สวัสดีค่ะ พอดีเราคิดถึงยายที่เสียไปนาน ขึ้นมาเลยอยากมาเล่าประสบการณ์ที่เคยอยู่กับยายให้ฟังค่ะ ฉันอยู่กับยายตั้งแต่จำความได้ คืออนุบาล1จนถึงป.4
บ้านของยายเป็น บ้านไม้ ครึ่งปูน ในบ้านมีบ่อน้ำค่อนข้างลึก อยู่ในชุมชนเล็กในเชียงใหม่ ยายเป็นยายบุญธรรมค่ะ แต่ฉันก็รักยายมากเพราะยายเลี้ยงฉันมาอย่างดี โดยที่แม่ของฉันทำงานส่งเงินมาให้ทุกเดือนค่ะ
ยายมีอาชีพ เย็บผ้าโหล รับจ้างทากาวพับถุงกล้วยแขก ทุกครั้งที่ยายสาละวนอยู่กับจักรเย็บผ้า หรือว่ายายร้อนๆ ยายจะหยิบยาเส้นมาจำนวนนึง ห่อด้วยใบตองแห้งที่ยายตากไว้เอง ฉันก็สงสัยว่ายายสูบอะไร สงสัยคงทำให้ยายมีแรงทำงานหรือป่าว บางครั้งยายก็ใช้ฉัน ไปซื้อเครื่องดื่มเกลือแร่บ่อยครั้ง ซึ่งฉันมักจะแอบดูดเพื่อชิมรสชาตและยาหอมผง ที่ยายคิดว่าทานแล้วจะหายเหนื่อย
ยายของฉันใจบุญ ทุกครั้งที่มีวันพระใหญ่ พระเล็ก วันสำคัญทางพุทธศาสนา ยายมักจะชอบทำขนมและอาหารคาวไปวัดเป็นประจำ ซึ่งฉันนี่แหล่ะเป็นลูกมือยายตลอด แม้แต่ไปฟังธรรมหรือทานขันข้าวที่วัด ยายก็เอาฉันติดสอยห้อยตามเสมอ ฉันน่ะเหรอ นั่งประนมมือพร้อมหลับไปด้วย 555
บางครั้งฉันชอบวิ่งเล่นในซอย ซึ่งจะออกไปน่าถนนอยู่บ่อยครั้ง หรือเล่นซ่อนหากับน้องข้างบ้าน ยายมักจะบอกว่า ระวังจะหลงไปในป่าหิมพานต์นะ ระวังผีเอาไปซ่อนนะ ซึ่งเด็กอย่างฉันก็ได้แต่ฟังแต่ก็ยังเล่นต่อแต่แอบกลัวสิ่งที่ยายดุอยู่เหมือนกัน
มีครั้งนึงฉันจำได้ ว่ายายชอบไปทัศนาจรกับเพื่อนๆยายและพี่สาวยาย ซึ่งฉันเรียกว่าแม่อุ๊ย แน่ล่ะยายก็เอาฉันไปด้วยตามเคย พร้อมด้วยลูกสาวยายคือป้าพร และญาติๆของยายบางส่วน เพราะนั่งรถทัวร์ไป เขาต้องหารกันให้เต็มรถถึงจะคุ้ม ตอนนั้นฉันจำได้ว่ารถได้พาพวกเราไปเที่ยวจากต้นทางเชียงใหม่ ไปจันทบุรี ตราด ระยอง ชลบุรี บางแสน อ่างศิลา ไปเล่นน้ำทะเล ไปนอนวัดเขาสุกิม ไปดูสุนทรภู่ สนุกมากๆเลยค่ะ
และยังไปทางอิสาน มีอุดร โคราช ไปวัดหลวงพ่อคูณ ฉันจำได้ว่าโดนเอาไม้เคาะหัวด้วยค่ะ555แล้วที่จำติดตาคือวัดป่าหลักร้อย หรือป่าวไม่แน่ใจว่าอยู่จังหวัดอะไรค่ะ ที่จำได้และกลัวสุดๆสำหรับฉันคือในวัดมีรูปปั้นเป็นนรกจำลอง มีเปรต มีสัตว์นรก อสูรกาย มีคนทำชั่ว คือในวัดวังเวงเพราะเป็นวัดป่า ฉันกลัวแทบจะร้องให้ เพราะเปรตสูงน่ากลัวมากค่ะ ยายก็จะสอนจะบอกเรื่องเวรกรรมให้ฟังค่ะ
