เมื่อเราถูกล่วงละเมิดในวัยเด็ก

สวัสดีค่ะ ช่วงนี้สิงอยู่ในพันทิปบ่อย เลยอยากกจะเขียนกระทู้แชร์ประสบการณ์กับเค้าบ้าง ยาวหน่อยนะคะ และเนื่องจากเป็นกระทู้แรกผิดถูกยังไงขออภัยด้วยค่ะ

เชื่อว่าหลายๆ คนน่าจะเคยมีเรื่องที่ไม่อยากจำ อยากจะลืมๆ มันไป แต่ทำยังไงมันก็ไม่ลืม เราก็เป็นหนึ่งในนั้นค่ะ ประสบการณ์ที่จะแชร์ต่อไปนี้เป็นอะไรที่อยากลบออกจากความทรงจำมากๆ เลย ถ้าสมองเราสามารถ delete ความทรงจำไปอยู่ใน Recycle bin แล้วกด Empty ได้ ก็คงจะดีสินะ

เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงจากชีวิตของเราที่ไม่เคยเล่าให้ใครฟังเลย แม้แต่ครอบครัวและเพื่อนสนิท มันเป็นเรื่องที่ติดค้างอยู่ในใจเรามานานมาก อยากเล่า อยากระบายให้ใครสักคนฟัง แต่ไม่กล้า ก็เลยมาเล่าในนี้แทน เผื่อจะได้เป็นอุทาหรณ์ให้ใครหลายๆ คนนะคะ โดยเฉพาะคุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกอยู่ในวัยกำลังน่ารักค่ะ

หรือถ้ามีน้องๆ เยาวชนหลงเข้ามาอ่าน ถ้าเป็นน้องผู้หญิงขอให้ระวังตัวนะคะ ญาติพี่น้องผู้ชายไม่ใช่จะไว้ใจได้เสมอไป ส่วนถ้าเป็นน้องผู้ชาย ขอเถอะค่ะ อย่าไปทำแบบนี้กับเด็กผู้หญิงในครอบครัวหรือใครๆ ก็ตาม มันจะเป็นความทรงจำที่เลวร้ายของเด็ก วิธีการจัดการกับอารมณ์ด้านนั้นของคุณควรจะจัดการด้วยตัวเอง อย่าให้เดือดร้อนน้องๆ เด็กผู้หญิงที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่เลยนะคะ

เกริ่นก่อนว่าเราอยู่ในครอบครัวที่อบอุ่น พ่อแม่ พี่ชาย 3 คน และเราเป็นลูกสาวคนเดียว พ่อแม่เลี้ยงดูดีมาก ค่อนข้างประคบประหงม หวงตามประสา พี่ชายอายุห่างจากเราเยอะ เป็นลูกหลงค่ะ เราก็เลยจะใกล้ชิดกับพ่อแม่มาก แต่ก็ยังเกิดเหตุการณ์แบบนี้ได้ ก็อย่างที่บอกว่าที่มาเล่านี่คือ อยากให้เป็นอุทาหรณ์ของพ่อแม่ที่ได้เข้ามาอ่านค่ะ เผื่อจะได้ช่วยป้องกันเรื่องทำนองเดียวกันนี้ที่อาจจะเกิดกับลูกของคุณได้ คนที่กระทำล่วงละเมิดต่อเรามี 3 คนด้วยกันค่ะ  เราจำไม่แม่นว่าเหตุการณ์ไหนเกิดก่อนเกิดหลัง แต่จะเล่าตามความรุนแรงของเรื่องที่เจอแล้วกัน

คนที่ 1 สมมติชื่อ พี่ ก. แล้วกันนะคะ คือ แม่เราเนี่ยจะมีพี่น้องเยอะ ตามปกติของคนในยุคสมัยนั้น ดังนั้นเราก็จะมีลูกพี่ลูกน้อง ที่เป็นลูกของลุง ป้า น้า หลายๆ คน  บ้านยายเราก็จะเป็นแหล่งที่เราจะได้ไปรวมตัวเล่นกันบ่อยๆ ทีนี้มีอยู่วันหนึ่ง เรากับน้องชาย (ลูกน้า) ซึ่งอายุใกล้เคียงกัน ประมาณน่าจะ 5-6 ขวบล่ะมั้ง ไปเล่นกันในห้องพี่ ก. (พี่ ก. เป็นลูกของลุงเราซึ่งเสียชีวิตแล้ว ตากับยายเราจึงรับเลี้ยงไว้อยู่ในอุปการะ) ซึ่งอายุเค้าเป็นหนุ่มเต็มที่ละค่ะ น่าจะราวๆ 20 ได้แล้ว 

