ และการเข้าสถานที่ต่างๆ
3. เข้ารับการกักตัว 14 วัน

สอบถามข้อมูลเรื่องมาตรการเพื่อเฝ้าระวังโรค กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข โทร. 1422
ตรวจสอบข้อมูลบุคคลตามข้อยกเว้น 11 ประเภท ตามประกาศ ศูนย์ข้อมูล COVID-19 สแกนQR code หรือคลิก >> https://www.caat.or.th/th/moicovid
รวมทุกประกาศเกี่ยวกับ COVID-19 >> www.caat.or.th/corona
------------------------------------------------------------------
ศูนย์ข้อมูล COVID-19 โทร 1111
กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ โทร 02 572 8442
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข โทร 1422
CAAT - The Civil Aviation Authority of Thailand โทร 02 568 8800
ที่มา : สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/160237435594589
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่