สวัสดีค่ะ สมาชิกพันทิป
ไม่รู้ว่าเรื่องราวต่อไปนี้จะถือว่าเป็นปัญหาของสะใภ้หรือเปล่า หรือเราเห็นแก่ตัวเกินไปหรือเปล่า
เราแต่งงานแล้วค่ะ สามีเราเป็นลูกชายคนเดียวของบ้าน มีน้องสาว 1 คน ซึ่งแต่งงานไปแล้วเหมือนกัน
ทางบ้านสามีพ่อแม่ไม่ได้ทำงานค่ะ มีแต่ช่วยธุรกิจที่สามีเราทำอยู่เล็กน้อย และสามีเองก็ให้เงินพ่อแม่ทุกเดือนร่วมกับน้องสาวเค้า
แต่ในรายการจิปาถะอื่นๆ สามีเราเป็นคนออกค่าใช้จ่ายให้พ่อแม่เค้าหมด น้องสาวไม่เคยมาดูแลเลย
มีวันนึงเนื่องด้วย COVID 19 ระบาด ทำให้น้องสาวเค้าไม่มีงานทำ โทรมาร้องไห้กับแม่เค้าว่าไม่มีเงิน
แม่เค้าสงสาร เลยเสนอธุรกิจที่สามีเราทำอยู่ให้ลูกสาวตัวเอง ทั้งๆที่สามีเรากำลังจะดาวน์รถใหม่เพื่อนำมาใช้
ต่อยอดขยายธุรกิจของเค้า เรารู้สึกไม่พอใจพ่อแม่สามีมากเลยค่ะ เพราะสามีเราเค้าสร้างธุรกิจนี้มากับมือเค้า
เราอยู่ตั้งแต่เริ่มซึ่งเค้าลำบากมาก ขยันมาก แล้วพอมันได้ดี กลับเสนอให้ลูกสาวตัวเอง ทั้งๆที่ลูกชายเค้า
ก็กำลังสร้างครอบครัวอยู่ ไหนภาระผ่อนบ้าน ผ่อนรถยน์ และมีค่าใช้จ่ายอื่นๆที่ให้พ่อแม่มาโดยตลอด ส่วนตัวเราช่วยค่าใช้จ่ายภายในบ้าน
ตัวน้องสาวไม่มาดูแลอะไรพ่อแม่เลย ตัวน้องสาวก่อน COVID อยู่สุขสบายสามีเลี้ยงทั้งคู่ใช้ชีวิตหรูหรา เที่ยวต่างประเทศ ใช้กระเป๋า
แบรนด์เนม มีแต่สามีเราที่คอยดูแลอยากได้นั่นอยากได้นี่ ถ้าไม่เหลือบากกว่าแรงสามีเราให้หมด พ่อแม่สามีเราไม่เคยไปขอลูกสาวเค้าเลย
ทั้งๆที่ลูกสาวใช้ชีวิตสุขสบายกว่ามาก.. จัดงานแต่งใหญ่โต แต่งานแต่งเราสามีเราเป็นคนเก็บค่าเงินเพื่อเป็นสินสอดทั้งหมด เราจ่ายในส่วนของพรีเว็ด
และค่าจัดงานซึ่งเป็นงานเล็กๆ วันงานเราก็ไม่พอใจเพราะพ่อแม่สามีไม่มาช่วยต้อนรับแขกเลย นั่งเฉยๆอยู่ที่โต๊ะ หรือเพราะงานมันเล็กกันนะ....
ในขณะที่งานลูกสาวจัดงานใหญ่โตลุกเดินไหว้แขกทุกโต๊ะ งานเราพ่อแม่เราทำหมด...