ก็ตามประสาเด็กนะคะ เราคงจะเป็นเด็กแก่แดดนิดนึง เห็นตามละครที่เคยดูในทีวี บทเข้าพระเข้านางเค้าก็จะมีการกอดรัด หอมตามคออะไรยังงี้ เราก็จำค่ะ ไปเล่นกับน้อง เอาผ้าห่มคลุมตัวแล้วปลุกปล้ำน้องตามอย่างในละคร อีน้องมันไม่รู้เรื่องมันก็ดิ้นหนีเราค่ะ แต่อีพี่ ก. นี่สิ นางคงดูออกว่าเราพยายามจะทำอะไร นางเลยเรียกเราให้แยกจากน้องมา เดินตามนางขึ้นไปบนบ้านยายชั้น 2 ซึ่งตอนกลางวันจะไม่มีคนอยู่ไงคะ ทุกคนออกไปทำงาน หรือไม่ก็อยู่ข้างล่างกันหมด 

พอขึ้นไป นางก็งัดอันนั้นออกมาให้เราดูเลยค่ะ ความรู้สึกเราตอนนั้นคือมันเด็กมากอ่ะ มันยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย แต่ก็ไม่ได้รู้สึกกลัวอะไรนะคะ คือพี่ ก. เนี่ยเค้าจะเป็นคนเรียบร้อยสุภาพมากค่ะ ถ้าเล่าให้ใครๆ ในหมู่ญาติเราฟัง คงไม่มีใครเชื่อแน่ แต่ก็อีกแหละค่ะ เราไม่รู้ว่ามันต้องเล่าให้ใครฟังมั้ย แล้วเค้าก็ยังไม่ได้บังคับให้เราทำอะไร แต่ว่าเค้าเปิดให้เราดูได้แค่แป๊บเดียวค่ะ ก็มีเสียงยายเราเรียกพี่ ก. ดังมาจากชั้นล่าง เลยต้องรีบแยกย้ายกันทันที 

ไม่รู้ว่ายายเราอาจจะรู้ทัน หรือเห็นว่ามันผิดสังเกต หรือแค่เหตุบังเอิญที่เรียกหาตอนนั้นพอดี สรุปว่าเราก็รอดตัวไป ไม่โดนกระทำอะไรมากกว่านั้น ต้องขอบคุณยายที่เรียกไว้ทันเวลา เราก็เลยยังไม่ได้รู้สึกรังเกียจอะไรพี่ ก. มาก ทุกวันนี้เจอกันก็ยังไหว้สวัสดีเค้าปกติ พี่เค้าก็แต่งงานจนมีลูกโตละ แต่เหตุการณ์นั้นถึงแม้มันจะนานจนภาพมันรางๆ ไปแล้ว มันก็ไม่ลืมอ่ะค่ะ ว่าเค้าเคยทำแบบนี้กับเรา

คนที่ 2 สมมติชื่อ พี่ ข. เหตุเกิดที่บ้านยายเหมือนเดิมค่ะ คือเราจะสนิทกับญาติๆ ฝั่งแม่ เพราะแม่จะพาไปบ้านยายบ่อย ซึ่งบ้านยายจะมีบ้านลุง ป้า น้า ปลูกอยู่ในละแวกใกล้เคียงกัน เพื่อนเล่นเยอะ แล้วตอนเด็กๆ ไปนอนค้างบ้านยายบ่อย ก็เกิดเหตุกับอีพี่ ข. นี่ขึ้น เค้าเป็นลูกของป้าเราค่ะ ตอนนั้นพี่ ข. น่าจะอายุสัก 11-12 ปี เราก็อายุในช่วงใกล้เคียงกับเหตุการณ์แรก เด็กมากแต่จำความได้แล้ว 

คืนหนึ่งเราไปนอนค้างบ้านยาย เด็กๆ ก็นอนเรียงกันบนบ้าน ที่เป็นโถงกว้างไม่ได้กั้นห้อง ลูกป้าบ้างลูกน้าบ้าง แล้วเราดันนอนริมสุด อีพี่ ข. นี่ก็มานอนต่อจากเรา ก็นอนดูทีวีกันไปค่ะ บ้านต่างจังหวัดสมัยก่อนก็ต้องกางมุ้ง แล้วก็ห่มผ้า ทีนี้ใต้ผ้าห่มนี่แหละ อีพี่ ข. มันก็เอาไอ้นั่นของมันมาถูๆ ที่ขาที่ก้นเราค่ะ อี๋ๆๆๆๆๆ แต่ด้วยความที่เค้ายังเด็กอยู่ ไอ้นั่นของเค้าก็ยังไม่ใหญ่อะ เท่าที่เรารู้สึกนะ เพราะไม่ได้เห็น แค่รู้สึกว่าเค้าเอามาโดนตัวเรา เราก็ไม่เข้าใจนะว่าทำไมเราไม่โวยวาย แต่คือเราก็เด็กมาก ยังไม่เข้าใจเลยค่ะ ว่าแบบนี้มันคือการคุกคามทางเพศ แต่คิดย้อนกลับไป ครั้งนี้เราเริ่มรู้สึกอี๋แล้วค่ะ พี่ ข. มันก็พยายามกระซิบบอกเราว่า อย่าไปบอกใครนะ อะไรประมาณนี้แหละ แต่ก็ไม่ได้ขู่จะทำร้ายอะไรนะ เราก็ด้วยความเป็นเด็กดีเชื่อฟังพี่ ก็เลยไม่ได้บอกใครเหมือนกันค่ะ โง่จริงๆ 

