คือเราจบปริญญาตรี ยังไม่มีประสบการณ์การทำงาน ด้วยความที่ช่วงนี้เป็นช่วงโควิดที่งานเปิดรับสมัครน้อยมีงานอะไรเราก็ส่งเรซูเม่ไปก่อน จนวันนึงทางเฮชอาร์ของบ.A ติดต่อมา (ซึ่งค่อนข้างแปลกที่ติดต่อทางไลน์และโทรอย่างเดียว ไม่มีการอีเมล์หา) เรตเงินเดือนถือว่าน้อยมากแม้จะจบใหม่ คืออยู่ที่ 11k-15k เราก็ถามว่าต่อรองได้ไหมหรือฟิกไว้ว่าต้องเท่านี้ เค้าบอกว่าได้
ก่อนสัมภาษณ์เราก็หาข้อมูลของบ.เลยได้รู้ว่าเปิดมาสักพักและมีเพจเฟซบุ๊กอยู่ ออฟฟิศตั้งอยู่ในสามจังหวัดคือ ออฟฟิศหลักอยู่ที่เชียงใหม่ รองลงมาปทุม และกรุงเทพจังหวัดที่เราไปสมัคร แต่เราสับสนชื่อบ.มากๆ หัวข้อเปิดรับเข้าบ.ชื่อ B แต่รายละเอียดบอกบ.ตัวเองคือห้างหุ้นส่วน C แล้วชื่อบ.ที่เชียงใหม่กับปทุมคือ บ.A 555555555555555555555555555555555555555555555555
จนเราไปสัมภาษณ์ ตึกที่บ.ตั้งอยู่เป็นตึกหรูเกรด A แม้จะไม่เป็นระบบแต่ก็น่าเชื่อถือในระดับนึง ทางเฮชอาร์ไม่มีการชี้แจงว่าต้องขึ้นไปชั้นไหนและขอพบใครเราเองที่เป็นคนถามรายละเอียด พอขึ้นไปมีคนของบ.เราคนนึงให้กรอกข้อมูลและทำแบบทดสอบเยอะมากกแล้วก็จบด้วยการสัมภาษณ์กับเจ้าของบ.ที่เป็นผญทางวิดีโอคอล (คนอื่นที่มาสัมภาษณ์เหมือนกันก็มี) เค้าบอกว่าสนใจโปรไฟล์เราเป็นคนแรกอยากได้เงินเท่าไหร่ เราก็เรียกไปมากกว่า 15k เค้าก็บอกว่าจะดูให้
ผ่านไปหนึ่งอาทิตย์เราผ่านสัมภาษณ์ (เฮชอาร์แจ้งทางไลน์แบบทักไลน์เรามาเฉยๆวันเสาร์ แล้ววันจันทร์ถึงพิมพ์ว่าเราผ่าน คือจะมาทักเฉยๆทำม้ายยยย)
แต่เงินเดือนที่ได้ไม่ถึงค่าแรงขั้นต่ำจบหม่ 15k ด้วยซ้ำ แต่เราก็ตอบรับไปก่อนเพราะถือว่าหาประสบการณ์และยังหางานอื่นทำได้อยู๋
พอไปที่ตึก เฮชอาร์นัดเราเซ็นสัญญา 9 โมงแต่คนที่เอาสัญญามาให้ (เดินทางมาจากปทุม) มาถึง 11 โมง แล้วคือทั้งสามชั่วโมงเรานั่งรออยู่คนเดียว
จนเซ็นสัญญาจ้าง หัวข้อเป็นนามบ.A (สรุปชั้นทำบ.ไหนกันแน่ฟะเนี่ย งงไปหมดแล้วโว้ยย) รายละเอียดกดขี่เรื่องเงินเดือนมากไม่เหมือนกับที่คุยกันไว้แถมยังเป็นงานสัญญาจ้างหกเดือนอีกทั้งๆที่ตอนสมัครและสัมภาษณ์ก็ไม่มีการแจ้งรายละเอียดส่วนนี้มาก่อนเลย!!! เราก็เอาวะไม่ได้จะอยู่ตลอดไปสักหน่อย เซ็นๆไปก่อน แต่เอกสารมีชุดเดียวแล้วทางเจ้าของบริษัทผชบินมาจากเชียงใหม่มารับเก็บไว้ แล้วเค้าก็พาเข้าไปดูออฟฟิศคือเป็นห้องเล็กๆมีสองโต๊ะและมีพนักงานคนเดียวคือเรา (?) คนอื่นๆที่เห็นในห้องออฟฟิศคือคนจากที่อื่น ชั้นทั้งชั้นนี้เป็นพื้นที่ co-working space แล้วเฮชอาร์ที่เราคุยในไลน์ด้วยมาตลอดคือคนจากเชียงใหม่ แม้แต่ที่ปทุมยังไม่มีเฮชอาร์ต้องติดต่อกับทางเชียงใหม่ แม่เจ้า!
