รู้ทัน แล้วมี solutions  หรือเปล่าคะ?  ว่าไทยเราควรแก้ปัญหาอย่างไร ในเมื่อยังพึ่งพาการส่งออกกับท่องเที่ยวเป็นหลักแบบนี้   แถมส่งออกไปจีนเป็นอันดับหนึ่ง  มูลค่าส่งออกปีที่แล้ว  9.6 แสนล้านบาท   ส่วนการท่องเที่ยว ปีที่แล้ว ทำรายได้ให้ไทย1.93 ล้านล้านบาท จีนเข้ามาเที่ยวอันดับหนึ่ง

    พอจีนปิดเมือง ห้ามคนออกเที่ยว  ตปท  นทท จีนหาย   คนที่ทำงานท่องเที่ยวตกงานกันตรึมมมม โอดครวญกันตั้งแต่เจ้าของกิจการโรงแรม ไก๊ด์นำเที่ยว  ร้านอาหาร พ่อค้าแม่ค้า คนขับแท้กซี่  ขนาดคนขับแท้กซี่ติดโควิดจาก นทท จีน  หายแล้วยังให้สัมภาษณ์ว่า ไม่โกรธ และอยากให้คนจีนกลับมาเที่ยวอีก เพราะหายไป รายได้ก็พลอยหดหายไปด้วย

      เดือนที่แล้ว มีข่าวโรงแรมหลายแห่งทนรับสภาวะขาดทุนไม่ไหว จำใจต้องขาย มีต่างชาติอย่าง ญี่ปุ่น สิงค์โปร์ ฮ่องกง จีน จ้องเข้ามาซื้อ แบบกดราคาลดครึ่งก็มี ซื้อโดยใช้นอมินีแหละ ซึ่งถ้าจะด่า มันก็ต้องด่าคนของเราด้วย

      ถ้าจะไม่เอาจีนหรือโต้ตอบด้วยภาษีอย่างกระทู้ก่อนหน้าของคุณ   ปท เล็กอย่างเราแกร่งขนาดที่จะต่อกรกับจีนเหมือนอย่างเมกาแล้วหรือ?   ขนาดยักษ์ใหญ่อย่างเมกาทำสงครามการค้า ขึ้นภาษียังเจอ backlash กลับมา เพราะกิจการเมกาหลายอย่างมีฐานการผลิตอยู่ที่จีน  ขึ้นภาษีไป คนที่แบกรับภาษีก็คือผู้บริโภคในเมกา ซื้อของแพงขึ้น  บริษัทผู้ผลิตยังเคยร่วมกันออกมาขอให้ทรั้มป์เพลาๆ ลงบ้าง

      ทรั้มป์ทำสงครามการค้า เพื่อหวังให้บริษัทเมกันย้ายฐานการผลิตจากจีนกลับมาเมกา  สร้างงานให้กับคนเมกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ถูกต้องสำหรับผู้นำประเทศ มีข่าวชวนแอปเปิ้ลให้กลับเมกาด้วย แต่น่าเสียดายที่ไม่สำเร็จ เพราะบริษัทเหล่านั้นย้ายไปเวียตนาม กับอินเดีย อินโดฯลฯ แทน เนื่องจากเมกาค่าแรงแพง  ต้นทุนสินค้าจะสูงขึ้นมาก ราคาสินค้าแพง  เช่น มือถือ  ถ้าทำในเมกา ราคาจะยิ่งจับไม่ลง  ผู้คนคงหันไปซื้อของจีน เกาหลีที่เป็นคู่แข่งมากขึ้นกว่าเดิม

     อีกหน่อย ถ้าสินค้าเหล่านั้นทะลักเข้าไทย คุณอาจจะตั้งกระทู้ชวนแบนสินค้าที่ทำในอินเดีย เวียตนาม อินโดก็ได้  ยังไง วิธีแก้ไขก็อย่างที่หลายท่านแนะนำในกระทู้ก่อนคือ เริ่มจากคุณและครอบครัวก่อน หันมาใช้ของไทย และของที่ทำในไทยที่ไม่ใช่แบรนด์ต่างชาติ เป็นของแบรนด์ไทยแท้ๆ ให้มากที่สุด   ส่วนสินค้าเทคโนโลยี อย่างมือถือ ถ้ารังเกียจของจีนมาก ก็อุดหนุนของชาติอื่นๆ แทน