ล่าแสงเหนือรอบเกาะIceland 10 วัน + ค่าใช้จ่ายหลักหมื่น พร้อมลายแทง

ถ้าพูดถึงการล่าแสงเหนือแน่นอนว่าหนึ่งในประเทศที่จะไม่เอ่ยถึงไม่ได้คือไอซ์แลนด์ ทริปนี้ไปมาเมื่อพฤศจิกายนปลายปีที่แล้วนะคะแต่เพิ่งมีโอกาสได้เขียน อิอิ ไกด์ของเราแนะนำว่าช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่ควรมาเที่ยวไอซ์แลนด์ในช่วงหน้าหนาวคือเดือนกันยายนเพราะลมไม่แรงมากและมีเวลาที่พระอาทิตย์ขึ้นยาวนานกว่าเดือนพฤศจิกาที่เราไปเพราะพระอาทิตย์มาแค่ 8 ชั้วโมง ท้ายๆทริปนี้เหลือแค่หกชั้วโมงเองค่ะ
-Iceland เป็นประเทศเล็กๆในแถบยุโรป แต่ค่าครองชีพไม่เล็กเลย เพราะเป็นประเทศที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดครองแชมป์ยุโรปจ้า มีประชากรทั้งหมดไม่ถึง 4 แสนคน ตั้งอยุ่ระหว่าง Greenland กะ Norway. 
-Iceland ในช่วงหน้าหนาว เป็นช่วงที่พระอาทิตย์ขึ้นต่ำสุดแค่ประมาณ 4 ชั่วโมง!! ขึ้นมาSay hi พอให้รู้ว่าเอ้อออฉันยังอยุ่นะไม่ได้ไปไหนแล้วก็ตก 
-Iceland ในช่วงหน้าร้อนน๊านนน พี่พระอาทิตย์ก็จะอยุ่แบบยาวๆ แทบจะไม่ไปไหนเลย มาตั้ง 21 ชั้วโมงแหน่ะ มาทำอะไรนานๆคนจะนอน อิอิ
-Iceland เป็นประเทศที่ลมแรงมากกโดยเฉพาะในช่วงหน้าหนาว แรงถึงขนาดที่ควั้มรถได้ทั้งคัน!! ถ้าใครคิดว่ามาเที่ยวIceland จะเช่ารถขับรอบเกาะสวยๆดูแสงเหนือไปเรื่อยๆ ค่ำไหนนอนนั่น!! เดี่ยวก่อน!! คิดใหม่? อ่านรีวิว เช็กสภาพอากาศดีๆ เพราะดิฉันก็คิดแบบนั้นตอนแรก555 แนะนำว่าไปกะทัวร์ดีกว่าแพงหน่อยแต่ก็คุ้ม อย่างน้อยคนในพื้นที่เค้าก็คุ้นชินกะอากาศบ้านเค้ามากกว่าเรา #ปลอดภัยไว้ก่อน 
อยากจะบอกก่อนว่าทริปนี้เราเดินทางจากซานฟานซิสโกนะคะ เพราะอาศัยอยู่ที่อเมกาจ้า
Day 1st Downtown Reykjavík, Iceland
วันแรกทางเราก็จะชิวๆหน่อยเพราะยังมีอาการ Jet leg อยู่ เดินรอบเมืองถ่ายรูปไปเรื่อยๆ ในเมืองคือหน้ารักๆเล็กๆ คนก็ชิว สัตว์ก็ชิวดูไม่รีบร้อนร้อนไม่แออัดคือเงียบสงบจริงๆ สมกับการมาเวเคชั่นจริงๆ

Day 2 Iceland เที่ยวรอบเกาะวันแรก
- เช็กเอ้าท์โรงแรมตอน 8 โมงเช้า เดินมาขึ้นรถที่ป้ายรถเมล์ตามที่เราได้นัดแนะกะทัวร์ไว้ ทั้งฝนตก ทั้งลม ทั้งมืดเพราะพระอาทิตย์ขึ้นตอน 10 โมงเช้า
 คือลำบากมากกก
-ถ้ามาไอซ์แลนด์สิ่งที่ต้องมีเลยคืออุปกรณ์กันฝน เสื้อกางเกงรองเท้ากันฝนต้องมา ร่มเอาไม่อยุ่จ๊ะเพราะลมก็แรงเดี่ยวจะพาเราโบยบินได้
-9 โมงเช้ารับลูกทัวร์ครบทุกคน พร้อมออกเดินทาง พิกัด ใต้ภาพเลยจ๊ะ ปักหมุดเก็บไว้รอสาในอนาคตพาไปเลยจ๊ะ
-ถ้าใครคิดว่าอยากจะมาเที่ยว มีตังในกระเป๋าแต่ขาดคนไปด้วย คิดผิดค่ะฉายเดี่ยวเลยมาหาเพื่อนใหม่ข้างหน้า เพราะคนที่มากรุ๊ปเดียวกันคือฉายเดี่ยวกันเยอะมาก กราบใจ ดีไม่ดีอาจจะได้คู่กลับบ้าใครจะไปรู้

Thingvellir National Park


Black sand beach


 


Skogafoos


Rangarbing Eystra


Geysir


Blasgogabyggo


Day 3 Iceland ❤we’re on top of the earth
- เริ่มต้นวันที่ 3 ด้วยการตื่นแต่เช้าตี4 จ้า เนื่องจากยัง Jet lag กันอยุ่ โดยที่เอาๆจริงๆวันนี้ก็ไม่รู้ว่าไกด์จะพาไปไหน อารมณ์แบบเออๆไปไหนก็ไปว่ะ แต่ที่รู้ๆคือวันนี้ฝนไม่ตก อากาศดี ตั้งแต่ขับรถออกจากโรงแรมมา 2 ข้างทางรายล้อมไปด้วยภูเขา คือเป็นประเทศที่สวยมากมากกก ไม่สามารถละสายตาได้แม้แต่วินาทีเดียว.