หลังจากนั้นคนที่ปทุมก็กลับไป หัวหน้างานจากเชียงใหม่ก็บินกลับทิ้งเราเคว้งอยู่คนเดียว คือตอนสัมภาษณ์เค้าบอกเราว่าที่นี่ไม่มีใครคอยสอนงานนะ เราก็เออโอเค ไม่มีคน train งานก็จะพยายามทำความเข้าใจด้วยตัวเองละวะ แต่!!! แม่เจ้าโว้ยยย คือทั้งออฟฟิศมีชั้นคนเดียว!!
แล้วไม่มีการตอกบัตรเข้าออกด้วยนะ อะไรวะเนี่ยยยย แถมยังทิ้งแท๊บเล็ตให้เราเครื่องนึงไว้คุยงานแล้วบอกให้เรารีบไปซื้อซิมใส่ซะ เราก็งง ปกติไม่ใช่ว่าบ.จัดการให้เหรอ ที่นี้ซิมมันก็จะเปิดในนามของเราเองไง บัตรปชชเราเอง!
เราทนทำไปได้เกือบอาทิตย์ คือ เค้าสั่งงานผ่านทางไลน์กันหมดเลย (เด็กน้อยมาก บ.มาตรฐานเค้าไม่คุยงานทางไลน์เป็นหลักป่ะ) ทั้งออฟฟิศอุปกรณ์ก็มีแค่กระดาษ ปากกา ลิคขวิด คอม เครื่องปริ้นท์ นอกนั้นคือไม่มีอะไรเลย จนเราต้องขอเบิกเงินกับบัญชีที่อยู่เชียงใหม่แล้วลงไปซื้อเอง เจ้าของบ.ที่เป็นผู้ชายเลยทักเรามาว่าให้สั่งทางเน็ตแล้วไปเปิดบัญชีไว้เอาธนาคารอะไรให้ปรึกษากับบัญชีดู บัญช็บอกเราว่าปกติใช้ธนาคารx แต่ไม่แน่ใจว่าที่กทมใช้อะไรให้ถามบอส เราก็เอาข้อความนี้ไปบอกทางบอสเค้าก็ดูหงุดหงิดนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้คอนเฟิร์มให้เปิดกับธนาคารxนะ (แกรรรรรร ปกติบ.มันต้องมีธนาคารที่ฟิกอยู่แล้วป่ะว่าจะใช้ของอะไร นี่ให้ชั้นวิ่งโร่เอง) แล้ว!!! ที่สุดของที่สุดคือ!!
