ถ้าวันนึงข้างหน้ามีมิจฉาชีพใช้ข้ออ้างแบบนี้ ไปพูด จะเกิดอะไรขึ้นกับพุทธศาสนา ???
———————————-
หลวงตา : ปฏิบัติธรรมที่พวกขี้โกรธทั้งหลายให้ได้ดูบ้างว่า
กิริยาท่าทางนี้ไม่ใช่กิริยาแห่งความโกรธ ผู้ดูต่างหากมันตัวโกรธ ตัวหมายเรื่องกิเลส เพราะกิเลสเต็มหัวใจมัน ธรรมะที่ออกนี้ไม่มีกิเลส พูดตรงๆ ว่าหลวงตาไม่มีกิเลสในหัวใจ เปิดโล่งหมดแล้วมาได้เป็นเวลา ๕๔ ปีนี้แล้ว หลวงตาเปิดโล่งได้เลย โลกเขาเอาออกโชว์ได้ ทำไมธรรมจึงออกโชว์ไม่ได้ พระพุทธเจ้าปฏิบัติมาออกโชว์แก่โลกทั้งสามนี้ได้ตลอดมา นี้คือธรรมที่เลิศเลอที่ท่านปฏิบัติได้ นี้เราดำเนินตามธรรมที่เลิศเลอ ปฏิบัติได้รู้ได้เห็นมาจนกระทั่งถึงธรรมที่เลิศเลอเต็มหัวใจ แม้จะแสดงกิริยาอะไรออกมา เป็นพลังของธรรมทั้งนั้น ไม่ได้เป็นพลังของกิเลส นอกจากพวกคลังกิเลสมันเห็นอะไรก็ตีเข้าไปเป็นกิเลสเสียทั้งหมด เอะอะตดแตก นี้ก็ว่าตดนี้มันเหม็นนะ ดุในเจ้าของ จะว่าอย่างนั้นไปนะ ไม่ดุเจ้าของ มันดุแต่กิเลสมันเฉียดจมูกคนไป เข้าใจไหม ใครหลบไม่ดีจมูกขาด เข้าใจไหม ตะกี้นี้ถามว่ายังไง
โยม : ถามว่า เขาดูทางทีวี สงสัยว่าท่านหลวงตาปฏิบัติธรรมะอย่างไร จึงยังมีความโกรธอยู่
หลวงตา : เอา เราอยากถามย้อนหลังอีก ดูแบบไหนถึงดูว่าเป็นคนโกรธหรือไม่โกรธ หลวงตาโกรธหรือไม่โกรธ ให้ตอบมาวันหลังนะ ถ้าตอบวันนี้ไม่ทัน นี่หลวงตาได้เปิดแล้วว่า กิริยาท่าทางนี้เป็นกิริยาของธรรม พลังของธรรม ไม่ใช่พลังของกิเลส กิริยาของกิเลส เพราะเครื่องมือของกิเลสได้แก่ธาตุขันธ์ของเรา กิริยาที่แสดงเวลานี้เป็นเครื่องมือของธรรม ถ้ากิเลสมีภายในใจมากน้อย แสดงความรุนแรงออกมา จะเป็นฟืนเป็นไฟทั้งหมด ถ้าภายในจิตใจหมดกิเลสแล้ว มีแต่ธรรมบรรจุภายในใจ ธรรมแสดงออกมาก็มีลักษณะท่าทางเหมือนกัน แต่เป็นธรรมล้วนๆ
นี่หลวงตาแสดงเวลานี้แสดงออกเป็นธรรมล้วนๆ หลวงตาไม่มีกิเลสแม้เม็ดหินเม็ดทรายในหัวใจเลย ได้เป็นเวลา ๕๔ ปีมานี้ เอาไปฟังไปพิจารณา ถามมาอีกจะตอบอีก ถามมาทางสหรัฐ เมืองไทยก็จะตอบได้เป็นไรวะ
โยม : คนเดียวกันนี้ถามต่อไปอีกครับว่า
เจริญสติปัฏฐาน ระลึกรู้นาม รูป มีปรมัตถธรรมเป็นอารมณ์อยู่เนืองๆ จะบรรเทากิเลสได้มาก ทำลายความเป็นตัวตนให้ลดลง สมาธิระงับกิเลสได้แค่ชั่วคราว กิเลสจะลดลงต่อเมื่อมีปรมัตถธรรมเป็นอารมณ์เสมอๆ ท่านหลวงตามีความเห็นอย่างไรครับ
หลวงตา : แล้วคุณมีปรมัตถธรรมแล้วยังที่ละกิเลสนั่น หรือมีแต่ถามหลวงตาว้อๆ เท่านั้นเหรอ เราไม่อยากตอบ ถามแบบลมปากว้อๆ กิเลสไม่ได้ขาดสักนิดหนึ่ง เข้าใจเหรอ ก็มีเท่านั้นแหละ
source
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ http://www.luangta.com/thamma_forum/forum_detail.php?cgiForumID=678
