ชีวิตกับการปฏิบัติธรรมของผมในวันนี้

กระทู้สนทนา
-เสาร์อาทิตย์นี้ ซื้อผ้าไตร ๗ ชิ้น จำนวน ๕ ชุดจะพาเมียและลูกไปถวายวัดที่เจอกลางทาง ครั้งที่แล้วนำมุ้งเต๊นท์สามหลังไปถวายพระก่อนขึ้นภูทับเบิก
-ในแต่ละวันยามเงียบๆในบ้านตอนดึกๆประมาณเที่ยงคืนเป็นต้นไป ฟังธรรมเรื่องปฏิสัมภิทามรรค บันทึกคำสอน ค้นคว้าเพิ่มเติมจากคัมภีร์พระอภิธรรม จากพระอาจารย์ท่านอื่น หรืออาจารย์ท่านอื่นๆ และอ่านพระไตรปิฏกสูตรต่างๆที่พระอาจารย์สมบัติ นันทิโก ได้กล่าวถึง และในตอนท้ายสุด ก็จะนั่งวิปัสสนากรรมฐาน กายานุปัสสนาสติปัฏฐาน เริ่มต้นด้วยการใช้อาณาปานสติ พิจารณา ลมหายใจเข้าออก ณ ปัจจุบันอารมณ์ ก็ได้ความสงบทุกวัน
-รักษาศีล ๕ และพยายามให้ได้ศีลวิสุทธิ
-เป้าหมายในการนั่งวันนี้และวันต่อๆไปเพื่อ ให้เกิดสมาธิตั้งมั่น เพื่อให้เกิดปัญญารู้นามรูปปริจเฉทญาน และปัจจยปริคหญาน
-ในชีวิตประจำวันตั้งแต่ หกโมงเช้าจนกระทั่งนอน เมื่อมีอารมณ์มากระทบ บางอารมณ์ก็มีสติตามรู้ได้ทันว่า เป็น รูป นาม แต่ส่วนมากไม่มีสติ ในทันทีแต่ก็สามารถมีสติโยนิโสได้เมื่อผ่านมาแล้วสักระยะเวลาหนึ่ง
-และในการดำรงชีวิต ก็พยายามกระทำให้เกิด กุศลวิตก ให้มากกว่า อกุศลวิตก เท่าที่จะทำได้
-ชีวิตของผมในแต่ละวันก็เป็นเช่นนี้ครับ
-ศึกษาพระธรรม และเมื่อพอรู้แล้ว ก็ปฏิบัติไปด้วย ฉันนั้น เหมือนกับ มีเป้าหมายที่จะไปท่องเที่ยว ค้นคว้าศึกษาเส้นทางสถานที่ท่องเที่ยว เตรียมการเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมที่จะไปท่องเที่ยว และก็ออกเดินทาง จากบ้าน สถานที่ระหว่างทาง และจุดหมาย และเป้าหมายที่จะกระทำที่จุดหมาย ฉันใด
-เพราะยังมี โลภะ ยังมีโทสะ ยังมีโมหะ เรื่อยๆ ตามรู้ทันบ้างนิดหน่อย แต่ไม่รู้ตัวเป็นส่วนมาก
-ชีวิตแต่ละวันก็รู้สึกว่ามีความสุขกายสบายใจดีกว่าแต่ก่อนๆ แต่อย่างไรก็ตาม วิปาก ย่อมเกิดทุกวัน และก็ได้โยนิโสบ้าง อโยนิโส บ้างทุกวัน
-ก็เห็นว่า เกิดเป็นทุกข์ ตอนนี้แก่แล้วก็เป็นทุกข์ แต่ตอนตายยังไม่เห็น แต่อนุมานได้ว่าก็น่าจะสุดๆของทุกข์
-แต่ด้วยความเข้าใจเรื่อง จุติจิต และ ปฏิสนธิจิต , ภพ ๓ ,กำเนิด๔,คติ ๕,วิญญานฐีติ๗ และสัตตาวาส ๙ และก็รู้ทางไปของแต่ละภพดังกล่าวว่าเป็นมรรคา(ทาง)
-ศึกษาพระธรรมบ้าง ปฏิบัติบ้าง ทำทานบ้าง 
-ไม่ทำบาป (โลภะเกิด โทสะเกิด แล้วแสดงออกทางกายวาจา)
-แต่ยังไม่แน่ใจเลยว่าตายไปแล้วจะเกิดเป็นเทวดาหรือมนุษย์เพราะในภพนี้ที่ผ่านมา(ก่อนเรียนพระอภิธรรม)ก็ทำอกุศลกรรมไว้มากมายทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ เมื่อมารู้ภายหลัง
-แต่เข้าใจเรื่อง ปฏิจจสมุปบาท (เพราะอยากรู้เรื่องปฏิจจสมุปบาท นี่เองจึงทำให้เรียนพระอภิธรรมจนจบ)
-พระอภิธรรม เนื้อหาก็แค่ อริยสัจ ๔ แบบละเอียด
-ปฏิสัมภิทามรรค ตอนนี้เรียนถึงบทที่ ๑๑ ใน ๘๔ บท เหตุที่เรียนช้าเพราะฟังถึงตอนหนึ่งแล้วอยากรู้เรื่องหนึ่งในคำสอนก็ต้องไปค้นคว้าอ่านพระไตรปิฎกอ่านทบทวนแผนภาพการสอนพระอภิธรรม กว่าจะครบถึงค่อยย้อนมาเรียนต่อ ทีหนึ่งบางทีก็เป็นอาทิตย์ กว่าจะกลับมาเริ่มเรียนปฏิสัมภิทามรรค ต่อไปได้ และเห็นว่าคำสอนของพระอาจารย์ท่านสังเคราะห์มาจากความรู้ความเข้าใจในพระธรรมของท่านอย่างกว้างขวางจึงสมควรที่จะจดบันทึกไว้อ่านในภายหลังได้อีกไม่ได้ฟังแบบผ่านๆ
-การฟังธรรมก็เป็น กุศล เมื่อชีวิตในแต่ละวันเป็นกุศลบ้าง เป็นอกุศลบ้าง มีกุศลดีขึ้นกว่าวันก่อนๆบ้าง ลืมตัวมีอกุศลมากขึ้นกว่าวันก่อนๆบ้าง
-วันนี้จึงรู้สึกว่า พระพุทธคุณ ๙ บท พระธรรมคุณ ๖ บท พระสังฆคุณ ๙ บท เป็นที่พึ่งของชีวิตใน วัยชราปิทุกขานี้ ได้อย่างแท้จริงยอดเยี่ยม
-ณ ปัจจุบันนี้ พร้อมตายครับ(ความกลัวเป็นโทสะอกุศลจิตอย่างหนึ่ง) เหตุที่พร้อมตายทุกขณะก็เพราะได้ศึกษาพระธรรมและปฏิบัติธรรมเล็กน้อยในพระพุทธศาสนานี้แหละครับ เชื่อไหมครับว่า ผลงานในอดีตที่ผ่านมาถูกลบออกจากใจ เพราะเปรียบไม่ได้กับ การเล่าเรียนและปฏิบัติธรรมในปัจจุบัน
-เป็นอย่างนี้แหละครับ ผม ในวันนี้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่