ติดตามข่าวของน้องชมพู่ เด็กหญิงวัย 3 ขวบ ที่เสียชีวิตบนเขาเหล็กไฟ จ.มุกดาหาร ตั้งแต่วันแรกเลย.. น้องถูกพบเป็นศพบนภูเขาเหล็กไฟ ห่างจากบ้าน 2-3 กิโลเมตร ..เกิดอะไรกับน้องชมพู่และน้องหายจากสายตาของคนในหมู่บ้านภายในครึ่งชั่วโมงไปได้อย่างไร เพราะพี่สาวประกาศให้คนในหมู่บ้านทราบทันทีที่รู้ว่าน้องหายไป! ..โดยส่วนตัวคิดว่าคดีนี้ค่อนข้างจะแปลกมาก มีตัวละครน่าสงสัยอยู่หลายคน จึงได้ลองจำกัดวงให้แคบโดยใช้ทฤษฎีทั่วๆ ไป เกี่ยวกับอุปนิสัยของน้องชมพู่และตั้งข้อสังเกตหลักๆ อยู่ 2 คน คนแรกก็คือ คนที่ใกล้ชิดกับน้องและอีกคนคือคนที่อยุ่ในบริเวณที่น้องหายตัวไป
1. คนแรก (ช) คนนี้จะโดนพุ่งประเด็นไปมากที่สุด เพราะปฏิกิริยาทางร่างกายที่แสดงออกค่อนข้างจะไม่เป็นธรรมชาติ, ชี้นำไปทิศทางใหม่ๆ ให้ตำรวจไขว้เขว และช่วงเวลาที่เด็กหาย เค้าออกไปทำธุระข้างนอกบ่อยครั้ง
2. คนที่ 2 (ว) ส่วนบุคคลนี้ ช่วงจังหวะเวลาต่างๆ ในตอนที่เด็กหาย เค้าอยู่ห่างจากเด็กแค่ 100 เมตร เท่านั้น, พบรอยรองเท้าของเด็กเป็นกลุ่มแรก, และพบเจอศพของเด็กเป็นกลุ่มแรกๆ อีกเช่นกัน
(( มองต่างกันอย่างไรบ้างคะ? ))
01/08/2020 : อัพเดท ! ความคืบหน้าคดีกันหน่อยจ้า
82 วันแล้ว สำหรับการติดตามหาตัวคนร้ายในคดีนี้ ยังคงติดตามข่าวน้องอยู่ทุกวันค่ะ เพราะอยากให้น้องและครอบครัวได้รับความยุติธรรมอย่างเร็วและชัวร์ที่สุด! และไม่ต้องกังวลเรื่องการจับแพะเลยค่ะ ถ้าจับแพะก็คงมีคนติดคุกคดีนี้ไปแล้ว เข้าใจว่าคดีนี้มีความยากและซับซ้อนพอสมควรเลย เนื่องจากสถานที่เกิดเหตุนั้นอยู่สูงและเข้าไปถึงได้ยากมาก (ตำรวจน่าจะปวดหัวกันน่าดู)
กลับมาวิเคราะห์คดีน้องชมพู่กันต่อ จากข้อมูลของสื่อและข้อมูลที่เก็บมาค่ะ
ทฤษฏีที่ 1: ฆาตกรรม
ทำไมถึงต้องสงสัยลุงเขย??
- ลุงให้การที่ขัดแย้งกับสิ่งที่ตนได้กระทำลงไปหลายข้อ
- การยืนยันช่วงเวลาที่อาจมีการปรุงแต่งได้ หากลุงเขยไม่มีพยานยืนยันที่อยู่ที่แน่นอน
- พยายามไปเคลียร์กับพยานทุกคนที่ให้การเกี่ยวกับเขาในวันเกิดเหตุ
- พยายามเบี่ยงประเด็นและให้ข้อมูลชี้นำไปในทิศทางใหม่ๆ กับเจ้าหน้าที่
- ภาษากายที่แสดงออกแบบไม่เป็นธรรมชาติ เช่น สีหน้า, แววตา, พฤติกรรมแปลกๆ ที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง
- ประกาศท้าคนในครอบครัวไปสาบาน แต่! ตัวเองดันกลัวเสียเอง (ไม่ดื่มน้ำสาบาน, กล่าวคำสาบานของตนเอง, ปักธูปกลับหัว)
(( แปลกยิ่งกว่าแปลก ))
ทฤษฏีที่ 2: อุบัติเหตุ
กรณีที่คิดว่าน้องชมพู่เดินไปตายเอง(บนเขา)ได้ไหม? ขอตอบเลยว่า ไม่มีทางเป็นไปได้เลยค่ะ
เพราะถ้าน้องเดินไปตายเอง เสื้อผ้าของน้องก็คงไม่หายไป (หลักฐาน)
และชาวบ้านที่ออกตามหาในตอนนั้น ก็คงต้องหาน้องเจอแล้วในขณะที่น้องยังมีชีวิตอยู่
( ชาวบ้านช่วยกันออกตามหาทันทีที่พี่สาวแจ้งให้ทุกคนทราบว่าน้องหายไป ) (( ให้แค่ 5% ที่จะเป็นทฤษฎีนี้ค่ะ ))
11/02/2021: ปริศนาที่เริ่มคลี่คลาย! ( ใกล้ความจริงเข้ามาทุกทีแล้ว )
จากข้อมูลของสำนักข่าวหลายช่องที่ได้ลงพื้นที่ไปทำงานเพื่อติดตามคดีของน้องชมพู่
สรุปคดีแบบ 100%
1. น้องไม่ได้ขึ้นไปเสียชีวิตบนเขาเอง (เส้นผมถูกตัดออกไป, เสื้อผ้าถูกถอดออกไป)
2. มีคนผิดในคดีนี้อย่างแน่นอน
3. เจตนาทำให้เสียชีวิต (เนื่องจากมีการอำพรางศพ, น้องเสียชีวิตแล้ว 2 วันก่อนจะพบศบบนเขา)
4. มีหลักฐานและพยานที่ชัดเจนและสมบูรณ์
มาอัพเดทคดีกันต่อค่ะ.. อันดับแรก ขอชื่นชมการทำงานของเจ้าหน้าที่และผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีทุกคนเลยค่ะ ที่ใช้ความพยายามในการเหล็กหลักฐานเพื่อมาต่อจิ๊กซอว์ จนทำให้คดีนี้สมบูรณ์ 100% เพราะจนถึงตอนนี้ เราแทบจะไม่เห็นผู้ต้องสงสัยรายใหม่เกิดขึ้นมาเลย เพราะอะไร? หรือหลักฐานที่เจ้าหน้าที่มีนั้นมุ่งไปที่คนๆเดียวหรือไม่? ..อันที่จริงแล้ว เจ้าหน้าที่คงไม่ได้เลือกกระทำกับใครคนใดคนนึง เนื่องจากเวลาที่ จนท. ใช้ในการสืบหาพยาน, หลักฐาน, และเวลาที่อยู่ ล้วนถูกนำมาวิเคราะห์และมีความสำคัญเกี่ยวข้องกันทั้งหมด ซึ่งด้านครอบครัวของน้องก็คงจะเป็นกลุ่มแรกที่เจ้าหน้าที่ต้องตรวจสอบมากที่สุด
เพราะเป็นกลุ่มเดียวที่น้องยอมให้เข้าใกล้โดยเชื่อใจ ข้อนี้จึงเป็นจุดแรกที่เจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการตั้งแต่แรก
*หลักฐานสำคัญ!
(( เส้นผมที่หายไป ))
ข้อนี้เปนจุดที่คิดว่าจะสามารถนำมาคลี่คลายคดีได้ หากเราหามูลเหตุของการหายไปของเส้นผมได้
• ทำไมต้องตัดเส้นผมของน้องไป?
- ข้อที่ 1 ความเชื่อและพิธีกรรม
- นำไปทำพิธีเกี่ยวกับเรื่องไสยศาสตร์
- เส้นผมสามารถนำไปทำอะไรได้บ้าง?