เราต้องเป็นคนเปิดบัญชีในนามของเรา แล้วจะมีการทำธุรกรรมผ่านบัญชีนี้โดยถ้าจะขอเบิกเงินค่าของบัญชีจะโอนเข้าให้เราถอน แล้ววันนั้นเราก็ได้รู้ความจริงว่าบ.B ที่เราทำอยู่อะ เป็นแบรนด์ใหม่เพราะ A จะเน้นขายคนทั่วไป B คือแบรนด์ที่ยกระดับ ตอนแรกจะใช้ชื่อว่า C เลยไปจดแต่ที่นี้เปลี่ยนใจจะใช้ B แทนและ
ยังไม่จดทะเบียน เราก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้พ่อเราฟัง เค้าเป็นห่วงเรามาก คือมันผิดปกติอะ ทั้งซิมทั้งบัญชีเป็นชื่อเรา เราตัวคนเดียวในบ.หลักฐานอ้างอิงก็ไม่มี บ.B ที่เราเข้าไปทำแม่..งก็ยังไม่จดทะเบียนเป็นบ.เลยจ้า
รุ่งเช้าเราไปออฟฟิศแล้วขอออกจากงานโดยแจ้งผ่านเฮชอาร์ทางไลน์อีกเช่นเคย -_- เค้าก็ยื้อเราคุยกับเราเรื่องเงินบ้าง ขู่ว่าที่ทำมาทั้งหมดจะได้เงินเป็นรายวันวันละสามร้อยบ้าง (เราเริ่มทำงานปลายมิถุนาหนึ่งอาทิตย์และสลิปเงินเดือนก็ออกแล้วว่าได้สามพันกว่าบาท ซึ่งเราอ่านดูแม่..งโกงไปห้าร้อย เราก็ถามเฮชอาร์เค้าก็บ่ายเบี่ยงเราก็ขี้เกียจเถียงเลยเออออไป) แล้วนี่คือวันที่ 2 เดือน กค ไปแล้ว เงินยังไม่เข้าเลยอย่าถามว่าเงินเข้าไหม บ.อะยังไม่มีบัญชีเราด้วยซ้ำ จริงๆมันควรจะขอตั้งแต่วันเซ็นสัญญาจ้างละ เราเลยแกล้งถามว่านี่คือจะได้เงินจริงๆใช่ไหม เขาบอกว่าได้แน่นอนแต่ขอเช็คอีกรอบ เราถามว่าจะเข้าบัญชีไหน เค้าถามกลับว่าส่งบัญชีอะไรให้เค้ามา เราบอกว่ายังไม่เคยส่งเลย..... (ตุ๊งแช่!)
แล้วเราบอกว่าเราจะขอกลับเลยวันนี้เราไม่เอาค่าจ้าง เค้าบอกว่าไม่ได้ตอนนี้เจ้าของบ.ผญกำลังเดินทางจากเชียงใหม่ไปกรุงเทพ เค้าจะเข้ามาคุยกับเรา ฮืออออ พ่อเราโมโหมากเราก็เหมือนกัน คือเอ็งจะให้ค่าจ้างเป็นรายวันนะโว้ย เราต่อรองกับเฮชอาร์จนเค้ายอมให้เรากลับ เรารีบกลับไปปิดซิมเลยค่ะ อันตรายมาก เกิดเรื่องอะไรขึ้นมาตรวจสอบถึงเค้าไม่ได้เลยแล้วทั้งหมดคือชื่อเรา
วันที่ 3 ก็แล้วเงินยังไม่เข้า เราเตรียมใจแล้วว่าคงไม่ได้ เฮชอาร์บอกเจ้าของบ.ผญกำลังเช็คเงิน คือจริงๆของเดือนที่แล้วก็คือของเดือนที่แล้วมั้ย เงินออกทุกวันที่สองก็ควรจะตัดรอบไปแล้วอะ เราคุยกับคนที่ปทุมที่เอาสัญญาเข้ามาให้เราเซ็นเค้าบอกว่าเค้าทำสามวันก็ออกเลย เพราะบ.จะให้เค้าเข้ามาทำงานกับเราที่กรุงเทพแล้วไม่จ่ายค่ารถให้ (เงินเดือนนางน้อยกว่าเราด้วยซ้ำ) ค่าแรงหักค่ารถคือนางไม่ได้อะไรเลย โคตรใจร้ายอะ แล้วเค้าก็เล่าให้ฟังว่ามีพี่ที่ก่อนหน้าเพิ่งออกก็ทำได้แค่สองเดือน พี่เค้ามาสายสองวัน โดนหักเงินไปสามพัน(เหลือไม่ถึงเก้าพัน คือพี่มีชีวิตอยู่ทั้งเดือนได้ยังง้ายยยย) ถามเฮชอาร์เชียงใหม่ก็ตอบไม่ได้ บอกว่าระบบคำนวณมาแบบนี้(?) แถมส่วนแบ่งยอดขายยังน้อยมากมีพี่ขายได้ห้าแสนแต่ได้เงินแค่พันเดียว!!! (ถ้าจริงคือขี้งกแล้วยังขี้โกงอีก...)
