“สนทนากับเทวดา” วัตรปฏิบัติประจำวันของ “พระพุทธเจ้า” แปลกแต่มีจริง(มีหลักฐานยืนยันด้วย!!!)



พระพุทธเจ้าสนทนาธรรมกับเทวดา
สวัสดีฮะคือพอดีผมได้อ่านเว็บประวัติศาสตร์เเล้วเจออันนี้เข้าเลยลองกดอ่านดูเพราะสงสัยว่าพระพุทธเจ้าเเกพูดกับเทวดาจริงมั้ย(ปกติผมคนไม่เชื่ออยู่เเล้วเรื่องพวกนี้ เเต่พออ่านเเล้วเชื่อทันทีเลย) ผมเห็นว่ามันน่าสนใจเลยคัดลอกมาให้อ่านฮะ เเต่ถ้าจะเเปะลิ้งค์ก็คงไม่มีใครเข้ามาตอบอีก คัดลอกมาเลยดีกว่า ซึ่งข้อมูลพวกนี้ผมเอามาจากเว็บศิลปวัฒนธรรมของมติชนนะฮะ ถ้าพร้อมเเล้วไปฟังกันเล้ยยยยย!!!





พระสมณโคดมบรมศาสดาของเราเมื่อครั้งยังทรง
ทรมานอยู่ในโลกนั้น ท่านมีวัตรปฏิบัติประจําวันอยู่ 5 ประการ ซึ่งนักเรียนฝ่ายพุทธศาสนาเราเรียกกันว่า “พุทธกิจ”
พุทธกิจ 5 ประการนั้นมีมาในพระบาลีว่า …..
1. ปุพ.พัณเห ปิณฑปาตัญจะ
2. สายัณเห ธัมมเทสนัง
3. ปโทเส ภิกขุโอวาทัง
4. อัฑฒรัตเต เทวปัญหะนัง
5. ปัจจูเสวะ คเตกาเล ภัพพาภัพ เพ วิโลกนัง
(หมายเหตุ : ที่เขียนแบบนี้ก็เพื่อผู้ไม่สันทัดในภาษาบาลีจะได้อ่านถูก. แต่แล้วในภาษาไทยปัจจุบันก็มีปัญหาคือ พ ตัวเดียวยิ้มเป็นได้ทั้งตัวสะกดและออกเสียง เช่น บุพกิจ เป็นต้น เช่นนั้นผมจึงต้องใส่จุดภาษาบาลีที่ใต้ตัว พ เข้าไปด้วยเพื่อกันอ่าน บุบ-พะ-พัน)
แปลความเป็นไทยได้ว่า
1. เวลาเช้า ออกบิณฑบาต



พระพุทธเจ้าทรงบิณฑบาตร
2. เวลาเย็น แสดงธรรม



พระพุทธเจ้าเเสดงธรรม
3. เวลาค่ำให้โอวาทพระภิกษุสาวก



4. เวลากลางแห่งราตรี (midnight) ตอบปัญหา—หรือสนทนากับเทวดา
5. เวลาใกล้รุ่ง ตรวจดูภัพพสัตว์ (คือผู้ที่อยู่ในวิสัยจะบรรลุธรรม) เพื่อจะได้โปรดให้พ้นทุกข์
นี่เป็นความที่แปลกันมา
ใน 4 ข้อ คือ 1, 2, 3 และ 5 นั้น ถูกต้อง, ไม่มีปัญหา แต่ในข้อที่ 4 นั้น ยังเป็นที่คลางแคลง
 
จริงอยู่ ตามพยัญชนะนั้นแปลได้ว่า ตอบปัญหา–หรือ สนทนากับเทวดา แต่ความโดยถ่องแท้นั้นคืออะไร. พระพุทธเจ้าสนทนาอะไร, และเทวดาคือใคร. เป็นเทวดาจริงๆ หรือ, หรือว่าเป็นเทวดาโดยสมมุติ
เทวดาในคติพุทธศานา (ขุททก นิกาย จูฬนิทเทส) นั้นมีอยู่ 3 ประเภท คือ :-
1. สมมติเทวะ เทวดาโดยสมมุติ
2. อุบัตติเทวะ เทวดาโดยกําเนิด
3. ปริสุทธิเทวะ เทวดาโดยความบริสุทธิ์
เท่าที่อธิบายกันมามักอธิบายกันไปว่า คือพระราชาที่ไปเฝ้าถามปัญหาพระพุทธเจ้า และขยายความต่อไปว่า ที่พระราชาไปเฝ้ากลางคืนเช่นนั้นก็เพราะ เหม็นสาบพวกสามัญชนจึงต้องหลีกไปเฝ้าในเวลากลางคืน, นี่เข้าในข้อ 1 คือ เทวดาโดยสมมุติ
แต่แท้จริงแล้ว ไม่มีพระราชาพระองค์ใดไปเฝ้าพระพุทธเจ้าในเวลาเที่ยงคืนเช่นนั้นเลย อนึ่ง ดังได้กล่าวแล้วข้างต้นว่า กิจนี้เป็นพุทธกิจ คือ ข้อปฏิบัติประจําวันของพระพุทธเจ้า หากจะมีพระราชาองค์ใดองค์หนึ่งแผลงไปเฝ้าพระพุทธเจ้าในเวลาอันไม่สมควรเช่นนั้นก็คงไม่ทุกคืน จึงตัดข้อนี้ออกไปได้
ข้อที่ 2 เทวดาโดยกำเนิด ข้อนี้เป็นเรื่องที่เชื่อยากสำหรับคนสมัยนี้ อนึ่ง เทวดาประเภทนี้แม้จะมีจริงตามคัมภีร์โบราณ แต่ก็เป็นเทวดาประเภทเป็นด้วยบุญ เมื่อสิ้นบุญแล้วก็ต้องมาเกิดเป็นมนุษย์ปุถุชน (ชนผู้มีกิเลส) อีก มิได้เป็นเทวดาด้วยปัญญา, จะมีปัญญาอะไรมาถามปัญหาพระพุทธเจ้า
แท้จริงแล้วพระพุทธเจ้าท่านทรงใช้เวลาในยามสงบตอนเที่ยงคืนขบคิดปัญหาซึ่งพระองค์ท่านตั้งขึ้นถามพระองค์เองต่างหาก
ใครก็ตาม เมื่อได้ตั้งปัญหาถามตัวเองเสียก่อนแล้วก็ไม่ยากที่จะตอบปัญหาคนอื่น
จะเห็นได้ว่าพระพุทธเจ้านั้นทรงตอบปัญหาแก่เทวดาและมนุษย์ได้ทุกเมื่อ
เช่นนี้แล ท่านจึงได้สมญาว่า “เป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย” (สัตถา เทวมนุสสานัง)
และพระองค์ทรงเป็น ปริสุทธิเทวะ หรือไม่
นี้แลคือการสนทนากับเทวดาของพระองค์ท่าน

 เครดิตhttps://www.silpa-mag.com/culture/article_23482

จบเเล้วฮะเรื่องราวดีๆ ที่เอามาเเบ่งปัน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่