- ข้อที่ 2 หายไปเอง
- ทฤษฎีนี้เป็นไปไม่ได้เลย เพราะเส้นผมถูกสับออกไปโดยมีดและยังทิ้งร่องรอยบนพื้นดินรอบๆผมของน้อง
..หากเราสังเกตุดีๆ ย้อนไปดูพฤติกรรมของใครบางคนที่เราตั้งข้อสงสัย มันก็จะเกิดคำถามมากมายว่าทำไมคนๆนี้ ต้องโกหกอยู่บ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่, ไม่ยอมรับในความผิด, มีปัญหากับคนมากมาย, หรือบุคลิกแบบนี้อาจจะเรียกได้ว่าเป็น โรคปฏิเสธความผิดพลาดหรือผิดหวัง ไม่ชอบถูกปฏิเสธและโดนต่อต้าน โดยส่วนมากแล้วบุคลิกภาพแบบนี้จะเกิดกับฆาตกรที่มี 2 บุคลิกภาพค่ะ บุคลิกภายนอกก็จะดูเหมือนคนทั่วไป แต่อีกมุมหนึ่งก็จะกลายเป็นคนที่ก้าวร้าวแบบสุดขั้วเลย (ไม่รู้ว่าวิเคราะห์มากไปรึป่าวนะคะ.. เนื่องจากติดตามพฤติกรรมของบุคคลนี้มาตลอด) และคิดว่าคดีอาจจะจบเร็วๆนี้ เพราะมีคนยื่นมือมาให้ความยุติธรรมจากหลายฝ่าย หลายๆ คนที่เคยมองว่าน้องขึ้นไปเสียชีวิตเองก็เปลี่ยนความคิดใหม่ เพราะหลักฐานที่ จนท. มีนั้น ยืนยันชัดเจนว่าน้องไม่มีทางขึ้นไปเองอย่างแน่นอน
มาร่วมเป็นกำลังใจให้กับน้องชมพู่เพื่อจับคนร้ายคนนี้กันค่ะ
เกิดอะไรกับน้องชมพู่? (มาวิเคราะห์แนวทางกันค่ะ)
1. คนแรก (ช) คนนี้จะโดนพุ่งประเด็นไปมากที่สุด เพราะปฏิกิริยาทางร่างกายที่แสดงออกค่อนข้างจะไม่เป็นธรรมชาติ, ชี้นำไปทิศทางใหม่ๆ ให้ตำรวจไขว้เขว และช่วงเวลาที่เด็กหาย เค้าออกไปทำธุระข้างนอกบ่อยครั้ง
2. คนที่ 2 (ว) ส่วนบุคคลนี้ ช่วงจังหวะเวลาต่างๆ ในตอนที่เด็กหาย เค้าอยู่ห่างจากเด็กแค่ 100 เมตร เท่านั้น, พบรอยรองเท้าของเด็กเป็นกลุ่มแรก, และพบเจอศพของเด็กเป็นกลุ่มแรกๆ อีกเช่นกัน
(( มองต่างกันอย่างไรบ้างคะ? ))
01/08/2020 : อัพเดท ! ความคืบหน้าคดีกันหน่อยจ้า
82 วันแล้ว สำหรับการติดตามหาตัวคนร้ายในคดีนี้ ยังคงติดตามข่าวน้องอยู่ทุกวันค่ะ เพราะอยากให้น้องและครอบครัวได้รับความยุติธรรมอย่างเร็วและชัวร์ที่สุด! และไม่ต้องกังวลเรื่องการจับแพะเลยค่ะ ถ้าจับแพะก็คงมีคนติดคุกคดีนี้ไปแล้ว เข้าใจว่าคดีนี้มีความยากและซับซ้อนพอสมควรเลย เนื่องจากสถานที่เกิดเหตุนั้นอยู่สูงและเข้าไปถึงได้ยากมาก (ตำรวจน่าจะปวดหัวกันน่าดู)
กลับมาวิเคราะห์คดีน้องชมพู่กันต่อ จากข้อมูลของสื่อและข้อมูลที่เก็บมาค่ะ
ทฤษฏีที่ 1: ฆาตกรรม
ทำไมถึงต้องสงสัยลุงเขย??
- ลุงให้การที่ขัดแย้งกับสิ่งที่ตนได้กระทำลงไปหลายข้อ
- การยืนยันช่วงเวลาที่อาจมีการปรุงแต่งได้ หากลุงเขยไม่มีพยานยืนยันที่อยู่ที่แน่นอน
- พยายามไปเคลียร์กับพยานทุกคนที่ให้การเกี่ยวกับเขาในวันเกิดเหตุ
- พยายามเบี่ยงประเด็นและให้ข้อมูลชี้นำไปในทิศทางใหม่ๆ กับเจ้าหน้าที่
- ภาษากายที่แสดงออกแบบไม่เป็นธรรมชาติ เช่น สีหน้า, แววตา, พฤติกรรมแปลกๆ ที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง
- ประกาศท้าคนในครอบครัวไปสาบาน แต่! ตัวเองดันกลัวเสียเอง (ไม่ดื่มน้ำสาบาน, กล่าวคำสาบานของตนเอง, ปักธูปกลับหัว)
(( แปลกยิ่งกว่าแปลก ))
ทฤษฏีที่ 2: อุบัติเหตุ
กรณีที่คิดว่าน้องชมพู่เดินไปตายเอง(บนเขา)ได้ไหม? ขอตอบเลยว่า ไม่มีทางเป็นไปได้เลยค่ะ