เราเลยโทรไปปรึกษากับกรมแรงงาน เค้าบอกว่าเราไม่มีหลักฐานอะไรเลยว่าเป็นคนของเค้าเหมือนเราทำงานคนเดียวหมดเลย สัญญาจ้าง สลิปเงินเดือน หรือบัตรตอกเวลาเข้าออกงานก็ไม่มี อยากจะเพิ่มเติมให้เจ้าหน้าที่ด้วยว่า บ.ก็ยังไม่มีในทะเบียนนิติบุคคลเลยจร้า เราเจ็บใจมากคือเรื่องเงินอะจะถือว่ารับเคราะห์ไปแต่มันเจ็บใจที่ทำอะไรไม่ได้ ถ้าอยากจะดำเนินการต้องไปที่ปทุม ซึ่งเราอยากรักษาสิทธิ์ตัวเองนะแต่ท่าทางเรื่องเยอะแน่นอนเพราะไม่มีหลักฐานและเงินที่ฟ้องก็จำนวนไม่มาก
สุดท้ายเงินเข้าแล้วค่ะ แต่เข้าแค่พันกว่าบาท (มองบน.) พ่อเราบอกอย่าไปคิดมาก รู้ตัวรึเปล่ารอดออกมาได้ก็บุญแค่ไหนแล้วซึ่งเราเห็นด้วยมากๆเลยค่ะ เราเลยขอมาระบายความโกรธแค้นด้วยการเขียนกระทู้นี้ละกัน แล้วก็เพื่อเตือนคนอื่นด้วย ขอบคุณค่ะ
ป.ล.เราคิดจริงๆนะว่าเค้าไม่บริสุทธิ์ใจอะ ถ้าจริงใจคงไม่ต้องให้เราทำเอกสารในนามเราอย่างเดียว...
ป.ล.2 ส่วนออฟฟิศก็เป็นชื่อเราค่ะ เพราะเป็น co-working space สมาชิกที่ถือบัตรเข้าได้คือเรา..
เพิ่มเติม: มีคนอยากให้แจกแจงงานที่ทำมาทั้งสัปดาห์ เราเข้ามาในตำแหน่งประสานงานค่ะ ก็ได้ทำส่วนนี้บ้างนิดหน่อยนะคะแบบดูว่าตึกนี้เป็นยังไงมีกฏอะไรบ้างถ้าคนนอกจะเข้าซึ่งก็คือลูกค้ากับคนในบ.ค่ะ และก็ส่งตยสินค้าให้ลูกค้าในกรุงเทพ
แล้วเค้าก็ให้ทำมาร์เก็ตติ้งควบคู่ไปด้วย เนื่องจากบ.Bของเราเพิ่งเปิด ตำแหน่งนี้มีเราทำคนแรก ไม่มีเพจโปรโมตก็ให้เราสร้างเพจขึ้นมาแล้วก็ประชุมวางแผนกันค่ะ อีกไม่นานจะให้เราแพ๊คโบรชัวร์ส่งให้กลุ่มลูกค้าบริเวณใกล้เคียง ละให้เราศึกษาการทำใบเสนอราคาออนไลน์(งงมากคุณพี่เขาไม่มีโปรแกรมของบ.เหรอ)แล้วมันต้องกรอกรายละเอียดบ.ตัวเอง ซึ่งพี่ๆคนอื่นไม่ทราบเลย เราจึงไปถามบอสถึงสองครั้งเค้าก็บ่ายเบี่ยงถึงสองรอบ ถึงได้รู้ว่าบ.ที่ทำอยู่ยังไม่ได้จดทะเบียนอะค่ะ
เล่าประสบการณ์ โดนหลอกเข้าไปทำงาน(ทั้งสาขามีเราคนเดียวและระบบงานแปลกมาก)
