เราเป็นทาสแมวค่ะ วันนึงไปคลำเจอก้อนข้างตัวน้องแมวนูนขึ้นมาข้างลำตัวประมาณ 2 เซ็น ก็พาไปรพ.สัตว์เล็กจุฬา หมอเจาะชิ้นเนื้อไปตรวจ อีก 2 อาทิตย์มาฟังผล
ครั้งที่ 1 หมอแผนกมะเร็งบอกว่าน้องเป็นมะเร็งชนิดร้ายแรง ซึ่งต้องตรวจละเอียดอีกครั้งว่าเกิดจากอะไร แต่หมอสันนิษฐานว่าอาจเกิดจากการฉีดวัคซีนที่เดิมซ้ำๆกัน ก็ให้ไปติดต่อศัลกรรมเพื่อนัดผ่าตัด หมอผ่าตัดแจ้งว่าถ้าผ่าเพื่อเอาก้อนออกมาทั้งหมด แผลอาจกว้างถึง 5 เซ็นนะหมอไม่อยากให้ผ่า แต่ก็ขอตัดชิ้นเนื้อไปตรวจเพิ่มว่าถ้าไม่ได้เกิดมาจากการฉีดวัคซีน แผลอาจไม่ถึง 5 เซ็น ก็ตัดไปและนัดมาฟังผล
ครั้งที่ 2 หมอบอกว่าปรึกษากับอาจารย์หมอแล้ว 5 เซ็นผ่าได้นะ แต่อาจจะต้องมีการตัดซี่โครงบางส่วนที่ก้อนเนื้อไปติดอยู่ออกไปด้วย ก็ถามหมอว่าแล้วจะมีผลกระทบอะไรกับแมวหลังผ่าตัดไหม หมอบอกไม่มี ผ่าตัดเสร็จรับกลับบ้านได้เลย เราก็โอเค แต่ก็ขอไว้ว่าขอแอดมิทสัก 1 คืน เพราะกลัวเอากลับไปดูแลเองจะลำบาก
ครั้งที่ 3 เจาะเลือดก่อนผ่าตัด หมอบอกว่าไปปรึกษากันแล้วคิดว่าถ้าก้อนมะเร็งอยู่ลึกจนไปติดผนังหน้าท้อง จะไม่เอาก้อนเนื้อออกให้นะ เย็บแผลปิดและรักษาไปตามอาการดีกว่า เราก็อ้าวเหรอ ก็โอเคค่ะ
วันผ่า ก่อนผ่าหมอมาบอกว่า ตกลงถ้าก้อนเนื้ออยู่ติดผนังช่องท้องก็เอาก้อนออกได้นะ เดี๋ยวใช้เนื้อเยื่อเทียมที่เป็นตาข่ายๆมาแทนผนังช่องท้องมีเคสที่เมืองนอกเค้าทำกัน เราก็อ้าวเหรอ เปลี่ยนอีกแล้ว แต่ก็โอเค เอาก้อนมะเร็งออกมาได้หมอน่าจะดีที่สุด ใช้เวลาผ่าประมาณ 5 ชั่วโมง หมอออกมาบอกว่าตกลงไม่ต้องใส่เนื้อเยื่อเทียมนะ ดึงกล้ามเนื้อเค้ามาเย็บปิดได้ และตัดซี่โครงออกไปนิดหน่อย ไม่มีปัญหาอะไร หมอจะรับแอดมิทเพื่อดูอาการสัก 3 วัน
สรุปว่าแอดมิทไป 7 วัน เราไปเยี่ยมทุกวัน หมอบอกแผลแห้งดีนะ แต่น้องไม่ค่อยยอมกินข้าว ไม่อึ ตอนนี้ขาดโปรตีนกับเลือดจาง ก็ให้ไปซื้อโปรตีนมา ตลอดเวลาที่ไปเยี่ยม เรารับรู้ได้ว่าน้องแมวไม่มีความสุขและไม่สดใส สิ่งที่ดีขึ้นที่เห็นได้คือเจ็บแผลน้อยลงกว่าวันแรกที่ผ่า หมอผ่าตัดไม่เคยมาคุยอะไรด้วยอีกเลย เจอแต่หมอในห้องไอซียู ซึ่งหมอแต่ละคนก็อัพเดทอาการไม่เหมือนกัน