เพราะถ้าน้องเดินไปตายเอง เสื้อผ้าของน้องก็คงไม่หายไป (หลักฐาน)
และชาวบ้านที่ออกตามหาในตอนนั้น ก็คงต้องหาน้องเจอแล้วในขณะที่น้องยังมีชีวิตอยู่
( ชาวบ้านช่วยกันออกตามหาทันทีที่พี่สาวแจ้งให้ทุกคนทราบว่าน้องหายไป ) (( ให้แค่ 5% ที่จะเป็นทฤษฎีนี้ค่ะ ))
11/02/2021: ปริศนาที่เริ่มคลี่คลาย! ( ใกล้ความจริงเข้ามาทุกทีแล้ว )
จากข้อมูลของสำนักข่าวหลายช่องที่ได้ลงพื้นที่ไปทำงานเพื่อติดตามคดีของน้องชมพู่
สรุปคดีแบบ 100%
1. น้องไม่ได้ขึ้นไปเสียชีวิตบนเขาเอง (เส้นผมถูกตัดออกไป, เสื้อผ้าถูกถอดออกไป)
2. มีคนผิดในคดีนี้อย่างแน่นอน
3. เจตนาทำให้เสียชีวิต (เนื่องจากมีการอำพรางศพ, น้องเสียชีวิตแล้ว 2 วันก่อนจะพบศบบนเขา)
4. มีหลักฐานและพยานที่ชัดเจนและสมบูรณ์
มาอัพเดทคดีกันต่อค่ะ.. อันดับแรก ขอชื่นชมการทำงานของเจ้าหน้าที่และผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีทุกคนเลยค่ะ ที่ใช้ความพยายามในการเหล็กหลักฐานเพื่อมาต่อจิ๊กซอว์ จนทำให้คดีนี้สมบูรณ์ 100% เพราะจนถึงตอนนี้ เราแทบจะไม่เห็นผู้ต้องสงสัยรายใหม่เกิดขึ้นมาเลย เพราะอะไร? หรือหลักฐานที่เจ้าหน้าที่มีนั้นมุ่งไปที่คนๆเดียวหรือไม่? ..อันที่จริงแล้ว เจ้าหน้าที่คงไม่ได้เลือกกระทำกับใครคนใดคนนึง เนื่องจากเวลาที่ จนท. ใช้ในการสืบหาพยาน, หลักฐาน, และเวลาที่อยู่ ล้วนถูกนำมาวิเคราะห์และมีความสำคัญเกี่ยวข้องกันทั้งหมด ซึ่งด้านครอบครัวของน้องก็คงจะเป็นกลุ่มแรกที่เจ้าหน้าที่ต้องตรวจสอบมากที่สุด
เพราะเป็นกลุ่มเดียวที่น้องยอมให้เข้าใกล้โดยเชื่อใจ ข้อนี้จึงเป็นจุดแรกที่เจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการตั้งแต่แรก
*หลักฐานสำคัญ!
(( เส้นผมที่หายไป ))
ข้อนี้เปนจุดที่คิดว่าจะสามารถนำมาคลี่คลายคดีได้ หากเราหามูลเหตุของการหายไปของเส้นผมได้
• ทำไมต้องตัดเส้นผมของน้องไป?
- ข้อที่ 1 ความเชื่อและพิธีกรรม
- นำไปทำพิธีเกี่ยวกับเรื่องไสยศาสตร์
- เส้นผมสามารถนำไปทำอะไรได้บ้าง?
- ข้อที่ 2 หายไปเอง
- ทฤษฎีนี้เป็นไปไม่ได้เลย เพราะเส้นผมถูกสับออกไปโดยมีดและยังทิ้งร่องรอยบนพื้นดินรอบๆผมของน้อง
..หากเราสังเกตุดีๆ ย้อนไปดูพฤติกรรมของใครบางคนที่เราตั้งข้อสงสัย มันก็จะเกิดคำถามมากมายว่าทำไมคนๆนี้ ต้องโกหกอยู่บ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่, ไม่ยอมรับในความผิด, มีปัญหากับคนมากมาย, หรือบุคลิกแบบนี้อาจจะเรียกได้ว่าเป็น โรคปฏิเสธความผิดพลาดหรือผิดหวัง ไม่ชอบถูกปฏิเสธและโดนต่อต้าน โดยส่วนมากแล้วบุคลิกภาพแบบนี้จะเกิดกับฆาตกรที่มี 2 บุคลิกภาพค่ะ บุคลิกภายนอกก็จะดูเหมือนคนทั่วไป แต่อีกมุมหนึ่งก็จะกลายเป็นคนที่ก้าวร้าวแบบสุดขั้วเลย (ไม่รู้ว่าวิเคราะห์มากไปรึป่าวนะคะ.. เนื่องจากติดตามพฤติกรรมของบุคคลนี้มาตลอด) และคิดว่าคดีอาจจะจบเร็วๆนี้ เพราะมีคนยื่นมือมาให้ความยุติธรรมจากหลายฝ่าย หลายๆ คนที่เคยมองว่าน้องขึ้นไปเสียชีวิตเองก็เปลี่ยนความคิดใหม่ เพราะหลักฐานที่ จนท. มีนั้น ยืนยันชัดเจนว่าน้องไม่มีทางขึ้นไปเองอย่างแน่นอน
มาร่วมเป็นกำลังใจให้กับน้องชมพู่เพื่อจับคนร้ายคนนี้กันค่ะ