สวัสดีคะ วันนี้เราอยากเล่าเรื่องราวชีวิตหลังแต่งงานที่ต้องย้ายเข้าไปอยู่กับทางบ้านของสามี
เรากับสามีคบกันมา4ปีก่อนจะแต่งงาน สามีเราเป็นครอบครัวคนไทยเชื้อสายจีน เป็นลูกชายคนเดียวแต่มีพี่สาวและน้องสาวตอนนี้อยู่ ตปท. หมด เหลือแค่สามีคนเดียวที่ช่วยธุรกิจของครอบครัว
ปัญหามันอยู่ที่เรากับแม่สามีไม่ค่อยลงรอยกันตั้งแต่ก่อนแต่งงานแล้ว เราเคยถอดใจบอกเลิกกันไปหลายครั้งเพราะเรามองปัญหาที่จะเกิดขึ้นตามมาภายหลังออก แต่สามีก็จะปลอบใจเสมอว่าเราจะสามารถผ่านมันไปได้
ช่วงคบกันแรกๆ เค้าจะด่าแฟนเก่าสามีให้เราฟังเยอะมาก ด่าหยาบคายมาก แต่เราไม่ได้คิดอะไร คงตามประสาคนไม่ถูกกัน
มีครั้งนึงคบกันแรกๆ แม่สามีเรียกเราไปคุย ถามว่าอยากแต่งหรือยัง เราก็ตอบไปตามตรงว่าดูกันไปเรื่อยๆก่อนก็ได้คะ หนูไม่รีบ แต่เค้าไปบอกสามีเราว่า เราพูดแบบนี้คือไม่ได้จริงใจนะ คบเผื่อเลือกไป จะให้เราตอบยังไงถ้าเค้าถามแบบนี้ อยากแต่งคะ อยากแต่งมากงี้หรอคะ
ก่อนแต่งงานไม่กี่วันแม่สามีป่วยหนักถึงขึ้นเรียกเราไปสั่งเสีย พอเราไปถึงเค้าพูดว่า เราเกิดปีลิงจะไปแย่งกินแย่งใช้ ดวงไม่ถูกกับพ่อสามีและสามีจะทำให้ทุกคนแย่ลง เราไม่ใช้เนื้อคู่กันหรอก เนื้อคู่สามีจริงๆจะมาตอนอายุ 45( สามีเพิ่ง30) เราขับรถกลับบ้านทั้งน้ำตา แต่ตอนนั่นงานแต่งได้เตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว
แม่สามีเราเป็นคนค่อยข้างประหยัด เสื้อเค้าจะใช้มือ2ตัวละ20-30 เค้าชอบบอกว่าเราติดหรูใช้แต่ของแพง แต่จริงๆแล้วเราใช้ธรรมดาแบบที่ทุกคนใช้กัน เสื้อ250 สำหรับเค้าคือแพงมาก เวลาเราแต่งตัวจะถามว่าเท่าไหร่ๆ แล้วจะพูดว่า นี่ๆ ของเค้าซื้อมา 20-30 เอง แต่ซื้อทีเป็นพันๆคะ ที่บ้านไม่มีที่จะเก็บแล้วกองใหญ่กว่าภูเขาไฟฟูจิอีก
หลังแต่งงานเราย้ายเข้าไปอยู่กับเค้า สิ่งแรกที่เราเจอเลย เราไปซื้อของกันสามี น้องสามีกลับมาแม่เค้าก็มาค้นๆถุงช้อปปิ้งว่าซื้อไรมาบ้าง ไปเจอชุดนอนsale h&m 150 บาท ก็ขำแล้วบอกว่ากุซื้อ10 บาทเองแบบเนี่ย ค้นๆต่อไป เอาโน้นมาถามเท่าไหร่ จนสามีเราพูดว่าแม่จะมาค้นของเราทำไม เค้าโกดมากเค้าบอกจะดูของน้องสาวก็คือลูกสาวเค้าแหละ ไม่ได่ตั้งใจค้นของเรา พร้อมกับชี้หน้าเราแล้วพูดว่า ผู้หญิงคนนี้จะทำให้
ครอบครัวของเราแตกกัน นี้คือจุดเริ่มต้นคะ
แต่งเข้าไปจากที่เราไม่เคยทำงานบ้านเลยเพราะบ้านเรามีแม่บ้าน ไปอยู่บ้านสามีต้องทำทุกอย่างคะ ตื่นเช้า กวาดบ้านถูกบ้าน หุงข้าวไปตลาด ล้างห้องน้ำ เช็ดฝุ่น เสร็จงานบ้านไปนั่งทำบัญชีต่อหน้าบ้านซึ่งโอเค มันคือหน้าที่ของลูกสะใภ้เราเข้าใจดี