ก่อนสัมภาษณ์เราก็หาข้อมูลของบ.เลยได้รู้ว่าเปิดมาสักพักและมีเพจเฟซบุ๊กอยู่ ออฟฟิศตั้งอยู่ในสามจังหวัดคือ ออฟฟิศหลักอยู่ที่เชียงใหม่ รองลงมาปทุม และกรุงเทพจังหวัดที่เราไปสมัคร แต่เราสับสนชื่อบ.มากๆ หัวข้อเปิดรับเข้าบ.ชื่อ B แต่รายละเอียดบอกบ.ตัวเองคือห้างหุ้นส่วน C แล้วชื่อบ.ที่เชียงใหม่กับปทุมคือ บ.A 555555555555555555555555555555555555555555555555
จนเราไปสัมภาษณ์ ตึกที่บ.ตั้งอยู่เป็นตึกหรูเกรด A แม้จะไม่เป็นระบบแต่ก็น่าเชื่อถือในระดับนึง ทางเฮชอาร์ไม่มีการชี้แจงว่าต้องขึ้นไปชั้นไหนและขอพบใครเราเองที่เป็นคนถามรายละเอียด พอขึ้นไปมีคนของบ.เราคนนึงให้กรอกข้อมูลและทำแบบทดสอบเยอะมากกแล้วก็จบด้วยการสัมภาษณ์กับเจ้าของบ.ที่เป็นผญทางวิดีโอคอล (คนอื่นที่มาสัมภาษณ์เหมือนกันก็มี) เค้าบอกว่าสนใจโปรไฟล์เราเป็นคนแรกอยากได้เงินเท่าไหร่ เราก็เรียกไปมากกว่า 15k เค้าก็บอกว่าจะดูให้
ผ่านไปหนึ่งอาทิตย์เราผ่านสัมภาษณ์ (เฮชอาร์แจ้งทางไลน์แบบทักไลน์เรามาเฉยๆวันเสาร์ แล้ววันจันทร์ถึงพิมพ์ว่าเราผ่าน คือจะมาทักเฉยๆทำม้ายยยย)
แต่เงินเดือนที่ได้ไม่ถึงค่าแรงขั้นต่ำจบหม่ 15k ด้วยซ้ำ แต่เราก็ตอบรับไปก่อนเพราะถือว่าหาประสบการณ์และยังหางานอื่นทำได้อยู๋
พอไปที่ตึก เฮชอาร์นัดเราเซ็นสัญญา 9 โมงแต่คนที่เอาสัญญามาให้ (เดินทางมาจากปทุม) มาถึง 11 โมง แล้วคือทั้งสามชั่วโมงเรานั่งรออยู่คนเดียว
จนเซ็นสัญญาจ้าง หัวข้อเป็นนามบ.A (สรุปชั้นทำบ.ไหนกันแน่ฟะเนี่ย งงไปหมดแล้วโว้ยย) รายละเอียดกดขี่เรื่องเงินเดือนมากไม่เหมือนกับที่คุยกันไว้แถมยังเป็นงานสัญญาจ้างหกเดือนอีกทั้งๆที่ตอนสมัครและสัมภาษณ์ก็ไม่มีการแจ้งรายละเอียดส่วนนี้มาก่อนเลย!!! เราก็เอาวะไม่ได้จะอยู่ตลอดไปสักหน่อย เซ็นๆไปก่อน แต่เอกสารมีชุดเดียวแล้วทางเจ้าของบริษัทผชบินมาจากเชียงใหม่มารับเก็บไว้ แล้วเค้าก็พาเข้าไปดูออฟฟิศคือเป็นห้องเล็กๆมีสองโต๊ะและมีพนักงานคนเดียวคือเรา (?) คนอื่นๆที่เห็นในห้องออฟฟิศคือคนจากที่อื่น ชั้นทั้งชั้นนี้เป็นพื้นที่ co-working space แล้วเฮชอาร์ที่เราคุยในไลน์ด้วยมาตลอดคือคนจากเชียงใหม่ แม้แต่ที่ปทุมยังไม่มีเฮชอาร์ต้องติดต่อกับทางเชียงใหม่ แม่เจ้า!