เราว่าเราน่าจะโดนแบบนี้อยู่สัก 2 ครั้ง พวกน้าๆ ที่นอนอยู่ด้วย น่าจะจับสังเกตได้ หรือจะเพราะเหตุใดก็ไม่ทราบได้ หลังจากนั้นก็จำได้ว่าไม่เคยได้ไปนอนบนบ้านยายแบบนั้นอีก ถ้าไปค้างอีกจะไปนอนบ้านน้าอีกหลังหนึ่งที่อยู่ตรงข้ามกันและนอนกับน้าสาว ไม่มีญาติผู้ชายมานอนรวม แล้วพอเราเริ่มเข้าสู่วัย 10 ขวบ เริ่มเป็นสาว แม่เราก็ไม่ให้ไปนอนค้างแล้ว ไม่ว่าจะบ้านยาย บ้านลุง บ้านน้า นี่ขนาดว่าแม่ก็ระแวดระวังระดับหนึ่งแล้วนะคะ ยังไม่วายจะโดน 
ซึ่งกับพี่ ข. นี่อย่างที่บอกว่าเรารู้สึกอี๋ค่ะ คงเพราะเค้าเอามาโดนตัวเรา และไม่ได้โดนแค่ครั้งเดียว แล้วเค้าโตมาเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่ได้เรื่องด้วย ติดยา และยังเกาะป้าเรากินอยู่ เราก็เลยไม่รู้สึกนับถือเค้าเลยค่ะ เจอหน้าก็ไม่อยากไหว้ไม่อยากคุยด้วย ก็ยังดีที่ไม่ต้องเจอกันบ่อยๆ เพราะเราย้ายไปเรียนและได้งานทำที่จังหวัดอื่นแล้ว

ตรงนี้ก็เลยอยากจะบอกไว้เป็นอุทาหรณ์ค่ะ ว่า
1.  บ้านที่อยู่รวมๆ กัน ญาติเยอะๆ นี่แหละตัวดี ที่เห็นในข่าวทุกวันนี้ก็คนใกล้ชิดทั้งนั้นใช่ไหมคะ ไว้ใจไม่ได้ค่ะ ห้ามให้เด็กผู้หญิงผู้ชายอยู่กันตามลำพัง เด็กผู้หญิงกับญาติผู้ใหญ่ผู้ชายก็ไม่ควรค่ะ ถ้าหายกันไปสองคนต้องรีบตามหาเลยค่ะ กันไว้ก่อนดีที่สุด

2.   การที่ให้เด็กดูทีวีรายการเดียวกับที่ผู้ใหญ่ดู มีผลให้เด็กแก่แดดค่ะ เราเป็นตัวอย่าง ละครหลังข่าวนี่แหละ ขนาดว่าละครเมื่อก่อน ฉากเลิฟซีนยังไม่เยอะและเหมือนจริงแบบเดี๋ยวนี้นะคะ 

ไม่ใช่แค่กับน้องชายที่เล่าไปข้างบนนะคะ เรายังเคยไปทำท่าปลุกปล้ำเด็กผู้หญิงบ้านข้างๆ เราด้วยค่ะ แบบว่าตอนเด็กๆ ชอบเล่นพ่อแม่ลูกไรงี้ใช่มั้ยคะ เราก็แกล้งสวมบทพระเอกเข้าไปหอมๆ พี่ข้างบ้านค่ะ แล้วตอนนั้นรู้ด้วยนะ ว่าต้องแอบทำในที่ลับตาผู้ใหญ่ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ารู้ได้ยังไง จำได้ว่าไปแอบทำในโรงรถข้างบ้านค่ะ ถ้าจำไม่ผิดพี่เค้าไม่ยอมและวิ่งหนีเราไปเลย แต่เราก็ทำแค่ตามที่เห็นในทีวีก่อนจะตัดภาพไปที่โคมไฟอ่ะ เพราะหลังจากนั้นก็ไม่รู้แล้วว่าเค้าทำยังไงกันต่อ นึกว่าแค่นั้นแล้วก็จบ เป็นสามีภรรยากันละ 
 
บางทีเล่นๆ กันกับเด็กข้างบ้านก็จะเอาหมอนข้างมาไว้บนตัวแล้วก็ทำท่าลูบหมอนข้าง เหมือนเวลานางเอกหรือตัวอิจฉาลูบหลังผู้ชายเวลาโดนปล้ำ แต่คือเด็กจะรู้แค่นั้นนะคะ จะไม่รู้หรอกว่าหลังจากนั้นมันจะเป็นยังไงต่อ หลังจากนั้นก็จะท้อง เอาหมอนมายัดเสื้อ แล้วก็คลอดออกมาเป็นตุ๊กตา อะไรแบบนั้นค่ะ พวกเด็กๆ ที่เล่นด้วยนางคงงงกันอ่ะ อีนี่เป็นบ้าอะไร แก่แดดมากๆ เลยนะคะ แต่เราว่าเราไม่ได้ผิดปกติอะ มันเป็นพฤติกรรมเลียนแบบที่เด็กทำตามภาพในละครที่ได้เห็นมาน่ะค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่