ช่วงแรกเวลาไปกินข้าวนอกบ้านกัน แม่สามีจะพูดกับน้องสาวตลอดรีบกินนะ เดี๋ยวเราแย่งกินพร้อมทั้งตักกับข้าวใส่จานน้องด้วย เราเข้าใจคะว่าหยอกล้อเล่นแต่เล่นทุกมื้อคะ สั่งกุ้งเผามากินกันจะพูดหยอกว่ากินแค่3ตัวพอนะ อย่ากินเยอะ ซึ่งมื้อนั่นเรากินตัวเดียวคะ แล้วบอกเราอิ่มแล้ว ขึ้นไปร้องไห้ในห้องนอน
แม่สามีชอบกินทุเรียนมากคะ ซื้อทุเรียนมากินแต่แอบกินตอนที่เราไม่อยู่ เราก็ไม่ได้ใส่ใจนะคะ พอเวลาผ่านไป กินไม่ได้หมดหรือไม่อร่อยหรือจะเน่าแล้วจะเอาออกมาแล้วบอกว่า กินได่นะลูกกินได้เลย ขนมอื่นๆก็เช่นกัน มีครั้วนึงเราซื้อกล้วยมากิน เค้าจะเด็ดเอาแต่ลูกสวยๆ ไปห่อกระดาษแช่เย็นไว้ เหลือแต่ลูกเน่าๆ ดำๆให้เรากิน
แม่สามีชอบค้นห้องนอนคะ ตอนแรกไม่ได้ล็อคห้องเพราะหากุนแจไม่เจอจะเข้าไปดูว่าเราใช้อะไรยี่ห้ออะไร แล้วถ่ายรูปไปถามลูกสาวเค้าว่าเท่าไหร่กี่บาท ชอบค้นสมุดบัญชีธนาคารว่าสามีเรามีเงินเท่าไหร่ เอาเงินให้เรารึป่าว
หลังๆเรื่องมันยิบๆย่อยๆมาก จนบางทีเราไม่รู้ว่าแม่สามีไม่พอใจเราเรื่องอะไร แต่จะรุ้ได่จากการกระทำปึ้งๆปังๆ ไปลงกับข้าวของให้เราเห็นคะ แรกเราร้องไห้แทบทุกวัน อยากกลับบ้านมาก คิดถึงพ่อแม่ ไม่เคยเจออะไรแบบนี้ด้วยคะ
ธุรกิจบ้านสามีจะเป็นกงสีคะ เรากับแฟนกินเงินเดือนกัน เรากินใช้ในกองกลาง เราจะนั่งเฝ้าโต๊ะบัญชีทั้งวันบ้านแฟนทำร้านซ่อมรถ ฝุ่น ควัน บุหรี่ สารตะกั่วเราก็ต้องนั่งให้ได้ บางทีเราเหม็นจนไม่ไหวเข้าไปหลบในห้องกระจกเค้าเปิดละครไว้ เราก็นั่งดูกับแม่สามีด้วยเพราะเห็นว่าหน้าร้านไม่มีอะไร เค้าจะเปลี่ยนช่องละครหนีเราทันที ที่เราเข้าไปนั่งคะ 555555
มีครั้งนึงเราวิ่งซื้ออะไหล่รถด้วยความที่เราใหม่มากกับเรื่องพวกนี้ บ้านเราขายของชำธรรมดาคะ เราไปซื้อมาผิด แล้วไม่ใช่ความผิดของเราคะ ร้านอะไหล่หยิบให้เราผิด แม่สามีออกมาด่า เค้าบอกให้เป็นหมาก็เป็นหมาหรอ เค้าบอกให้เป็นควายก็เป็นควายหรอ พร้อมขว้างของลงพื้น เราถึงกับนั่งร้องไห้เลยคะ พอนั่งร้องไห้หน้าบ้าน เค้าเรียกเราเข้าไปข้างใน บอกว่าอยากให้คนอื่นเห็นหรอว่า แม่ผัวบ้านนี้รังแกลูกสะใภ้
ก่อนแต่งงานเค้ายกที่ดินให้สามี1แปลงคะ พอหลังแต่งงานเค้าบอกว่าขอคืนได้มั้ย เพราะเค้ากลัวสามีจะโอนเป็นชื่อเรา เราก็บอกเค้าไปไม่ต้องกลัวนะคะ เราไม่เอาของเค้าสักบาทเลยคะ เราพูดตรงกับความคิดของเค้าไปหมดทุกอย่าง รู้ทันความคิดเค้าหมด จนเค้าบอกว่าเราแอบติดเครื่องดักฟังเค้า