จากวันนั้นถึงวันนี้ ยายเสียไป10กว่าปีแล้วด้วยปอดที่หายไป1ข้าง จากการสูบยาเส้ยด้วยการที่ยายเลือกความตาย มากกว่าที่จะเลือกผ่าตัด ฉันออกมาอยู่กับแม่ตั้งแต่อายุ9ปี ก็ไม่ได้กลับไปบ้านยายอีกเลย จนรู้ข่าวการเสียของยาย จนฉันโตขึ้นฉันก็กลับไปเยี่ยมบ้านหลังนั้น มีป้าพรและสามียังอาศัยอยู่บ้านหลังนั้นเหมือนเดิม
วันนี้ ฉันคิดถึงยาย ผู้หญิงตัวเล็กผอม ดัดผมดำ ใส่ตุ้มหูวงสีทอง ใส่ผ้าถุง มีกระเป๋าคาดที่เอว ยายชอบสูบยาเส้นทุกวัน ยายชอบให้ฉันนอนหนุนตักทุกคืน พร้อมสอนฉันสวดมนต์ด้วย ถ้าไม่มียาย ฉันคงไม่รู้จักความผิด ชอบ ชั่วดี การทำบุญ การเชื่องเรื่องเวรกรรมและศาสนา
ป่านนี้ฉันเชื่อว่า สิ่งดีๆและกุศลที่ยายทำคงทำให้ยายเป็นเทวดา อยู่บนสวรรค์ เป็นแน่แท้ รักยายเสมอและตลอดไปนะคะ🙏😇
ขอบพระคุณที่อ่านนะคะ เขียนผิดพลาดประการใดก็ขออภัยด้วยค่ะ เพราะเรื่องราวผ่านมานาน ตั้งแต่ปี2538ค่ะ อาจจะจำได้บ้างไม่ได้บ้าง
เมื่อฉันนั่งมองยายของฉันคีบบุหรี่ยาเส้นที่มวนด้วยใบตองแห้งด้วยความเอ็นดู
บ้านของยายเป็น บ้านไม้ ครึ่งปูน ในบ้านมีบ่อน้ำค่อนข้างลึก อยู่ในชุมชนเล็กในเชียงใหม่ ยายเป็นยายบุญธรรมค่ะ แต่ฉันก็รักยายมากเพราะยายเลี้ยงฉันมาอย่างดี โดยที่แม่ของฉันทำงานส่งเงินมาให้ทุกเดือนค่ะ
ยายมีอาชีพ เย็บผ้าโหล รับจ้างทากาวพับถุงกล้วยแขก ทุกครั้งที่ยายสาละวนอยู่กับจักรเย็บผ้า หรือว่ายายร้อนๆ ยายจะหยิบยาเส้นมาจำนวนนึง ห่อด้วยใบตองแห้งที่ยายตากไว้เอง ฉันก็สงสัยว่ายายสูบอะไร สงสัยคงทำให้ยายมีแรงทำงานหรือป่าว บางครั้งยายก็ใช้ฉัน ไปซื้อเครื่องดื่มเกลือแร่บ่อยครั้ง ซึ่งฉันมักจะแอบดูดเพื่อชิมรสชาตและยาหอมผง ที่ยายคิดว่าทานแล้วจะหายเหนื่อย
ยายของฉันใจบุญ ทุกครั้งที่มีวันพระใหญ่ พระเล็ก วันสำคัญทางพุทธศาสนา ยายมักจะชอบทำขนมและอาหารคาวไปวัดเป็นประจำ ซึ่งฉันนี่แหล่ะเป็นลูกมือยายตลอด แม้แต่ไปฟังธรรมหรือทานขันข้าวที่วัด ยายก็เอาฉันติดสอยห้อยตามเสมอ ฉันน่ะเหรอ นั่งประนมมือพร้อมหลับไปด้วย 555
