JJNY : ปิยบุตรลุยมุกดาหาร อดีตกำนันอัดตู่เอาคะแนนเสียงคืน/อนุสรณ์แนะแก้รธน.ลดขัดแย้ง/ทั่วโลกติดโควิด8.5ล./ติดเชื้อเพิ่ม5

'ปิยบุตร' ลุยมุกดาหาร อดีตกำนันร้องปม 'ทวงคืนผืนป่า' ทำเดือดร้อน อัด 'บิ๊กตู่' เอาคะแนนเสียงคืนมา
https://www.matichon.co.th/politics/news_2233963
 

 
‘ปิยบุตร’ เยือนมุกดาหาร รับเรื่องประชาชนเดือดร้อน กรณีทวงคืนผืนป่า อดีตกำนัน จี้ถามไล่ที่ชาวบ้านเอาไปให้นายทุนหรือไม่ – อัด “ประยุทธ์” ช่วยเหลือไม่ได้เอาคะแนนคืนมา
 
เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน ที่วัดป่าศรัทธาธรรม ต.คำป่าหลาย อ.เมือง จ.มุกดาหาร นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า และอดีต ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ รับหนังสือร้องเรียนความเดือดร้อนจากประชาชนชาว ต.คำป่าหลาย กรณีทวงคืนผืนป่า ป่าสงวนแห่งชาติป่าดงมูล แปลงที่ 2 โดยหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ มห.1 กรมป่าไม้ รับผิดชอบดำเนินการและแจ้งความดำเนินคดีกับประชาชน ในความผิด พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ และ พ.ร.บ.ป่าไม้ โดยที่ผ่านมามีการเข้ารื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง และทำลายพืชผลทางการเกษตรของประชาชนในพื้นที่ และปักเสาแนวเขตตรวจยึด อย่างไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ถูกต้อง ทั้งนี้ เฉพาะปัญหาการทวงคืนผืนป่าดงมูลแปลง 2 บริเวณหมู่ 5 หมู่ 6 และ หมู่ 13 ต.คำป่าหลาย ตามหนังสือร้องเรียนดังกล่าวทำการยึดพื้นที่ไปแล้วรวม 889 ไร่ มีประชาชนเดือดร้อนเกือบ 100 ราย ทั้งนี้ ประชาชนอยากให้ช่วยสะท้อนปัญหาที่ตนเองประสบ พร้อมทั้งเรียกร้องให้มีการแก้ปัญหา ได้แก่ 

1. ให้ถอนแจ้งความการดำเนินคดีกับประชาชนทั้งหมด 
 
2. ขอให้มีกลไกหรือช่องทางด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ช่วยผลักดันให้เกิดการแก้ไขโดยเข้าสู่กระบวนการในรูปแบบของคณะกรรมการเพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาที่แท้จริง โดยมีประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการดังกล่าว 
 
3. พร้อมกันนี้ยื่นเรื่องต่อคณะกรรมาธิการที่ดินทรัพยากรธรรมชาติและงแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร รวมถึง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้ช่วยแก้ปัญหาให้กับประชาชนจากกรณีดังกล่าวด้วย
 
นายไส ชัยบัน อดีตกำนันตำบลคำป่าหลาย ตัวแทนประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน กล่าวว่า การทวงคืนผืนป่าของ คสช. ทำให้ประชาชนเดือดร้อนกันมาก ความตั้งใจที่บอกว่าจะทวงคืนผืนป่าจากนายทุน แต่ในทางปฏิบัติแล้วกลับไม่ใช่ เพราะชาวตำบลคำป่าหลายเราไม่มีใครเป็นนายทุน เรามีกันคนละไร่สองไร่ สูงสุดคงไม่เกิน 20 ไร่ แต่เขาบอกว่าเราเป็นนายทุน เพราะเรามีบ้านที่มีเสาเกิน 4 ต้น มีรถมอเตอร์ไซค์ มีรถอีแต๊ก แม้เราจะบอกว่าเป็นหนี้เป็นสิน เขาก็บอกว่าเรามีเครดิต เขามองว่าเราเป็นนายทุน ทั้งที่จริงๆ พื้นที่นี้เราไม่ได้ซื้อมาจากใคร แต่เป็นมรดกตกทอดจากปู่ย่าตายายสืบทอดกันมา เจ้าหน้าที่ป่าไม้ทุกยุคทุกสมัยที่อยู่มาก็คุยกันได้ แต่มาในยุค คสช. นับตั้งแต่มีการทวงคืนผืนป่า คุยไม่ได้เลย จะยึดเอาอย่างเดียว บอกเราว่าถ้าอยากได้ที่ก็ให้มาแสดงตัวกันหน้าแปลง แล้วไปสู้กันชั้นศาล ชาวบ้านเราก็กลัวเพราะเขาเป็นเจ้าหน้าที่ ไม่มีใครอยากมีปัญหา แม้เราจะพยายามต่อรอง ขอให้ไปคุยกับทางจังหวัดเพื่อหาทางแก้ไข ให้มีการชี้ชัดก่อนว่าที่ดินแต่ละแปลงเป็นแบบไหน อยู่มาก่อนมีการประกาศเขตป่า หรือก่อน คสช. มีคำสั่งทวงคืนผืนป่าหรือไม่ ก็ไม่ฟัง จะยึดอย่างเดียว สาเหตุนี้ ตนก็ตังคำถามว่ามาจากการที่จะให้เอกชนเข้ามาทำเหมืองแร่หินหรือไม่ จะยึดทวงคืนผืนป่าจากชาวบ้านเอาไปอนุญาตให้นายทุนเข้ามาหาผลประโยชน์หรือไม่
 