แม่สามีเป็นคนที่ต้องได้รับการเอาใจต้องชมตลอดคะ ถ้าเราทำกับข้าวแล้วไม่ถามเค้า ไม่ปรึกษาเค้าว่าทำยังไงเราตักไปวางไว่ที่โต๊ะเฉยๆ เค้าก็จะไม่กินของเราคะ จะบอกว่าเก็บไปเถอะ เค้าไม่ชอบกิน หรือรูปแต่งงานที่เราล้างมาแล้วตั้งไว้บนโต๊ะให้เค้าดู เค้าจะไม่ยอมดูถ้าเราไม่พูดว่า แม่หนูล้างรูปมานะคะ ให้แม่ดูคะ
หนักขึ้นเรื่อยๆเราเริ่มคิดว่าแม่สามีเราป่วยรึป่าว อาการเค้าไม่เหมือนคนปกติทั่วไป บางทีไม่พอใจอะไรยืนถือมีดหัวเราะคนเดียว เตะข้าวของตามพื้น จนพ่อสามีแอบบอกว่าพาไปพบหมอจิตแพทย์มา หมอให้ยามากินคะ แต่เค้าไม่ยอมกินเพราะเค้าบอกเค้าไม่ได้บ้า
อาการเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ จับจ้องเราทุกการกระทำ เราเดินไปทางไหนจะหันเก้าอี้มองตามทันทีเราขึ้นไปบนห้องนอนจะขึ้นตามเราทันที ซึ่งเราอึดอัดมากๆๆ เพราะบอกให้สามีพาเราออกไปข้างนอกบ่อยๆ เราเครียดมาก
มีอยุ่วันนึงทะเลาะกันลูกสาวของตัวเอง ตบหน้าลูกสาวไป3ที ลูกสาวลุกขึ้นมาสู้กันดึงผมจิกหัวกันไปมา เราล้างจานอยู่ตกใจมาก แม่ลูกเค้าทำกันได้ขนาดนี้เลยหรอ วันต่อมารักกันเหมือนเดิมคะ พร้อมทำหน้าใส่เราแบบไม่เห็นเป็นไรเลยเรื่องแค่นี้
มาถึงตอนที่เราท้องคะ เราแพ้ท้องหนักมาก อ้วกแทบทั้งวัน สามีไล่เราขึ้นห้องเพราะตรงที่เรานั่งมันเป็นสารเคมีคะ เค้าจะบอกเราเอาแต่ขึ้นห้องไปนอน ไม่ทำไรเลยวันๆนึง เราเลยขอเค้าทำห้อกระจกกั้นโต๊ะบัญชีเราจะได้นั่งทำงานด้วยได้ เค้าไม่ยอม บอกว่าเค้ายังนั่งอยู่ได้มาเป็นสิบๆปี จนเค้าเป็นมะเร็งโพรงจมูกคะ เค้ายังทนได้เลย ในใจเราคิดว่าแล้วเค้าต้องการให่เราเป้นแบบนั่นตามเค้าไปหรอ
เราทำหน้าที่เหมือนเดิมทุกวัน ยันใกล้คลอด ขับรถซื้อของ ให้แม่สามีน้องสามีทั้งวัน อยากกินอะไรเราท้องแก่ๆต้องขับรถไปซื้อให้ตลอด จนคนขายบอกว่าโทรมาสั่งได่นะ เค้ามาส่งให้เพราะสงสารคะ เรากลับไปบอกเค้าว่าโทรสั่งได่นะ แม่สามีตอบ อ้อแล้วไง จบคะ
เรามีภาวะเลือดออกตอน6-7 เดือนเพราะเดินมาก เรากลับมาอยุ่บ้านเรานอนติดเตียง2สัปดาห์ พอกลับไปแม่สามีใช้ถูกบ้านเลยคะ เพราะไม่มีคนทำให้ เราก็ทำคะ บ้านตึก3 ชั้น เราถูหมด สามีจะทำให้ก็ไม่ได่นะคะ เค้าบอกเป็นหน้าที่ของผู้หญิงคะ อย่าเอาเค้าเป็นตัวอย่างนะ พ่อสามีทำให้ทุกอย่างเพราะเค้าป่วย แต่เราแค่ท้องทำเองได้ มีอยู่วันนึงสามีเราตากผ้าห่มให้ซึ่งเวลาเปียกน้ำมันจะหนักมาก เค้าขึ้นมาเห็นพอดี พูดมาว่า ไปทำให้มันทำมั่ย เราได้ยินกับหูคะ
