แย่งกันเป็นประทานนักเรียนทำไม

ทั้งหมดเป็นแค่ประสบการณ์ในโรงเรียนของผมไม่ได้สำคัญไรมากในการถามคำถาม
ผมสรุปคำถามไว้ล่างสุดเลยนะครับ



โรงเรียนผมจะแบ่งเป็น2รุ่นก็น่าจะเหมือนกันทุกโรงเรียน(มั้ง)คือ ป.6และม.5

ผมไม่ทราบจริงๆว่าโรงเรียนอื่นเค้าแบ่งพรรคแต่ละพรรคกันยังไงแต่โรงเรียนผมประถมมี8ห้อง ม.ปลายมี6ห้อง ให้1ห้องเป็น1พรรค สละสิทธิ์ได้(ซึ่งตั้งแต่ผมอยู่มายังไม่เคยเห็นใครสละสิทธิ์เลย) ผมพึ่งขึ้นม.4ปีนี้ก็คิดว่าปีหน้าจะเจอเรื่องร้ายๆแบบป.6หรือป่าว

ร.รผมตอนที่ผมอยู่ น.ร ป.3-ป.6มีสิทธ์โหวตเพื่อเลือกพรรคได้ แต่ปัจจุบันเพิ่ม ป.2เข้าไปด้วย

ตอนผมป.3ก็เจ๋งดีนะประสบการ์ณใหม่ มีพี่ๆมาคอยพูดว่าแบบถ้าเลือกพี่จะทำอย่างนู้นอย่างนี้โดยที่ตอนนั้นผมไม่ได้คิดไตร่ตรองอะไรเลยว่าพี่ๆที่มาพูดจะทำได้จริงหรือไม่ ซึ่งแต่ละพรรคมักจะเน้นที่ความเฮฮา เป็นหลัก โดยสิ่งที่มักจะนำมาโฆษณาก็คือ
-จะมีพี่ๆประจำอยู่ช่วยสอนการบ้าน
-ท่องศัพท์กับพี่ๆได้(ปกติต้องท่องกับครู)
-จะช่วยเก็บขยะ
อื่นๆอีกมากมาย เราก็เลือกพี่ๆที่เราคิดว่าเราชอบมากสุด นโยบายน่าสนใจสุด

ซึ่งพอผลออกมาพรรคที่ผมเลือกชนะ
ผมก็ดีใจอะนะคิดว่าสิ่งที่พี่ๆแกพูดจะเป็นจริง แต่สุดท้ายไม่รู้เลือกมาทำไม มีประทานนักเรียนเหมือนไม่มี สิ่งที่โฆษณามาทั้งหมดไม่มีจริงซักอย่าง ผมก็คุยกับเพื่อนๆ เพื่อนๆผมก็มีแต่บอกว่า เลือกพรรคนั้นๆโดยไม่สนใจนโยบาย แค่เห็นว่าพี่ๆพวกนั้นตลกดี เฮฮาดี

ป.4 ผมก็เริ่มไม่สนใจละ ผมคิดซะว่ามาฟังพี่ๆ8ห้องบ่นไปจะได้ ไม่ต้องเรียนซัก1คาบก็ยังดี
โดยที่ผมเลือกพรรคที่โฆษณาชวนเชื่อ ที่แบบไม่เวอร์เกินไป น่าจะเกิดขึ้นจริงได้ ซึ่งแน่นอน พรรคพวกนี้แพ้พรรคเวอร์ๆอยู่แล้ว ซึ่งไม่ทำตามที่พูด ผมจำได้ว่าตอนนั้นผมเลือกคนละพรรคกับเพื่อน เพื่อนนี่ชวนทะเลาะเลยนะ ผมก็งงอะนะว่า ประเทศประชาธิปไตยทำไมไม่เคารพเสียงข้างน้อย

ป.5 ผมไม่ออกเสียง พรรคที่ชนะไม่ทำตามที่พูดเหมือนเดิม

ป.6 ปีนี้จะยกตัวแทนห้องมาจำนวนหนึ่งมาเป็นพรรค1พรรค แน่นอนผมไม่ยุ่งแน่นอน ซึ่งแต่ละพรรคก็จะเดินทั่วโรงเรียน บางพรรคถือโทรโข่ง บางคนสนิทกับครูขอไมค์+ลำโพงมาเลย

