แม้จะสงสัยอยู่เต็มอกว่ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น แต่สภาพที่กะร่อง กะแร่งของเจ้าหยกที่ถึงขนาดต้องช่วยกันหิ้วปีก คุณพิมพอเห็นก็จำต้องสงวนท่าทีความอยากรู้นั้นไว้ ด้วยตระหนักว่าสิ่งไหนที่จำเป็นควรมาก่อนมาหลัง
แต่เนื่องจากอาการผิดปรกติที่เห็นได้ชัดเจนโดยเฉพาะอย่างยิ่งแววตา ซึ่งมองไปไกลอย่างคนสติเลื่อนลอยไร้การตอบสนอง ทำให้อดหลุดอุทานออกมาไม่ได้ตามธรรมชาติผู้หญิง
“ตายจริง นี่คุณหยกไปโดนอะไรมา พาไปนั่งก่อนเถอะค่ะ” แล้วเธอก็กระวีกระวาดช่วยประคองร่างเจ้าหยกที่อ่อนปวกเปียกราวกับตุ๊กตาผ้ายัดด้วยนุ่นพาไปนั่งที่เก้าอี้เอน กึ่งนั่งกึ่งนอน
ถึงคุณพิมจะช่วยประคับประคองตามที่กำลังของเธอจะอำนวย แต่ก็นับว่าช่วยผ่อนแรงไปได้มาก ด้วยลำตัวที่ใหญ่โตและน้ำหนักที่มากตามสัดส่วนร่างกายของเจ้าหยก ทำให้แขนผมที่ล้าจวนจะหมดแรงอยู่รอมร่อดีขึ้น เจ้าจ๋านเองก็คงไม่ต่างจากผม เมื่อหย่อนเจ้าหยกลงเก้าอี้ได้แล้วเสร็จ ต่างก็ยืนหอบกันทั้งคู่
“เห็นท่าจะไม่ดีแล้วค่ะ “ คุณพิมพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงตระหนกทีเดียว หลังจากพินิจท่าทางเจ้าหยกอย่างละเอียดถี่ถ้วน ทำให้รู้ว่าผู้หญิงคนหนึ่งจะแกร่งอย่างไรก็มีบางจุดที่เกือบคุมอารมณ์ไม่อยู่เช่นกัน
“ถ้าคุณหยกหลับตา พิมจะไมห่วงมากเท่านี้ เพราะเป็นไปได้ว่าคุณหยกหลับลึกและละะเมอเดินลงเรือนไปข้างล่าง แล้วนี่ตาแกลืมแสดงว่าตื่นอยู่ แต่ทำไมดูแล้วแกไม่รู้สึกตัวเลย”
แล้วคุณเธอก็ตัดสินใจอย่างเฉียบพลัน ปกติคุณพิมเป็นคนนิ่งเรียบง่าย อุปนิสัยนิ่มนวล โอนอ่อนผ่อนตาม แต่พอถึงเวลาที่มองเห็นแล้วว่าสถานการณ์มันคับขันจะรอช้าไม่ได้ เธอก็เด็ดขาดจนผู้ชายต้องนับถือน้ำใจ
“ช่วยกันหามคุณหยกขึ้นรถ แล้วพาไปโรงพยาบาลกันเดี๋ยวนี้ เร็วสิค่ะ จะมัวนิ่งกันทำไม ยิ่งชักช้ายิ่งอันตราย”
นำ้เสียงคุณพิมสื่อได้ชัดเจนว่าเป็นการออกคำสั่งให้ทำตามเท่านั้น ไม่ได้ขอความเห็นใดๆทั้งสิ้น ไม่ผิดที่เธอจะประกาศิตเช่นนั้น ลองผมเป็นเธอและอยู่ดีๆคนรู้จักหรือเพื่อนมาเกิดอาการแปลกๆเช่นเจ้าหยกในตอนนี้โดยไม่ทราบต้นสายปลายเหตุ ผมคงไม่เสียเวลาพิรี้พิไรเช่นกัน ถ้าไม่เรียกรถฉุกเฉินก็จับเพื่อนใส่รถเอาเข้าโรงพยาบาลทันที
ด้วยความที่ผมเชื่อว่าเจ้าหยกจะปลอดภัย และฟื้นตัวขึ้นมาเองภายในเวลาครึ่งชั่วโมงตามคำวิมาลา จึงบอกเธอไปตามนั้น แต่มันจะประสบผลให้เชื่อได้อย่างไร ในเมื่อวิมาลาเป็นใครก็ไม่รู้สำหรับคนอื่น