เราเริ่มไม่ไหวกับหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับชีวิตเราแล้วคะ เราร้องไห้อยากกลับบ้านตลอด อยากแยกบ้านอยู่ ขอเค้าแยกก็ไม่ได่ เค้าบอกว่าสามีเป็นลูกชายคนเดียวของเค้า ต้องคอยดูแลเค้ายันตาย
หลังๆสามีเริ่มปกป้องเรามากขึ้น ทำให้แม่สามียิ่งไม่พอใจเรามาก มีครั้งนึงเรียกเราไปพูดว่า ลูกเค้าเป็นแบบนี้แหละ เวลารักใครหลงใครจะหลงมาก เราอย่าดีใจไป เตรียมทำใจไว้บ้างก็ดี เราแบบอึ้งมากคะ นี่คำพูดของคนเป็นแม่สามีหรอ
ปัญหาที่เกิดขึ้นมาหลังคือเรื่องของสามีกับแม่เค้าโดยตรงแล้วคะ แม่เค้าชอบพูดว่า ลูกชายเค้าเปลี่ยนไป ไม่รักเค้าเหมือนเดิม
ลูกชายก็เหมือนจะน้อยใจแม่คะ ก่อนแต่งงานเคยได้เงินฝากประจำปันผลตลอด พอแต่งงานแม่ตัดเงินส่วนนั่นทิ้งเลยคะ เพราะเค้าบอกว่ามีภาระต้องจ่ายเราอีกคนนึง ทำงานให้กินกงสีก็จริงนะคะ แต่ถ้าขอไปเที่ยวพักผ่อนไม่เคยหยิบยื่นเงินให้เลยคะ ถ้าอยากไปก็ใช้เงินเดือนตัวเองตลอด
พอเราใกล้คลอดเริ่มบอกให้เราเอาลูกมาเลี้ยงตรงโต๊ะบัญชีด้วยนะ ทำงานไปเลี้ยงลูกไปด้วย สามีก็เถียงกับแม่เค้าอีก จะไปเลี้ยงได้ยังไงมีแต่สารเคมีทั้งวัน เราอึดอัดมาก เราเครียดมาก เราะรุ้สึกเหมือนเรากำลังจะเป็นโรคซึมเศร้า เรามีความคิดไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว จนเราคลอดกลับมาอยู่บ้านเราก่อน ตรงนี้คือจุดเปลี่ยนคะ
เรากับสามีตัดสินใจขอย้ายออกมาเลย จากบ้านเค้าจากธุรกิจเค้าของ มาเปิดใหม่ที่บ้านของเรา ซึ่งแม่สามีโกดมาก ด่าสาปด่าแช่งว่าพวกเราเนรคุณ มาเปิดแข่งกับเค้าทั้งๆที่ห่างกันหลายสิบโล ตัดขาดจากสามี ด่าให้ธุรกิจที่เรามาเปิด
วายวอด ปิดกั้นเราทุกวิถีทางไม่ให้เราได้ทำมาหากิน โทรบอกบริษัทต่างๆห้ามส่งของมาให้เราขาย บอกลูกค้าห้ามมาอุดหนุนเรา แช่งว่าเราอกตัญญู ขอให้ลูกเราทำแบบนี้เหมือนกับที่เค้าเจอบ้าง โพสเฟสด่าเราอยู่ตลอดจนถึงตอนนี้ปีกว่าก็ยังด่าเราอยู่คะ
เรากับสามีออกมาเริ่มต้นนับ0ใหม่ทั้งๆที่ธุรกิจที่บ้านเค้ารุ่งเรื่องมาก เราก็เสียใจนะคะ ที่ทำให้สามีทิ้งทุกอย่างมาเพื่อเราเพื่อลูก ยอมตัดขาดกับแม่มา มันเป็นความรู้สึกผิดในใจมาโดยตลอด
ใครเคยเจอเหตุการณ์เหมือนเรามั้ยคะ มันหนักหนาสาหัสมากสำหรับลูกผู้หญิงคนนึงที่หวังจะแต่งงานมีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ เราไม่รู้ว่าเลือกถูกมั้ยแต่อยากให้กำลังใจเราหน่อยนะคะ เพราะเราเลือกแล้ววว
มหากาพย์แม่ผัวลูกสะใภ้ ถึงขั้นแตกหักกัน !!!