หลังจากนั้นคนที่ปทุมก็กลับไป หัวหน้างานจากเชียงใหม่ก็บินกลับทิ้งเราเคว้งอยู่คนเดียว คือตอนสัมภาษณ์เค้าบอกเราว่าที่นี่ไม่มีใครคอยสอนงานนะ เราก็เออโอเค ไม่มีคน train งานก็จะพยายามทำความเข้าใจด้วยตัวเองละวะ แต่!!! แม่เจ้าโว้ยยย คือทั้งออฟฟิศมีชั้นคนเดียว!!
แล้วไม่มีการตอกบัตรเข้าออกด้วยนะ อะไรวะเนี่ยยยย แถมยังทิ้งแท๊บเล็ตให้เราเครื่องนึงไว้คุยงานแล้วบอกให้เรารีบไปซื้อซิมใส่ซะ เราก็งง ปกติไม่ใช่ว่าบ.จัดการให้เหรอ ที่นี้ซิมมันก็จะเปิดในนามของเราเองไง บัตรปชชเราเอง!
เราทนทำไปได้เกือบอาทิตย์ คือ เค้าสั่งงานผ่านทางไลน์กันหมดเลย (เด็กน้อยมาก บ.มาตรฐานเค้าไม่คุยงานทางไลน์เป็นหลักป่ะ) ทั้งออฟฟิศอุปกรณ์ก็มีแค่กระดาษ ปากกา ลิคขวิด คอม เครื่องปริ้นท์ นอกนั้นคือไม่มีอะไรเลย จนเราต้องขอเบิกเงินกับบัญชีที่อยู่เชียงใหม่แล้วลงไปซื้อเอง เจ้าของบ.ที่เป็นผู้ชายเลยทักเรามาว่าให้สั่งทางเน็ตแล้วไปเปิดบัญชีไว้เอาธนาคารอะไรให้ปรึกษากับบัญชีดู บัญช็บอกเราว่าปกติใช้ธนาคารx แต่ไม่แน่ใจว่าที่กทมใช้อะไรให้ถามบอส เราก็เอาข้อความนี้ไปบอกทางบอสเค้าก็ดูหงุดหงิดนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้คอนเฟิร์มให้เปิดกับธนาคารxนะ (แกรรรรรร ปกติบ.มันต้องมีธนาคารที่ฟิกอยู่แล้วป่ะว่าจะใช้ของอะไร นี่ให้ชั้นวิ่งโร่เอง) แล้ว!!! ที่สุดของที่สุดคือ!! เราต้องเป็นคนเปิดบัญชีในนามของเรา แล้วจะมีการทำธุรกรรมผ่านบัญชีนี้โดยถ้าจะขอเบิกเงินค่าของบัญชีจะโอนเข้าให้เราถอน แล้ววันนั้นเราก็ได้รู้ความจริงว่าบ.B ที่เราทำอยู่อะ เป็นแบรนด์ใหม่เพราะ A จะเน้นขายคนทั่วไป B คือแบรนด์ที่ยกระดับ ตอนแรกจะใช้ชื่อว่า C เลยไปจดแต่ที่นี้เปลี่ยนใจจะใช้ B แทนและยังไม่จดทะเบียน เราก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้พ่อเราฟัง เค้าเป็นห่วงเรามาก คือมันผิดปกติอะ ทั้งซิมทั้งบัญชีเป็นชื่อเรา เราตัวคนเดียวในบ.หลักฐานอ้างอิงก็ไม่มี บ.B ที่เราเข้าไปทำแม่..งก็ยังไม่จดทะเบียนเป็นบ.เลยจ้า