ตอนนี้เราคิดจะมีลูกซึ่งหากมีลูกรายจ่ายจะยิ่งเยอะกว่านี้ แต่เราคิดหนักมากเพราะเท่ากับว่าสามีเราก็ต้องทำงานหนักขึ้น เพราะภาระที่เลี้ยงดูพ่อแม่เค้า
ไหนค่าใช้จ่ายอื่นๆอีก น้องสาวไม่ช่วยอะไรเลย เราหวังอยากให้เค้าเริ่มเก็บเงินเพื่อลูกซึ่งเรากำลังเก็บ เหมือนเราพยายามเก็บอยู่ฝ่ายเดียว
พ่อแม่เค้า น้องสาวเค้า คิดแต่มีเงินก็ใช้เงิน อยากได้อะไรอยากไปไหน "เดี๋ยว..(ชื่อสามี)..จ่ายเอง มีมากก็ใช้มาก" << อันนี้เป็นประโยคที่หลุดออกมาจากปากพ่อเค้า พ่อแม่เค้าไม่คิดเลยว่าลูกชายต้องเก็บเงินสร้างครอบครัว มีแต่ "..(ชื่อสามี)...หาเงินได้เยอะ เดี๋ยวจ่ายได้ๆ.." สามีเราก็ปฏิเสธพ่อแม่ไม่เป็น
เราเลยมีความคิดว่าใจนึงอยากมีลูก อีกใจก็ไม่อยากมีเพราะรู้สึกว่าจะเป็นปัญหาในอนาคตหรือเปล่า ภาระเยอะ เกิดความเครียด ทะเลาะกันใหญ่
พอไปเที่ยวกันพ่อแม่ น้องสาวไปด้วย สามีก็รับภาระจ่ายค่าเดินทาง ค่าที่พักต่างๆให้พ่อแม่เค้า น้องสาวไม่ช่วยอะไรเลย
เราเห็นว่ามันเยอะไป เราเลยไม่ไปดีกว่าเพื่อประหยัดเงินสักคน ให้เค้าได้ทำหน้าที่ลูกพาพ่อแม่เที่ยว เค้ากลับมายึดติดเรา ทะเลาะกับเรา ยกเลิกงานไปซะอย่างนั้น แล้วพาลโกรธ ไม่พูดกับเราเค้าไม่เคยเข้าใจเราเลย เราทะเลาะเรื่องการเรียกร้อง เรื่องความคิดการใช้เงินของพ่อแม่ น้องสาวเค้ามาตลอด
อยากให้เค้าปฏิเสธพ่อแม่บ้าง เพราะปกติเค้าก็ให้เงินไว้ใช้ตลอด รวมถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆที่พ่อแม่เค้าเรียกร้อง
....เราไม่อยากรู้สึกว่าเราเป็นฝ่ายเก็บเงินเพื่อสร้างครอบครัวของเราอยู่ฝ่ายเดียว.....
ยาวมาก ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้นะคะ แค่อยากระบาย
....หรือเราควรออกมาจากชีวิตเค้าดีคะ หรือเราเป็นฝ่ายที่เรียกร้องมากเกินไป.....
....หรือเราเป็นฝ่ายที่ไม่เข้าใจ.....
ครอบครัวสามี....เฮ้อ
ไม่รู้ว่าเรื่องราวต่อไปนี้จะถือว่าเป็นปัญหาของสะใภ้หรือเปล่า หรือเราเห็นแก่ตัวเกินไปหรือเปล่า
เราแต่งงานแล้วค่ะ สามีเราเป็นลูกชายคนเดียวของบ้าน มีน้องสาว 1 คน ซึ่งแต่งงานไปแล้วเหมือนกัน
ทางบ้านสามีพ่อแม่ไม่ได้ทำงานค่ะ มีแต่ช่วยธุรกิจที่สามีเราทำอยู่เล็กน้อย และสามีเองก็ให้เงินพ่อแม่ทุกเดือนร่วมกับน้องสาวเค้า
แต่ในรายการจิปาถะอื่นๆ สามีเราเป็นคนออกค่าใช้จ่ายให้พ่อแม่เค้าหมด น้องสาวไม่เคยมาดูแลเลย
มีวันนึงเนื่องด้วย COVID 19 ระบาด ทำให้น้องสาวเค้าไม่มีงานทำ โทรมาร้องไห้กับแม่เค้าว่าไม่มีเงิน
แม่เค้าสงสาร เลยเสนอธุรกิจที่สามีเราทำอยู่ให้ลูกสาวตัวเอง ทั้งๆที่สามีเรากำลังจะดาวน์รถใหม่เพื่อนำมาใช้
ต่อยอดขยายธุรกิจของเค้า เรารู้สึกไม่พอใจพ่อแม่สามีมากเลยค่ะ เพราะสามีเราเค้าสร้างธุรกิจนี้มากับมือเค้า
เราอยู่ตั้งแต่เริ่มซึ่งเค้าลำบากมาก ขยันมาก แล้วพอมันได้ดี กลับเสนอให้ลูกสาวตัวเอง ทั้งๆที่ลูกชายเค้า
ก็กำลังสร้างครอบครัวอยู่ ไหนภาระผ่อนบ้าน ผ่อนรถยน์ และมีค่าใช้จ่ายอื่นๆที่ให้พ่อแม่มาโดยตลอด ส่วนตัวเราช่วยค่าใช้จ่ายภายในบ้าน
ตัวน้องสาวไม่มาดูแลอะไรพ่อแม่เลย ตัวน้องสาวก่อน COVID อยู่สุขสบายสามีเลี้ยงทั้งคู่ใช้ชีวิตหรูหรา เที่ยวต่างประเทศ ใช้กระเป๋า
แบรนด์เนม มีแต่สามีเราที่คอยดูแลอยากได้นั่นอยากได้นี่ ถ้าไม่เหลือบากกว่าแรงสามีเราให้หมด พ่อแม่สามีเราไม่เคยไปขอลูกสาวเค้าเลย
ทั้งๆที่ลูกสาวใช้ชีวิตสุขสบายกว่ามาก.. จัดงานแต่งใหญ่โต แต่งานแต่งเราสามีเราเป็นคนเก็บค่าเงินเพื่อเป็นสินสอดทั้งหมด เราจ่ายในส่วนของพรีเว็ด
และค่าจัดงานซึ่งเป็นงานเล็กๆ วันงานเราก็ไม่พอใจเพราะพ่อแม่สามีไม่มาช่วยต้อนรับแขกเลย นั่งเฉยๆอยู่ที่โต๊ะ หรือเพราะงานมันเล็กกันนะ....