เรากับสามีคบกันมา4ปีก่อนจะแต่งงาน สามีเราเป็นครอบครัวคนไทยเชื้อสายจีน เป็นลูกชายคนเดียวแต่มีพี่สาวและน้องสาวตอนนี้อยู่ ตปท. หมด เหลือแค่สามีคนเดียวที่ช่วยธุรกิจของครอบครัว
ปัญหามันอยู่ที่เรากับแม่สามีไม่ค่อยลงรอยกันตั้งแต่ก่อนแต่งงานแล้ว เราเคยถอดใจบอกเลิกกันไปหลายครั้งเพราะเรามองปัญหาที่จะเกิดขึ้นตามมาภายหลังออก แต่สามีก็จะปลอบใจเสมอว่าเราจะสามารถผ่านมันไปได้
ช่วงคบกันแรกๆ เค้าจะด่าแฟนเก่าสามีให้เราฟังเยอะมาก ด่าหยาบคายมาก แต่เราไม่ได้คิดอะไร คงตามประสาคนไม่ถูกกัน
มีครั้งนึงคบกันแรกๆ แม่สามีเรียกเราไปคุย ถามว่าอยากแต่งหรือยัง เราก็ตอบไปตามตรงว่าดูกันไปเรื่อยๆก่อนก็ได้คะ หนูไม่รีบ แต่เค้าไปบอกสามีเราว่า เราพูดแบบนี้คือไม่ได้จริงใจนะ คบเผื่อเลือกไป จะให้เราตอบยังไงถ้าเค้าถามแบบนี้ อยากแต่งคะ อยากแต่งมากงี้หรอคะ
ก่อนแต่งงานไม่กี่วันแม่สามีป่วยหนักถึงขึ้นเรียกเราไปสั่งเสีย พอเราไปถึงเค้าพูดว่า เราเกิดปีลิงจะไปแย่งกินแย่งใช้ ดวงไม่ถูกกับพ่อสามีและสามีจะทำให้ทุกคนแย่ลง เราไม่ใช้เนื้อคู่กันหรอก เนื้อคู่สามีจริงๆจะมาตอนอายุ 45( สามีเพิ่ง30) เราขับรถกลับบ้านทั้งน้ำตา แต่ตอนนั่นงานแต่งได้เตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว
แม่สามีเราเป็นคนค่อยข้างประหยัด เสื้อเค้าจะใช้มือ2ตัวละ20-30 เค้าชอบบอกว่าเราติดหรูใช้แต่ของแพง แต่จริงๆแล้วเราใช้ธรรมดาแบบที่ทุกคนใช้กัน เสื้อ250 สำหรับเค้าคือแพงมาก เวลาเราแต่งตัวจะถามว่าเท่าไหร่ๆ แล้วจะพูดว่า นี่ๆ ของเค้าซื้อมา 20-30 เอง แต่ซื้อทีเป็นพันๆคะ ที่บ้านไม่มีที่จะเก็บแล้วกองใหญ่กว่าภูเขาไฟฟูจิอีก
หลังแต่งงานเราย้ายเข้าไปอยู่กับเค้า สิ่งแรกที่เราเจอเลย เราไปซื้อของกันสามี น้องสามีกลับมาแม่เค้าก็มาค้นๆถุงช้อปปิ้งว่าซื้อไรมาบ้าง ไปเจอชุดนอนsale h&m 150 บาท ก็ขำแล้วบอกว่ากุซื้อ10 บาทเองแบบเนี่ย ค้นๆต่อไป เอาโน้นมาถามเท่าไหร่ จนสามีเราพูดว่าแม่จะมาค้นของเราทำไม เค้าโกดมากเค้าบอกจะดูของน้องสาวก็คือลูกสาวเค้าแหละ ไม่ได่ตั้งใจค้นของเรา พร้อมกับชี้หน้าเราแล้วพูดว่า ผู้หญิงคนนี้จะทำให้
ครอบครัวของเราแตกกัน นี้คือจุดเริ่มต้นคะ
แต่งเข้าไปจากที่เราไม่เคยทำงานบ้านเลยเพราะบ้านเรามีแม่บ้าน ไปอยู่บ้านสามีต้องทำทุกอย่างคะ ตื่นเช้า กวาดบ้านถูกบ้าน หุงข้าวไปตลาด ล้างห้องน้ำ เช็ดฝุ่น เสร็จงานบ้านไปนั่งทำบัญชีต่อหน้าบ้านซึ่งโอเค มันคือหน้าที่ของลูกสะใภ้เราเข้าใจดี