แต่เราก็พยายามใจเย็นและขอนัดคุยกับหมอผ่าตัด พอครบ 7 วัน หมอที่ไอซียูดูลังเลว่าจะให้กลับบ้านได้หรือยัง บอกว่าขอ confirm กับหมอเจ้าของเคสก่อน หมอเจ้าของเคสก็แจ้งว่ากลับบ้านได้แล้วนะ อีก 3 วันมาตัดไหม และจะได้คุยกันให้ละเอียดด้วย หมอบอกให้ระวังเรื่องแผลเค้า ห้ามให้กระโดดเด็ดขาด เราก็โอเค เตรียมกรงไว้ให้พร้อมแล้วที่บ้าน
พอรับน้องกลับมาตอนเย็น ก็ปล่อยเค้านอนในกรงปกติ เค้าก็นอนหลับ ตื่นมาก็พยายามคุ้ยกะบะทรายลงไปฉี่อาการก็ปกติดีค่ะ
พอมืดหน่อยคุ้ยกะบะอีกเข้าใจว่าอยากอึ อยู่โรงพยาบาลมา 7 วัน ไม่อึเลย แต่ขาหลังเค้ายังยืนไม่แข็งแรง ก็พยายามช่วยพยุง เค้าก็พยายามเบ่งแต่ไม่สำเร็จ เค้าก็หอบดูเหมือนเหนื่อยมาก
เลยโทรหาโรงพยาบาล เค้าบอกงั้นให้เอากะบะทรายออกจากกรง แมวอาจยังไม่แข็งแรงเดี๋ยวเหนื่อยเกินไป ก็เอาทรายออก แล้วเอาแผ่นรองซับวางไว้ให้แทน
สักตี 3 เค้าร้อง และลุกเข้ากะบะพยายามเบ่งอึอีกก็ช่วยพยุงจนเบ่งออกมาได้นิดหน่อย เค้าก็ไปนอนหอบอีก เข้าใจว่าเดี๋ยวเค้านอนสักพักคงหาย
ก็ปิดไฟนอน สักพักเค้าร้อง เปิดไปดูคือเค้าหอบมาก จนต้องหายใจทางปาก เลยรีบพาไปโรงพยาบาล หมอบอกว่ากะบังลมฉีกตับเข้าไปอยู่รวมกับปอดเลยทำให้เค้าหายใจไม่สะดวก
ก็งงมาก เพราะเค้าบอกว่าถ้ากะบังลมฉีกได้นี่คือต้องไปกระแทกอะไรแรงมากๆซึ่งตั้งแต่พากลับไปนี่ไม่มีแน่นอน ซึ่งวิธีแก้ก็คือต้องผ่าตัดอีก หมอฉุกเฉินบอกว่าตอนผ่าตัดคงทำอะไรที่เกี่ยวข้องกับตรงกะบังลมไปด้วย แล้วพอน้องเบ่งอึในส่วนที่เค้าเย็บไว้คงหลุด ตับเลยไปเบียดปอด ซึ่งไปฉุกเฉินก็ทำอะไรไม่ได้ ต้องรอ x-ray ตอนเช้า และถ้ากะบังลมฉีกจริง ก็ไม่อยากให้เค้าเจ็บตัวต้องผ่าตัดอีก หมอก็บอกให้กลับไปก่อน เดี๋ยวสายๆรอ x-ray แล้วจะปรึกษาอีกทีว่าทำยังไง สายๆหมอโทรมาบอกว่าอาการแย่นะ กำลังพาลงไป x-ray เพื่อหาสาเหตุซึ่งต้องมีการเคลื่อนย้าย และเค้าอยู่ในตู้ให้อ็อกซิเจนตลอด เลยโทรมาบอกไว้ก่อนว่าน้องแมวอาจไม่ไหวนะ สุดท้ายน้องก็ไม่ไหวและจากเราไปค่ะ ก็รีบไป ทันไปลาเค้าหายใจเฮือกสุดท้ายพอดีตอนนี้ยังทำใจไม่ได้เลยค่ะ หมอก็ได้แต่แสดงความเสียใจ แต่ก็ยังนั่งคิดวนไปวนมาว่าเป็นความผิดของหมอที่ไม่เก่งหรือเปล่า