ในขณะที่งานลูกสาวจัดงานใหญ่โตลุกเดินไหว้แขกทุกโต๊ะ งานเราพ่อแม่เราทำหมด...
ตอนนี้เราคิดจะมีลูกซึ่งหากมีลูกรายจ่ายจะยิ่งเยอะกว่านี้ แต่เราคิดหนักมากเพราะเท่ากับว่าสามีเราก็ต้องทำงานหนักขึ้น เพราะภาระที่เลี้ยงดูพ่อแม่เค้า
ไหนค่าใช้จ่ายอื่นๆอีก น้องสาวไม่ช่วยอะไรเลย เราหวังอยากให้เค้าเริ่มเก็บเงินเพื่อลูกซึ่งเรากำลังเก็บ เหมือนเราพยายามเก็บอยู่ฝ่ายเดียว
พ่อแม่เค้า น้องสาวเค้า คิดแต่มีเงินก็ใช้เงิน อยากได้อะไรอยากไปไหน "เดี๋ยว..(ชื่อสามี)..จ่ายเอง มีมากก็ใช้มาก" << อันนี้เป็นประโยคที่หลุดออกมาจากปากพ่อเค้า พ่อแม่เค้าไม่คิดเลยว่าลูกชายต้องเก็บเงินสร้างครอบครัว มีแต่ "..(ชื่อสามี)...หาเงินได้เยอะ เดี๋ยวจ่ายได้ๆ.." สามีเราก็ปฏิเสธพ่อแม่ไม่เป็น
เราเลยมีความคิดว่าใจนึงอยากมีลูก อีกใจก็ไม่อยากมีเพราะรู้สึกว่าจะเป็นปัญหาในอนาคตหรือเปล่า ภาระเยอะ เกิดความเครียด ทะเลาะกันใหญ่
พอไปเที่ยวกันพ่อแม่ น้องสาวไปด้วย สามีก็รับภาระจ่ายค่าเดินทาง ค่าที่พักต่างๆให้พ่อแม่เค้า น้องสาวไม่ช่วยอะไรเลย
เราเห็นว่ามันเยอะไป เราเลยไม่ไปดีกว่าเพื่อประหยัดเงินสักคน ให้เค้าได้ทำหน้าที่ลูกพาพ่อแม่เที่ยว เค้ากลับมายึดติดเรา ทะเลาะกับเรา ยกเลิกงานไปซะอย่างนั้น แล้วพาลโกรธ ไม่พูดกับเราเค้าไม่เคยเข้าใจเราเลย เราทะเลาะเรื่องการเรียกร้อง เรื่องความคิดการใช้เงินของพ่อแม่ น้องสาวเค้ามาตลอด
อยากให้เค้าปฏิเสธพ่อแม่บ้าง เพราะปกติเค้าก็ให้เงินไว้ใช้ตลอด รวมถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆที่พ่อแม่เค้าเรียกร้อง
....เราไม่อยากรู้สึกว่าเราเป็นฝ่ายเก็บเงินเพื่อสร้างครอบครัวของเราอยู่ฝ่ายเดียว.....
ยาวมาก ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้นะคะ แค่อยากระบาย
....หรือเราควรออกมาจากชีวิตเค้าดีคะ หรือเราเป็นฝ่ายที่เรียกร้องมากเกินไป.....
....หรือเราเป็นฝ่ายที่ไม่เข้าใจ.....