สุรินทร์ - เกษตรกรตัวอย่างพลิกผืนนาดอน ทำเกษตรผสมผสาน หันมาปลูกพืชทุกชนิด ยึดหลัก"พอเพียง"
หลายคนประสบความสำเร็จกับคำว่า “เศรษฐกิจพอเพียง”
คุณแม่สิริพร ชาวสวน เกษตรกรในโครงการทับทิมสยาม04 ต.เทพรักษา อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ก็เช่นกัน
คุณแม่สิริพร ประสบความสำเร็จในการทำการเกษตร จากการยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง แต่คุณแม่สิริพร ก็ให้ข้อคิดว่า ไม่ใช่ทุกคนที่ประสบความสำเร็จจากการทำเกษตร ด้วยการยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง เพราะนั่นอาจจะเป็นเพียงแนวทาง แต่ไม่ใช่การดำเนินตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงจริง เช่น การลงทุนสูง การไม่มีใจรักเมื่อเริ่มต้นทำเกษตร แต่ทำเพราะกระแส เป็นต้น สิ่งเหล่านี้อาจเป็นจุดเริ่มต้นที่ไม่ได้สร้างความพอเพียงตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง
การทำการเกษตรของคุณแม่สิริพร ก็เริ่มต้นจากเกษตรกรทำนาเช่นเดียวกับเพื่อนบ้านรายอื่นๆ ที่มีผืนนาเป็นของตนเอง และทำนาตามฤดูกาล ในอดีตทำนาปีละครั้ง โดยอาศัยน้ำฝนในฤดูกาล ไม่มีระบบชลประทานมาเกื้อหนุน การปลูกข้าวที่ทำอยู่ก็ทำเหมือนเกษตรกรรายอื่น ระบบการปลูก ดูแล เก็บเกี่ยว ขาย ไม่แตกต่าง เมื่อไม่เกิดความแตกต่าง ผลที่ได้ก็เหมือนกันคือ ประสบภาวะขาดทุน
คุณแม่สิริพร เป็นผู้ที่สนใจใฝ่รู้ จึงเริ่มศึกษาระบบการทำการเกษตรด้วยวิธีต่างๆ และเคยเข้ารับการอบรมการทำเกษตรโดยยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง แต่ไม่ได้สนใจและให้ความสำคัญ เพราะคิดเองว่า เมื่อเราเป็นหนี้ การจะเริ่มทำเศรษฐกิจพอเพียง ไม่ใช่คำตอบที่จะช่วยแก้ปัญหาได้ กระทั่งการทำนาแบบเดิมดำเนินต่อไป และในทุกปีเกิดภาวะขาดทุน เป็นหนี้หลายแสนบาท เพราะทุกวันเหมือนเดิม หนี้สินก็พอกพูนขึ้น ทำให้คุณแม่สิริพร ตัดสินใจลองเสี่ยงกับคำว่า “พอเพียง” ///////
พลิกผืนนาดอน! ทำเกษตรผสมผสาน หันมาปลูกพืชทุกชนิด ยึดหลัก"พอเพียง"
หลายคนประสบความสำเร็จกับคำว่า “เศรษฐกิจพอเพียง”
คุณแม่สิริพร ชาวสวน เกษตรกรในโครงการทับทิมสยาม04 ต.เทพรักษา อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ก็เช่นกัน
คุณแม่สิริพร ประสบความสำเร็จในการทำการเกษตร จากการยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง แต่คุณแม่สิริพร ก็ให้ข้อคิดว่า ไม่ใช่ทุกคนที่ประสบความสำเร็จจากการทำเกษตร ด้วยการยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง เพราะนั่นอาจจะเป็นเพียงแนวทาง แต่ไม่ใช่การดำเนินตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงจริง เช่น การลงทุนสูง การไม่มีใจรักเมื่อเริ่มต้นทำเกษตร แต่ทำเพราะกระแส เป็นต้น สิ่งเหล่านี้อาจเป็นจุดเริ่มต้นที่ไม่ได้สร้างความพอเพียงตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง
การทำการเกษตรของคุณแม่สิริพร ก็เริ่มต้นจากเกษตรกรทำนาเช่นเดียวกับเพื่อนบ้านรายอื่นๆ ที่มีผืนนาเป็นของตนเอง และทำนาตามฤดูกาล ในอดีตทำนาปีละครั้ง โดยอาศัยน้ำฝนในฤดูกาล ไม่มีระบบชลประทานมาเกื้อหนุน การปลูกข้าวที่ทำอยู่ก็ทำเหมือนเกษตรกรรายอื่น ระบบการปลูก ดูแล เก็บเกี่ยว ขาย ไม่แตกต่าง เมื่อไม่เกิดความแตกต่าง ผลที่ได้ก็เหมือนกันคือ ประสบภาวะขาดทุน
คุณแม่สิริพร เป็นผู้ที่สนใจใฝ่รู้ จึงเริ่มศึกษาระบบการทำการเกษตรด้วยวิธีต่างๆ และเคยเข้ารับการอบรมการทำเกษตรโดยยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง แต่ไม่ได้สนใจและให้ความสำคัญ เพราะคิดเองว่า เมื่อเราเป็นหนี้ การจะเริ่มทำเศรษฐกิจพอเพียง ไม่ใช่คำตอบที่จะช่วยแก้ปัญหาได้ กระทั่งการทำนาแบบเดิมดำเนินต่อไป และในทุกปีเกิดภาวะขาดทุน เป็นหนี้หลายแสนบาท เพราะทุกวันเหมือนเดิม หนี้สินก็พอกพูนขึ้น ทำให้คุณแม่สิริพร ตัดสินใจลองเสี่ยงกับคำว่า “พอเพียง” ///////