“พื้นที่ตรงนี้จะมีโครงการเหมืองแร่เกิดขึ้น จะมีการออกประทานบัตรให้นายทุนพื้นที่โครงการกว่า 200 ไร่ ถามว่าเป็นการเตรียมการยึดพื้นที่ของประชาชนไปให้นายทุนหรือไม่ คุณบอกว่าจะเพิ่มพื้นที่ป่า แต่นี่ไม่ใช่ ที่ดินเดียวกันนี้ให้นายทุนทำได้ แต่ประชาชนกลับทำไม่ทำไม่ได้ ผมอยากฝากถึงนายกรัฐมนตรีให้ช่วยแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ถ้าตรวจสอบแล้วเป็นพื้นที่บุกรุกใหม่หลังปี 2557 เราก็ยินดีให้ แต่นี่ไม่ใช่ เราชาวบ้าน ต.คำป่าหลาย มีกันคนละไม่กี่ไร่กลับมายึด แต่นายทุนในจังหวัดมุกดาหาร คนเดียวมีถึง 2-3 พันไร่ ซึ่งให้นอมินีถือครองกลับไม่ไปแตะต้อง ประชาชนเราไม่มีนอมินี มีแต่ตัวจริง แต่ทำมาหากินไม่ได้ ผมจึงอยากฝากถึงนายกรัฐมนตรี ให้ช่วยทบทวนเรื่องนี้ใหม่ได้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอให้มาดูประชาชนหน่อย คะแนนของพวกผมที่สนับสนุนให้คุณ ถ้าทำเรื่องนี้ไม่ได้ก็เอาคืนมา แล้วคุณก็ไปอยู่กับนายทุน อย่ามาขอคะแนนกับประชาชน” นายไส กล่าว
 

 
“อนุสรณ์”แนะแก้รธน.ลดขัดแย้ง-จีพีดีQ2ติดลบหนักสุด
https://www.innnews.co.th/economy/news_702619/
 
"อนุสรณ์ ธรรมใจ" แนะแก้รัฐธรรมนูญลดขัดแย้งการเมือง ชมนายกฯ New Normal ชี้ จีพีดีไตรมาส2ติดลบหนักสุด ปีหน้ามีโอกาสพลิกกลับมาบวกได้
 
นายอนุสรณ์ ธรรมใจ ประธานคณะทำงานเครือข่ายภาคีเพื่อรัฐธรรมนูญประชาธิปไตย เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า เป็นเรื่องดีและน่ายกย่องที่นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ปรับรูปแบบการทำงานของรัฐบาลสู่ New Normal ด้วยการผนึกทุกภาคส่วน ร่วมวางอนาคตประเทศไทย ซึ่งเรื่องดังกล่าวควรที่จะทำมาตั้งนานแล้ว ส่วนกรณีที่นายกรัฐมนตรีขอให้ก้าวข้ามเกมการเมืองนั้น มองว่า การที่จะก้าวข้ามความขัดแย้งได้ ควรจะต้องมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย เพื่อให้การเมืองมีการแข่งขันที่ยุติธรรม เพราะถ้ายังไม่แก้ไข ความขัดแย้งก็ยังคงมีอยู่ ยกตัวอย่างเช่น ระบบการเลือกตั้ง รวมถึงการแต่งตั้งส.ว. 250 คน เพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี
 
นอกจากนี้ นายอนุสรณ์ ยังได้กล่าวถึงตัวเลขเศรษฐกิจไทยด้วยว่า ปีนี้จีพีดีจะติดลบ โดยไตรมาส 2 จะหดตัวหนักที่สุด ส่วนครึ่งปีหลังถือว่าพ้นจุดต่ำสุดแล้ว แต่ตัวเลขยังติดลบอยู่ ส่วนปีหน้ามีโอกาสที่จะพลิกกลับมาเป็นบวกได้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่