-จุดแรกเลยที่ไกด์พามาวันนี้เลยคือ Diamond beach พอจอดรถปุ๊บระรานตาเต็มไปด้วยก้อนน้ำแข็งเรียงรายตามชายหาด บวกกับพระอาทิตย์ที่ขึ้นแบบไม่สุด ขึ้นประมาณแค่45 องศา ไม่ว่าจะเช้าสาวบ่ายเย็นก็จะอยุ่ที่เดิม แสงอาทิตย์สะท้อนกะน้ำแข็งคือเป็นอะไรที่ Amazing Iceland มากๆ


-จุดที่2 คือ Jökulsárlón อยุ่ห่างจาก Diamond beach 3 นาที ก็คือแม่น้ำสายเดียวกันแหล่ะแค่ขับรถข้ามสะพานมาอีกฝั่งนึง ก็จะเป็น Glacier ระรานตาอีกเช่นเคยหาคำบรรยายไม่ได้ เลื่อนลงไปดูภาพแล้วให้ภาพบรรยายละกัน❤


-จุดสุดท้ายที่พีคที่สุดของวันนี้คือ Ice Cave จะบอกว่าจะเข้ามาที่นี่ได้ต้องมากะทัวร์เท่านั้น ไม่สามารถเข้ามาได้เองเด็ดขาดทั้งถนนหนทาง อุปกรณ์ความปลอดภัย รถก็ต้องเป็น4x4 สูงๆคันใหญ่ๆที่ไม่ใช่ 4x4 ที่เราเห็นตามท้องถนนธรรมดา เพราะบางช่วงเป็นหลุมน้ำใหญ่ๆลึกประมาณเลยเข่าขึ้นมาได้เลย ขับรถเข้าไปประมาณ 20 นาที แล้วก็เดินต่อเข้าไปอีก30 นาที ตรงนี้จะหนาวกว่าข้างนอกหน่อย เพราะลมจะแรง อุปกรณ์กันหนาวต้องพร้อม รองเท้า Hiking กันน้ำต้องมี เพราะมีบางคนที่ใส่รองเท้าธรรมดาคือพลาดมากเพราะมันจะเปียกแล้วก็หนาวมว๊วกกกก.

รถนำทางของเราสูงมากๆต้องปีนขึ้นจ้า



-อยากจะบอกว่าถ้าอยากเห็นสามสิ่งนี้คือต้องมาให้ถูกเวลา อย่าง Ice cave กะ Diamond Beach ต้องมาหน้าหนาวเท่านั้นถึงจะได้เห็น อย่าง Ice caveในแต่ละปีไกด์บอกว่ารูปร่างก็จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆไม่เหมือนเดิม. คือจะได้เห็นอะไรแบบนี้ดวงต้องดีด้วย เพราะวันนี้ฝนไม่ตกอากาศดี ฉันว่าฉันโชคดีแหล่ะวันนี้ อิอิ❤ นี่ก็นึกไม่ออกเหมือนกันว่าถ้าวันนี้ฝนตกเหมือนเมื่อวานฉันจะทำยังไง ฉันต้องพลาดที่จะได้เห็นสามสิ่งนี้หรอ ถ้ามาแล้วไม่ได้เห็นคือมาไม่ถึงไอซ์แลนด์เด้อ.

Day 4&5 way way up north in the middle of no where.
-ออกจาก hofn town มุ้งหน้าสู่ทางตอนเหนือของ Iceland พอออกจากที่นี่ก็จะเป็น ธรรมชาติล้วนๆ ตลอด2 ข้างทางคือเต็มไปด้วยภูเขาสูงปกคลุมด้วยหิมะ ข้างซ้ายภูเขา ข้างขวาทะเล ทุกวันเราจะออกเดินทางกันแต่พระอาทิตยังไม่ขึ้น เพราะพระอาทิตย์ที่นี่ขึ้นเกือบสิบโมงเช้า ก็เลยได้มีโอกาสได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นแบบไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน เอ่ะหรือว่าเราตื่นไม่เคยทันพระอาทิตย์ขึ้นกันแน่ว๊าาา555 ตามทางไกด์ก็จอดพา Hiking (เดินป่า) บ้างชมวิวถ่ายรูปดูน้ำตก ประเทศนี้เป็นประเทศที่มีน้ำตกสวยๆเยอะมากกก.



-ทางระหว่างเมือง Egilsstaoir ไปเมือง Reykjahlio คือเหมือนขับรถอยุ่บนสวรรค์ มองไปไกลสุดลูกหูลูกตาเป็นลานหิมะกว้างๆ เหมือนเรามองออกไปในทะเลไม่มีที่สิ้นสุด บวกกับพระอาทิตย์ขึ้น คือสวยมากกกก.

- ถ้าใครจะมาหน้าหนาวแล้วอยากขับรถรอบเกาะเอง บอกเลยว่าไม่แนะนำ เพราะทางค่อนข้างแคบ + ลม บางช่วงเป็นทางลูกลัง ขึ้นเขาถนนเป็นน้ำแข็งแนะนำให้มากะทัวร์เพื่อความปลอดภัย แต่ถ้าใครอยากจะขับรถเองอยากประหยัดหรือด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม แนะนำว่า 4x4 WD เท่านั้น และต้องเคยขับรถบนหิมะที่ถนนเป็นน้ำแข็งถึงจะอยู่รอดปลอดภัยจากที่นี่นะจ๊ะ

เดี่ยวมาต่อจ้า
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่