รุ่งเช้าเราไปออฟฟิศแล้วขอออกจากงานโดยแจ้งผ่านเฮชอาร์ทางไลน์อีกเช่นเคย -_- เค้าก็ยื้อเราคุยกับเราเรื่องเงินบ้าง ขู่ว่าที่ทำมาทั้งหมดจะได้เงินเป็นรายวันวันละสามร้อยบ้าง (เราเริ่มทำงานปลายมิถุนาหนึ่งอาทิตย์และสลิปเงินเดือนก็ออกแล้วว่าได้สามพันกว่าบาท ซึ่งเราอ่านดูแม่..งโกงไปห้าร้อย เราก็ถามเฮชอาร์เค้าก็บ่ายเบี่ยงเราก็ขี้เกียจเถียงเลยเออออไป) แล้วนี่คือวันที่ 2 เดือน กค ไปแล้ว เงินยังไม่เข้าเลยอย่าถามว่าเงินเข้าไหม บ.อะยังไม่มีบัญชีเราด้วยซ้ำ จริงๆมันควรจะขอตั้งแต่วันเซ็นสัญญาจ้างละ เราเลยแกล้งถามว่านี่คือจะได้เงินจริงๆใช่ไหม เขาบอกว่าได้แน่นอนแต่ขอเช็คอีกรอบ เราถามว่าจะเข้าบัญชีไหน เค้าถามกลับว่าส่งบัญชีอะไรให้เค้ามา เราบอกว่ายังไม่เคยส่งเลย..... (ตุ๊งแช่!)
แล้วเราบอกว่าเราจะขอกลับเลยวันนี้เราไม่เอาค่าจ้าง เค้าบอกว่าไม่ได้ตอนนี้เจ้าของบ.ผญกำลังเดินทางจากเชียงใหม่ไปกรุงเทพ เค้าจะเข้ามาคุยกับเรา ฮืออออ พ่อเราโมโหมากเราก็เหมือนกัน คือเอ็งจะให้ค่าจ้างเป็นรายวันนะโว้ย เราต่อรองกับเฮชอาร์จนเค้ายอมให้เรากลับ เรารีบกลับไปปิดซิมเลยค่ะ อันตรายมาก เกิดเรื่องอะไรขึ้นมาตรวจสอบถึงเค้าไม่ได้เลยแล้วทั้งหมดคือชื่อเรา
วันที่ 3 ก็แล้วเงินยังไม่เข้า เราเตรียมใจแล้วว่าคงไม่ได้ เฮชอาร์บอกเจ้าของบ.ผญกำลังเช็คเงิน คือจริงๆของเดือนที่แล้วก็คือของเดือนที่แล้วมั้ย เงินออกทุกวันที่สองก็ควรจะตัดรอบไปแล้วอะ เราคุยกับคนที่ปทุมที่เอาสัญญาเข้ามาให้เราเซ็นเค้าบอกว่าเค้าทำสามวันก็ออกเลย เพราะบ.จะให้เค้าเข้ามาทำงานกับเราที่กรุงเทพแล้วไม่จ่ายค่ารถให้ (เงินเดือนนางน้อยกว่าเราด้วยซ้ำ) ค่าแรงหักค่ารถคือนางไม่ได้อะไรเลย โคตรใจร้ายอะ แล้วเค้าก็เล่าให้ฟังว่ามีพี่ที่ก่อนหน้าเพิ่งออกก็ทำได้แค่สองเดือน พี่เค้ามาสายสองวัน โดนหักเงินไปสามพัน(เหลือไม่ถึงเก้าพัน คือพี่มีชีวิตอยู่ทั้งเดือนได้ยังง้ายยยย) ถามเฮชอาร์เชียงใหม่ก็ตอบไม่ได้ บอกว่าระบบคำนวณมาแบบนี้(?) แถมส่วนแบ่งยอดขายยังน้อยมากมีพี่ขายได้ห้าแสนแต่ได้เงินแค่พันเดียว!!! (ถ้าจริงคือขี้งกแล้วยังขี้โกงอีก...)