เพราะตั้งแต่ที่จะไปรับกลับหมอที่ ICU ก็ดูกังวลว่าจะกลับได้ไหม ให้รอคุยกับหมอเจ้าของเคสที่เป็นคนผ่าตัดเองก่อน พอไปถึงเจอหมอเจ้าของเคสเค้าก็บอกกลับได้ แค่ระวังอย่าให้เดินเยอะเดี๋ยวแผลแตก หมอไม่มีการพูดถึงกะบังลมอะไรนี่เลย แต่วันที่ไปลาน้องไปแบบไม่มีสติเลยคิดอะไรไม่ทันจะถามหมอก็ไม่ทันได้ถาม แต่ก็คิดว่ายังไงเค้าก็ไปสบายแล้ว ไม่อยากไปหาเหตุผลอะไรให้ต้องมาโกรธเคืองกันอีก ร่างเค้าทางโรงพยาบาลขอไว้เป็นอาจารย์ใหญ่ เพราะเป็นเคสพิเศษ ก็เลยยกให้เค้าถือว่าทำบุญไปค่ะ เค้าบอกถ้าผ่าแล้วจะโทรมาแจ้งสาเหตุการเสียชีวิต และให้เราไปร่วมพิธีทำบุญได้
สาเหตุที่เล่ามาซะยาวเพราะ อยากให้ทาสแมวอย่างพวกเราได้รู้นะคะว่าการฉีดวัคซีนป้องกันโรคต่างๆ สามารถก่อตัวให้เกิดมะเร็งได้ ลองปรึกษาหมอที่หาประจำกันอีกทีนะคะ
และการเลือกหมอก็สำคัญค่ะ ศึกษาดีดีก่อนว่าหมอมีประสบการณ์และความสามารถมากพอที่จะช่วยชีวิตลูกเราไหม ทุกวันนี้ก็ยังโทษตัวเองที่ว่าไม่น่าพาเค้าไปผ่าตัดเลย ทรมานอยู่เป็นอาทิตย์ สุดท้ายก็ต้องมาจากไป ฝากไว้เป็นอุทธาหรณ์นะคะ
วัคซีนที่เราฉีดให้ลูกๆทุกปีก่อให้เกิดมะเร็ง และขอแชร์ประสบการณ์พาแมวไปรักษามะเร็งที่ รพ.สัตว์เล็กจุฬา
ครั้งที่ 1 หมอแผนกมะเร็งบอกว่าน้องเป็นมะเร็งชนิดร้ายแรง ซึ่งต้องตรวจละเอียดอีกครั้งว่าเกิดจากอะไร แต่หมอสันนิษฐานว่าอาจเกิดจากการฉีดวัคซีนที่เดิมซ้ำๆกัน ก็ให้ไปติดต่อศัลกรรมเพื่อนัดผ่าตัด หมอผ่าตัดแจ้งว่าถ้าผ่าเพื่อเอาก้อนออกมาทั้งหมด แผลอาจกว้างถึง 5 เซ็นนะหมอไม่อยากให้ผ่า แต่ก็ขอตัดชิ้นเนื้อไปตรวจเพิ่มว่าถ้าไม่ได้เกิดมาจากการฉีดวัคซีน แผลอาจไม่ถึง 5 เซ็น ก็ตัดไปและนัดมาฟังผล
ครั้งที่ 2 หมอบอกว่าปรึกษากับอาจารย์หมอแล้ว 5 เซ็นผ่าได้นะ แต่อาจจะต้องมีการตัดซี่โครงบางส่วนที่ก้อนเนื้อไปติดอยู่ออกไปด้วย ก็ถามหมอว่าแล้วจะมีผลกระทบอะไรกับแมวหลังผ่าตัดไหม หมอบอกไม่มี ผ่าตัดเสร็จรับกลับบ้านได้เลย เราก็โอเค แต่ก็ขอไว้ว่าขอแอดมิทสัก 1 คืน เพราะกลัวเอากลับไปดูแลเองจะลำบาก
ครั้งที่ 3 เจาะเลือดก่อนผ่าตัด หมอบอกว่าไปปรึกษากันแล้วคิดว่าถ้าก้อนมะเร็งอยู่ลึกจนไปติดผนังหน้าท้อง จะไม่เอาก้อนเนื้อออกให้นะ เย็บแผลปิดและรักษาไปตามอาการดีกว่า เราก็อ้าวเหรอ ก็โอเคค่ะ