คนในพรรคก็ถามความเห็นในห้องว่านโยบายแบบนี้โอเคไหม ซึ่งนโยบายเวอร์มากคือไม่มีทางทำได้จริง ทั้งห้องมีผมคนเดียวที่ค้านไปว่า มันเวอร์ไปต่อให้ได้เป็นประทานพรรคแล้วทำไม่ได้จริงตามที่พูดเสียศักดิ์ศรีปล่าวๆ ตอนนั้นผมก็เริ่มมีปัญหากับคนในห้องแล้วนะ จนถึงตอนโหวต แน่นอนครับผมโหวตพรรคที่คิดว่ามีความเป็นไปได้มากสุด (สรุปพรรคอื่นชนะ)
ในขณะที่เพื่อนๆในห้องมีคนที่ไม่เลือกพรรคตัวเองแค่2คนคือผม กับเพื่อนอีกคนนึง ซึ่งเพื่อนคนนี้อะมันเนียนว่ามันเลือกพรรคตัวเอง แต่มันแอบมาบอกผมว่าความจริงเลือกพรรคอื่น

หรือก็คือเพื่อนส่วนใหญ่คิดว่าผมแค่คนเดียวที่ไม่โหวตพรรคตัวเอง บางคนก็ไม่สนใจอะไร บางคนก็เกลียดผมไปเลย หรือสุดๆก็คือหัวหน้าพรรค เดินมารุมด่าตรูเกือบทั้งพรรค ผมก็อธิบายไปนี่ประเทศประชาธิบไตยจ๊ะ ทุกคนมีสิทธิเท่ากันผมจะโหวตอะไรก็เรื่องของผม แน่นอนครับคนพวกนี้ไม่ใช้เหตุผลอยู่แล้ว ต่อให้ผมงัดเหตุผลทั้งหมดมาพูดเค้าก็ไม่สน ผมก็ไม่แคร์อะไรเสียเวลาเถียงไปตั้งหลายนาที
รู้สึกเสียดายเวลา555

ในตอนป.6ผมคิดว่าประทานนักเรียนคือ
ตัวตลกที่มาเล่นมุกอะไรเฮฮาบนเวทีให้เราขำเล่นๆ ให้น.ร คุณครู ได้คลายเคลียด ส่วนจุดประสงค์ที่มีเพื่อให้ น.รเรียนได้เข้าใจถึงความไม่ยุติธรรมที่จะต้องเจอในสังคมทั่วไป การที่สังคมไม่สนใจเสียงข้างน้อย ส่วนประทานนักเรียนของประถมที่ผมอยู่มา4ปี ไม่มีพรรคไหนเลยที่ทำตามคำพูดแม้แต่นโยบายเดียว


ส่วนของพี่ม.5
แต่ละพรรคจะมีบอร์ดของตัวเอง พรีเซ้นพรรคตัวเองแค่ประมาณ2ครั้งเอง(ประถมนี่บางปีปาไป4ครั้ง)

คือเวลาพักเราก็จะไปดูแต่ละบอร์ดของแต่ละพรรค สิ่งนึงที่ผมเกลียดเลยคือ พี่ๆม.5(แค่บางพรรค) ยืนประจำบอร์ดเลย เรียกว่าล๊อกเป้าทีละคนเลย คนนึงมาดูก็มีพี่2คนมาล้อมพูด พรรคพี่เป็นแบบนี้ๆ อย่าลืมเลือกพรรคพี่นะ คือแบบ พี่ครับตรูอ่านภาษาไทยออกครับ ผมมีสมองแยกแยะเองได้ว่าจะเลือกพรรคไหน

ที่ผมโหวตมาตั้งแต่ม.1-ม.3 ผมโหวตตามนโยบายที่น่าสนใจและเป็นไปได้
ส่วนพรรคที่ชนะ แล้วได้เป็นประทานนักเรียนผมบอกเลยนะว่า ส่วนใหญ่ทำตามนโยบายตัวเองได้แค่50% ทำได้บางอย่าง ประทานนักเรียนของม.ปลาย นี่งานค่อนข้างเยอะ เพราะจะต้องมาคอย จัดกิจกรรมให้น้องๆ ผมว่าเผลอๆแทบไม่ได้เรียนเลยด้วยซ้ำ


แต่ที่ผมสงสัยเลยคือทำไมต้องแย่งกันเป็นประทายนักเรียนในเมื่อ

-ประทานนักเรียนป.6
   -เป็น/ไม่เป็นไม่ต่างกันเลย เพราะก็ไม่ได้ทำตามที่พูดอยู่ดี บางคนซื้อเสียงเสียเงินซื้อขนมมาแจกน้องๆอีก

-ประทานนักเรียนม.5
   -แย่งกันมาเพื่อมาทำงาน ลดพาระครู ทำกิจกรรมให้น้องๆ ถ้าเพื่อมาทำแบบนี้ผมว่าเปิดรับจิตอาสาไม่ดีกว่าหรอแต่ละงานก็กระจายกันไป บางงานคนนี้ทำคนนี้ทำบ่อยเปลี่ยนคนไม่ดีกว่าหรอ ดีกว่าโยนพาระทั้งหมดไปให้ประทานนักเรียน







ผมไม่ทราบนะว่าแต่ละโรงเรียนเป็นยังไงที่เล่ามาเป็นเพียงแค่ประสบการณ์ในโรงเรียนผม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่