บางครั้งฉันชอบวิ่งเล่นในซอย ซึ่งจะออกไปน่าถนนอยู่บ่อยครั้ง หรือเล่นซ่อนหากับน้องข้างบ้าน ยายมักจะบอกว่า ระวังจะหลงไปในป่าหิมพานต์นะ ระวังผีเอาไปซ่อนนะ ซึ่งเด็กอย่างฉันก็ได้แต่ฟังแต่ก็ยังเล่นต่อแต่แอบกลัวสิ่งที่ยายดุอยู่เหมือนกัน
มีครั้งนึงฉันจำได้ ว่ายายชอบไปทัศนาจรกับเพื่อนๆยายและพี่สาวยาย ซึ่งฉันเรียกว่าแม่อุ๊ย แน่ล่ะยายก็เอาฉันไปด้วยตามเคย พร้อมด้วยลูกสาวยายคือป้าพร และญาติๆของยายบางส่วน เพราะนั่งรถทัวร์ไป เขาต้องหารกันให้เต็มรถถึงจะคุ้ม ตอนนั้นฉันจำได้ว่ารถได้พาพวกเราไปเที่ยวจากต้นทางเชียงใหม่ ไปจันทบุรี ตราด ระยอง ชลบุรี บางแสน อ่างศิลา ไปเล่นน้ำทะเล ไปนอนวัดเขาสุกิม ไปดูสุนทรภู่ สนุกมากๆเลยค่ะ
และยังไปทางอิสาน มีอุดร โคราช ไปวัดหลวงพ่อคูณ ฉันจำได้ว่าโดนเอาไม้เคาะหัวด้วยค่ะ555แล้วที่จำติดตาคือวัดป่าหลักร้อย หรือป่าวไม่แน่ใจว่าอยู่จังหวัดอะไรค่ะ ที่จำได้และกลัวสุดๆสำหรับฉันคือในวัดมีรูปปั้นเป็นนรกจำลอง มีเปรต มีสัตว์นรก อสูรกาย มีคนทำชั่ว คือในวัดวังเวงเพราะเป็นวัดป่า ฉันกลัวแทบจะร้องให้ เพราะเปรตสูงน่ากลัวมากค่ะ ยายก็จะสอนจะบอกเรื่องเวรกรรมให้ฟังค่ะ
จากวันนั้นถึงวันนี้ ยายเสียไป10กว่าปีแล้วด้วยปอดที่หายไป1ข้าง จากการสูบยาเส้ยด้วยการที่ยายเลือกความตาย มากกว่าที่จะเลือกผ่าตัด ฉันออกมาอยู่กับแม่ตั้งแต่อายุ9ปี ก็ไม่ได้กลับไปบ้านยายอีกเลย จนรู้ข่าวการเสียของยาย จนฉันโตขึ้นฉันก็กลับไปเยี่ยมบ้านหลังนั้น มีป้าพรและสามียังอาศัยอยู่บ้านหลังนั้นเหมือนเดิม
วันนี้ ฉันคิดถึงยาย ผู้หญิงตัวเล็กผอม ดัดผมดำ ใส่ตุ้มหูวงสีทอง ใส่ผ้าถุง มีกระเป๋าคาดที่เอว ยายชอบสูบยาเส้นทุกวัน ยายชอบให้ฉันนอนหนุนตักทุกคืน พร้อมสอนฉันสวดมนต์ด้วย ถ้าไม่มียาย ฉันคงไม่รู้จักความผิด ชอบ ชั่วดี การทำบุญ การเชื่องเรื่องเวรกรรมและศาสนา
ป่านนี้ฉันเชื่อว่า สิ่งดีๆและกุศลที่ยายทำคงทำให้ยายเป็นเทวดา อยู่บนสวรรค์ เป็นแน่แท้ รักยายเสมอและตลอดไปนะคะ🙏😇
ขอบพระคุณที่อ่านนะคะ เขียนผิดพลาดประการใดก็ขออภัยด้วยค่ะ เพราะเรื่องราวผ่านมานาน ตั้งแต่ปี2538ค่ะ อาจจะจำได้บ้างไม่ได้บ้าง