เราเลยโทรไปปรึกษากับกรมแรงงาน เค้าบอกว่าเราไม่มีหลักฐานอะไรเลยว่าเป็นคนของเค้าเหมือนเราทำงานคนเดียวหมดเลย สัญญาจ้าง สลิปเงินเดือน หรือบัตรตอกเวลาเข้าออกงานก็ไม่มี อยากจะเพิ่มเติมให้เจ้าหน้าที่ด้วยว่า บ.ก็ยังไม่มีในทะเบียนนิติบุคคลเลยจร้า เราเจ็บใจมากคือเรื่องเงินอะจะถือว่ารับเคราะห์ไปแต่มันเจ็บใจที่ทำอะไรไม่ได้ ถ้าอยากจะดำเนินการต้องไปที่ปทุม ซึ่งเราอยากรักษาสิทธิ์ตัวเองนะแต่ท่าทางเรื่องเยอะแน่นอนเพราะไม่มีหลักฐานและเงินที่ฟ้องก็จำนวนไม่มาก
สุดท้ายเงินเข้าแล้วค่ะ แต่เข้าแค่พันกว่าบาท (มองบน.) พ่อเราบอกอย่าไปคิดมาก รู้ตัวรึเปล่ารอดออกมาได้ก็บุญแค่ไหนแล้วซึ่งเราเห็นด้วยมากๆเลยค่ะ เราเลยขอมาระบายความโกรธแค้นด้วยการเขียนกระทู้นี้ละกัน แล้วก็เพื่อเตือนคนอื่นด้วย ขอบคุณค่ะ
ป.ล.เราคิดจริงๆนะว่าเค้าไม่บริสุทธิ์ใจอะ ถ้าจริงใจคงไม่ต้องให้เราทำเอกสารในนามเราอย่างเดียว...
ป.ล.2 ส่วนออฟฟิศก็เป็นชื่อเราค่ะ เพราะเป็น co-working space สมาชิกที่ถือบัตรเข้าได้คือเรา..
เพิ่มเติม: มีคนอยากให้แจกแจงงานที่ทำมาทั้งสัปดาห์ เราเข้ามาในตำแหน่งประสานงานค่ะ ก็ได้ทำส่วนนี้บ้างนิดหน่อยนะคะแบบดูว่าตึกนี้เป็นยังไงมีกฏอะไรบ้างถ้าคนนอกจะเข้าซึ่งก็คือลูกค้ากับคนในบ.ค่ะ และก็ส่งตยสินค้าให้ลูกค้าในกรุงเทพ
แล้วเค้าก็ให้ทำมาร์เก็ตติ้งควบคู่ไปด้วย เนื่องจากบ.Bของเราเพิ่งเปิด ตำแหน่งนี้มีเราทำคนแรก ไม่มีเพจโปรโมตก็ให้เราสร้างเพจขึ้นมาแล้วก็ประชุมวางแผนกันค่ะ อีกไม่นานจะให้เราแพ๊คโบรชัวร์ส่งให้กลุ่มลูกค้าบริเวณใกล้เคียง ละให้เราศึกษาการทำใบเสนอราคาออนไลน์(งงมากคุณพี่เขาไม่มีโปรแกรมของบ.เหรอ)แล้วมันต้องกรอกรายละเอียดบ.ตัวเอง ซึ่งพี่ๆคนอื่นไม่ทราบเลย เราจึงไปถามบอสถึงสองครั้งเค้าก็บ่ายเบี่ยงถึงสองรอบ ถึงได้รู้ว่าบ.ที่ทำอยู่ยังไม่ได้จดทะเบียนอะค่ะ