วันผ่า ก่อนผ่าหมอมาบอกว่า ตกลงถ้าก้อนเนื้ออยู่ติดผนังช่องท้องก็เอาก้อนออกได้นะ เดี๋ยวใช้เนื้อเยื่อเทียมที่เป็นตาข่ายๆมาแทนผนังช่องท้องมีเคสที่เมืองนอกเค้าทำกัน เราก็อ้าวเหรอ เปลี่ยนอีกแล้ว แต่ก็โอเค เอาก้อนมะเร็งออกมาได้หมอน่าจะดีที่สุด ใช้เวลาผ่าประมาณ 5 ชั่วโมง หมอออกมาบอกว่าตกลงไม่ต้องใส่เนื้อเยื่อเทียมนะ ดึงกล้ามเนื้อเค้ามาเย็บปิดได้ และตัดซี่โครงออกไปนิดหน่อย ไม่มีปัญหาอะไร หมอจะรับแอดมิทเพื่อดูอาการสัก 3 วัน
สรุปว่าแอดมิทไป 7 วัน เราไปเยี่ยมทุกวัน หมอบอกแผลแห้งดีนะ แต่น้องไม่ค่อยยอมกินข้าว ไม่อึ ตอนนี้ขาดโปรตีนกับเลือดจาง ก็ให้ไปซื้อโปรตีนมา ตลอดเวลาที่ไปเยี่ยม เรารับรู้ได้ว่าน้องแมวไม่มีความสุขและไม่สดใส สิ่งที่ดีขึ้นที่เห็นได้คือเจ็บแผลน้อยลงกว่าวันแรกที่ผ่า หมอผ่าตัดไม่เคยมาคุยอะไรด้วยอีกเลย เจอแต่หมอในห้องไอซียู ซึ่งหมอแต่ละคนก็อัพเดทอาการไม่เหมือนกัน แต่เราก็พยายามใจเย็นและขอนัดคุยกับหมอผ่าตัด พอครบ 7 วัน หมอที่ไอซียูดูลังเลว่าจะให้กลับบ้านได้หรือยัง บอกว่าขอ confirm กับหมอเจ้าของเคสก่อน หมอเจ้าของเคสก็แจ้งว่ากลับบ้านได้แล้วนะ อีก 3 วันมาตัดไหม และจะได้คุยกันให้ละเอียดด้วย หมอบอกให้ระวังเรื่องแผลเค้า ห้ามให้กระโดดเด็ดขาด เราก็โอเค เตรียมกรงไว้ให้พร้อมแล้วที่บ้าน
พอรับน้องกลับมาตอนเย็น ก็ปล่อยเค้านอนในกรงปกติ เค้าก็นอนหลับ ตื่นมาก็พยายามคุ้ยกะบะทรายลงไปฉี่อาการก็ปกติดีค่ะ
พอมืดหน่อยคุ้ยกะบะอีกเข้าใจว่าอยากอึ อยู่โรงพยาบาลมา 7 วัน ไม่อึเลย แต่ขาหลังเค้ายังยืนไม่แข็งแรง ก็พยายามช่วยพยุง เค้าก็พยายามเบ่งแต่ไม่สำเร็จ เค้าก็หอบดูเหมือนเหนื่อยมาก
เลยโทรหาโรงพยาบาล เค้าบอกงั้นให้เอากะบะทรายออกจากกรง แมวอาจยังไม่แข็งแรงเดี๋ยวเหนื่อยเกินไป ก็เอาทรายออก แล้วเอาแผ่นรองซับวางไว้ให้แทน
สักตี 3 เค้าร้อง และลุกเข้ากะบะพยายามเบ่งอึอีกก็ช่วยพยุงจนเบ่งออกมาได้นิดหน่อย เค้าก็ไปนอนหอบอีก เข้าใจว่าเดี๋ยวเค้านอนสักพักคงหาย