ช่วงแรกเวลาไปกินข้าวนอกบ้านกัน แม่สามีจะพูดกับน้องสาวตลอดรีบกินนะ เดี๋ยวเราแย่งกินพร้อมทั้งตักกับข้าวใส่จานน้องด้วย เราเข้าใจคะว่าหยอกล้อเล่นแต่เล่นทุกมื้อคะ สั่งกุ้งเผามากินกันจะพูดหยอกว่ากินแค่3ตัวพอนะ อย่ากินเยอะ ซึ่งมื้อนั่นเรากินตัวเดียวคะ แล้วบอกเราอิ่มแล้ว ขึ้นไปร้องไห้ในห้องนอน
แม่สามีชอบกินทุเรียนมากคะ ซื้อทุเรียนมากินแต่แอบกินตอนที่เราไม่อยู่ เราก็ไม่ได้ใส่ใจนะคะ พอเวลาผ่านไป กินไม่ได้หมดหรือไม่อร่อยหรือจะเน่าแล้วจะเอาออกมาแล้วบอกว่า กินได่นะลูกกินได้เลย ขนมอื่นๆก็เช่นกัน มีครั้วนึงเราซื้อกล้วยมากิน เค้าจะเด็ดเอาแต่ลูกสวยๆ ไปห่อกระดาษแช่เย็นไว้ เหลือแต่ลูกเน่าๆ ดำๆให้เรากิน
แม่สามีชอบค้นห้องนอนคะ ตอนแรกไม่ได้ล็อคห้องเพราะหากุนแจไม่เจอจะเข้าไปดูว่าเราใช้อะไรยี่ห้ออะไร แล้วถ่ายรูปไปถามลูกสาวเค้าว่าเท่าไหร่กี่บาท ชอบค้นสมุดบัญชีธนาคารว่าสามีเรามีเงินเท่าไหร่ เอาเงินให้เรารึป่าว
หลังๆเรื่องมันยิบๆย่อยๆมาก จนบางทีเราไม่รู้ว่าแม่สามีไม่พอใจเราเรื่องอะไร แต่จะรุ้ได่จากการกระทำปึ้งๆปังๆ ไปลงกับข้าวของให้เราเห็นคะ แรกเราร้องไห้แทบทุกวัน อยากกลับบ้านมาก คิดถึงพ่อแม่ ไม่เคยเจออะไรแบบนี้ด้วยคะ
ธุรกิจบ้านสามีจะเป็นกงสีคะ เรากับแฟนกินเงินเดือนกัน เรากินใช้ในกองกลาง เราจะนั่งเฝ้าโต๊ะบัญชีทั้งวันบ้านแฟนทำร้านซ่อมรถ ฝุ่น ควัน บุหรี่ สารตะกั่วเราก็ต้องนั่งให้ได้ บางทีเราเหม็นจนไม่ไหวเข้าไปหลบในห้องกระจกเค้าเปิดละครไว้ เราก็นั่งดูกับแม่สามีด้วยเพราะเห็นว่าหน้าร้านไม่มีอะไร เค้าจะเปลี่ยนช่องละครหนีเราทันที ที่เราเข้าไปนั่งคะ 555555
มีครั้งนึงเราวิ่งซื้ออะไหล่รถด้วยความที่เราใหม่มากกับเรื่องพวกนี้ บ้านเราขายของชำธรรมดาคะ เราไปซื้อมาผิด แล้วไม่ใช่ความผิดของเราคะ ร้านอะไหล่หยิบให้เราผิด แม่สามีออกมาด่า เค้าบอกให้เป็นหมาก็เป็นหมาหรอ เค้าบอกให้เป็นควายก็เป็นควายหรอ พร้อมขว้างของลงพื้น เราถึงกับนั่งร้องไห้เลยคะ พอนั่งร้องไห้หน้าบ้าน เค้าเรียกเราเข้าไปข้างใน บอกว่าอยากให้คนอื่นเห็นหรอว่า แม่ผัวบ้านนี้รังแกลูกสะใภ้
ก่อนแต่งงานเค้ายกที่ดินให้สามี1แปลงคะ พอหลังแต่งงานเค้าบอกว่าขอคืนได้มั้ย เพราะเค้ากลัวสามีจะโอนเป็นชื่อเรา เราก็บอกเค้าไปไม่ต้องกลัวนะคะ เราไม่เอาของเค้าสักบาทเลยคะ เราพูดตรงกับความคิดของเค้าไปหมดทุกอย่าง รู้ทันความคิดเค้าหมด จนเค้าบอกว่าเราแอบติดเครื่องดักฟังเค้า