“ไม่ต้องห่วงครับ อีกครึ่งชั่วโมงมันจะตื่นมาเป็นปกติ คุณพิมได้โปรดวางใจ ผมไม่เอาชีวิตเพื่อนผมมาเสี่ยงแน่ ถ้าไม่มั่นใจ หรือไม่มีอะไรที่เชื่อถือได้มารับรอง”
ลุงข้างทางตอน5
แต่เนื่องจากอาการผิดปรกติที่เห็นได้ชัดเจนโดยเฉพาะอย่างยิ่งแววตา ซึ่งมองไปไกลอย่างคนสติเลื่อนลอยไร้การตอบสนอง ทำให้อดหลุดอุทานออกมาไม่ได้ตามธรรมชาติผู้หญิง
“ตายจริง นี่คุณหยกไปโดนอะไรมา พาไปนั่งก่อนเถอะค่ะ” แล้วเธอก็กระวีกระวาดช่วยประคองร่างเจ้าหยกที่อ่อนปวกเปียกราวกับตุ๊กตาผ้ายัดด้วยนุ่นพาไปนั่งที่เก้าอี้เอน กึ่งนั่งกึ่งนอน
ถึงคุณพิมจะช่วยประคับประคองตามที่กำลังของเธอจะอำนวย แต่ก็นับว่าช่วยผ่อนแรงไปได้มาก ด้วยลำตัวที่ใหญ่โตและน้ำหนักที่มากตามสัดส่วนร่างกายของเจ้าหยก ทำให้แขนผมที่ล้าจวนจะหมดแรงอยู่รอมร่อดีขึ้น เจ้าจ๋านเองก็คงไม่ต่างจากผม เมื่อหย่อนเจ้าหยกลงเก้าอี้ได้แล้วเสร็จ ต่างก็ยืนหอบกันทั้งคู่
“เห็นท่าจะไม่ดีแล้วค่ะ “ คุณพิมพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงตระหนกทีเดียว หลังจากพินิจท่าทางเจ้าหยกอย่างละเอียดถี่ถ้วน ทำให้รู้ว่าผู้หญิงคนหนึ่งจะแกร่งอย่างไรก็มีบางจุดที่เกือบคุมอารมณ์ไม่อยู่เช่นกัน
“ถ้าคุณหยกหลับตา พิมจะไมห่วงมากเท่านี้ เพราะเป็นไปได้ว่าคุณหยกหลับลึกและละะเมอเดินลงเรือนไปข้างล่าง แล้วนี่ตาแกลืมแสดงว่าตื่นอยู่ แต่ทำไมดูแล้วแกไม่รู้สึกตัวเลย”
แล้วคุณเธอก็ตัดสินใจอย่างเฉียบพลัน ปกติคุณพิมเป็นคนนิ่งเรียบง่าย อุปนิสัยนิ่มนวล โอนอ่อนผ่อนตาม แต่พอถึงเวลาที่มองเห็นแล้วว่าสถานการณ์มันคับขันจะรอช้าไม่ได้ เธอก็เด็ดขาดจนผู้ชายต้องนับถือน้ำใจ
“ช่วยกันหามคุณหยกขึ้นรถ แล้วพาไปโรงพยาบาลกันเดี๋ยวนี้ เร็วสิค่ะ จะมัวนิ่งกันทำไม ยิ่งชักช้ายิ่งอันตราย”
นำ้เสียงคุณพิมสื่อได้ชัดเจนว่าเป็นการออกคำสั่งให้ทำตามเท่านั้น ไม่ได้ขอความเห็นใดๆทั้งสิ้น ไม่ผิดที่เธอจะประกาศิตเช่นนั้น ลองผมเป็นเธอและอยู่ดีๆคนรู้จักหรือเพื่อนมาเกิดอาการแปลกๆเช่นเจ้าหยกในตอนนี้โดยไม่ทราบต้นสายปลายเหตุ ผมคงไม่เสียเวลาพิรี้พิไรเช่นกัน ถ้าไม่เรียกรถฉุกเฉินก็จับเพื่อนใส่รถเอาเข้าโรงพยาบาลทันที
ด้วยความที่ผมเชื่อว่าเจ้าหยกจะปลอดภัย และฟื้นตัวขึ้นมาเองภายในเวลาครึ่งชั่วโมงตามคำวิมาลา จึงบอกเธอไปตามนั้น แต่มันจะประสบผลให้เชื่อได้อย่างไร ในเมื่อวิมาลาเป็นใครก็ไม่รู้สำหรับคนอื่น
“ไม่ต้องห่วงครับ อีกครึ่งชั่วโมงมันจะตื่นมาเป็นปกติ คุณพิมได้โปรดวางใจ ผมไม่เอาชีวิตเพื่อนผมมาเสี่ยงแน่ ถ้าไม่มั่นใจ หรือไม่มีอะไรที่เชื่อถือได้มารับรอง”