ก็ปิดไฟนอน สักพักเค้าร้อง เปิดไปดูคือเค้าหอบมาก จนต้องหายใจทางปาก เลยรีบพาไปโรงพยาบาล หมอบอกว่ากะบังลมฉีกตับเข้าไปอยู่รวมกับปอดเลยทำให้เค้าหายใจไม่สะดวก
ก็งงมาก เพราะเค้าบอกว่าถ้ากะบังลมฉีกได้นี่คือต้องไปกระแทกอะไรแรงมากๆซึ่งตั้งแต่พากลับไปนี่ไม่มีแน่นอน ซึ่งวิธีแก้ก็คือต้องผ่าตัดอีก หมอฉุกเฉินบอกว่าตอนผ่าตัดคงทำอะไรที่เกี่ยวข้องกับตรงกะบังลมไปด้วย แล้วพอน้องเบ่งอึในส่วนที่เค้าเย็บไว้คงหลุด ตับเลยไปเบียดปอด ซึ่งไปฉุกเฉินก็ทำอะไรไม่ได้ ต้องรอ x-ray ตอนเช้า และถ้ากะบังลมฉีกจริง ก็ไม่อยากให้เค้าเจ็บตัวต้องผ่าตัดอีก หมอก็บอกให้กลับไปก่อน เดี๋ยวสายๆรอ x-ray แล้วจะปรึกษาอีกทีว่าทำยังไง สายๆหมอโทรมาบอกว่าอาการแย่นะ กำลังพาลงไป x-ray เพื่อหาสาเหตุซึ่งต้องมีการเคลื่อนย้าย และเค้าอยู่ในตู้ให้อ็อกซิเจนตลอด เลยโทรมาบอกไว้ก่อนว่าน้องแมวอาจไม่ไหวนะ สุดท้ายน้องก็ไม่ไหวและจากเราไปค่ะ ก็รีบไป ทันไปลาเค้าหายใจเฮือกสุดท้ายพอดีตอนนี้ยังทำใจไม่ได้เลยค่ะ หมอก็ได้แต่แสดงความเสียใจ แต่ก็ยังนั่งคิดวนไปวนมาว่าเป็นความผิดของหมอที่ไม่เก่งหรือเปล่า เพราะตั้งแต่ที่จะไปรับกลับหมอที่ ICU ก็ดูกังวลว่าจะกลับได้ไหม ให้รอคุยกับหมอเจ้าของเคสที่เป็นคนผ่าตัดเองก่อน พอไปถึงเจอหมอเจ้าของเคสเค้าก็บอกกลับได้ แค่ระวังอย่าให้เดินเยอะเดี๋ยวแผลแตก หมอไม่มีการพูดถึงกะบังลมอะไรนี่เลย แต่วันที่ไปลาน้องไปแบบไม่มีสติเลยคิดอะไรไม่ทันจะถามหมอก็ไม่ทันได้ถาม แต่ก็คิดว่ายังไงเค้าก็ไปสบายแล้ว ไม่อยากไปหาเหตุผลอะไรให้ต้องมาโกรธเคืองกันอีก ร่างเค้าทางโรงพยาบาลขอไว้เป็นอาจารย์ใหญ่ เพราะเป็นเคสพิเศษ ก็เลยยกให้เค้าถือว่าทำบุญไปค่ะ เค้าบอกถ้าผ่าแล้วจะโทรมาแจ้งสาเหตุการเสียชีวิต และให้เราไปร่วมพิธีทำบุญได้
สาเหตุที่เล่ามาซะยาวเพราะ อยากให้ทาสแมวอย่างพวกเราได้รู้นะคะว่าการฉีดวัคซีนป้องกันโรคต่างๆ สามารถก่อตัวให้เกิดมะเร็งได้ ลองปรึกษาหมอที่หาประจำกันอีกทีนะคะ
และการเลือกหมอก็สำคัญค่ะ ศึกษาดีดีก่อนว่าหมอมีประสบการณ์และความสามารถมากพอที่จะช่วยชีวิตลูกเราไหม ทุกวันนี้ก็ยังโทษตัวเองที่ว่าไม่น่าพาเค้าไปผ่าตัดเลย ทรมานอยู่เป็นอาทิตย์ สุดท้ายก็ต้องมาจากไป ฝากไว้เป็นอุทธาหรณ์นะคะ