แม่สามีเป็นคนที่ต้องได้รับการเอาใจต้องชมตลอดคะ ถ้าเราทำกับข้าวแล้วไม่ถามเค้า ไม่ปรึกษาเค้าว่าทำยังไงเราตักไปวางไว่ที่โต๊ะเฉยๆ เค้าก็จะไม่กินของเราคะ จะบอกว่าเก็บไปเถอะ เค้าไม่ชอบกิน หรือรูปแต่งงานที่เราล้างมาแล้วตั้งไว้บนโต๊ะให้เค้าดู เค้าจะไม่ยอมดูถ้าเราไม่พูดว่า แม่หนูล้างรูปมานะคะ ให้แม่ดูคะ
หนักขึ้นเรื่อยๆเราเริ่มคิดว่าแม่สามีเราป่วยรึป่าว อาการเค้าไม่เหมือนคนปกติทั่วไป บางทีไม่พอใจอะไรยืนถือมีดหัวเราะคนเดียว เตะข้าวของตามพื้น จนพ่อสามีแอบบอกว่าพาไปพบหมอจิตแพทย์มา หมอให้ยามากินคะ แต่เค้าไม่ยอมกินเพราะเค้าบอกเค้าไม่ได้บ้า
อาการเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ จับจ้องเราทุกการกระทำ เราเดินไปทางไหนจะหันเก้าอี้มองตามทันทีเราขึ้นไปบนห้องนอนจะขึ้นตามเราทันที ซึ่งเราอึดอัดมากๆๆ เพราะบอกให้สามีพาเราออกไปข้างนอกบ่อยๆ เราเครียดมาก
มีอยุ่วันนึงทะเลาะกันลูกสาวของตัวเอง ตบหน้าลูกสาวไป3ที ลูกสาวลุกขึ้นมาสู้กันดึงผมจิกหัวกันไปมา เราล้างจานอยู่ตกใจมาก แม่ลูกเค้าทำกันได้ขนาดนี้เลยหรอ วันต่อมารักกันเหมือนเดิมคะ พร้อมทำหน้าใส่เราแบบไม่เห็นเป็นไรเลยเรื่องแค่นี้
มาถึงตอนที่เราท้องคะ เราแพ้ท้องหนักมาก อ้วกแทบทั้งวัน สามีไล่เราขึ้นห้องเพราะตรงที่เรานั่งมันเป็นสารเคมีคะ เค้าจะบอกเราเอาแต่ขึ้นห้องไปนอน ไม่ทำไรเลยวันๆนึง เราเลยขอเค้าทำห้อกระจกกั้นโต๊ะบัญชีเราจะได้นั่งทำงานด้วยได้ เค้าไม่ยอม บอกว่าเค้ายังนั่งอยู่ได้มาเป็นสิบๆปี จนเค้าเป็นมะเร็งโพรงจมูกคะ เค้ายังทนได้เลย ในใจเราคิดว่าแล้วเค้าต้องการให่เราเป้นแบบนั่นตามเค้าไปหรอ
เราทำหน้าที่เหมือนเดิมทุกวัน ยันใกล้คลอด ขับรถซื้อของ ให้แม่สามีน้องสามีทั้งวัน อยากกินอะไรเราท้องแก่ๆต้องขับรถไปซื้อให้ตลอด จนคนขายบอกว่าโทรมาสั่งได่นะ เค้ามาส่งให้เพราะสงสารคะ เรากลับไปบอกเค้าว่าโทรสั่งได่นะ แม่สามีตอบ อ้อแล้วไง จบคะ
เรามีภาวะเลือดออกตอน6-7 เดือนเพราะเดินมาก เรากลับมาอยุ่บ้านเรานอนติดเตียง2สัปดาห์ พอกลับไปแม่สามีใช้ถูกบ้านเลยคะ เพราะไม่มีคนทำให้ เราก็ทำคะ บ้านตึก3 ชั้น เราถูหมด สามีจะทำให้ก็ไม่ได่นะคะ เค้าบอกเป็นหน้าที่ของผู้หญิงคะ อย่าเอาเค้าเป็นตัวอย่างนะ พ่อสามีทำให้ทุกอย่างเพราะเค้าป่วย แต่เราแค่ท้องทำเองได้ มีอยู่วันนึงสามีเราตากผ้าห่มให้ซึ่งเวลาเปียกน้ำมันจะหนักมาก เค้าขึ้นมาเห็นพอดี พูดมาว่า ไปทำให้มันทำมั่ย เราได้ยินกับหูคะ