หลวงตาเปิดโล่งได้เลย โลกเขาเอาออกโชว์ได้ ทำไมธรรมจึงออกโชว์ไม่ได้
———————————-
หลวงตา : ปฏิบัติธรรมที่พวกขี้โกรธทั้งหลายให้ได้ดูบ้างว่า กิริยาท่าทางนี้ไม่ใช่กิริยาแห่งความโกรธ ผู้ดูต่างหากมันตัวโกรธ ตัวหมายเรื่องกิเลส เพราะกิเลสเต็มหัวใจมัน ธรรมะที่ออกนี้ไม่มีกิเลส พูดตรงๆ ว่าหลวงตาไม่มีกิเลสในหัวใจ เปิดโล่งหมดแล้วมาได้เป็นเวลา ๕๔ ปีนี้แล้ว หลวงตาเปิดโล่งได้เลย โลกเขาเอาออกโชว์ได้ ทำไมธรรมจึงออกโชว์ไม่ได้ พระพุทธเจ้าปฏิบัติมาออกโชว์แก่โลกทั้งสามนี้ได้ตลอดมา นี้คือธรรมที่เลิศเลอที่ท่านปฏิบัติได้ นี้เราดำเนินตามธรรมที่เลิศเลอ ปฏิบัติได้รู้ได้เห็นมาจนกระทั่งถึงธรรมที่เลิศเลอเต็มหัวใจ แม้จะแสดงกิริยาอะไรออกมา เป็นพลังของธรรมทั้งนั้น ไม่ได้เป็นพลังของกิเลส นอกจากพวกคลังกิเลสมันเห็นอะไรก็ตีเข้าไปเป็นกิเลสเสียทั้งหมด เอะอะตดแตก นี้ก็ว่าตดนี้มันเหม็นนะ ดุในเจ้าของ จะว่าอย่างนั้นไปนะ ไม่ดุเจ้าของ มันดุแต่กิเลสมันเฉียดจมูกคนไป เข้าใจไหม ใครหลบไม่ดีจมูกขาด เข้าใจไหม ตะกี้นี้ถามว่ายังไง
โยม : ถามว่า เขาดูทางทีวี สงสัยว่าท่านหลวงตาปฏิบัติธรรมะอย่างไร จึงยังมีความโกรธอยู่
หลวงตา : เอา เราอยากถามย้อนหลังอีก ดูแบบไหนถึงดูว่าเป็นคนโกรธหรือไม่โกรธ หลวงตาโกรธหรือไม่โกรธ ให้ตอบมาวันหลังนะ ถ้าตอบวันนี้ไม่ทัน นี่หลวงตาได้เปิดแล้วว่า กิริยาท่าทางนี้เป็นกิริยาของธรรม พลังของธรรม ไม่ใช่พลังของกิเลส กิริยาของกิเลส เพราะเครื่องมือของกิเลสได้แก่ธาตุขันธ์ของเรา กิริยาที่แสดงเวลานี้เป็นเครื่องมือของธรรม ถ้ากิเลสมีภายในใจมากน้อย แสดงความรุนแรงออกมา จะเป็นฟืนเป็นไฟทั้งหมด ถ้าภายในจิตใจหมดกิเลสแล้ว มีแต่ธรรมบรรจุภายในใจ ธรรมแสดงออกมาก็มีลักษณะท่าทางเหมือนกัน แต่เป็นธรรมล้วนๆ นี่หลวงตาแสดงเวลานี้แสดงออกเป็นธรรมล้วนๆ หลวงตาไม่มีกิเลสแม้เม็ดหินเม็ดทรายในหัวใจเลย ได้เป็นเวลา ๕๔ ปีมานี้ เอาไปฟังไปพิจารณา ถามมาอีกจะตอบอีก ถามมาทางสหรัฐ เมืองไทยก็จะตอบได้เป็นไรวะ
โยม : คนเดียวกันนี้ถามต่อไปอีกครับว่า เจริญสติปัฏฐาน ระลึกรู้นาม รูป มีปรมัตถธรรมเป็นอารมณ์อยู่เนืองๆ จะบรรเทากิเลสได้มาก ทำลายความเป็นตัวตนให้ลดลง สมาธิระงับกิเลสได้แค่ชั่วคราว กิเลสจะลดลงต่อเมื่อมีปรมัตถธรรมเป็นอารมณ์เสมอๆ ท่านหลวงตามีความเห็นอย่างไรครับ
หลวงตา : แล้วคุณมีปรมัตถธรรมแล้วยังที่ละกิเลสนั่น หรือมีแต่ถามหลวงตาว้อๆ เท่านั้นเหรอ เราไม่อยากตอบ ถามแบบลมปากว้อๆ กิเลสไม่ได้ขาดสักนิดหนึ่ง เข้าใจเหรอ ก็มีเท่านั้นแหละ
source
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้