เราเริ่มไม่ไหวกับหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับชีวิตเราแล้วคะ เราร้องไห้อยากกลับบ้านตลอด อยากแยกบ้านอยู่ ขอเค้าแยกก็ไม่ได่ เค้าบอกว่าสามีเป็นลูกชายคนเดียวของเค้า ต้องคอยดูแลเค้ายันตาย
หลังๆสามีเริ่มปกป้องเรามากขึ้น ทำให้แม่สามียิ่งไม่พอใจเรามาก มีครั้งนึงเรียกเราไปพูดว่า ลูกเค้าเป็นแบบนี้แหละ เวลารักใครหลงใครจะหลงมาก เราอย่าดีใจไป เตรียมทำใจไว้บ้างก็ดี เราแบบอึ้งมากคะ นี่คำพูดของคนเป็นแม่สามีหรอ
ปัญหาที่เกิดขึ้นมาหลังคือเรื่องของสามีกับแม่เค้าโดยตรงแล้วคะ แม่เค้าชอบพูดว่า ลูกชายเค้าเปลี่ยนไป ไม่รักเค้าเหมือนเดิม
ลูกชายก็เหมือนจะน้อยใจแม่คะ ก่อนแต่งงานเคยได้เงินฝากประจำปันผลตลอด พอแต่งงานแม่ตัดเงินส่วนนั่นทิ้งเลยคะ เพราะเค้าบอกว่ามีภาระต้องจ่ายเราอีกคนนึง ทำงานให้กินกงสีก็จริงนะคะ แต่ถ้าขอไปเที่ยวพักผ่อนไม่เคยหยิบยื่นเงินให้เลยคะ ถ้าอยากไปก็ใช้เงินเดือนตัวเองตลอด
พอเราใกล้คลอดเริ่มบอกให้เราเอาลูกมาเลี้ยงตรงโต๊ะบัญชีด้วยนะ ทำงานไปเลี้ยงลูกไปด้วย สามีก็เถียงกับแม่เค้าอีก จะไปเลี้ยงได้ยังไงมีแต่สารเคมีทั้งวัน เราอึดอัดมาก เราเครียดมาก เราะรุ้สึกเหมือนเรากำลังจะเป็นโรคซึมเศร้า เรามีความคิดไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว จนเราคลอดกลับมาอยู่บ้านเราก่อน ตรงนี้คือจุดเปลี่ยนคะ
เรากับสามีตัดสินใจขอย้ายออกมาเลย จากบ้านเค้าจากธุรกิจเค้าของ มาเปิดใหม่ที่บ้านของเรา ซึ่งแม่สามีโกดมาก ด่าสาปด่าแช่งว่าพวกเราเนรคุณ มาเปิดแข่งกับเค้าทั้งๆที่ห่างกันหลายสิบโล ตัดขาดจากสามี ด่าให้ธุรกิจที่เรามาเปิดวายวอด ปิดกั้นเราทุกวิถีทางไม่ให้เราได้ทำมาหากิน โทรบอกบริษัทต่างๆห้ามส่งของมาให้เราขาย บอกลูกค้าห้ามมาอุดหนุนเรา แช่งว่าเราอกตัญญู ขอให้ลูกเราทำแบบนี้เหมือนกับที่เค้าเจอบ้าง โพสเฟสด่าเราอยู่ตลอดจนถึงตอนนี้ปีกว่าก็ยังด่าเราอยู่คะ
เรากับสามีออกมาเริ่มต้นนับ0ใหม่ทั้งๆที่ธุรกิจที่บ้านเค้ารุ่งเรื่องมาก เราก็เสียใจนะคะ ที่ทำให้สามีทิ้งทุกอย่างมาเพื่อเราเพื่อลูก ยอมตัดขาดกับแม่มา มันเป็นความรู้สึกผิดในใจมาโดยตลอด
ใครเคยเจอเหตุการณ์เหมือนเรามั้ยคะ มันหนักหนาสาหัสมากสำหรับลูกผู้หญิงคนนึงที่หวังจะแต่งงานมีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ เราไม่รู้ว่าเลือกถูกมั้ยแต่อยากให้กำลังใจเราหน่อยนะคะ เพราะเราเลือกแล้ววว